
Check-in, Gate Number, Boarding Pass, Immigration Card และศัพท์อื่นๆ อีกมหาศาล ที่ทำให้ ง๊งงง มันคืออะไรน้า? จะจัดการกับสิ่งเหล่านี้อย่างไร ให้ถูกต้อง และไม่สับสน? แล้วกระบวนการอื่นๆ ล่ะ ยากไหม? วุ่นวายหรือเปล่า? จะทำถูกไหมเนี่ย? และ คำถามที่เกิดขึ้นอีกนับพัน อ่ะ ใจเย็นๆ หายใจลึกๆ แล้วตามหยกมาค่ะ
อะไรที่เป็นครั้งแรก มันดูยาก และ วุ่นวายไปหมด เพราะ เราไม่เคยทำ หรือ ไม่เคยมีประสบการณ์ กับสิ่งนั้นมาก่อน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รัก และ อยากจะเดินทางท่องเที่ยว การ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ย่อมต้องเกิดขึ้นเสมอ แต่เราจะมีวิธีใด ที่จะลด ความกังวล ความตื่นเต้น ความกลัว ไม่ว่าจะกลัวทำไม่ถูก หรือ กลัวตกเครื่อง นอกเสียจาก การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางท่องเที่ยว อย่าลืมซื้อประกันการเดินทางนะคะ แนะนำให้เลือกเจ้าที่มีศูนย์ในไทย จะได้ติดต่อไปง่ายๆ เกิดมีการเคลมจะได้พูดคุยกันรู้เรื่องค่ะ หยกมีเจ้าที่หยกใช้ประจำ คือ World Trips ซึ่งเป็นเครือเดียวกันกับ Tokio Marine (หยกใช้เองค่ะ กับทุกที่ที่ไปเลย ไม่ได้มีสปอนเซอร์นะคะ) เป็นประกันของญี่ปุ่น ที่มีศูนย์ในไทย ครอบคลุมโซนยุโรป ทั้งตอนนี้ทุกประกันการเดินทางที่ซื้อกับเจ้านี้ ยังครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลกรณีติดโควิดอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญกับหยกมากๆ คือ ครอบคลุมเทรคกิ้งที่เนปาลยังไงล่ะคะ
ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับ บทความอื่นๆ เกี่ยวกับ การขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไปต่างประเทศ ที่หยกได้ทำเป็นซีรี่ย์ไว้ ซึ่งอาจจะยาวหน่อย เพราะหยกเขียนแบบละเอียดมาก แต่อ่านง่าย มีทุกขั้นตอน เรียงเป็นข้อๆ พร้อมทั้งคำอธิบาย และ หยกได้แยกเป็นเรื่องๆ ไว้ ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
ตอนเริ่มต้น การเตรียมตัวแพ็คของมาจากบ้าน พวกของเพลวต่างๆ อะไร carry-on ได้ แล้วกระบวนการผ่านเครื่องสแกนล่ะ ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ตอนที่ 1 เตรียมตัวในสนามบิน ก็การเตรียมตัวตั้งแต่ตอนอยู่ที่สนามบิน ต้องไปก่อนกี่ชั่วโมง, เช็คอินอย่างไร, การกรอกใบตม., การผ่านตม., เกทอยู่ตรงไหน รวมถึง คำศัพท์ต่างๆ ที่คุณจะได้พบเจอที่สนามบิน เป็นต้น
ตอนที่ 2/1 คำศัพท์บนเครื่องบิน ศัพท์ทั้งหลาย ที่คุณจะได้ยิน และ ได้เห็น เช่น transfer หรือ transit คืออะไร ทำยังไง
ตอนที่ 2/2 บนเครื่องบิน เมื่อเข้าไปในเครื่องบินแล้ว จะปฏิบัติตัวต่างๆ ยังไงบ้าง ลุก นั่ง รัดเข็มขัด เปิด-ปิดโทรศัพท์ตอนไหน ดูหนังอย่างไร แล้วรู้ไหมว่า คุณสามารถขอขนมว่าง หรือ ผลไม้ได้ด้วยนะ
ตอนที่ 2/3 การใช้ห้องน้ำ ข้อควรปฏิบัติ ทริค และ การแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ชักโครกไม่ลง หรือ ส้วมสกปรก
ตอนที่ 2/4 ทำไมเวลาเครื่องบินขึ้น ลง ต้องทำอะไร? ห้ามทำอะไร? และทำไม? โดยหยกทำเป็น check list มาให้ค่ะ พร้อมทั้งคำอธิบาย สิ่งที่ควรทำ และห้ามทำ ว่าด้วยเหตุผลอะไร เพื่อที่จะได้เข้าใจกันอย่างถูกต้อง และนำไปสู่การปฏิบัติที่เคร่งครัด
ส่วนใครที่กำลังจะซื้อสินค้า duty free และไม่อยากต้องโดนทิ้งไปต่อหน้าต่อหน้า เอากลับมาด้วยไม่ได้ อ่านประสบการณ์ของหยกเลยค่ะ เพราะหยกซื้อสินค้า duty free บนเครื่อง โดยต้องไปต่อเครื่อง แต่กลับโดนเอาทิ้งไปซะงั้น เสียดายสุดๆ เลย อย่าให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยกับหยกนะคะ
ประกันการเดินทางในเนปาล ครอบคลุมเทรคกิ้ง + ค่ารักษาพยาบาลโควิด
สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหา “บริษัทประกันท่องเที่ยว ที่ครอบคลุมกิจกรรมเทรคกิ้งในเนปาล” คงจะทราบกันดีว่า เริ่มหายากมากๆ แล้ว หยกมีบริษัทที่หยกใช้เป็นประจำมาแนะนำค่ะ (ไม่มีสปอนเซอร์นะคะ หยกใช้เองค่ะ) คือ Tokio Marine เป็นบริษัทของญี่ปุ่น ที่มีศูนย์ในไทยค่ะ จึงติดต่อและคุยกันง่าย อ่านขั้นตอนการซื้อและรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมที่นี่ค่ะ
เพื่อความโปร่งใส: ไม่ได้มีการว่าจ้างจากบริษัทให้เอามาลงนะคะ หยกใช้เองเป็นประจำ กับทุกที่ๆ ไปเลยค่ะ ทั้งเนปาล, สโลวีเนีย, คีร์กีซสถาน และ ทาร์จิสถาน และอีกหลายที่ หยกเลยเอามาแบ่งปันค่ะ
หากใครที่กำลังจะบินไปเที่ยวยุโรป นี่เป็นเว็บที่หยกใช้หาตั๋วเครื่องถูกๆค่ะ และหากใครต้องการจองตั๋วรถไฟเดินทางภายในยุโรป ก็อ่านที่นี่ได้เลยค่ะ วิธีการจองตั๋วรถไฟเดินทางในยุโรป ไม่เพียงเท่านั้น หากใครวางแผนเที่ยวยุโรป และเที่ยวนานหน่อย ไปหลายประเทศ แล้วต้องการจะซื้อ Eurail Pass แต่งง ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าบัตรนี้ใช้งานยังไง ซื้อยังไง จะคุ้มไหม ครอบคลุมประเทศไหนบ้าง และอื่นๆ ที่ควรรู้ หยกได้ทำ How to แสดงวิธีการเลือกซื้อ Eurail Pass ให้ตรงกับการใช้งานของเพื่อนๆ และขั้นตอนการซื้อ ที่ลิ้งค์นี้ How to ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์ ก็ไอ้เจ้าบัตรนี้ ต้องซื้อก่อนการเดินทางเข้ายุโรปด้วยนะสิ
สำหรับเพื่อนๆ ที่ เดินทางท่องเที่ยวในเอเชีย หลายๆ ประเทศเราสามารถจองตั๋วรถทัวร์ รถตู้ หรือ รถไฟ ออนไลน์ กันได้ง่ายๆ แล้วนะคะ นอกจากจะทำการจองได้อย่างง่ายและรวดเร็วแล้ว เรายังประหยัดเวลา และสามารถวางแผนทริปได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อีกด้วย เหมาะมากมายสำหรับเพื่อนๆ ที่มีวันลาจำกัดค่ะ จะได้เที่ยวอย่างคุ้มค่าคุ้มเวลาและสบายใจที่สุด
ข้อมูลด้านล่างนี้เป็นประสบการณ์ของหยกเอง จะขอพูดรวมๆ ไม่จำเพาะสายการบินใด แต่จะลงรายละเอียดแบบยิบๆ ให้เห็นภาพ, เข้าใจง่าย และ ทำตามได้ทันทีนะคะ หากข้อมูลมีความผิดพลาด ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน ประการใด หรือ อยากได้ข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นต์ที่ด้านล่างนี้ ได้เลยนะคะ
เริ่มแรก เรามารู้จัก ศัพท์ที่ต้องเจอ และ ศัพท์ควรรู้ เกี่ยวกับ การขึ้นเครื่องบิน กันก่อนดีกว่าค่ะ โดยเฉพาะกับ การ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ที่คงจะสับสน และงงงวย น่าดู
Ticket = ตั๋วที่เป็นกระดาษ ออกโดยสายการบินจากการซื้อที่เคาน์เตอร์ (ปัจจุบัน คนไม่ค่อยนิยมไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์แล้วค่ะ เพราะต้องเสียเวลาการเดินทาง)
E-Ticket หรือ Electronic Ticket = ตั๋วที่ได้จากการซื้อแบบออนไลน์ (ปัจจุบัน คนนิยมซื้อตั๋วออนไลน์ เพราะสะดวก และ สามารถซื้อตั๋วได้ทันที และ ซื้อได้ทุกที่ๆมีอินเตอร์เน็ต)
Booking หรือ Reservation = การจองตั๋วเครื่องบิน
Booking Number หรือ Reference Number = หมายเลขการจองตั๋วเครื่องบิน จะอยู่ในอีเมลล์ ซึ่งจะได้รับหลังจากการจองตั๋วเครื่องบิน (เกือบจะทันที) เพื่อเป็นการยืนยันการซื้อตั๋วเครื่องบิน ซึ่ง หลักๆ แล้ว Booking Number นี้ จะถูกใช้ในกรณี 1) สืบกลับหาข้อมูลทุกอย่าง เกี่ยวกับไฟลท์บินนั้นๆ 2) ทำการเช็คอินออนไลน์ 3) เปลี่ยนไฟลท์บิน
Check-in = การยืนยันการขึ้นเครื่องบิน (ยืนยันว่าเรามาแล้ว และจะขึ้นเครื่องบินแน่ๆ)
Checked Baggage = กระเป๋าเดินทางต่างๆ ที่คุณทำการฝากไปเก็บใต้เครื่องบิน ตอนที่คุณทำการเช็คอิน
Boarding Pass = บัตรโดยสาร หรือ ใบผ่าน เพื่อขึ้นเครื่องบิน ซึ่งจะได้ หลังจากทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้วนะคะ
Carry-on = กระเป๋าใบเล็กๆ ที่คุณสามารถหิ้วขึ้นเครื่องไปกับตัวได้
Flight Number = หมายเลขไฟลท์ที่เราจะบิน มักจะเป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษ และตามด้วยตัวเลข
Immigration Card = บัตรสำหรับตรวจคนเข้าเมือง มีสองส่วน ซึ่งจะได้กล่าวต่อไป
Passport Control = ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ถ้าผ่านด่านนี้ก็เตรียมตัวขึ้นเครื่องบินได้เลยค่ะ
Gate Number = หมายเลข หรือ รหัสของประตู สำหรับให้เราไปรอ เตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน
Boarding Time = เวลาที่ประตูเครื่องบินจะเปิด ให้เราขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินค่ะ (ซึ่งตอนนี้เราควรนั่งรอที่ Gate แล้วนะคะ (หากไปช้า เลยเวลา Boarding Time = ตกเครื่อง นะคะ) และจะมีเจ้าหน้าที่เรียก เมื่อถึงเวลา)
Final Call = การเรียกครั้งสุดท้าย เพื่อให้มาขึ้นเครื่องบิน กรณีมีคนที่ได้ทำการเช็คอินไปแล้ว ยังมาขึ้นเครื่องไม่ครบ หรือง่ายๆ ก็คือ ทุกๆ คน นั่งรอ และเตรียมพร้อมออกเดินทาง อยู่บนเครื่องบินแล้ว และ เครื่องบินกำลังเตรียมตัวจะออกแล้วนั่นเอง
Flight Delayed = เครื่องบินจะออกล่าช้า กว่าเวลาที่กำหนด
Departure Time = เวลาเครื่องออกจากต้นทาง (บินขึ้น)
Arrival Time = เวลาเครื่องมาถึงที่หมายปลายทาง (บินลง)
Baggage Claim = หมายเลข หรือ รหัสตัวอักษร ของสายพานที่ๆ คุณจะไปรับกระเป๋า ที่คุณฝากโหลด ลงไปกับเครื่องบิน ตอนที่คุณทำการเช็คอินยังไงล่ะคะ
มาทำการ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ให้ง่าย กันดีกว่าค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ
1. ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไปต่างประเทศ ควรไปถึงสนามบิน ก่อนเวลาเครื่องออก สักกี่ชั่วโมงดีน้า?
ไปถึงสนามบินก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หากมือใหม่มากๆ และ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไปถึงก่อนสัก 3 ชั่วโมงก็ไม่เสียหายค่ะ เพียงแค่บางสายการบิน เคาน์เตอร์เช็คอินอาจจะยังไม่เปิดให้บริการ ก็ต้องนั่งรอแหง่วอยู่ที่สนามบินอยู่ดี แต่ก็สบายใจ เพราะมีเวลาหาว่าไปเช็คอินที่ เคาน์เตอร์ไหน
2. จะเช็คอิน ต้องไปที่เคาน์เตอร์ไหนล่ะเนี่ย?
1. หากขึ้นเครื่องที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ก็ให้ดูจอแสดง เครื่องบินขาออก (Departures) โดยจะเรียงตามเวลาเครื่องออก เพื่อหาเคาน์เตอร์ของสายการบินนั้นๆ เพื่อไปทำการเช็คอิน

2. หากขึ้นที่สนามบินดอนเมือง สายการบินจะไม่ค่อยเยอะมาก ดังนั้น คุณจะเห็นเคาน์เตอร์ แสดงชื่อของแต่ละสายการบิน อย่างชัดเจน ก็ให้ไปที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่คุณจะบินเลยค่ะ
3. ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไปเช็คอิน ต้องทำอย่างไร และ ยื่นเอกสารอะไรบ้าง?
ในขั้นตอนนี้ นอกจากจะทำการ เช็คอินตัวคุณเองแล้ว ยังจะทำการ เช็คอินกระเป๋าเดินทางของคุณ เพื่อนำไปเก็บไว้ใต้เครื่องบินอีกด้วย โดยที่เจ้าหน้าที่สายการบินจะติดป้ายชื่อ ที่กระเป๋าเดินทางของคุณทุกใบ และจะฉีกส่วนหางของป้ายชื่อนั้นๆ มาให้คุณเก็บไว้ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
ทริค 1: หากคุณโหลดกระเป๋า 2 ใบ คุณก็จะได้กระดาษป้ายชื่อส่วนหาง 2 ใบ มาเก็บไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ เจ้าหน้าที่สายการบินจะติดป้ายเหล่านี้ ไว้กับ Boarding Pass นะคะ ซึ่งเจ้าป้ายเล็กๆ นี้ จะมีข้อมูลของ ชื่อ นามสกุล ของเจ้าของกระเป๋า ไฟลท์บิน สถานีต้นทาง-ปลายทาง และ นำ้หนักของกระเป๋า ประโยชน์ก็เพื่อเอาไว้สืบกลับ กรณีของในกระเป๋าหาย ทำให้นำหนักกระเป๋าไม่ตรงกับน้ำหนักที่ระบุไว้ หรือมีคนหยิบกระเป๋าไปผิด เป็นต้น
การเช็คอิน มีอยู่ 3 วิธี ดังต่อไปนี้
3.1 ทำการเช็คอินที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ของสายการบินที่คุณจะบิน
โดยการยื่น Passport ของทุกๆ คน ที่จะเดินทางไปด้วยกัน พร้อมกับ แจ้งจุดหมายปลายทางที่คุณจะไป
ทริค 2: เคาน์เตอร์เช็คอิน จะปิดก่อนเวลาบิน ประมาณ 45 นาที นะคะ ถ้ามาสาย = ตกเครื่อง ค่ะ
ทริค 3: ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ทราบหรือไม่ว่า ไม่จำเป็นต้องทำการปริ๊นต์ E-Ticket นะคะ เราสามารถยื่น Passport และ แจ้งจุดหมายปลายทางให้กับเจ้าหน้าที่ได้เลย เพราะจะมีชื่อการจองของเราอยู่ในระบบอยู่แล้ว (ไม่เหมือนกับสมัยก่อน ที่ต้องมีตั๋วไปโชว์ ถ้าตั๋วหาย = ตกเครื่อง ค่ะ)
1. หากทำการจ่ายด้วยบัตรเครดิต บางสายการบินอาจขอดูบัตรเครดิต ที่คุณใช้ซื้อตั๋วเครื่องบินครั้งนี้นะคะ
ทริค 4: รู้ไหมคะว่า คุณสามารถเลือกที่นั่งได้ ว่าต้องการจะนั่งริมทางเดิน (Aisel Seat), ริมหน้าต่าง (Window Seat), ด้านหน้า, ด้านหลัง, ใกล้ หรือไกลห้องน้ำ แต่อาจมีข้อยกเว้น คือ สำหรับบางสายการบิน Low cost อาจมีค่าใช้จ่าย ในการเลือกที่นั่ง นะคะ
2. หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเช็คอิน คุณจะได้รับ 1) Boarding Pass 2) Passport หรือ 3) บัตรเครดิต กรณีที่เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรเครดิต
3.2 ทำการเช็คอินออนไลน์ (Web Check-in) ผ่านเว็บไซต์ของสายการบินนั่นๆ
ส่วนใหญ่ทำได้โดย การกรอก Booking Number ที่ให้มาในอีเมลล์ของคุณ ตอนที่คุณทำการซื้อตั๋ว และ นามสกุลของคุณ จากนั้นปริ๊น Boarding Pass มาด้วยนะคะ หรือ มาปริ๊น Boarding Pass ที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่คุณจะบินด้วยก็ได้ค่ะ
ทริค 5: ข้อดีของการเช็คอินออนไลน์ คือ 1) บางสายการบิน คุณสามารถจองที่นั่งได้ระหว่างการเช็คอินออนไลน์ 2) ที่เคาน์เตอร์ของสายการบินนั่นๆ จะมีแถวสำหรับทำการเช็คอิน และ แถวสำหรับคนที่เช็คอินออนไลน์มาแล้ว เพื่อมาโหลดกระเป๋าลงใต้ท้องเครื่องบิน ซึ่งแถวนี้จะสั้นกว่า แถวทำการเช็คอินมากๆ
3.3. เช็คอินที่เครื่องเช็คอินอัตโนมัติ
เครื่องก็จะปริ๊น Boarding pass ที่เป็นกระดาษ ขนาดประมาณสี่เหลี่ยมผืนผ้ามาให้
4. เช็คอินเสร็จแล้ว ไปไหนต่อ?

คุณจะต้องหาป้ายที่เขียนประมาณว่า “ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ (International Departure)” ที่นั่นเอง ที่คุณจะต้องสแกนข้าวของที่คุณจะถือขึ้นเครื่อง พร้อมทั้งตัวคุณเอง สิ่งที่คุณต้องเตรียมตัวในขั้นนี้ ก็คือ
1. ไม่สามารถนำ น้ำดื่ม หรือของเหลวใดๆ ที่มากกว่า 100 มิลลิลิตร ผ่านเข้าไปได้ พูดง่ายๆ ก็คือ หากคุณมีสิ่งของเหล่านี้ ในกระเป๋าที่คุณจะถือขึ้นเครื่องบิน ก็จะต้องทิ้งของเหล่านั้นไปนั่นเอง
ทริค 6: ทราบไหมคะ ว่าเราสามารถเอาขวดน้ำดื่มเปล่าๆ (ที่ไม่มีน้ำแล้ว) ที่มีปริมาตรมากกว่า 100 มิลลิลิตร ผ่านเข้าไปได้ เอาไปทำไมนะเหรอคะ ก็เอาไว้เติมน้ำดื่มบนเครื่องบิน กรณีบินนานๆ จะได้ไม่ต้องขอน้ำดื่มจากพนักงานบนเครื่องบินบ่อยๆ ยังไงละคะ
2. เตรียมเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น แล็บท๊อป แท็บเล็ต ออกมาจากกระเป๋า และ ใส่ในภาชนะที่เค้าเตรียมไว้ให้ เพื่อทำการแยกสแกน
3. กระเป๋าตังค์ มือถือ สิ่งต่างๆ ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง หรือ กระโปรง ต้องเอาออกให้หมด และ ต้องถอดเสื้อคลุมออกด้วย
ทริค 7: ควรเก็บ กระเป๋าตังค์ มือถือ และ สิ่งมีค่าต่างๆ ไว้ในกระเป๋า (โดยไม่วางในภาชนะที่เค้าเตรียมไว้ให้) ก่อนผ่านเครื่องสแกน เพื่อป้องกันการสูญหาย
4. ห้ามมีอะไรติดตัวเลย ในการเดินผ่านเครื่องสแกน บางสนามบินอนุญาตให้เราถือ Passport และ Boarding Pass ผ่านไปด้วยได้ V. บางสนามบินที่เข้มงวดมาก จะต้องถอดเข็มขัด และ รองเท้าด้วย นะคะ
ทริค 8: พวกของเล็กๆน้อยๆ จะต้องนำใส่ลงไปในภาชนะที่เค้าเตรียมไว้ให้ ก่อนผ่านเครื่องสแกนนะคะ แต่พวกกระเป๋าเป้ หรือ สิ่งของที่เป็นชิ้นใหญ่ๆ ชิ้นเดียว ไม่ต้องใส่ลงไปในภาชนะที่เค้าเตรียมได้ คือสามารถผ่านเครื่องสแกนไปได้เลย
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
5. จุดผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง, ตม. หรือ จุดตรวจหนังสือเดินทาง (Passport Control)
จริงๆ แล้ว ขั้นตอนนี้ง่ายมาก คน ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไม่จำเป็นต้องกังวลเลยค่ะ ไม่ว่าจะที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ที่สนามบินดอนเมือง ก็มีกระบวนการเหมือนๆ กันค่ะ คือ คนไทยจะผ่านการตรวจด้วยเครื่องอัตโนมัติ หรือ ที่เคาน์เตอร์ก็ได้ ซึ่งที่เขตตม.นี้ เค้าจะมีช่องแยก ระหว่าง คนไทย ชาวต่างชาติ ลูกเรือ และ ช่องทางพิเศษ ดังนั้น ไปให้ถูกช่องนะคะ
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวล่วงหน้าในขั้นตอนนี้ ก็คือ Passport และ Boarding Pass ทำการถอดหมวก แว่นตา และเก็บผมให้เรียบร้อย (ให้มองเห็นหน้าเต็มๆ ให้เห็นคิ้วด้วย)
ทริค 9: สิ่งที่คนมักจะเข้าใจผิดของขั้นตอนนี้ ก็คือ เข้าใจว่า ขั้นตอนนี้เป็นการชี้เป็นชี้ตาย ว่าคุณจะได้เข้าประเทศที่คุณจะไปหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่เลยค่ะ ด่านตม. นี้ เค้าจะตรวจดูว่า คนที่จะออกนอกประเทศไปนั้น ไม่ได้เป็นคนทำผิดกฎหมาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่จะออกนอกประเทศแล้วหนี แล้วจะไม่กลับเข้ามาอีก แล้วที่ไหนล่ะ ที่คุณจะทราบว่า คุณจะได้เข้าประเทศที่คุณกำลังจะไปหรือไม่? ก็ที่ด่านตม. ของสนามบินปลายทาง ที่คุณกำลังจะนั่งเครื่องไปลงยังไงล่ะคะ
5.1. หากทำการตรวจด้วยเครื่องอัตโนมัติ ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือ ตามขั้นตอน ต่อไปนี้
- ยื่น Passport และ Boarding Pass ให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะเก็บเฉพาะในส่วนของบัตรขาออก แล้วคืนบัตรขาเข้าให้เรา จากนั้น เจ้าหน้าที่จะทำการสแกนพาสปอร์ต กับเครื่องอัตโนมัติ และ พิมพ์ Flight Number ลง (ซึ่งเราสามารถทำเองได้)
- เมื่อสแกน Passport ผ่านแล้ว ประตูเล็กๆ จะเปิดให้เราเดินเข้าไป ในช่องถัดไป
- ให้ยืนตรงรองเท้าสีเหลืองบนพื้น ถอดแว่น ถอดหมวก แล้วมองกล้อง
- จากนั้นเครื่องจะบอกให้เราสแกน “นิ้วชี้ขวา” ก็ทำการวางนิ้วชี้ขวาเพื่อทำการสแกน แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ
5.2. หากทำการตรวจกับเจ้าหน้าที่ ที่เคาน์เตอร์
วิธีนี้ก็ไม่ยากค่ะ ยื่น Passport และ Boarding Pass เจ้าหน้าที่จะดำเนินการทุกอย่างให้ ส่วนเราก็ยืนยิ้มๆ แล้วก็รอๆๆ มองกล้องๆ เมื่อดำเนินการเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็จะคืน Passport และ Boarding Pass ส่วนบัตรขาเข้าให้ เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
ทริค 10: โดยส่วนตัว คิดว่า การตรวจด้วยเครื่องอัตโนมัติจะเร็วกว่า นะคะ
6. เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว คุณก็จะเจอแหล่งช้อปปิ้งที่ปลอดภาษี (Duty Free) แล้วจะดูตรงไหนว่าไปขึ้นเครื่องที่ใด?

ทริค 11: หากคุณจะซื้อของ จำพวกของเหลวต่างๆ ที่มากกว่า 100 มิลลิลิตร ใน Duty Free นี้ คุณสามารถทำได้ค่ะ ซึ่งหลังจากซื้อเสร็จแล้ว ห้ามเด็ดขาด ห้ามแกะถุงของเหลวเหล่านั้น ที่เค้าปิดผนึกมาให้อย่างดี จนกว่าจะถึงสถานีปลายทางนะคะ ไม่เช่นนั้น คุณจะต้องทิ้งของเหล่านั้นไป หากมีการตรวจสแกนข้าวของอีกครั้ง
ผ่านตม.แล้ว ไปหา Gate กันค่ะ โดยดูได้จาก
1. มองดูใน Boarding Pass สิคะ ตรงคำว่า Gate Number (หมายเลขประตูทางเข้า) เค้าได้ระบุไหมว่าขึ้นเครื่องที่ Gate หมายเลขใด

2. หากไม่ได้มีการระบุ Gate Number ใน Boarding Pass ก็ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะ ตรงตำแหน่งที่คุณพึ่งจะเดินเข้านั่นแหละ ให้มองดูรอบๆ คุณจะเจอจอแสดงเวลาเครื่องออก โดยเรียงตามเวลา และ ที่จอนั่นเอง จะแจ้ง Gate ที่คุณต้องไป

7. Boarding Time มีไว้ทำไม แล้วเราควรอยู่ที่ไหน?
คือเวลาที่เจ้าหน้าที่สายการบิน จะเรียกผู้โดยสารไปขึ้นเครื่อง ซึ่งจะแสดงใน Boarding Pass หมายความว่า คุณต้องไปนั่งรออยู่ที่ Gate อยู่ก่อนแล้ว เพราะเมื่อถึงเวลา Boarding ก็คือ จะต้องไปขึ้นเครื่องบินแล้ว นั่นเอง หากมาช้า Gate ปิด ก็ขึ้นเครื่องไม่ได้ ก็คือ ตกเครื่องนะคะ
8. เมื่อถึง Gate แล้ว นอกจากการนั่งรอ คุณจะพบอะไรได้บ้าง?
- บางสายการบิน อาจจะมีการสแกนข้าวของเครื่องใช้ และ ตัวคุณอีกรอบ ก่อนเข้า Gate
- เตรียมตัวขึ้นเครื่อง ตามเวลา Boarding โดยการเตรียม Passport และ Boarding pass เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูอีกครั้ง
- แล้วก็เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให้สนุกนะคะ
บทความข้อมูลเทรคกิ้งเนปาล
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากลองเทรค อยากเที่ยวแนวนี้ แต่เริ่มไม่ถูก ไม่รู้จะหาข้อมูลเกี่ยวกับการเทรคกิ้งทั้งหมดได้ที่ไหน หรือแม้แต่เพื่อนๆ ที่หลงใหลการเทรคกิ้งเนปาล ที่อยากได้ข้อมูลเทรคกิ้งเพิ่ม นี่เลยค่ะ ที่เดียวกับข้อมูลเต็มๆ
- ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง คืออะไร? ต่างกันยังไง? พร้อมคำอธิบายที่แจ่มชัด และตัวอย่าง
- ข้อมูลเทรคกิ้งบนเส้นทาง Poon Hill
- ข้อมูลเทรคกิ้งบนเส้นทาง Langtang
- ข้อมูลเทรคกิ้งบนเส้นทาง Annapurna Circuit ที่รวม Tilicho Lake ทะเลสาบสีฟ้าสุดเข้ม และ สวยงามสุดๆ เข้าไว้ด้วย
- ข้อมูลเทรคกิ้งบนเส้นทาง Mohare + Khopra
- ข้อมูลเทรคกิ้งบนเส้นทาง Everest Base Camp (EBC) + Kalapatthar
- ไป Pokhara พักที่ไหนดี มีอะไรเที่ยว
- Checklist เตรียมอะไรไปเทรคกิ้ง ที่สามารถเตรียมเองได้ ไม่มีสิ่งนี้ ทำยังไง หาอะไรทดแทน หาซื้อที่ไหน เตรียมสิ่งนี้ไปทำไม ใช้ประโยชน์อะไร
- How to ขอวีซ่าเนปาล ตั้งแต่การเตรียมการณ์มาจากบ้าน เพื่อยื่นขอ Visa On Arrival ที่สนามบินตรีภูวัน
- ข้อมูลการเตรียมตัว ก่อนไปเทรคกิ้งเนปาล ให้พร้อมที่สุด ต้องเตรียมอะไร, เทรคเส้นไหน, ประกันบริษัทอะไรดี, ฉีดวัคซีนไหม, Permits อะไรบ้าง, น้ำดื่มล่ะ, ซิมการ์ดแพงไหม และ แลกเงินที่ไหน ฯลฯ
- AMS – อาการทั่วไป? อาการรุนแรง? เกิดกับใคร? ที่ไหน? ป้องกัน+หลีกเลี่ยงยังไง? ข้อควรปฏิบัติ? ถ้ามีอาการต้องทำยังไง? รักษาได้ไหม?
- ประกันเดินทางต่างประเทศ และ ประกันเดินทางที่ครอบคลุมเทรคกิ้งเนปาล บนเขาสูงไม่เกิน 4,500 m + ครอบคลุมทั่วโลก เช่น เนปาล, ยุโรป, อเมริกา & ประเทศอื่นๆ + ครอบคลุมค่ารักษาโควิด
- DOs & DON’Ts ระหว่างเทรคกิ้ง เนปาล ข้อควรรู้ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ – ใส่หูฟังฟังเพลง? ให้ขนมเด็กบนเขา? เดินลุยข้ามแม่น้ำ ต้องถอดรองเท้าเดินป่า? ต้องทำยังไงเพื่อไม่ให้เมื่อยกล้ามเนื้อ? ฯลฯ
เป็นยังไงละคะ เพื่อนๆ ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเทรคกิ้งที่ครบถ้วน ที่ละเอียด อ่านง่าย เข้าใจเองได้ และยังทำตามได้เองสบายๆ เลยใช่ไหมล่ะ หากมีข้อสงสัยใดๆ คอมเม้นต์ที่ช่องคอมเม้นต์ด้านล่าง เข้ามาได้เลยนะคะ หยกรอตอบแล้วค่ะ

หากใครมีคำถาม หรือ อยากทราบอะไรเพิ่มเติม หรืออะไรไม่ชัดเจน หรือ อยากให้หยกแนะนำอะไร หรือ มีอะไรจะแนะนำหยก ก็คอมเม้นท์มาที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ