
“จำกัด 280 ท่าน/ช่วงเวลา ”
1). “จองเข้าเที่ยว ปิกนิก ” จองผ่านแอป QueQ ระบุช่วงเวลา & ใส่ชื่อ-สกุลทุกท่านที่ไป เริ่ม 25 มิ.ย. 63 จองล่วงหน้าได้ 15 วัน
ไม่มาเช็คอินในช่วงเวลาที่จอง=สละสิทธิ์ แต่สามารถอยู่เที่ยวได้นานกว่าช่วงเวลาที่จอง
2). “ค้างแรม ” จองที่พักออนไลน์ เริ่ม 26 มิ.ย. 63 หลัง 12:00 น. จองล่วงหน้าได้ 15 วัน
โปรดตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้งก่อนออกเดินทางนะคะ
ขุนสถาน ใคร ๆ ก็ว่าสวยมาก ควรค่าแห่งการไปเยี่ยมเยียน ซึ่งแค่ตอนที่หาข้อมูลท่องเที่ยว ขุนสถาน นั้น ก็อึ้ง และ ประทับใจ กับ ภาพถ่าย ความงามของขุนเขา อยู่นาน วิวพาโนรามา ที่ไร้ขอบเขต ภูเขาหลากสีมากมาย ที่กว้างไกล สุดลูกหูลูกตา ไล่สลับสี ตั้งแต่ เหลือง ไป น้ำตาล และ เขียวอ่อน ไป เขียวเข้ม ตัดกับท้องฟ้า ที่ฟ๊าฟ้า กับเมฆปุกปุย เป็นก้อน ๆ สีขาว ๆ
ที่สำคัญ ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน คือ ถูกมากอ่ะ ไม่เกิน 2,000 บาท จาก กรุงเทพ – ดอยเสมอดาว – ขุนสถาน – เมืองน่าน – กรุงเทพ โดยรวมค่าเดินทาง, ค่าที่พัก และ ค่ากินแล้วนะเนี่ย อะไรจะเริ่ดขนาดนี้ ใครว่าไปเที่ยว จะต้องจ่ายแพงเสมอไป การท่องเที่ยวของหยก เน้นถูก ครบเครื่อง ลุย และ มันส์ แถมยังได้ประสบการณ์ และ ความทรงจำอันเลอค่า มากมาย กลับมาอีกด้วย

ความอยากไป ขุนสถาน ทวีคูณมากขึ้น ในข้อมูลที่หามานั้น แทบจะไม่มีแหล่งไหนกล่าวถึง การเดินทาง กรณีที่ ไม่มีรถไปเองเลย แล้วหยกจะไป ขุนสถาน ได้อย่างไรกันละเนี่ย… ตอนนี้หยกมาเล่าให้ฟังแล้ว ก็แสดงว่า มีทางไปเที่ยวเองได้หนะสินะ (ตอนนั้น ก็คิดอยู่ในใจว่า ยังไงซะ ก็ท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย ประเทศตัวเองแท้ ๆ ที่ ๆ คนก็พูดภาษาเดียวกัน ถาม ๆ หาทางเอาละกัน) ติดตาม ข้อมูลการท่องเที่ยว วิธีไป อุทยานแห่งชาติ ขุนสถาน และ การเตรียมตัวต่าง ๆ หรือ จะเป็น การเดินป่าสั้นๆ บน ดอยธง หรือ ดอยกู่สถาน ใน อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ได้ที่ลิ้งค์ตัวหนังสือสีส้มตรงนี้เลยค่ะ
ว่า ดอยเสมอดาว สวยมาก ๆ แล้ว แต่วิวของ ขุนสถาน นั้น สวยงาม และ หลากหลายยิ่งกว่า ตั้งแต่นั่งรถขึ้นมา หลายต่อหลายครั้ง อยากที่จะบอกพี่คนขับให้จอด เพื่อที่จะได้ชมวิว และ เก็บภาพเบื้องหน้าเหล่านี้ไว้
ทั้งนี้เพื่อนๆชาวสนุกเที่ยวยังสามารถเลือกอ่าน ข้อมูลการท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว ที่แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ชัดเจน ตามจังหวัดและประเทศ ที่ลิ้งค์สีส้มตรงนี้เลยค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์คนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? สโลเวเนีย? ศรีลังกา? หยกจัดทริปค่ะ
สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!

ขุนสถาน ความงดงามของขุนเขาหลากสี และ มิตรไมตรีของชาวม้ง
บ่ายวันนี้เองแหละ ที่ความฝันครั้งนี้จะเป็นจริง นอกจากนั้น ยังฝัน อยากที่จะเห็น ความเป็นอยู่ของชาวม้ง “เค้าจะใส่ชุดประจำชาติในชีวิตประจำวันไหมนะ” “จะพูดไทยได้หรือเปล่า” “เราจะสามารถแยกชาวม้ง กับคนไทยได้ไหมน๊า” “ภาษาม้ง จะเป็นแบบไหน” และที่สำคัญ อยากจะใส่ชุดชาวม้งจัง


หลังจากที่เมื่อวาน ได้เดินจาก ดอยเสมอดาว ไป ผาชู้ มา ด้วยระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร วันนี้ระยะทางจาก อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ไปถึง หมู่บ้านชาวม้ง แค่ 5 – 6 กิโลเมตรเอง จิ๊บ ๆ คือเมื่อวานวอร์มมาแล้วไง

นึกถึงตอนหยกไป เที่ยวบังกลาเทศ ที่อยู่ ๆ ก็เดินเข้าไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ซะงั้น สนุกดี ฮาดีนะคะ มิตรภาพดี ๆ ที่จริงใจ แบบนี้ หาไม่ค่อยได้แล้วนะคะ ได้ไปเห็นความเป็นอยู่ ที่พึ่งพาอาศัยกันทั้งหมู่บ้าน ยังกับเป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ไหนจะมีการชวนนักท่องเที่ยวอย่างหยก ที่เพิ่งจะเจอกันไปเที่ยวที่บ้านอีก

ทางเดินไปหมู่บ้านม้ง
ทางเดินไปหมู่บ้านม้ง ก็คือ ทางเดินตามถนนนั่นเองค่ะ ซึ่งระหว่างทาง ก็มีรถผ่านไปมา มีอยู่ประมาณ 10 กว่าคันได้ โดยที่เกือบจะทุกคัน จะจอดถามว่า พวกหยกกำลังจะเดินไปไหน จะติดรถไปด้วยกันไหม (คันที่ไม่ได้จอดถาม เท่าที่สังเกต คือมีคนนั่งเต็มรถแล้ว) คืออย่างที่บอกไป ระยะทางมันแค่ 5 – 6 กิโลเมตร เอง หากนั่งรถไป แป๊ปเดียว ก็คงถึงแล้ว คงยังดื่มด่ำ กับวิวข้างทาง ได้ไม่หนำใจ ขอเดินดีกว่าค่ะ อากาศก็ดี แถมยังมีวิวเพลิน ๆ ให้ได้ชื่นชมอีก

ขุนสถาน สวยงามเพียงใด ก็คิดเอาละกันค่ะว่า หยกหยุดถ่ายรูป แทบจะทุก ๆ 100 เมตร เลยก็ว่าได้ แถมอากาศยังบริสุทธิ์มาก ๆ อีกด้วย


ทริค:
ควรเดินฝั่งที่ซ้ายของถนน เนื่องจากการที่รถขับผ่าน เราจะได้มองเห็น และ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ คือถ้าเดินฝั่งขวานั้น รถที่ขับมาจะอยู่หลังเรา บางครั้งการเพลิดเพลินกับวิว อาจทำให้เราไปทันมองรถที่ขับมา อาจทำให้เราตกใจ หรือ คนขับรถตกใจ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้


ระหว่างทางจาก อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ไปหมู่บ้านม้งนั้น ก็มีทั้ง ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ไร่สตรอว์เบอร์รี ไร่องุ่น หรือ ซุ้มที่กำลังก่อสร้างจากไม้ไผ่ เพื่อเตรียมจัดวางขายของ ในช่วงฤดูท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง โดยผู้คนส่วนใหญ่ (คือจริง ๆ ก็เกือบทั้งหมด) เป็นชาวม้ง ที่มีทั้งพูดไทยได้ และ พูดไม่ได้ แต่ฟังภาษาไทยรู้เรื่อง


เดินไป ๆ ก็ไม่รู้ว่าข้ามเขาไปกี่ลูก เพราะ โค้งมันเยอะเหลือเกิน ที่แน่ ๆ คือไม่ได้เดินขึ้น หรือลงเขา ทางเดินสบายค่ะ ไม่ได้ชันอะไรเลย หันไปดู อุทยานแห่งชาติ ขุนสถาน ก็ดูไกลออกไป ๆ



“แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าถึงหมู่บ้านชาวม้งแล้ว” โน๊ตถาม หยกไม่รู้ เพราะมัวแต่สนใจวิว 555+ เออนั่นสิ หรือจะมีป้ายเขียนว่า หมู่บ้านชาวม้ง เหรอ? ชาวม้ง กับ คนไทย ก็หน้าตาคล้าย ๆ กัน แถมพูดภาษาไทยได้อีก เอ๊ะ.. หรือ เค้าจะใส่ชุดชาวม้งนะ ถามทางมาเรื่อย ๆ ทุกคนที่ถามมา ก็บอกข้างหน้านี่แหละ ๆ แล้วมันอยู่ตรงไหนล่ะ ก็ไม่เห็นจะมีวี่แววความเป็นหมู่บ้านเลย ว่าแต่… ถ้าอยู่ติดถนนใหญ่ มันจะเป็นหมู่บ้านได้ยังไงนะ เพราะ บ้านช่องบนถนนที่เห็น ก็แค่สองข้างทาง ตรงถนนเท่านั้น อืม.. หรือว่า หมู่บ้านจะอยู่ด้านล่าง

ระหว่างทางก็พยายามมองหา ละแวกที่มีบ้านอยู่ติด ๆ กันเยอะ ๆ จนในที่สุด ก็มองเห็นเวิ้งด้านล่าง ที่มีหลังคาบ้านเยอะเชียว จึงลองเดินลงไปดู ซึ่งทางเดินลงค่อนข้างจะชัน แต่ก็ยังไม่มีป้ายบอกทางใด ๆ สักพัก มีคนเดินผ่าน จึงถามไปว่า “นี่ใช่หมู่บ้านม้งไหม?” เค้าดูงง ๆ เลยถามไปอีกรอบ เค้าก็ตอบกลับแบบงง ๆ ว่า “ม้งไหนอ่ะ” เอ๊ะ.. หรือเค้าเข้าใจว่าเรามาตามหาคนชื่อม้ง 55+


จึงเดินวนไปมาอยู่ 2 – 3 รอบ อืม ข้างหน้าเหมือนจะเป็นโรงเรียน คงไปต่อไม่ได้แล้วสินะ จึงเดินกลับ แล้วก็เจอคนนั่งเล่นกัน อยู่หน้าบ้าน อ่ะ ไหน ๆ ก็เจอคนแล้ว ลองถามดูอีกสักที จึงเดินเข้าไป และ ทักทาย แล้วก็ถามว่า “หมู่บ้านม้งอยู่ไหนคะ?” เค้ามองหน้ากัน แล้วหัวเราะกันใหญ่ แล้วตอบว่า “ก็ที่นี่ไง” 555+ สรุปคือ ตำแหน่งที่ยืนอยู่เนี่ยแหละ คือ หมู่บ้านม้ง ที่ชื่อ บ้าน ขุนสถาน


ที่เห็นเงียบ ๆ เพราะ หมู่บ้านม้ง ที่ ขุนสถาน นี้ จะเริ่มคึกคัก ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว นั่นก็คือ เดือนหน้า (พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์) โดยที่จะมีชุดชาวม้ง ไว้ทั้งขาย และให้เช่า เพื่อใส่ถ่ายรูป และ ยังมีของขาย อีกมากมาย “อาทิตย์หน้ามาใหม่สิ จะได้มาใส่ชุดชาวม้งด้วย” พี่ผู้ชายตาหวานกล่าว





มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์คนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? สโลเวเนีย? ศรีลังกา? หยกจัดทริปค่ะ
สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ หมู่บ้านชาวม้ง บน อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
หมู่บ้านชาวม้ง อยู่ห่างจาก อุทยานแห่งชาติ ขุนสถาน ประมาณ 5 – 6 กิโลเมตร แต่เดิม มีอยู่เพียงหมู่บ้านเดียว ชื่อ บ้าน ขุนสถาน แต่ตอนหลัง (ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่) เนื่องด้วย จำนวนประชากร ที่เพิ่มมากขึ้น จึงได้ขยายออกเป็น 2 หมู่บ้าน ชื่อ บ้าน ขุนสถาน และ บ้านแสนสุข โดยทั้งสองหมู่บ้านนี้ ถูกแบ่งคั่นกลางด้วย โรงเรียน

เลยถึงบางอ้อว่า โรงเรียนที่เห็นนั้น สามารถเดินทะลุเพื่อไปอีกหมู่บ้าน ที่ชื่อ บ้านแสนสุข ได้ โรงเรียนที่นี่ใหญ่พอควรค่ะ ดูใหม่ และสะอาดสะอ้านมาก แถมยังมีการจัดการที่ดี มีห้องเรียน ห้องสมุด ห้องเรียนภาษาอังกฤษ ห้องคอมพิวเตอร์ แล้วก็เจอ อากงชาวม้งกำลังนั่งเล่น กับหลานชาย และ หลานสาวอยู่ บทสนทนาเล็ก ๆ แต่อบอุ่น จึงดำเนินขึ้น

ทางเดินทะลุไปอีกหมู่บ้านนี่ ทั้งลื่น ทั้งชัน และทั้งเล็ก หยกนี่เดินเกร็งตลอดทางเลย ทั้งเปียกอีก คือ ฝนพึ่งตกไปด้วยไง ส่วนโน๊ตนี่ ไหลพรึ่บ ๆ และ ร้องตลอดทางเลย คือเดินหนึ่งก้าว แต่ลื่นไถลไปอีก 2 – 3 ก้าว

พอไม่ใช่ช่วงเทศกาลท่องเที่ยว หมู่บ้านชาวม้ง ที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ก็เงียบสงบ ร่มรื่นดีจริง ไม่เหมือนที่เห็นในรูปภาพ ตามอินเตอร์เน็ต และ ไม่เหมือนที่คิดไว้เลย หยกกลับรู้สึกชอบ ได้บรรยากาศของความเป็นอยุ่ที่แท้จริง ของชาวม้ง ได้เห็นวิถีการดำรงชีวิต ที่เรียบง่าย ผู้คนดูจริงใจ และ อารมณ์ดี ไม่มีความกังวลใด ๆ จนน่าอิจฉา ถนนหนทาง และ บ้านช่อง ก็ดูสะอาดสะอ้านดี รั้วบ้าน และต้นไม้ก็ได้รับการดูแลอย่างดี




ในที่สุด Mission completed! ได้เดินมาจาก อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ได้เดินเข้าไปชม ความเป็นอยู่ของชาวม้ง ทั้งสองหมู่บ้าน ที่ทั้งสงบ และ เรียบง่าย ผู้คนดูอารมณ์ดี ใบหน้าแจ่มใส และ เต่งตึง ถึงเวลาต้องรีบเดินกลับแล้วสินะ ก่อนที่จะมืด โน๊ตบอก “ขากลับคงเดินเร็ว เพราะ หยกไม่ต้องถ่ายรูปแล้ว มันก็วิวเดิม ๆ” ผิดคร้าาา หยกก็หยุดถ่ายรูปอยู่ทุก ๆ ร้อยเมตรอยู่ดี ก็วิวมันสวยมากขนาดนี้นี่นา


เดินมาได้สักกิโลกว่า ๆ ซึ่งก็เป็นเวลา ห้าโมงนิด ๆ มีรถจะไปที่ สถาบันวิจัยต้นน้ำ ขุนสถาน จึงขออาศัยติดรถไปด้วย เนื่องด้วยเกรงว่าจะมืดเสียก่อน ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่งจริงไหมคะ ถ้าไม่ติดว่าใกล้จะมืด หยกคงเลือกที่จะเดินกลับไปที่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อย่างไม่ต้องคิดเลย

ปรากฎว่านั่งรถได้ไม่ถึง 10 นาที เราก็มาถึงที่ สถาบันวิจัยต้นน้ำ ขุนสถาน แล้ว ห๊ะ! เร็วไปนะ ขับผ่านแค่ 3 – 4 โค้งเอง คือไร ยังคุยกับพี่คนขับได้ไม่กี่ประโยคเอง

พอตกเย็น อากาศก็เริ่มหนาวเย็นลง ที่ สถาบันวิจัยต้นน้ำ ขุนสถาน ก็ยังคงเงียบเชียบ ยังไม่มีกิจกรรมใด ๆ จนกว่าจะเดือนหน้า เช่นเดียวกับหมู่บ้านม้ง ซึ่งที่ สถาบันวิจัยต้นน้ำ ขุนสถาน นี้เอง ที่มีต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือ ดอกซากุระเมืองไทย ให้ได้ชื่นชมความงาม เพียงแต่ดอกนางพญาเสือโคร่งนี้ จะบานช่วงเดือนมกราคมค่ะ


และแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องเดินกลับ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ก่อนที่จะมืดจริง ๆ แล้ว ซึ่งระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร โดยคุณพี่ใจดี ยืนยันว่าจะไปส่ง แต่เราก็ยืนยันว่า อยากที่จะเดิน และ ก็ยังไม่มืด อีกทั้งอากาศที่เริ่มหนาวเย็นลงนั้น ทำให้รู้สึกสบาย อย่างบอกไม่ถูก และ ก็ยังอยากที่จะชมวิวต่อ

อย่าคิดว่าใกล้มืดแล้ว หยกต้องรีบเดิน ผิดคร้าาา หยกก็หยุดถ่ายรูปอยู่ทุก ๆ ร้อยเมตร อยู่ดี ก็วิวมันสวยขนาดนี้นี่เนอะ แถมแสงก็สวย พระอาทิตย์ก็กำลังจะตกดิน ก็ยิ่งทำให้วิวเบื้องหน้า ดูสวยแปลกตา ไปกว่าเมื่อตอนกลางวัน

วันนี้เดินกันเป็นสิบกิโล ก็ยังชิวกันอยู่ แต่ไอ้ 300 เมตรสุดท้าย ตรงทางขึ้น อุทยานแห่งชาติขุนสถาน นี่นะสิ แทบกระอักเลือดกันเลยทีเดียว คือ ชันมากจริง ๆ ลมหนาวที่พัดมา ก็ไม่สามารถพัดเหงื่อที่ออกท่วมตัวได้เลย
เมื่อถึงที่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ก็มืดพอดี ช่างทำเวลาได้พอเหมาะพอเจาะดีจริง ๆ คืนนี้คงหลับสบายสินะ
ไปเที่ยว ขุนสถาน กันมาแล้วหรือยังคะ ประทับใจอะไรกันบ้าง เล่าให้หยกฟังด้วยนะ
Hey Yok,
Well, you are a lucky one to get to do all these. I know it is all about a mind control thing to make choices of do or don’t around one’s life. Glad you chose this path. I fortunately then benefit from your time and hard work to see what I couldn’t otherwise have seen or felt by myself.
Sharing is a greatest gift, and if most of us manage to do that well then the world would be less trouble than what it is today. Thanks again 🙂
Those days, I went around traveling with friends, and sometimes as a volunteer who built schools and a few utility structures on mountain like these places.
I ate everything even though sometime I didn’t know what it was! If they can eat, I can too!! We cooked for ourselves on most meals to save money. So yeah, crab and many other things were our prime targets!!! You name it, and I am sure that we didn’t miss by much haha.
Happy Happy.
Komkrit.
Sawaddee ka Khun Komkrit,
Thank you so much for this inspirational comment ka. 🙂
The world would be less troubled! Yes! This what I have learned from traveling locally, deliberately, and open-mindedly. I hope to share, and show as many cool and amazing experiences to people as I can. Traveling to less beaten track destinations is one of my favorite way to explore ka. 🙂 In these place, I can see the happiness peoples face and catch an idea of maybe what the world should be. Even a small thing like the crab in plastic bag also blows my mind…the impression leaves me a joy and smile when think about it.
In your old days of traveling seems you would find the awesome thing. And seems like you had a great time on your volunteer experience. And thanks for sharing ka…this sounds excited to me!
I plan to keep traveling to awesome places not so close to home, and wish to inspire the SanookTiew community to do the same thing I have been doing. 🙂
Cheers,
Yok
Hello there, Thank you for the time sharing your experiences. Writing shares a lot about the writer. I am sure many people will find it helpful, pictures make it more fun, so yes please add more :). By the way, the crabs in those little plastic bags got me a big smile. 20 years ago, I was up and down mountains crossing path between where you were and around the country. I had seen it then, and now I am amazed that it is still available!! Who wants some crab? Me!!
best.
Komkrit.
Hey Khun Komkrit ?
Thank you for the cheerful comment ka! It helps motivating me more. I love traveling and love hearing about people’s travel experiences, and learning places hasn’t changed much. My experience there was so awesome explaining details is challenging…I wish I could share more cool things that I have seen. You had been there so you know how beautiful it is! 20 years is such a long time but Khun Sa-Than national park อุทยานแห่งชาติ ขุนสถาน didn’t seem to changed much, which is great! The crab thing is also amazed me. Never in this century did I expect to see it! Did you buy one and eat it? ?
Best wishes,
Yok