
หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว ที่ใกล้ๆ เดินทางไม่นาน มีอะไรให้ทำ ให้ดูเยอะ มีอาหารอร่อยๆ หลากหลาย และมากมาย ค่าครองชีพไม่สูงมาก แถมสามารถท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเที่ยวเดี่ยว หรือ กลุ่ม ก็เหมาะมาก กับการมา ปีนัง (Penang) ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) โดยเฉพาะตอนนี้ ปีนัง ยังเป็นอีกจุดหมาย ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง สำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย และ ที่สำคัญคือ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ พร้อมจะไปอิ่มหนำสำราญทั้งอาหาร และ การผจญภัย กันหรือยังคะ ก่อนอื่นมา ทำความรู้จักกับหยก และ การกำเนิดสนุกเที่ยว ก่อนดีไหมคะ จะได้ทราบว่า ไม่มีอะไรที่ยากเกินไป การท่องเที่ยวก็เช่นกัน -ถ้าหยกทำได้ ใครๆก็ทำได้- ค่ะ
- เที่ยวปีนัง กับเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ธรรมเนียม วัฒนธรรม และ ความน่าหลงใหล
- ปีนัง ต้องขอวีซ่าไหม อยู่ได้กี่วัน
- ไป เที่ยวปีนัง ช่วงไหนดีที่สุด
- ปีนัง มีอินเตอร์เนตให้เล่นไหม แล้วซิมการ์ดล่ะแพงหรือเปล่า
- ปีนัง ใช้ปลั๊กไฟแบบไหนน้า
- เที่ยวปีนัง เดินทางในปีนังยังไงเนี่ย
- เที่ยวปีนัง มีที่เที่ยวเยอะมาก มีกิจกรรมมันส์ๆ ให้ทำเพียบเลยด้วย รู้ไหม
- เที่ยวปีนัง เค้าทานอะไรกัน
- จะไป เที่ยวปีนัง แต่มีหลายย่านขนาดนี้ พักที่ไหนดีเนี่ย
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ
นอกจากนั้น หยกยังรับ จัดทริปส่วนตัว พาเที่ยว ด้วยนะคะ โดยจัดโปรแกรมเว่อร์ชั่นใหม่ ไม่ซ้ำใคร จัดตามที่เพื่อนๆ ออร์เดอร์มาเลยค่ะ อยากไปไหน อยากเที่ยวสไตล์ไหน ทำกิจกรรมอะไร บอกมาเลย หยกจัดให้! กับโปรแกรมเที่ยวหนึ่งเดียว ตรงใจ เฉพาะคุณ
ข้อมูล เที่ยวปีนัง (Penang) ตั้งแต่ที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก และ ค่าใช้จ่าย
การมา เที่ยวปีนัง ของหยกจะมีรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ถึงแม้จะไปในที่ๆ ใครมาก็ต้องไป และยังมีการผจญภัยในสถานที่ท่องเที่ยว ที่น้อยคนนักจะรู้จัก และไม่คิดว่าสามารถทำได้ที่ ปีนัง ทั้งคำแนะนำ และทริคต่างๆ ที่นำไปใช้ได้จริง ยังจะนำเสนออาหารที่หลากหลาย นอกจากชาร์ก๋วยเตี๋ยว และ หล่อหมี่ รวมถึงปัจจัยที่สำคัญสำหรับการท่องเที่ยว นั่นก็คือ ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าที่พักใน จอร์จทาวน์ ค่าเดินทาง และ ค่าอาหารการกิน รวมทั้ง อธิบายความหมายของที่พัก ทั้งโรงแรม ดอร์ม หรือ โฮลเทล คืออะไร และมีที่ไหนน่าอยู่บ้าง (มีลิ้งค์ตัวหนังสือสีส้ม ของที่พักแบ่งตามเขตในปีนัง แบบแนะนำๆ ที่ไปเดินดูมาเอง ไม่ผ่านการจ้างใดๆ ที่ด้านล่างด้วยนะคะ) ในแต่ละย่านในปีนัง ที่จะทำให้การ เที่ยวปีนัง ครั้งนี้ของคุณง่ายขึ้น สนุก ประทับใจมากขึ้น ไม่ซ้ำใคร กินอิ่ม นอนหลับ และ ใช้ได้จริง อีกทั้งยังช่วยให้คุณสนุก และ รักการท่องเที่ยวยิ่งๆ ขึ้นไป

สิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้ คือข้อมูลพื้นฐานที่ครบถ้วนของการเที่ยวเองง่ายๆ จากประสบการณ์ของหยกโดยตรง กินเอง เที่ยวเอง เดินหาข้อมูลเอง หลงทางเอง 55+ เลยทำให้เจอของดีหลายๆ อย่างเลยค่ะ ใน การ เที่ยวปีนัง ประเทศมาเลเซีย ทุกคนคงพร้อมกันแล้ว ไปเตรียมตัว เที่ยวปีนัง กันเลยค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
1. เที่ยวปีนัง กับเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ธรรมเนียม วัฒนธรรม และ ความน่าหลงใหล
A. ทราบหรือไม่ว่า รัฐปีนัง เป็นเกาะ

ประเทศมาเลเซียอยู่ติดกับภาคใต้ของประเทศไทย โดยมีรัฐปีนัง ซึ่งเป็นเกาะ ตั้งอยู่บนช่องแคบมะละกา อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย ปีนัง ยังได้รับขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งตะวันออก” ในฐานะเมืองที่มีความสวยงาม และ โรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งของตะวันออก
คนไทยเราจึงสบายมาก สามารถเดินทางจากไทย ทางบก ไป เที่ยวปีนัง ได้อย่างง่าย ด้วย รถตู้ จาก หาดใหญ่ เข้า ปีนัง ได้เลยค่ะ

B. คนปีนัง ภาษา และศาสนา
ชาวปีนัง มีทั้งเชื้อสายที่หลากหลาย ส่วนใหญ่มีเชื้อสายมลายู และ ยังมีจีน, อินเดีย และ อื่นๆอีกด้วย ภาษาในปีนัง ที่ใช้กันก็มีหลากหลายมากเช่นเดียวกับเชื้อสายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นภาษามลายู (หรือ ภาษามาเลย์), ภาษาจีนต่างๆ และภาษาอังกฤษ ซึ่งคนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ ส่วนศาสนา คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิลสาม และ ยังมีศาสนาพุทธ, ศาสนาคริสต์ และ ศาสนาฮินดู

C. สกุลเงินที่ใช้ในปีนัง การแลกเงิน หรือ กดจากตู้ ATM
คือ ริงกิตมาเลเซีย อักษรย่อเป็น RM โดย 1 RM มีค่าประมาณ 10 บาท สามารถนำเงินไทย ไปแลกที่ปีนังได้เลยค่ะ โดยไม่จำเป็นต้องแลกบาทเป็นดอลล่าร์ หรือ ยูโร แต่หากใครมีดอลล่าร์ หรือ ยูโร อยู่แล้ว ก็สามารถนำไปแลกได้เช่นกันนะคะ ซึ่งร้านแลกเงินส่วนใหญ่ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 น.- 19.00 น. หรือ สามารถกดจากตู้ ATM เป็นเงิน RM ได้เลยเช่นกันค่ะ เพียงแค่ให้มั่นใจว่า บัตร ATM ของคุณสามารถกดเงินจากตู้ ATM ต่างประเทศได้ ลองติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อความแน่ใจก่อนนะคะ
D. ความปลอดภัยกับการ เที่ยวปีนัง
โดยทั่วไปถือว่าปีนัง เป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยว ไม่ค่อยมีความรุนแรง จากการก่ออาชญากรรมต่อนักท่องเที่ยวเท่าใดนัก และ เป็นเมืองที่ตื่นอยู่ตลอดเวลาเกือบทั้งวันทั้งคืน
2. ปีนัง ต้องขอวีซ่าไหม และอยู่ได้กี่วัน
ไม่ต้องขอค่ะ โดยคนไทยสามารถเข้ามาเลเซียได้ 30 วัน เพียงแค่อย่าลืมตรวจสอบว่าหนังสือเดินทางของคุณ มีอายุการใช้งานคงเหลืออย่างน้อยหกเดือนหลังจากวันที่เดินทางเข้าประเทศด้วยนะคะ
3. ไป เที่ยวปีนัง ช่วงไหนดีที่สุด
จะบอกว่าดีมากๆ ที่เราสามารถท่อง เที่ยวปีนัง ได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ ภูมิอากาศโดยรวมคือ ร้อน และ ชื้น(มาก) มีฝนตกตลอดทั้งปีค่ะ
โดยฤดูฝน เริ่มตั้งแต่ เดือนเมษายน – กันยายน ส่วนเดือนตุลาคมนั้น อาจสามารถเจอหางฤดูฝนได้ (ไม่ได้ตกทุกวัน) โดยที่ปีนังสามารถมีฝนตกได้ตลอดปีค่ะ
เดือนที่มีอากาศจะแห้งที่สุด (อาจเจอฝนตกน้อยสุด) และ มีฟ้าใส คือ เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ค่ะ
ที่ปีนัง พระอาทิตย์ขึ้นช้าด้วยค่ะ เฉลี่ยประมาณ 07.00 น. ตลอดปีเลย เช่น ช่วงมกราคม – กุมภาพันธ์ ขึ้นสายแบบประมาณ 07.30 น. เลยค่ะ จึงสามารถไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ ปีนังฮิลล์ ได้ทันเวลา พระอาทิตย์ตื่นสายแบบนี้ ก็ทำให้มืดช้าด้วย เฉลี่ยประมาณ 19.00 น. ตลอดปีเลยค่ะ เช่น ช่วงมกราคม – กุมภาพันธ์ มืดแบบประมาณ 19.15 น. – 19.30 น. ค่ะ

4. ปีนัง มีอินเตอร์เนตให้เล่นไหม แล้วซิมการ์ดล่ะแพงหรือเปล่า
ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และ โรงแรมที่พัก เกือบจะทุกที่ มี wifi ไว้ให้บริการฟรีค่ะ หรือ สามารถซื้อซิมการ์ดเปลี่ยน โดยราคาไม่แพง ประมาณ 28 RM ใช้ได้ 7 วัน หรือ 38 RM ใช้ได้ 30 วัน หรือ ขึ้นอยู่กับแพ๊คเกจ และ ระบบที่คุณต้องการค่ะ โดยสามารถหาซื้อได้ที่ ตึก Komtar ตรงห้างสรรพสินค้านะคะ
5. ปีนัง ใช้ปลั๊กไฟแบบไหนน้า
ที่ปีนังใช้ปลั๊กชนิด G เป็นแบบสามขา โดยที่ขาทั้งสามเป็นแบบสี่เหลี่ยมพื้นผ้า
6. เที่ยวปีนัง เดินทางใน ปีนัง ยังไงเนี่ย
ปีนัง มีการคมนาคมที่สะดวก และ ทันสมัยมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ที่มากมายหลายสาย ราคา 1.4 – 5 RM (14 – 50 บาท) โดยสารไปที่ท่องเที่ยวได้เกือบทั้งหมด แถมรถยังใหม่อีกต่างหาก การขึ้นรถเมล์ที่ปีนัง ง่าย และปลอดภัยมาก รถเมล์คันใหม่ๆ ทั้งหมดสไตล์ยุโรป โดยขึ้นรถที่ประตูหน้า ซื้อตั๋วกับคนขับ เตรียมเงินให้พอดี เพราะไม่มีการทอนเงินนะคะ ส่วนขาลงนั้น ต้องลงรถตรงประตูหลังนะคะ คนขับรถเมล์ก็อารมณ์ดีมากมาย ใจเย็น รอคนขึ้นจนหมดแล้วค่อยออกรถ ดี๊ดี สถานีรถเมล์หลักของปีนังอยู่ที่ ตึกคอมต้าร์ (Komtar) ตึกนี้อยู่ที่ไหน เข้าไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ
ทริค:
รถเมล์ที่นี่ไม่ทอนเงินนะคะ ควรเตรียมเงินให้พอดี โดยราคาจะมีตั้งแต่ 1.4, 2, 2.7, 3.4, 4 และ 5 RM ราคาขึ้นกับระยะทางค่ะ
7. เที่ยวปีนัง มีที่เที่ยวเยอะมาก มีกิจกรรมมันส์ๆ ให้ทำเพียบเลยด้วย รู้ไหม
ทัศนียภาพที่จะทำให้คุณประทับใจ และ ลืมไม่ลงแน่ๆ ที่ใครๆ ก็ต้องไปเยือน เมื่อมา เที่ยวปีนัง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ ที่ห้ามพลาด ทั้งแบบชิว แบบลุย รับรองว่า เที่ยวปีนัง ครั้งเดียวไม่พอแน่นอนค่ะ
- จอร์จทาวน์ (George Town)
จอร์จทาวน์ เป็นเมืองหลวงของเกาะปีนัง ที่มีสถาปัตยกรรม และ วัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยที่อาคารยุคอาณานิคม และ สถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ทั้งหลาย ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีสตรีทอาร์ต (Street Art) ที่ใครไป เที่ยวปีนัง ต้องไม่พลาดที่จะเดินหางานศิลป์เหล่านี้ และ แชะภาพกลับไปเป็นที่ระลึก ซึ่งปัจจุบันนี้ มีสตรีทอาร์ทที่ทำจากเหล็กดัดด้วย ลองอ่านดูนะคะว่าเค้าเขียนว่าอะไร อาจจะอ่านยากหน่อย เพราะเหล็กดัดทำเป็นตัวหนังสือ เลยติดกันเป็นพรืดๆ โดยจะมีความหมายทั้งล้อเลียน และให้ความรู้ค่ะ


พวกธุรกิจการค้าแบบดั้งเดิม ก็ยังคงมีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้ อีกทั้งจอร์จทาวน์ยังมีชื่อเสียงด้านอาหารที่เอร็ดอร่อย และหลากหลาย จึงเป็นที่ดึงดูดผู้ที่ต้องการลิ้มลองความอร่อยจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือน
- เอสพลานาด (Esplanade)

เป็นย่านตึกสวยงามสไตล์แบบโคโลเนียล เป็นโซนศูนย์ราชการ ไม่ว่าจะเป็นศาลาว่าการรัฐปีนัง (City Hall) หรือ ศาลากลางเมือง (Town Hall) ยังมีสวนสาธารณะ และที่นั่งชมวิวทะเล ที่มักจะมีคนเป็นคู่ เป็นครอบครัวมานั่งเล่น นอนเล่น ชิวๆ ปิคนิคกัน
- ปีนังฮิลล์ (Penang Hill)

จะพูดว่าเป็นจุดชมวิวพาโนรามาของเกาะปีนังเลยก็ได้ ด้านบน สามารถอ่าน ข้อมูลการท่องเที่ยวในปีนังฮิลล์, วิธีการเดินทาง รวมทั้งเคล็ดลับและคำแนะนำต่างๆ ได้ที่นี่ค่ะ
- วัดต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็น วัดเขาเต่า หรือ วัดเก็กหลกสี่ (Kek Lok Si Temple) ที่อยู่ใกล้ๆกับ ปีนังฮิลล์ เห็นชัดเจนด้วยเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ สูงประมาณ 30.2 เมตร และ ยังเห็นวิวของเมืองจอร์จทาวน์ด้วยนะคะ หรือ วัดงู (Snake Temple) ที่มีงูเต็มไปหมด


- ทะเล
ปีนังเป็นเกาะ ก็ต้องมีทะเลแน่นอนค่ะ หาดที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ บาตู เฟอร์ริงงี (Batu Ferringhi) และหาดเตลุก บาฮัง (Teluk Bahang)
- Entopia หรือ ฟาร์มผีเสื้อ (Butterfly Farm)
ไม่ใช่แค่เด็กๆ ที่ต้องมาที่นี่นะคะ เพราะผู้ใหญ่อย่างเราๆ เนี่ย ก็เพลิดเพลินเมื่อมาที่นี่ แบบว่าอยู่ได้ทั้งวันเลยค่ะ กับผีเสื้อที่มากมาย หลากหลายสายพันธุ์ หน้าตาแปลกๆ ทั้งนั้น หลากสี หลายลวดลาย ที่ทั้งสวย และสมบูรณ์ บินอยู่รอบๆ ตัวคุณ ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์แปลกๆ และวิดีโอเกี่ยวกับสัตว์หลายๆ ชนิดให้ได้ชมอีกด้วยนะคะ ซึ่งฟาร์มผีเสื้อนี้ได้ปิดปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่ไปนานเชียวค่ะ แต่ว่าตอนนี้เปิดให้เข้าแล้ว อืม หยกคงต้องกลับเข้าไปเยี่ยมชมอีกสักครั้งสินะ
- อุทยานแห่งชาติปีนัง (Penang National Park)
อุทยานแห่งชาติปีนัง เป็นสถานที่สำหรับไฮกิ้งชั้นดีเลยค่ะ มีทั้งป่า ทะเล ประภาคาร ทะเลสาบ อูย เดินได้ทั้งวัน แถมธรรมชาติสวย เขียว สมบูรณ์อีกด้วย มีทั้งป่า ทะเล ทะเลสาบ หยกพาป๊าม้าไปลุยมาด้วย ชอบกันใหญ่ ป๊าม้าหยกยังไฮกิ้งได้ แถมชอบมากซะด้วย ดังนั้น คุณก็ทำได้เช่นกันค่ะ

- Escape Adventureplay
สถานที่ เที่ยวปีนัง น้องใหม่ ที่ห้ามพลาดเป็นสวนสนุกสไตล์ผาดโผน ผจญภัย หยกเขียน ข้อมูลการท่องเที่ยว, การเตรียมตัวและทริคต่างๆสำหรับใครที่จะไป Escape ไว้ที่นี่ค่ะ

- Chew Jetty

เป็นชุมชนที่อยู่อาศัย ที่สร้างอยู่ริม (บน) ทะเล โดยมีทั้งบ้านคนที่อยู่อาศัยจริงๆ ที่มีการตกแต่งที่สวยงาม มีทั้งเกสเฮ้าส์ มีร้านขายของที่ระลึก ขายอาหาร ขนม นม เนย ชา และกาแฟ อยู่ตลอดทางเลยค่ะ มีวัด มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะด้วย
8. เที่ยวปีนัง เค้าทานอะไรกัน

มา Penang เค้าว่าก็ต้องทาน ชาร์ก๋วยเตี๋ยว (Char Koay Teow), หล่อหมี่ (Lor Mee) ส่วนของหวานก็ น้ำแข็งไส (Ice Kacang) และ ลอดช่องปีนัง (Cendol) แต่จริงๆ แล้ว ที่ปีนัง มีอาหารหลากหลายมากมายกว่านั้นนะคะ ที่หลายๆ คนไม่ค่อยทราบกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารมาเลย์ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น อาหารอินเดีย หรืออาหารจีน ที่เยอะมาก จนอยากจะสั่งมาลองทานให้หมดทุกอย่างเลย มีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ ย่านอาหารหลักๆ ใน จอร์จทาวน์ ก็ได้แก่
- ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) ใน จอร์จทาวน์

แฟนพันธุ์แท้อินเดีย ต้องไม่พลาดการมาอาหารอินเดียที่นี่ สมแล้วที่เรียกว่าลิตเติ้ลอินเดีย ยังกับยกอินเดียมาไว้ที่ปีนังเลยเหอะ พูดแล้วก็น้ำลายไหล จะอร่อยอะไรเบอร์นั้น มีอาหารอินเดียหลายๆ ชนิดเลย ไม่ว่าจะเป็นข้าวราดแกงเคอร์รี่ต่างๆ และก็แกงเคอร์รี่ทั้งหลายแหล่ ที่กินกับแป้งพวกโรตี จาปาตี หรือนาน เครื่องดื่มก็พวกชานม หรือ แลซซี่ (Lassi) หลายๆ ร้านยังมีเมนูอาหารที่มีรูป และคำอธิบายที่เป็นภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย ให้ได้เลือกมากมายเชียวค่ะ

ราคาคร่าวๆ ของอาหารในย่านลิตเติ้ลอินเดีย
– ข้าวราดแกงเคอร์รี่ (Curry) ต่างๆ 7 – 21 RM (70 – 210 บาท) ขึ้นอยู่กับว่าเลือกข้าวขาวหรือข้าวเหลือง ราดกี่อย่าง ถ้าใส่เนื้อสัตว์ก็จะแพงหน่อย – โรตี หรือ จาปาตี 1 – 2 RM (10 – 20 บาท) – ชา หรือ กาแฟ สไตล์โบราณ 1.5 – 2 RM (15 – 20 บาท)

- ย่านไชน่าทาวน์ (China Town) ใน จอร์จทาวน์

ตามชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นต้องเป็นอาหารจีน ถูกปากคนไทยเลยค่ะ ใครที่กลัวว่าจะทานอาหารที่นี่ไม่ได้ โล่งอกไปได้เลย เพราะร้านอาหารจีนเพียบ มีทั้งติ่มซำ, ก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่เหลืองที่บางร้านทำเส้นเองสดๆ แบบวันต่อวัน, เป็ดย่าง, ขาหมู, หมูหรือไก่สะเต๊ะ, อาหารทะเล และอื่นๆ อีกมากมาย น้ำลายไหลอีกแล้ว ไป เที่ยวปีนัง ทีไร อ้วนกลับมาทุกทีเลยสิน่า




ราคาคร่าวๆ ของอาหารในย่านไชน่าทาวน์
– พวกชาร์ก๋วยเตี๋ยว, หล่อหมี่ หรือ พวกบะหมี่ต่างๆ เกี๊ยว ไม่เกี๊ยว 4 – 10 RM (40 – 100 บาท) – พวกของหวาน Ice Kacang (น้ำแข็งไส), Cendol (ลอดช่องปีนัง) หรือพวกเต้าทึงร้อนเย็นต่างๆ 2 – 5 RM (20 – 50 บาท)


- ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ ใน จอร์จทาวน์
คอกาแฟนี้สบายใจได้เลยค่ะ หากมา เที่ยวปีนัง ร้านกาแฟเยอะมาก รสชาติดี บรรยากาศก็น่านั่ง การตกแต่งร้านก็เก๋ๆ ทั้งนั้น ที่สำคัญเกือบทุกร้านมีอินเตอร์เนตให้ใช้บริการฟรีอีกด้วยนะคะ
ราคาคร่าวๆ ของกาแฟ ขนมปัง และเค้ก
– กาแฟร้อน 10 – 15 RM (100 – 150 บาท) – กาแฟเย็นหรือปั่น 12 – 20 RM (120 – 200 บาท) – เค้ก ชิ้นละประมาณ 10 – 20 RM (100 – 200 บาท) – ขนมปัง ก็เริ่มตั้งแต่ 2.5 – 8 RM (25 – 80 บาท)
- อ้าว แล้วน้ำดื่มล่ะ
ที่พักส่วนใหญ่จะมีตู้เติมน้ำดื่มเอาไว้บริการ เติมฟรี จึงควรเติมน้ำจากที่พักไว้สำหรับการเดินทางระหว่างวัน เพราะราคาน้ำดื่มที่ ปีนัง ค่อนข้างแพง โดยขวดใหญ่ 1.5 ลิตร ที่มินิมาร์ท ราคาประมาณ 3 RM (30 บาท) (แพงกว่าที่ไทยเท่าตัวเลยทีเดียว) จะถูกกว่าหน่อยหากซื้อที่ร้านขายของชำ คือประมาณ 1.5 – 2 RM (15 – 20 บาท)
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
9. จะไป เที่ยวปีนัง แต่มีหลายย่านขนาดนี้ พักที่ไหนดีเนี่ย
ปีนังเป็นเกาะขนาดใหญ่ ใหญ่แบบไหน ก็ใหญ่เป็นสองเท่าของภูเก็ตเลยนะสิค่ะ และปีนังยังมีหลายเขตหลายย่านให้คุณได้เลือกอีกด้วยว่าจะพักที่ไหนดี โดยสามารถคลิ๊กตรงตัวหนังสือสีส้มที่ชื่อที่พักนั้นๆ เพื่อดู หรือ ทำการจองได้เลยนะคะ โดยที่ที่พักเหล่านี้หยกได้ทำการแนะนำเอง ไม่ได้มีการรับจ้างหรือสปอนเซอร์จากการได้รับที่พักฟรีใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณวางแผนไว้ว่าจะเที่ยวที่ไหน และทำอะไรบ้างใน การ เที่ยวปีนัง ครั้งนี้
A. ปีนังใหญ่แบบนี้ จะหาที่พักทั้งที ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง
- ย่านไหนดีที่สุด ที่คู่ควรแห่งการเข้าพัก เมื่อมา เที่ยวปีนัง
- ย่านไหนน่าพัก น่าสนใจอย่างไร แล้วทำไมจึงเลือกพักในย่านนั้นๆ
- ที่พักที่หยกจะแนะนำต่อไปนี้ หยกได้เข้าไปสอบถามกับทางที่พักนั้นๆ ด้วยตัวเองค่ะ (ก็หนึ่งในหลายๆ เที่ยวปีนัง ทริป ที่หยกไปมานั่นแหละค่ะ) ที่สำคัญคือ ที่พักเหล่านี้ไม่ได้จ้างหรือเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ให้หยกในการแนะนำครั้งนี้ ดังนั้น มั่นใจได้ค่ะว่า แต่ละที่ๆ หยกจะแนะนำนั้นมาจากสิ่งที่หยกได้เห็น และได้สอบถามมาเองค่ะ
B. โฮลเทล ดอร์ม คืออะไร แล้วราคาที่พักต่อคืนราคาเท่าไหร่?
ทริค:
ทราบกันไหมคะว่า การ walk-in นั้น มักจะได้ราคาที่พักถูกกว่าการจอง online ถ้าคุณไม่ได้ไป เที่ยวปีนัง ในช่วงฤดูท่องเที่ยว หรือ ช่วงที่มีเทศกาลใดๆ แล้วละก็ หยกแนะนำให้ walk-in ไปเลยค่ะ ที่พักที่ ปีนัง มีเยอะมากอยู่แล้ว ส่วนจะได้ราคาที่ถูกลงแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ ระยะเวลาการเข้าพัก ความสามารถในการต่อรองของคุณ คล้ายๆ กับการซื้อของค่ะ ต่อเก่งหน่อย และพักมากกว่า 3 คืน ก็จะได้ราคาถูกลงมาค่อนข้างเยอะค่ะ ข้อดีของการ walk-in นอกจากจะได้ราคาที่ถูกลงแล้ว เรายังได้เห็นห้องพัก และ สภาพแวดล้อมที่แท้จริงของที่ๆ เราจะพักอีกด้วย โดยเฉพาะอากาศที่ปีนังที่ค่อนข้างชื้น ห้องพักในบางที่ อาจมีกลิ่นเหม็นอับ และ ไม่มีอากาศถ่ายเทเท่าที่ควร
- โฮสเทล (Hostel)
ห้องพักส่วนตัว สำหรับสองคน (private double room) หาค่อนข้างง่ายกว่าสำหรับคนเดียว (private single room) โฮสเทลส่วนใหญ่ในจอร์จทาวน์จะเป็นแบบห้องน้ำรวม แบบห้องน้ำในตัวจึงค่อนข้างแพงต่อรองแล้วก็อยู่ที่ประมาณ 140 RM (1400 บาท) ต่อคืน – ห้องพักส่วนตัวสำหรับคนเดียว แบบห้องน้ำรวม สามารถต่อรองได้เหลือ 40 – 42 RM (400 – 420 บาท) ต่อคืน หากพักอย่างน้อย 3 คืน – ห้องพักส่วนตัวสำหรับสองคน แบบห้องน้ำรวม สามารถหาได้ถูกสุดประมาณ 65 RM (650 บาท) ต่อคืน และยังสามารถต่อรองได้เหลือ 55 RM (550 บาท) ต่อคืน หากพักอย่างน้อย 3 คืน
- Dormitory หรือ ดอร์ม (Dorm)
หรือที่รู้จักกันว่า หอพัก คือนอนรวมกัน และแน่นอนค่ะ มักเป็นแบบห้องน้ำรวม หรือ บางทีอาจจะเรียกว่า โฮลเทล แต่จะหมายถึงโฮลเทลที่มีแต่ห้องพักแบบห้องรวม ห้องน้ำรวม มักจะเป็นแบบเตียง 2 ชั้น ห้องหนึ่งอาจมีตั้งแต่ 4 – 10 เตียง และไม่มีห้องเดี่ยวค่ะ – ดอร์ม นี้ค่อนข้างถูกค่ะ ประมาณ 20 RM (200 บาท) ต่อคืนเอง ซึ่งราคากับคุณภาพก็มักจะมาด้วยกัน คือถ้าเจอถูกขนาดนั้นก็อย่าคาดหวังเยอะค่ะ แต่ถ้าแบบที่สะอาดหน่อย เจ้าหน้าที่เป็นมิตร บริการดีหน่อย ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 28 – 38 RM (280 – 380 บาท) ต่อคืน
ทริค:
หลายๆ ดอร์มแถวๆ Love Lane และ Chulia Street ค่อนข้างสกปรก เนื่องด้วยเป็นถนนที่ไม่หลับใหลในตอนกลางคืน เสียงจึงอาจดังถึงดังที่สุด ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะพักในละแวกนี้ด้วยราคาสูงหน่อย แต่คุณภาพที่ได้มักจะไม่ได้สอดคล้องกับราคา
ทริค:
โดยทั่วไปราคาที่พักสอดคล้องกับคุณภาพ ยกเว้นก็แค่ละแวก Love Lane และ Chulia Street ซึ่งที่พักจะมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับที่พักในราคาเดียวกันที่อยู่ห่างไปไม่กี่แยก แต่คุณจะได้คุณภาพที่แย่กว่า
ทริค:
บางโฮลเทสก็มีผ้าขนหนูให้ ซึ่งบางครั้งอาจต้องขอเอานะคะ บางที่ก็มีขาย ราคาประมาณ 5 – 15 RM (50 – 150 บาท) ไม่แน่นอนค่ะ ดังนั้นหากไม่มั่นใจก็หิ้วผืนบาง ๆ ไม่ใหญ่มาก ไปด้วยนะคะ
C. ที่พักแนะนำตามย่านต่างๆ (ลิ้งค์คลิ๊กได้)
เขต จอร์จทาวน์

เที่ยวปีนัง ใครๆ ก็ต้องรู้จัก และต้องไป จอร์จทาวน์ เพราะย่านหลักๆ เช่น ไชน่าทาวน์ และ ลิตเติ้ลอินเดีย ก็อยู่ในจอร์จทาวน์ด้วยนะ จึงขึ้นชื่อ เรื่องความหลากหลายของอาหารเอเชีย มีหลายเชื้อชาติเลยเชียวแหละ และยังมีการดูแลรักษาสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล หรือ แบบอาณานิคม ให้คงอยู่ได้อย่างสมบูรณ์อีกด้วยค่ะ หากใครชอบความรื่นเริง ที่จอร์จทาวน์ ยังมีการจัดกิจกรรมและเทศกาลต่างๆ อยู่ตลอดเวลาตลอดปีเลยนะคะ
ย่านไชน่าทาวน์

ไชน่าทาวน์ เป็นหนึ่งในที่ๆ คนมา เที่ยวปีนัง ต้องมาเยือน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลที่สมบูรณ์สวยงาม และ อาหารรสเลิศมากมาย ทั้งยังอยู่ใจกลางเมือง และเดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง ตึกคอมต้าร์ ซึ่งเป็นตึกที่เป็นสถานีรถเมล์หลัก จึงสะดวกต่อการเดินทางไปไหนมาไหนได้ทั่วปีนัง
A. Rope Walk Guesthouse (โร้ป วอล์ค เกสต์เฮาส์) (ถูก) เป็นเกสต์เฮ้าส์ที่ดีเกินราคาเลยแหละค่ะ แนะนำมากๆ พนักงานเป็นกันเอง ยินดีให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง ทำเลก็ดี เพราะอยู่ใกล้ไชน่าทาวน์มากๆ โดยเดินแค่ไม่ถึง 1 นาที ก็ถึง night market ที่ขายอาหารตอนกลางคืนแล้วค่ะ ส่วนห้องพักก็สะอาดสะอ้าน โล่ง ไม่อับชื้น มีแอร์ มีอินเตอร์เน็ต มี locker ไว้ให้บริการ เพียงแต่คุณต้องพกแม่กุญแจสำหรับล็อคไปเอง ที่พักก็มีทั้งแบบห้องเดี่ยวสำหรับ 2 คน, ห้องนอนรวม 4 เตียง และ 8 เตียง ห้องน้ำรวม โดยหากมาเที่ยวกัน 3 – 4 คน สามารถจองห้อง 4 เตียงเป็น private ได้เลยนะคะ
B. Nam Keng Hotel (กลางๆ) ห้องสวย สะอาด เพดานสูง การตกแต่งเป็นแบบบูทิคที่ลงตัว ปูพื้นด้วยพรมสไตล์เอเชียใต้ ส่วนที่ล๊อบบี้นั้นปูด้วยกระเบื้องแบบโบราณ อารมณ์จีนๆ เข้ากับบรรยากาศสบายๆ แบบจีนๆ ของไชน่าทาวน์ได้ดีเลยค่ะ
C. 1881 Chong Tian Hotel (โรงแรม 1881 ฉงเทียน) (หรูหรา) โรงแรมนี้ตกแต่งแบบจีนจ๋าๆ เลยแหละค่ะ สมแล้วที่อยู่ในไชน่าทาวน์ ของตกแต่งทั้งหลายเป็นงานแกะสลักที่ละเอียด ปราณีต และสวยงาม แถมยังประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์จีนๆ ที่ดูเล่อค่ามากๆ ทั้งพื้นที่ๆ กว้างขวาง ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเศรษฐีจีนในสมัยก่อนเลยค่ะ
D. Campbell House (แคมป์เบลล์ เฮ้าส์ ปีนัง) (หรูหรา) ตอนเข้าไปสอบถามข้อมูลนะ แบบว่าอยากจะพักที่นี่ใจจะขาด แต่พักไม่ได้ ไม่ใช่ว่าห้องเต็มนะคะ แต่งบไม่ถึง 555+ โรงแรมสไตล์บูทิคหรูหราๆ นี้ มีแค่ 11 ห้องเองค่ะ ซึ่งแต่ละห้องจะมีเอกลักษณ์การตกแต่งที่ต่างกัน ตัวตึกได้รับการปรับปรุงมาจากตึกเก่าสไตล์โคโลเนียล เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งทั้งหมดนั้นมีคุณภาพสูง โดยรับเข้ามาจากหลายๆ แหล่งในเอเชีย ส่วนเครื่องใช้ในห้องน้ำ พวกสบู่ แชมพูต่างๆ เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกทั้งหมดเลยค่ะ การจัดการและบริการของพนักงานนั้น เป็นมืออาชีพมากๆ แขกต้องการอะไร จัดให้ทุกอย่างค่ะ หากใครงบถึง มา เที่ยวปีนัง แล้วลองพักที่นี่ดูนะคะ
ย่านลิตเติ้ลอินเดีย

หากคุณยังไม่พร้อมกับการไปเผชิญประสบการณ์มันส์ๆในอินเดีย การเข้ามาพักในย่านนี้ เมื่อมา เที่ยวปีนัง ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ เพราะคุณสามารถสัมผัสกับกลิ่นอายเบาๆ ของอินเดียได้ที่นี่
A. Cocoa Mews (โกโก้ มิวส์) (ถูก) ในใจกลางของลิตเติ้ลอินเดีย โฮลเทลนี้มีห้องพักรวม และห้องเดี่ยว ที่เรียบง่าย สะอาด โดยมีห้องน้ำรวม ส่วนเจ้าของอาจมีคาแรคเตอร์แปลกๆ นิดนึง แต่ลองได้ชวนเค้าคุยแล้วล่ะก็ จะรู้ว่าเค้าเป็นคนที่น่าสนใจ พูดคุยเก่ง และยินดีที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพูดคุยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประวัติศาสตร์ปีนัง ช่วยให้การ เที่ยวปีนัง ของคุณมีคุณค่าขึ้น
B. East Indies Mansion (อีสต์ อินดี้ แมนชั่น) (กลางๆ) ฟังแค่ชื่อก็น่าอยู่แล้วล่ะค่ะ โรงแรมนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของลิตเติ้ลอินเดีย การตกแต่งแบบอินดี้ๆ ผสมผสานระหว่างจีนกับปีนังที่ลงตัวสุดๆ มีสวนเล็กๆ น่ารักๆ ให้นั่งเล่นชิวๆ ด้วยค่ะ และยังมีห้องครัวที่ให้แขกเข้าไปใช้ได้ด้วย เหมาะกับคนที่ชอบอิสระในการทำของว่างทาน
C. Palm Mansion Boutique Suites (ปาล์ม แมนชั่น บูทิค สวีท) (หรูหรา) อยู่ใกล้ๆ กับวัดจีน Kong Hock Keong หรืออีกชื่อคือ ศาลเจ้าแม่กวนอิม (Goddess of Mercy Temple) ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1800 โรงแรมนี้เป็นสไตล์บูทิค มีการตกแต่ง และห้องพักที่สวยงาม น่าอยู่ แถมทำเลก็ดีค่ะ สามารถไปได้ทั้งไชน่าทาวน์ และลิตเติ้ลอินเดีย และ ยังสามารถเดินไปเอสพลานาดได้อีกด้วย
ย่าน Jalan Penang ในเขต จอร์จทาวน์
ย่าน Jalan Penang ในทางด้านตะวันตกของ จอร์จทาวน์ นั้น มีนักท่องเที่ยวไม่มากเท่าที่ไชน่าทาวน์และลิตเติ้ลอินเดียค่ะ น่าจะเป็นเพราะอยู่นอกเขต UNESCO World Heritage หากได้มาเดินเล่นในละแวกนี้ คุณจะได้พบเห็นการทำบะหมี่เหลืองสดๆ ไว้ขายกันวันต่อวัน หากเจอร้านทำบะหมี่ ก็ต้องมีร้านบะหมี่สดๆ ด้วยสินะคะ ซึ่งหลายร้านให้เลือกชิมเลยแหละค่ะ หากอยาก เที่ยวปีนัง แบบเงียบๆ หน่อย ก็แนะนำให้พักย่านนี้ค่ะ
A. Hotel Penaga (โรงแรม ปีนากา) (กลางๆ) ด้วยการตกแต่งตัวตึกภายนอกที่โดดเด่น ด้วยไม้และกระเบื้อง จากการปรับปรุงตึกโคโลเนียลดั้งเดิมในปี 1920 ภายในตกแต่งสไตล์จีน โรงแรมบูทิคนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Nagore Square ซึ่งอยู่ในทำเลที่ไม่ได้พลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยว
B. Eastern and Oriental Hotel (โรงแรมอีสเทิร์น แอนด์ โอเรียนทัล) (หรูหรา) หากคุณพอจะเที่ยวแบบฟุ่มเฟื่อยได้บ้าง ควรลองเข้าพักที่นี่อย่างน้อย 1 คืนนะคะ โรงแรมติดทะเลนี้เปิดตั้งแต่ปี 1885 โดยพี่น้องตระกูล Sarkies ซึ่งหลังจากเปิดตัวไม่นานก็มีการตอบรับที่ดีเกินคาด พวกเค้าจึงได้ขยายสาขาเพิ่มไปยัง ประเทศสิงคโปร์ ในชื่อ โรงแรม Raffles และ ย่างกุ้ง ประเทศพม่า ในชื่อ โรงแรม Strand อีกด้วย โดยห้องพักจะเป็นแบบเพดานสูง ตกแต่งด้วยสไตล์ศตษวรรศที่ 19
บาตูเฟอรินกิ (Batu Ferringhi)

หากมา เที่ยวปีนัง ก็ต้องมาเยี่ยมเยือนทะเลที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ซึ่งก็คือ บาตูเฟอรินกิ ซึ่งที่พักในละแวกนี้ จะเน้นไปในทางที่หรูหราจนถึงหรูหรามาก และเป็นโรงแรมในเครือนานาชาติซะเกือบหมดเลยค่ะ ส่วนกิจกรรมหลักๆ ที่มีในทำใน บาตูเฟอรินกิ นี้ ก็มีมากมายเชียวแหละ ไม่ว่าจะเป็น parasailing, jet skis และก็ banana boats ส่วนตัวหยกว่าทะเลที่นี่ก็สวยนะ แต่ก็ไม่สวยเท่าทะเลที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เช่น อุทยานแห่งชาติตะรุเตา เที่ยวเกาะตะรุเตา หรือ ทะเลในประเทศไทย ซึ่งมีสวยๆ กว่าที่นี่อีกเยอะเลยค่ะ แต่ก็นะ หากคุณอยากไปเที่ยวทะเลในต่างประเทศ ที่ไม่ต้องเดินทางนาน บาตูเฟอรินกิ ก็เป็นอีกที่ๆใกล้ๆ และเดินทางมาง่ายค่ะ
A. Ferringhi International Inn (เฟอริงงี อินเตอร์เนชั่นแนล อินน์) (ถูก) ที่พักน้องใหม่ที่พึ่งเปิดให้บริการเมื่อต้นปี 2559 นี่เองค่ะ นอกจากจะราคาถูกแล้ว ยังอยู่ใกล้หาดโดยเดินแค่ 2 นาทีก็ถึงแล้ว และยังอยู่ใกล้ร้านอาหาร และร้านกาแฟด้วยค่ะ สะดวกสบายจริงๆ
B. Holiday Inn Resort Penang (ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ต ปีนัง) (กลางๆ) แหม มาเที่ยวทะเลก็ต้องการหาที่พักที่เห็นวิวทะเลสินะ แถมยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และห้องพักที่สะดวกสบาย คุ้มค่ากับราคาจริงๆค่ะ ห้องพักตกแต่งทั้งสไตล์ตะวันตกและเอเชีย
C. Shangri-La’s Rasa Sayang Resort & Spa (แชงกรี ลา ราซา ซายัง รีสอร์ต แอนด์ สปา ปีนัง) (หรูหรา) หากต้องการหาที่พักแบบไฮโซๆ ที่ บาตูเฟอรินกิ ก็ต้องที่นี่เลยค่ะ มีทั้งคอร์ทเล่นเทนนิส จนถึงโยคะริมหาด หรือนวดผ่อนคลายและสปาต่างๆ ก็สามารถทำได้ที่นี่ ห้องพักนั้นตกแต่งด้วยสไตล์ผสมผสานระหว่างตะวันตกแบบชิคๆ กับเอเชีย ได้อย่างลงตัว และยังมีสวนให้ได้นั่งเล่นผ่อนคลายชิวๆ ด้วยค่ะ
หมายเหตุ
ราคาที่พักอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลานะคะ ไม่ว่าจะเป็นตามกาลเวลา อัตราค่าแลกเปลี่ยน และ/หรือ อาจมีราคาที่สูงขึ้นในฤดูท่องเที่ยว หากถามหยกว่า แนะนำให้พักที่ไหนมากที่สุด? หลักๆ แล้ว คุณจะพักที่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณวางแผนจะ เที่ยวปีนัง ที่ไหนบ้างมากกว่าค่ะ หยกไป เที่ยวปีนัง นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว จุดประสงค์หลักก็คือ ประเภทของอาหารที่หลากหลายเชื้อชาติ ที่ให้ความรู้สึกว่าไป เที่ยวปีนัง ที่เดียว ก็เหมือนกับได้ไปเที่ยวมาหลายประเทศ แถมอาหารทั้งหลายก็อร่อยๆ ทั้งนั้น และหยกชอบเดินทางไปเที่ยวหลายๆ ที่ในปีนัง จึงเลือกที่จะพักในแถวๆ ไชน่าทาวน์ ใน จอร์จทาวน์ ค่ะ ทั้งง่ายต่อการเลือกหาของกิน ไม่ว่าจะเป็นแบบร้านอาหาร หรือตลาดอาหารกลางคืน นอกจากอร่อยมากแล้ว ยังไม่แพงอีกด้วย และยังเดินทางสะดวก เพราะใกล้สถานีหลักของรถเมล์ ที่สามารถไปเที่ยวปีนังฮิลล์, อุทยานแห่งชาติปีนัง หรือที่ไหนก็ได้ในเกาะปีนังนี้

ปีนังมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด หยกหวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะให้ประโยชน์ได้มากถึงมากที่สุดนะคะ ข้อมูลที่ให้ไปอาจยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด หากคุณมีคำถาม หรือ คอมเม้นต์อื่นใด ถาม หรือ แนะนำความคิดเห็นของคุณมาได้ที่ คอมเม้นต์ด้านล่างนี้เลยค่ะ ใครไป เที่ยวปีนัง มาแล้ว มีอะไรใหม่ๆ มาแนะนำ หรือ มาเล่าให้หยกกับสนุกเที่ยวฟังบ้างนะคะ