
ศรีลังกา Sri Lanka เกาะเล็กๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลประเทศไทยมากนัก ที่ใครหลายคนอาจจะรู้จักจากการท่องเที่ยวแบบแสวงบุญของชาวพุทธไทยทั้งหลาย แต่ทราบไหมคะว่า นอกจากวัดวาอารามที่สวยงาม ร่มรื่น สบายใจ ชวนให้ชักชวนครอบครัว คนรัก และเพื่อนฝูงไปรับบุญกันแล้ว เที่ยวศรีลังกา ยังมีสถานที่เที่ยวที่หลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ไร่ชา เขตเมืองเก่า เมืองประวัติศาสตร์โบราณ อุทยานแห่งชาติหรือศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ป่า และที่แน่นอน ก็คือ ทะเลรอบศรีลังกาเลย ทั้งการเดินทางก็ไปง่าย มีรถสาธารณะไปทุกที่ทุกเมือง ผู้คนก็จิตใจดีเป็นมิตร อาหารศรีลังกา ก็อร่อยมากๆ ที่สำคัญคือเที่ยวได้แบบถูกมากๆ อีกด้วยค่ะ
อย่าเห็นว่า ประเทศศรีลังกา เล็กๆ แบบนี้จะมีที่เที่ยวน้อยนะคะ ไปดู ข้อมูลท่องเที่ยวศรีลังกา กันเลยค่ะ ว่ามีรายละเอียดอะไรที่ควรจะทราบและเตรียมตัวบ้างก่อนเดินทางไป เที่ยวศรีลังกา ทั้งช่วงไหนน่าเที่ยว อาหารศรีลังกา เป็นแบบไหน กินอะไรกัน และ รายละเอียดอื่นๆ ตามหัวข้อด้านล่างนี้เลยค่ะ

- ข้อมูลน่ารู้ทั่วไปเกี่ยวกับ ประเทศศรีลังกา Sri Lanka
- คนไทยไป เที่ยวศรีลังกา ต้องขอวีซ่าไหมน้า?
- เที่ยวศรีลังกา ช่วงไหนดีที่สุด?
- ข้อควรรู้เมื่อท่องเที่ยวใน ศรีลังกา
- การเดินทางท่องเที่ยวภายใน ประเทศศรีลังกา
- เที่ยวศรีลังกา ไปไหนดี
- อาหารศรีลังกา สั่งอะไรกินดีเนี่ย
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ
นอกจากนั้น หยกยังรับ จัดทริปส่วนตัว พาเที่ยว ด้วยนะคะ โดยจัดโปรแกรมเว่อร์ชั่นใหม่ ไม่ซ้ำใคร จัดตามที่เพื่อนๆ ออร์เดอร์มาเลยค่ะ อยากไปไหน อยากเที่ยวสไตล์ไหน ทำกิจกรรมอะไร บอกมาเลย หยกจัดให้! กับโปรแกรมเที่ยวหนึ่งเดียว ตรงใจ เฉพาะคุณ
มาเตรียมตัวให้พร้อมไปเที่ยวศรีลังกา Sri Lanka ด้วยกันเลยค่ะ

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
1. ข้อมูลน่ารู้ทั่วไปเกี่ยวกับ ศรีลังกา Sri Lanka
1.1) ศรีลังกา อยู่ส่วนไหนของโลก?
ประเทศศรีลังกา มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เป็นประเทศเกาะขนาดเล็กในมหาสมุทรอินเดีย เมืองหลวงคือ กรุงโคลัมโบ (Colombo) แล้วเล็กขนาดไหนล่ะ ก็เล็กขนาดที่ว่า เล็กประมาณ 7.8 เท่าของประเทศไทยเราเลยน่ะสิคะ แต่ประเทศเล็กๆแบบนี้นั้น มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายที่ตรงข้ามกับขนาดเลยนะคะ
1.2) ศรีลังกา ใช้ภาษาอะไร
ภาษาหลักที่ใช้กันทั่วไปใน ศรีลังกา ก็คือ ภาษาสิงหล (Sinhalese) และภาษาทมิฬ (Tamil) โดยที่คนส่วนใหญ่ สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างคล่องเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแหล่งท่องเที่ยว
1.3) คนศรีลังกา เค้านับถือศาสนาอะไรกันน้า
คนศรีลังกาส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ประมาณ 70% ค่ะ และ นับถือศาสนาฮินดู, อิสลาม และ คริสต์ในจำนวนที่ใกล้เคียงกันคือประมาณ 6 – 7% ค่ะ

1.4) ศรีลังกา ใช้เงินสกุลใด? และ อัตราแลกเปลี่ยนประมาณเท่าไหร่?
สกุลเงินที่ใช้จ่ายกันในศรีลังกาคือ Sri Lanka Rupee ตัวย่อคือ RS แต่รหัสสากลที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนเงินตราคือ LKR
โดยที่มีเหรียญมากมาย ตั้งแต่ 25 cent & 50 cent ซึ่งเป็นเหรียญทองแดง, 1 RS & 5 RS เป็นเหรียญทอง และ 2 RS & 10 RS เป็นเหรียญเงิน
ส่วนแบงค์ก็มี 20 RS สีชมพูแดง, 50 RS สีฟ้า (น้ำเงิน), 100 RS สีส้ม, 500 RS สีม่วง, 1000 RS สีเขียว และ 5000 RS สีเหลืองทองน้ำตาล
อัตราแลกเปลี่ยนช่วงที่หยกไปเที่ยวคือ 100 RS = 24 B เวลาหยกใช่จ่ายเงินก็จะคิดคร่าวๆง่ายๆ ปัด 24 เป็น 25 ดังนั้น ซื้อของจำนวนเท่าไหร่ RS ก็เอา 4 หาร ก็เป็นราคาเงินบาทคร่าวๆค่ะ
1.5) ปลั๊กไฟ ไป เที่ยวศรีลังกา ต้องเตรียมปลั๊กแบบไหนไปน้า? แล้วถ้าไม่มีต้องทำยังไง?
ศรีลังกาใช้ปลั๊กชนิด D และ G ค่ะ โดยที่ปลั๊กชนิด D จะเป็นปลั๊กสามขากลม ที่ขากลมอันเดียวด้านบนนั้นมีขนาดอ้วนกว่าขากลมสองขาล่างค่ะ ส่วนปลั๊กชนิด G จะเป็นปลั๊กสามขาแบน ที่ขาบนจะแบนแนวตั้ง ส่วนขาล่างสองขาจะแบนแนวนอน
แต่หากไม่มี ก็สามารถขอยืมจากโรงแรมที่เราพักได้ค่ะ หยกลองขอยืมกับหลายๆที่พักที่เข้าพัก เค้าก็มีให้ยืมทุกที่เลยค่ะ

1.6) เวลาที่ ศรีลังกา
เวลาที่ศรีลังกาช้ากว่าที่ไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที ค่ะ อย่าลืมปรับนาฬิกาเมื่อเครื่องลงนะคะ
1.7) ซิมการ์ด
สามารถหาซื้อซิมการ์ดที่มีแพ็คเกจอินเตอร์เน็ต 3G ได้ในราคาไม่แพง หยกซื้อแพ็คเกจเดือนละ 1,300 RS (ประมาณ 325 บาท) ทั้งยังโทรกลับไทยได้แค่นาทีละประมาณ 3 บาทเท่านั้นเองค่ะ ทั้งนี้สามารถซื้อตั้งแต่ที่สนามบินได้เลย โดยมีหลายระบบ หลายโปรโมชั่นให้ได้เลือกตามความเหมาะสมของการใช้งานของแต่ละคนค่ะ
1.8) เครื่อง ATM
มีให้บริการอยู่ทั่วไปค่ะ ค่าธรรมเนียมของการกดเงินสดแต่ละครั้งประมาณ 200 RS ค่ะ อย่าลืมตรวจสอบบัตร ATM ของคุณก่อนนะคะว่าสามารถใช้ถอนเงินสดในต่างประเทศได้หรือไม่ จำกัดจำนวนการถอนในแต่ละครั้งไหม
1.9) แลกเงิน
สามารถแลกเงินได้ที่ธนาคารทุกธนาคารเลยค่ะ ซึ่งมีอยู่ทุกเมืองอยู่แล้ว เพียงแค่อย่าลืมตรวจสอบวันเวลาทำงาน และวันหยุดของธนาคารด้วยนะคะ เพราะวันหยุดบางวัน ไม่ใช่วันหยุดในประเทศไทย เช่น วันคริสต์มาส

2. คนไทยไป เที่ยว ศรีลังกา ต้องขอวีซ่าไหมน้า?
การขอวีซ่าศรีลังกานั้นไม่ยากค่ะ โดยที่หนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับจากวันที่เดินทาง มีตั๋วเครื่องบินไปกลับ และใบจองโรงแรม ซึ่งนิยมขอกันอยู่ 2 วิธี คือ
2.1) ขอวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินที่ ประเทศศรีลังกา (visa on arrival)
วิธีนี้ไม่ยากค่ะ แต่อาจจะต้องเสียเวลาดำเนินการที่สนามบินนานหน่อย คิวอาจจะเยอะ โดยที่เจ้าหน้าที่อาจจะขอให้แสดงเอกสารต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับ และใบจองโรงแรม เป็นต้นค่ะ แต่อาจจะมีเอกสารอย่างอื่นตามแต่เจ้าหน้าที่ร้องขอก็ได้นะคะ ถ้าไม่มีอาจจะถูกปฏิเสธวีซ่าได้ค่ะ ซึ่งการขอวีซ่าแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวระยะสั้นไม่เกิน 30 วันเท่านั้นนะคะ
2.2) ขอวีซ่าแบบออนไลน์ (e-visa)
เป็นวิธีการขอวีซ่าที่สะดวกสบายสุดและง่ายที่สุด ต้องการแค่ข้อมูลในหนังสือเดินทางของเรา หมายเลขเที่ยวบิน ชื่อและที่อยู่โรงแรมที่เราจะพัก นั่นก็หมายความว่าเราจะต้องมีตั๋วเครื่องบินไปกลับในมือเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็แค่กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ข้อเสียคือทุกอย่างจะเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็ชำระค่าธรรมเนียมออนไลน์ $35 สำหรับวีซ่าท่องเที่ยว 30 วัน รออีเมล์ตอบยืนยันอาจจะใช้เวลา 1 – 3 วัน ก็เสร็จแล้วค่ะ ทีนี้ก็ปริ๊นใบยืนยันใบนั้นพกติดตัวไปด้วยเพื่อแสดงต่อด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินที่ ศรีลังกา โดยสามารถคลิ๊กลิ้งค์นี้ ยื่นขอ e-visa เพื่อสมัครได้เลยนะคะ

ส่วนการขอวีซ่าที่สถานทูต ก็เป็นไปได้ค่ะ แต่ไม่เป็นที่นิยมนัก ซึ่งเหมาะกับคนที่จะไปศึกษาต่อ หรือจะอยู่ใน ประเทศศรีลังกา เป็นระยะยาว ซึ่งจะมีการเตรียมเอกสารตามประเภทของวีซ่าที่จะขอเยอะหน่อย ยุ่งยาก เสียเวลา และ ไปขอด้วยตัวเองที่สถานทูต ทั้งยังต้องรอวีซ่าอีกหลายวัน จึงไม่เหมาะหากใครรีบเร่งและต้องการวีซ่าแบบด่วนๆ
3. เที่ยว ศรีลังกา Sri Lanka ช่วงไหนดีที่สุด?
เนื่องจาก ประเทศศรีลังกา เป็นเกาะเล็กๆ บนมหาสมุทรอินเดีย ที่มีมรสุมแยกกัน 2 ครั้งต่อปี นั่นหมายถึงว่า
หากต้องการเที่ยวทะเลฝั่งตะวันออก ก็ต้องไปช่วงประมาณเมษายน/หรือพฤษภาคม ถึง กันยายน
ส่วนทะเลฝั่งตะวันตก, ทะเลฝั่งใต้ และเมืองแถบภูเขา ก็จะต้องไปช่วงประมาณธันวาคม ถึง มีนาคม ค่ะ
แต่เนื่องด้วย ประเทศศรีลังกา นั้น อยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร อุณหภูมิจึงค่อนข้างคงที่ตลอดปี ความเป็นจริงแล้วจึงสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส และ อาจมีฝนตกบ้างในบางพื้นที่

4. ข้อควรรู้เมื่อท่องเที่ยวใน ศรีลังกา
-การส่ายหน้า-
ที่จริงๆ แล้วคือการที่เค้า เอียงหัวไปทางซ้ายแล้วขวา แล้วซ้ายแล้วขวาอีก แล้วซ้ายแล้วก็ขวาอีกที แบบเร็วๆ จึงมองเห็นคล้ายๆ กับการส่ายหัว ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ได้แปลว่า ไม่ นะคะ แต่มันมีความหมายว่า ใช่ๆ หรือ ok ok ต่างหากละคะ
-เครื่องทำน้ำอุ่น-
สวิตซ์เครื่องทำน้ำอุ่นไม่ได้เป็นคัทเอ้าท์เหมือนบ้านเรานะคะ แต่จะเป็นเหมือนสวิตซ์ไฟ ที่อยู่หน้าห้องน้ำ ซึ่งจะต้องเปิดก่อนล่วงหน้า 5-15 นาทีแล้วแต่โรงแรม จึงจะมีน้ำอุ่นน้ำร้อนอาบนะคะ ซึ่งหากอาบนาน โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่จะเข้าอาบคนถัดไปต้องรอ 10-20 นาทีค่ะ จึงจะมีน้ำอุ่นให้ใช้งาน ทั้งนี้ขึ้นกับแต่ละโรงแรมในแต่ละเมืองนะคะ

-ผ้าเช็ดตัวและผ้าห่ม-
ในห้องพักของบางโรงแรมที่ราคาถูกๆ อาจไม่มีผ้าเช็ดตัวหรือผ้าห่มวางไว้ในห้องให้นะคะ แต่เราสามารถขอเค้าได้ค่ะ บางทีไปกันสองคน ก็อย่าแปลกใจหากเค้าให้มาแค่ผืนเดียว ซึ่งสามารถขออีกผืนได้เลยค่ะ หรือขอเท่าจำนวนคนไปตั้งแต่ตอนแรกเลยก็จะดีค่ะ
-การเข้าเขตพุทธสถานที่ศรีลังกา-
พุทธศาสนิกชนที่นี่มักจะนุ่งขาวค่ะ ดังนั้นหากจะเข้าเมืองตาหลิ่วแล้ว ก็ใส่เสื้อขาว หรือหากไม่มีเป็นสีอ่อนๆ มาก็ดีค่ะ เพื่อเป็นการเคารพ ทั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังคับนะคะ
นอกจากนี้ คนศรีลังกาจะถอดรองเท้าก่อนเช้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ซึ่งสิ่งนี้ต้องปฏิบัติกันทุกคนค่ะ

-การแต่งกายที่ศรีลังกา-
เนื่องจาก ศรีลังกา มีอากาศร้อนชื้นตลอดปี จึงควรเลือกเสื้อผ้าเนื้อบาง (แต่ไม่บาง) สวมใส่สบาย ไม่ร้อน ระบายอากาศได้ดี ทั้งยังควรเตรียมหมวก แว่นกันแดด ครีมกันแดด และร่ม (ใช้ทั้งกันแดดและกันฝนในบางพื้นที่)
ผู้หญิงควรแต่งกายสุภาพ สวมเสื้อมีแขน กางเกงหรือกระโปรงยาว
หากไปขึ้นภูเขาหรือที่ราบสูง ควรเลือกใส่รองเท้าผ้าใบทะมัดทะแมง และเตรียมเสื้อกันหนาว ถุงมือ ผ้าพันคอ และอุปกรณ์กันหนาวต่างๆตามแต่ความสามารถในการทนร้อนทนหนาวของแต่ละคน
หากไปเที่ยวฝั่งทะเล การใส่กางเกงขาสั้นหรือบิกินียังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไป อย่าลืมเตรียมรองเท้าแตะไปด้วยนะคะ
-การท่องเที่ยวยามค่ำคืน-
ภายในกรุงโคลัมโบ มีสถานที่บันเทิงท่องเที่ยวยามค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ คาราโอเกะ ค่อนข้างครบครัน ส่วนนอกกรุงโคลัมโบจะค่อนข้างเงียบสงบ หาแหล่งท่องเที่ยวยาก
5. การเดินทางท่องเที่ยวภายใน ศรีลังกา

การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างเมืองภายในศรีลังกา นั้น ค่อนข้างง่ายค่ะ สามารถไปไหนต่อไหนได้หมดทุกที่เลย ทุกเมือง จนแทบจะทุกหมู่บ้าน ดังนั้นอย่ากังวลไป หากจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ เพราะมีรถสาธารณะออกทุกวันและส่งถึงที่แน่นอนค่ะ ซึ่งสามารถเดินทางได้ทั้งรถบัส, รถไฟ, ตุ๊กตุ๊ก และแท๊กซี่ ซึ่งปัจจุบัน เทคโนโลยีได้ก้าวหน้ามากๆ ทำให้เราสามารถ จองตั๋วการเดินทางต่างๆ เหล่านั้นออนไลน์ ได้แล้วนะคะ จองกันได้ง่ายๆ และช่วยให้ประหยัดเวลาเที่ยวได้เยอะ จองตั๋วกันตั้งแต่อยู่ที่ไหย พอไถึง ศรีลังกา ก็เที่ยวอย่างเดียว สบายเลยค่ะ
5.1) รถบัส รถประจำทาง รถตู้

รถสาธารณะที่ใช้กันโดยทั่วไปก็คือรถบัส หมายถึงทั้งรถประจำทางและรถทัวร์ระหว่างเมือง และรถตู้ ที่มีหลายสาย ไปทุกที่ทุกเมือง ยิ่งเมืองไหนที่เป็นเมืองใหญ่หน่อย หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก ก็จะมีรถออกถี่หน่อย และออกทั้งวันเลยค่ะ
แล้วทีนี้เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะมีรถออกไปยังเมืองที่ต้องการไหม?
หยกแนะนำให้จองตั๋วรถสาธารณะล่วงหน้าค่ะ ซึ่งสามารถจองได้ทั้งรถไฟ รถทัวร์ และแท๊กซี่ค่ะ เช่น หากจะเดินทางจาก Colombo ไป Kandy ซึ่งนอกจากจะได้ตั๋วแล้ว ยังได้ที่นั่งสบายๆ ชั้น 1 หรือ ชั้น 2 อีกด้วยนะคะ ไม่ต้องยืนเบียดเสียดกันจนเมื่อยไปหมด
-หากมีเวลาก่อนวันเดินทาง-
ก็แนะนำว่าให้ไปที่สถานีรถเพื่อสอบถามตารางเดินรถ รอบรถในวันที่เราจะเดินทาง ซึ่งหากเป็นสถานีที่ใหญ่หน่อย ก็จะมีห้องสำหรับสอบถามข้อมูลตารางเวลารถออกค่ะ ส่วนสถานีเล็กๆ ก็คงต้องเดินถามไปเรื่อยๆ ให้มั่นใจว่าถามอย่างน้อย 3 คนนะคะ เพื่อที่จะได้ข้อมูลที่จริงที่สุด
-หากไม่มีเวลาไปหาข้อมูลที่สถานีรถ-
แนะนำให้ไปที่สถานีรถในช่วงเช้าสัก 7 โมงเช้า เพราะรอบรถส่วนใหญ่จะออกช่วงเช้ามากกว่าช่วงบ่ายค่ะ บางที่ก็อาจจะมีรถออกแค่ช่วงเช้าก็เป็นได้นะคะ

ข้อควรรู้
-ใจร่มๆ-
มาเที่ยวแล้วก็ใจร่มๆ ชิวๆ อย่าหงุดหงิดนะคะ เพราะถึงแม้จะมีเวลาออกที่แน่นอน แต่บาง(หลาย)ครั้ง หากรถไม่เต็ม รถก็ไม่ออกค่ะ มักจะรอให้รถเต็มก่อนจึงจะออก
-ทำใจ-
ทำใจรับประสบการณ์มันส์ๆ เลยค่ะ เพราะรถอาจจะแน่นและเต็มไปคนทั้งคนและข้าวของ แต่ๆๆ คนที่นี่อารมณ์ดีกันมาก ไม่หน้าบึ้ง ไม่หงุดหงิด ประมาณว่าการเดินทางในบ้านเมืองเค้ามันก็เป็นแบบนี้ จะอารมณ์เสียให้เสียสุขภาพจิตไปทำไม ยอมรับมันและมีความสุขไม่ดีกว่าเหรอ ขณะอยู่บนรถที่อัดแน่นอย่างกับปลากระป๋องจึงไม่รู้สึกถึงความตึงเครียดของบรรยากาศรอบข้าง (ไม่เหมือนบีทีเอสบ้านเรา ขึ้นทีไร หวุดหงิดรมณ์เสียทุกที จริงไหมคะ)
-เรื่องธรรมดา-
เนื่องจากการที่คนแน่นรถ หากเราได้นั่งที่นั่งริมทางเดิน มันก็อาจจะไม่ค่อยสบายนัก ด้วยการถูกคนที่(แทบจะไม่มีที่)ยืนโน้มตัวมาเบียด หรือดัน หรือแม้กระทั่งยิ้มให้แล้วเอาของวางบนตัก ก็อย่าแปลกใจนะคะ มันเป็นวัฒนธรรมของเค้าค่ะ บ้านเค้ารักและช่วยเหลือกันดีโดยที่ไม่ต้องถาม จึงเป็นเรื่องธรรมดาค่ะที่เค้าอาจจะเอาของให้เราช่วยถือ ถึงแม้เราจะไม่ได้ถามก็ตาม
-นั่งริมหน้าต่าง-
หากเลือกได้ เลือกนั่งริมหน้าต่างก็จะดีที่สุดค่ะ
-เตรียมกระเป๋าใบพอดีๆ-
เนื่องจากความที่รถแน่น เตรียมกระเป๋าใบที่ไม่ใหญ่มากไปนะคะ จะได้ไม่ลำบากหาที่วาง ไม่ลำบากหากอยู่กลางรถแล้วต้องเดินแบกกระเป๋าผ่านคนล้านแปดเพื่อลงรถ
5.2) รถไฟ

ที่บอกว่ารถบัส รถประจำทางน่ะช้า ใช้เวลานานกว่าจะถึง รถไฟนี่สิ ช้ากว่าเยอะเลยค่ะ แต่ๆๆ หากจะเดินทางไปในแถบภูเขา ไร่ชาแล้วล่ะก็ จะต้องนั่งรถไฟไปให้ได้ ถึงจะช้าก็ต้องยอมค่ะ เพราะวิวที่เห็นนั่นจะสวยมากๆ สวยจนฟิน จนดีใจกับความช้าของรถไฟเลยเชียว
ซึ่งต้องไม่พลาดกับการนั่งรถไฟจาก Nuwara Eliya ไป Ella เพื่อเก็บบรรยากาศความงามของขุนเขาไร่ชา ซึ่งสามารถซื้อตั๋วได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ เลือกที่นั่งสบายๆ ชั้น 1 ชั้น 2 ได้เลย
รอบรถไฟนี่ก็มีไปหลายๆ ที่เลยค่ะ เมืองไหนที่มีสถานีรถไฟก็ไปหมดเลย ส่วนเรื่องรอบรถนี่คงต้องตรวจสอบแบบเรียลไทม์กันอีกทีนะคะ
5.3) ตุ๊กตุ๊ก แท็กซี่

หากเดินทางไปยังเมืองใกล้ๆ และต้องการประหยัดเวลา การเรียกใช้บริการตุ๊กตุ๊กหรือแท๊กซี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
คำแนะนำ
- ให้สอบถามราคาคร่าวๆที่ควรจะจ่ายกับทางที่พักที่เราพัก เพื่อประเมินคร่าวๆได้ว่าควรจะจ่ายเท่าไหร่ดี
- ต้องทำการตกลงราคากันให้ดีกับคนขับก่อนขึ้นรถ
- พยายามให้เงินพอดี อาจมีมุขตลกบอก ไม่มีเงินทอนเกิดขึ้นได้นะคะ
5.4) สามล้อ
การเดินทางในเมืองไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หากเหนื่อย ไม่อยากเดิน หรือไปกับตุ๊กตุ๊กแล้ว ก็อย่าลืมใช้บริการสามล้อถีบนะคะ เอาบรรยากาศค่ะ สบายๆ ช้าๆ เพลินๆ อย่าน้อยก็มีประสบการณ์นั่งสามล้อถีบในศรีลังกา
6. เที่ยวศรีลังกา ไปไหนดี
สถานที่ท่องเที่ยวใน ประเทศศรีลังกา เกาะเล็กๆ น่ารักๆ เกาะนี้มีเยอะมากๆ ค่ะ แค่เมืองมรดกโลกปาไปแล้ว 8 แห่งแน่ะค่ะ ทะเลก็เพียบ ภูเขา ไร่ชา ไหนจะเมืองโบราณ โบราณสถานหรือโบราณวัตถุ ทั้งแหล่งประวัติศาสตร์ พุทธศาสนาอีกนานา ป่ะค่ะ ไปดูกันดีกว่าว่ามา ศรีลังกา แล้วไปเที่ยวไหนดี โดยสามารถ คลิ๊กลิ้งค์ตัวหนังสือสีส้มๆ ตรงหัวข้อย่อย ไปยังบทความเฉพาะของแต่ละที่เที่ยวเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมนะคะ
6.1) Jaffna (จาฟฟ์น่า)

ดินแดนแห่งความงาม สวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่พึ่งเปิดออกสู่สายตาชาวโลกให้เข้าไปสำรวจ จาฟฟ์น่าจึงยังคงความบริสุทธิ์ของความเป็นธรรมชาติ และอินโนเซนต์สุดๆ ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวจาฟฟ์น่ายังคงน้อยมากๆ จึงคู่ควรที่จะแวะไปเยี่ยมเยียนก่อนที่จะฮอตฮิตติดโพลจนแน่นไปด้วยการพัฒนาต่างๆ ที่จะลดความบริสุทธิ์และความเป็นธรรมชาติลง
สามารถเดินทางจาก โคลัมโบ ไป จาฟฟ์น่า ได้ด้วยรถทัวร์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง) และ รถไฟ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง) คลิ๊กลิ้งค์ตรวจสอบเวลารถออกและราคาได้เลยนะคะ
6.2) Anuradhapura (อนุราธปุระ)


1 ในเมืองมรดกโลกค่ะ เมืองหลวงเก่า เมืองประวัติศาสตร์โบราณและพุทธศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่นิยมของการมาสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทั้งยังมีเขตเมืองเก่าให้ได้เข้าไปสำรวจความน่ามหัศจรรย์ของเรื่องราวในอดีตที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถอยู่ชมได้วันเต็มๆ ก็ยังไม่หมดเลยค่ะ
สามารถเดินทาง ด้วย รถไฟ หรือ รถทัวร์ จาก โคลัมโบ ไป อนุราธปุระ ได้ มีหลายรอบต่อวันให้ได้เลือกตามความสะดวกเลยค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง ขึ้นกับประเภทรถที่เลือก ตรวจสอบเวลารถออกและราคาได้ที่ลิ้งค์นี้เลยนะคะ
6.3) Polonnaruwa (โปโลนนรุวะ)

อีกมรดกโลกที่ป๊อปสุดๆ จนอันแน่นไปด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ตัวหยกเองไปมาสองรอบ ห่างกัน 4 ปี รอบที่สองนี้ไม่ประทับใจมากๆ ค่ะ ทั้งราคาตั๋วที่แพงขึ้นมาก ทั้งการจัดการของการเป๋ยแหล่งท่องเที่ยวไม่เอื้อความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอย่างที่ควรจะเป็น เช่น ไม่ขายตั๋วบริเวณทางเข้า ต้องไปซื้อที่ออฟฟิศที่อยูไกลไปหน่อยประมาณ 800 เมตร ถึงจะสามารถเดินไปถึงได้ แต่ก็เสียเวลามากอยู่ ทั้งไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ขายตั๋วตรงบริเวณทางเข้าไปเลย นักท่องเที่ยวหลายคน รวมทั้งหยกที่ต้องเดินกลับออกไปซื้อตั๋ว แล้วเดินกลับเข้ามาใหม่ (ทำไมที่อื่นเราสามารถซื้อตั๋วตรงทางเข้าได้เลย แล้วทำไมที่นี่ไม่ทำแบบนั้นบ้าง ปัจจุบีนนี้ไม่รู้เป็นแบบไหนแล้วนะคะ) ทั้งความอิสระในการเดินเที่ยวของเราน้อยลง ทั้งนักท่องเที่ยวที่แน่นจนแทบไม่มีความอิสระในความเพลิดเพลินของการท่องเที่ยวแล้ว แต่ทั้งนี้ ครั้งที่สองที่หยกไปนั้น อาจบังเอิญคนเยอะเป็นพิเศษก็เป็นได้
หากใครไปมาแล้ว พบเจอสิ่งไหนเปลี่ยนแปลงไป อัพเดทมาได้นะคะ
6.4) Dambulla Cave Temple (วัดถ้ำดัมบุลลา)

วัดถ้ำดัมบุลลา ซึ่งมีอีกชื่อเรียกคือ The Golden Temple of Dambulla ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกเช่นกันค่ะ จึงเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแห่งการไปสักการะ นอกจากจะได้ชมความอลังการและสถาปัตยกรรมที่สวยงามของวัดถ้ำแห่งนี้แล้ว ยังได้สักการะพระพุทธรูปสีทองขนาดใหญ่ ได้ชื่นชมภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังต่างๆ และวิวแห่งความงดงามเบื้องล่างด้วยที่ตัววัดนั้นตั้งอยู่บนเขา
6.5) Sigiriya (สิกิริยา)

พระราชวังลอยฟ้าสิกิริยะ ซึ่งถูกเรียกกันว่า อนุสรณ์สถานคนบาป ด้วยความงดงามกับเรื่องเล่าอันน่าเศร้าในอดีต ที่ก่อเกิดกลายเป็นปราสาทหินโบราณที่มีความโดดเด่นอลังการ จนได้รับยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก อีกที่ๆห้ามพลาด แนะนำให้ไปเช้าๆ หน่อย ตั้งแต่เปิดเลย คนจะได้ไม่เยอะมาก และมีเวลาชมความงดได้เต็มๆ
สามารถเดินทางด้วย รถไฟ จาก โคลัมโบ ค่ะ
6.6) Adam’s Peak (ยอดเขาแห่งอดัม)



Adam’s Peak นั้นมีหลายชื่อมากค่ะ อีกชื่อที่เป็นที่คนท้องถิ่นรู้จักกันดีคือ Sri Pada (ศรีปาทะ) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่นับถือบูชาของคนหลายศาสนา ที่นิยมเดินทางเพื่อแสวงบุญ เพื่อขึ้นไปสักการะ “ศรีบาทา” รอยพระพุทธบาทที่อยู่ด้านบนสุดที่สูงกว่า 2,243 เมตร นอกจากจะอิ่มบุญแล้ว ยังอิ่มกับวิวพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก และวิวภูเขารอบด้านอีกด้วย
6.7) Kandy (แคนดี้)


แคนดี้ เมืองลูกอม อีกเมืองมรดกโลกนี้ เป็นอีกแหล่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อนกัน ถึงแม้จะมีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน แต่ไม่วุ่นวาย ด้วยความที่เป็นเมืองภูเขา มีทะเลสาบกลางเมือง บรรยากาศจึงดี สวยงาม ในยามเช้าที่อากาศเย็นๆ ก็จะมีหมอกล้อมรอบภูเขาเหนือทะเลสาบให้ได้เห็น สวยฟินมากๆ เลยค่ะ ที่สำคัญคือเป็นที่ๆ มีสมบัติอันล้ำค่าของชาวพุทธศรีลังกา ในวัดพระเขี้ยวแก้ว ที่ต้องไม่พลาดไปเยือนหากมาที่แคนดี้
หากใครเดินทางจาก Colombo ไป Kandy สามารถจองตั๋วรถสาธารณะได้ที่นี่ค่ะ เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าได้มีที่นั่งสบายๆ ได้ที่นั่งบนรถทัวร์ หรือเลือกนั่งรถไฟ ชั้น 1 หรือ ชั้น 2 โดยที่ไม่ต้องยืนเบียดเสียดกันจนเมื่อยนะคะ
6.8) Nuwara Eliya (นูวาระ อิลิยา)
เมืองไร่ชาที่มีอุณหภูมิเย็นสบายตลอดปี จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการปลูกชา “ชาซีลอน” ที่มีชื่อเสียงของ ประเทศศรีลังกา ซึ่งไร่ชาบนเขาแห่งนี้เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวโดยการ นั่งรถไฟ จากโคลัมโบ (ต้องซื้อก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 30 วันขึ้นไปนะคะ) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 – 7 ชั่วโมงค่ะ ด้วยวิวความงามบนเขา ไร่ชาสีเขียวอ่อนนวลตาอันกว้างไกล ที่ได้เห็นระหว่างทางนั้นสวยงามจนลืมความเมื่อยล้าจากการนั่งรถไฟเป็นระยะเวลายาวนาน แต่กลับอยากชะลอเวลาบนรถไฟให้นานยิ่งขึ้นเพื่อดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่เห็นนานขึ้นอีกสักหน่อย
ใครมา เที่ยวศรีลังกา ก็ต้องไม่พลาดการนั่งรถไฟเที่ยวตามเมืองขุนเขา เมืองไร่ชา ลองนั่งรถไฟจาก Nuwara Eliya ไป Ella สิคะ จะเห็นวิวสวยงามสุดๆ นั่งสบายๆ รถไฟชั้น 1 หรือ ชั้น 2 และบรรยากาศการนั่งเพลินมากๆ แต่การไปซื้อตั๋วรถไฟเอาที่นู้น บางทีก็เสี่ยงไม่มีที่นั่ง ต้องได้ยืนเบียดๆ กัน หยกแนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าผ่านลิ้งค์ด้านบนนะคะ ซึ่งตั๋วรถไฟนั้นจำเป็นต้องจองล่วงหน้าก่อน 37 วัน ก่อนวันเดินทางเท่านั้นค่ะ ซึ่งเว็บนี้ยังสามารถจองตั๋วรถสามธารณะอื่นๆ เดินทางทั่ว ศรีลังกา เลย แพลนดีๆ เตรียมตัวล่วงหน้า จะได้เที่ยวอย่างสบายใจค่ะ
6.9) Haputale (ฮาปูตาเล)


อีกเมืองไร่ชาที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก จนได้รับการยกย่องจาก CNN ในปี 2010 ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเอเชียที่ถูกหลงลืม ได้ยินเช่นนี้แล้ว ก็รู้ได้เลยว่า ควรจะต้องไปเยือนจริงไหมคะ เพราะนอกจากที่นี่จะมีไร่ชา Lipton’s Seat ที่กว้างใหญ่ อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวน้อย ได้เห็นไร่ชาเต็มๆ และสวยมากๆแล้ว ยังมีอุทยานแห่งชาติ Horton Plains ที่เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกและมีภูเขาที่สูงเป็นอันดับสองของ ประเทศศรีลังกา ด้วย ซึ่งในอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ยังมีเอกลักษณ์ของลักษณะป่าที่เรียกว่า Cloud Forest หรือป่าเมฆ ที่ลึกลับ สวยงาม และน่าค้นหาสุดๆ เลยค่ะ
การเดินทางสามารถทำได้ด้วย การนั่ง รถไฟ จาก โคลัมโบ ไป ฮาปูตาเล ค่ะ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมงค่ะ สามารถตรวจสอบเวลารถออกและซื้อตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ค่ะ ราคาเริ่มต้นที่ 500 บาท ขึ้นกับประเภทของรถไฟนะคะ
6.10) Ella (เอลล่า)


เมืองไร่ชาที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองหลวงโคลัมโบมากนัก สามารถเดินทางด้วย รถไฟ โคลัมโบ – เอลล่า ได้สบาย แค่ 9 ชั่วโมงเองค่ะ 555+ เอลล่า เป็นเมืองเล็กๆ ที่เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งยังมีการพัฒนาที่มากขึ้นแบบสุดๆ ทั้งร้านอาหารหรูๆ ร้านคาเฟ่ ที่พักใหม่ๆ ที่หากใครกำลังมองหาธรรมชาติกับความเงียบสงบ ก็แนะนำให้ข้ามเมืองนี้ไปเลยค่ะ แต่หากใครต้องการความครึกครื้น ความแพง (ก็ของที่นี่กลายเป็นราคานักท่องเที่ยวไปเลยนี่นา) ความสะดวกสบาย และความบันเทิง ก็คงจะฟินกับเมืองเล็กๆ แห่งนี้แน่ค่ะ
โดยกิจกรรมที่ให้ทำที่นี่นอกจากเดินชมไร่ชา และวิถีการเก็บชาแล้ว ยังมีอีกกิจกรรมที่เป็นที่นิยมนั่นก็คือ ไฮกิ้ง ค่ะ โดยสามารถไฮไปที่ Ella Rock และ Little Adam’s Peak ให้ได้ชมวิวงามๆ ทั้งทางเดินก็ไม่ยากค่ะ เดินไปเองได้ โดยเดินผ่านไร่ชาด้วยนะคะ ทั้งยังมีน้ำตก Ravana น้ำตกขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดี ที่สูงถึง 25 เมตรแหน่ะค่ะ สวยงามมากๆ เห็นจากไกลๆ เลยทีเดียว
6.11) Galle (กอลล์)

Galle ห่างจาก Colombo นิดเดียวเองค่ะ โดยนั่งรถบัส หรือ รถไฟ (โคลัมโบ – กอลล์) ไปได้แค่ 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง เพราะตอนนี้มีถนนไฮเวย์ยาวจาก Galle ไป Colombo เลยค่ะ โดยที่ Galle เป็นเมืองเก่าที่มีความน่ารักและโรแมนติก ทั้งยังมีประวัติศาสตร์อันน่าสนใจที่โชกโชน จึงได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกด้วยเช่นกัน กอลล์มีเสน่ห์การผสมผสานของสถาปัตยกรรม ร้านค้าสไตล์บูทิค ร้านกาแฟเก๋ๆ ตกแต่งน่านั่ง บรรยากาศดีๆ ร้านขายของที่ระลึกหลากหลาย ทั้งร้านอาหารนานาชาติมากมาย จึงมีความบันเทิง ความรื่นเริง และความสะดวกสบายเอื้อต่อนักท่องเที่ยวสุดๆ สิ่งที่ฮอตฮิตอีกอย่างก็คือการเดินเล่นในย่าน Galle Fort และรอชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลยามเย็น
6.12) Unawatuna (อูนาวาทูนา)

ทะเลที่มีน้ำใส หาดทรายสวยงาม กว้าง ที่มีทรายขาวละเอียด ที่ใกล้ๆ Galle โดยที่ Unawatuna เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เที่ยวถูก เพราะที่นี่ทุกอย่างถูกกว่าใน Galle มากๆ เลยค่ะ ทั้งอาหารการกิน ทั้งค่าที่พัก แต่ห่างกันนิดเดียว ประมาณ 15 – 20 นาทีโดยรถเมล์เท่านั้นเอง ข้อดีของการพักที่นี่ นอกจากจะถูกและช่วยประหยัดงบไปได้เยอะแล้ว หาดทรายยังสวย มีร้านอาหารบนชายหาดให้ได้ชิว ได้เพลิน และเดินทางไปเที่ยว Galle แบบไปกลับได้ง่ายๆ ที่สำคัญคือที่นี่เล่นน้ำได้ด้วยนะคะ
6.13) Mirissa (มิริสสา)


Mirissa ทะเลทางใต้ของ ศรีลังกา ที่ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก โดยนั่งรถประมาณ 3 – 4 ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ ทั้งยังอยู่ใกล้ Galle นั่งรถแค่ 1 – 1.5 ชั่งโมงเองค่ะ ที่นี่เป็นอีกทะเลที่มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงาม ทั้งยังมีหลายหาดให้ได้เลือกพัก และเป็นที่นิยมในการมาชมปลาวาฬ และมีกิจกรรมทางท้องทะเลมากมายให้ได้เลือกเล่นเพลินๆ โดยที่นี่ยังมีอาหารที่หลากหลายเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวนานาประเทศอีกด้วย
6.14) Tangalle (แทนกาลเล)

อีกทะเลทางใต้ที่เน้นไปในทางที่เงียบสงบ เน้นการพักผ่อน ผ่อนคลาย อาจจะไม่สวย น้ำไม่ใส ทรายไม่ขาวเท่า Mirissa แต่ก็ละเอียดและสวยแบบธรรมชาติๆ ทั้งชายหาดยังยาวมากๆอีกด้วย โดยที่นี่มีการพัฒนาที่ยังน้อยอยู่ ราคาของ ค่ากิน ค่าอยู่จึงไม่แพงมาก ทั้งยังมีตัวเมืองขนาดค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ให้ได้เดินเล่น ชมเมือง ชมตลาด และร้านค้าที่มากมาย เลยเพลินและสบายมากๆค่ะ
6.15) Hambantota (ฮัมบันโตต้า)

Hambantota ทะเลทางใต้ที่ห่างจาก Tangalle แค่ประมาณ 1 – 1.5 ชั่งโมงทางรถเองค่ะ ซึ่งทะเลที่นี่ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวนัก แต่จะบอกว่านี่คือเพชรในตมชัดๆเลยค่ะ เพราะน้ำทะเลที่สวยมากๆ สีฟ้าเขียวและใสสุดๆ หาดทรายที่กว้าง ทรายละเอียด ทั้งเงียบสงบ ธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์อยู่มากๆ ยังไม่มีการพัฒนาใดๆเข้ามาย่างกลาย ซึ่งที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวน้อย น้อยแบบที่ว่าสามารถนับจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวันได้เลยค่ะ โดยนอกจากทะเลจะสวยงามมากๆ และธรรมชาติสุดๆแล้ว ยังมีเมืองเล็กๆให้ได้เดินเล่น มีท่าเรือให้ได้เข้าไปชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ และมีอาหารทะเลสดๆขายกันตรงนั้นเลยด้วยค่ะ
6.16) Uppuveli (อัปปูเวลี)

หากพูดถึง Trincomalee (ทรินโคมาลี) หลายๆคนคงจะรู้จักกันดี ทะเลสวยงามที่อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังมีหมู่บ้านติดทะเลเล็กๆ ที่อบอุ่น ที่ห่างจาก Trincolmalee แค่ 6 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ที่ทะเลสวยมากๆ เงียบสงบ และนักท่องเที่ยวยังน้อยอยู่ ทั้งยังสามารถหาที่พักวิวทะเลบนชายหาดยาวทรายสีขาวละเอียดในราคาที่ถูกสุดๆ กับการทานอาหารทะเลสดๆ โอ๊ยยย พูดแล้วก็นึกถึงค่ะ อยากจะไปอีกเลย
สามารถ นั่งรถทัวร์ หรือ รถไฟ จาก โคลัมโบ มาลงที่เมือง Trincomalee ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 – 8 ชั่วโมงค่ะ ขึ้นกับประเภทรถ ราคาเริ่มต้นที่ 300 กว่าๆ บาทนะคะ ซึ่ง Trincomalee เป็นเมืองใหญ่ที่มีรถทัวร์หลายสายผ่านอยู่แล้ว จากนั้นต่อตุ๊กตุ๊ก (ซึ่งที่ศรีลังกาก็เรียกว่า Tuk Tuk เหมือนบ้านเราค่ะ) หรือ รถเมล์ประจำทาง มาที่ Uppuveli ค่ะ
6.17) Yala National Park (อุทยานแห่งชาติยาลา)



Yala National Park เป็นศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ เป็นที่นิยมของการมาชมการมีชีวิตตามธรรมชาติของสัตว์ป่าแบบเต็มๆวัน ไม่ว่าจะเป็น เสือดาว ช้าง นกนานาชนิด หน้าตาแปลกๆ สวยงามๆทั้งนั้น และสัตว์ป่าอีกมากมาย มีทั้งป่า ทั้งน้ำจืด และทะเล กว้างใหญ่มากเลยค่ะ โดยที่การมาที่นี่จะต้องติดต่อรถจี๊ปในการเข้าชมนะคะ และหากมากันเป็นกลุ่มก็จะสนุกมากขึ้น ทั้งยังได้แชร์ค่ารถ ค่าเข้าอีกด้วยค่ะ ซึ่งที่นี่จะไม่อนุญาตให้เดินชมเองหรือลงจากรถนะคะ แต่จะมีบางบริเวณที่สามารถลงไปเดินเล่นได้ค่ะ ซึ่งคนขับรถจะบอกเราค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
7. อาหารศรีลังกา สั่งอะไรกินดีเนี่ย

อาหารศรีลังกา จะเป็นประเภทแกงเคอรี่ต่างๆ ทั้งแบบมังสวิรัติ พวกถั่ว ผักใบเขียว มันฝรั่ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มะพร้าว สัปปะรด มะม่วง ขนุน มะระขี้นก กระเจี๊ยบเขียว และผักผลไม้อีกหลายชนิดที่คาดไม่ถึงว่าสามารถนำมาทำเป็นของคาวได้ และเนื้อสัตว์ ทั้งไก่ เนื้อวัว เนื้อแกะ ปลา และซีฟู้ดต่างๆ โดยที่อาหารที่เป็นกับข้าวเหล่านี้จะทานคู่กับข้าวหรือแป้งประเภทต่างๆ ทั้งโรตี จาปาตี (คลิ๊กอ่านที่ลิ้งค์ได้เลยนะคะว่าคืออะไร ต่างกันอย่างไร) ฮอปเปอร์ (มีลักษณะเหมือนถ้วย หรือขนมครกขนาดใหญ่)หรือ สตริงฮอปเปอร์ (เป็นเส้นเล็กๆคล้ายเส้นหมี่) เป็นต้น
ถึงแม้ อาหารศรีลังกา จะคล้ายคลึงกับอาหารอินเดีย จะต่างกันที่อาหารศรีลังกาจะใส่กะทิ และต่างกันในส่วนของเครื่องเทศค่ะ โดยจะใส่หอมแดง พริกเขียว พริกไทยดำ ซินนามอน (ซึ่งเป็นชนิดพิเศษที่มีในศรีลังกาเท่านั้น) กระวาน กานพลู ลูกจันทน์เทศ และหญ้าฝรั่น ซึ่งนอกจากจะทำให้อาหารได้รสชาติดีแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วยนะคะ
การทานอาหารของชาวศรีลังกานั้นจะใช้มือขวาในการทานอาหาร โดยที่ร้านอาหารทุกร้าน ไม่ว่าจะท้องถิ่นพื้นเมืองมากแค่ไหน จะมีอ่างล้างมือและสบู่ไว้บริการให้ลูกค้าล้างมือก่อนและหลังทานอาหารค่ะ
แนะนำอาหารที่ต้องลอง
-อาหารศรีลังกา ประเภทข้าวแกงที่ทานเป็นชุด-



ก็แน่นอนว่าต้องลอง อาหารศรีลังกา ประเภทข้าวแกงที่ทานเป็นชุด ซึ่งสามารถเติมได้ไม่อั้นนะคะ โดยจะมีข้าวเสิร์ฟคู่กับกับข้าวประมาณ 3 – 5 อย่าง ซึ่งหลักๆที่เห็นจะเป็น แกงถั่ว (dal), coconut sambol (หรือ pol sambola) ขอเรียกยำมะพร้าวแล้วกันค่ะ รสชาติคล้ายๆ ยำบ้านเรา ใส่เครื่องเทศน้อยมาก กลิ่นไม่ฉุน น่าจะถูกปากคนไทย และจะมีแกงประเภทอื่นๆ อีกค่ะ หากเป็นไปได้ถ้าเจอแกงมะม่วง แกงขนุน หรือ แกงมะม่วงหิมพานต์ นี่ต้องลองเลยนะคะ ของหายากที่อร่อย ผสมกับกะทิได้ลงตัวสุดๆ รับรองจะติดใจค่ะ และยังจะมีข้าวเกรียบกรอบๆ รสเค็มๆ นิดๆ เอาไว้ทานคู่กันจัดรสพวกแกงกะทิทั้งหลายค่ะ

-Kottu Roti-

Kottu roti (ค๊อตตู โรตี) นี่ของโปรดหยกเลยค่ะ ขอเรียกว่าโรตีผัดแล้วกัน ลองเปลี่ยนจากการสั่งข้าวผัดมาทานโรตีผัดดูนะคะ โรตีนุ่มๆ อร่อย รสกลมกล่อม ไม่ฉุนเครื่องเทศด้วย ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเอาโรตีผัดใส่เนื้อสัตว์ประเภทไหน ไก่ เนื้อ หรือปลา ทั้งนี้หากสั่งว่าเผ็ดๆ ซึ่งก็ไม่ได้เผ็ดมากเหมือนความเผ็ดของไทยเรา รสมันจะเข้มขึ้น และอร่อยขึ้นนะคะ ยังไงก็ลองดู แล้วคอมเม้นต์บอกหยกด้วยน้า
-Pancake-
นี่ไม่ใช่แพนเค้กที่เรารู้จักนะคะ มันเป็นคล้ายๆ โรตีสายไหม แต่แป้งจะหนานุ่มนิ่มกว่า ข้างในเป็นไส้มะพร้าว เหมือนไส้ในขนมต้มบ้านเราค่ะ แต่หอมมันกว่า ไม่หวานมากค่ะ หยกชอบๆ แหละ อร่อยฟินมากๆ ค่ะ

-Samosa-
Samosa (ซาโมซา) นี่คงเป็นที่รู้จักของหลายๆคน ของทอดทรงสามเหลี่ยมที่ด้านในมีไส้หลากหลาย ทั้งมันฝรั่ง ถั่ว หรือ เคอรี่ไก่ ที่รสเข้ม กินตอนร้อนๆนี่จะอร่อยมากๆค่ะ ตัวแป้งทั้งกรอบนอก นุ่มใน ไม่หนาไม่บางเกินไป ไม่อมน้ำมันอีกด้วยค่ะ หยกชอบซื้อไปทานระหว่างเดินทางบนรถบัสหรือรถไฟ เติมพลังงานได้ดีเลยค่ะ
-Chutney-
Chutney (ชัทนีย์) ก็เปรียบเสมือนน้ำจิ้มค่ะ โดยทำมาจากผักผลไม้หลากหลายชนิด เช่น มะม่วง กล้วย แอปเปิ้ล หัวไชเท้า มะนาว เป็นต้น ที่รสชาติอมเปรี้ยวหวานและเผ็ดนิดๆ ทานคู่กับข้าวนี่มันช่วยตัดความเลี่ยนของอาหารพวกแกงต่างๆได้ดีเลยค่ะ ทั้งชัทนีย์ในแต่ละที่ก็ทำจากผักหรือผลไม้ที่ต่างชนิดกัน ทั้งรสชาติและสูตรการทำก็ต่างกัน แนะนำว่าหากทานที่ร้านนี้แล้วไม่ชอบ ก็ควรจะลองทานในร้านใหม่ดูนะคะ เพราะรสชาติแต่ละที่นั้นต่างกันค่ะ หยกชอบอีกแล้วค่ะ ขาดไม่ได้เลยในแต่ละมื้อ
-ชานม-
ศรีลังกาคือเมืองแห่งชาชีลอน ใครที่มาเที่ยวศรีลังกาก็ต้องลิ้มลองชา ก็แน่นอนค่ะว่าชาที่นี่ต้องรสดีแน่นอน หยกชอบชานมค่ะ เค้าจะต้มชากับนมไว้เลย ชานมที่นี่เลยรสเข้มหอมชามากๆ เข้มนิดๆ ผสฝเครื่องเทศนิดหน่อยให้หอมพอเป็นพิธี บางทีอาจผสมน้ำ แต่ส่วนมากจะไม่ผสมค่ะ เลยฟินสุดๆ
-Curd-

มันก็คือโยเกิร์ตที่มักจะทำจากนมควายหรือที่เรียกว่า buffalo curd นะคะ ไม่ได้มีขายทุกเมืองค่ะ โดยหาได้ที่ Ella, Mirissa, ทะเลทางใต้หลายแห่ง และตามร้านอาหารบางร้าน ทานคู่กับน้ำผึ้งและผลไม้นี่อร่อยมากๆ หากหยกเห็น curd เมื่อไหร่นะคะ กระโจนใส่ตลอดๆเลย หลายครั้งถึงกับซื้อแบบที่ขายส่งในหม้อดินใหญ่ๆ แล้วไปหาซื้อผลไม้หรือน้ำผึ้งมาทานคู่กันเองเลยทีเดียวค่ะ
-Watalappan-
Watalappan (วัททะละพัน) ของหวานศรีลังกาของโปรดหยกอีกแล้วค่ะ หากใครชอบหม้อแกง หรือ ข้าวเหนียวสังขยาแล้ว จะต้องชอบของหวานอันนี้แน่นอนค่ะ โดยที่ Watalappan คือคัสตาร์ดไข่ของชาวศรีลังกา โดยผสมกระวาน (cardamom) ที่เนื้อเนียนนุ่ม ละมุนลิ้นสุดๆ ยิ่งทานเย็นๆยิ่งสดชื่นค่ะ อร่อยมาก จนหยกต้องทานแทบจะทุกหลังอาหารเย็นเลย
-Pancake-
แพนเค้กที่นี่ไม่ได้มีหน้าตาและรสชาติเหมือนแพนเค้กที่เรารู้จักกันนะคะ เพราะแพนเค้กที่นี่จะมีลักษณะเป็นม้วนๆ คล้ายๆ ม้วนของขนมโตเกียวค่ะ โดยที่จะเป็นแป้งนุ่มนิ่ม ตัวแป้งมักจะเป็นสีเขียวหรือขาว สอดไส้ด้วยมะพร้าว หอมและอร่อยมากๆ เลยค่ะ ใครที่ชอบขนมสอดไส้หรือขนมต้มน่ะ จะต้องหลงรักแพนเค้กไส้มะพร้าวของศรีลังกาเหมือนหยกแน่ค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ ประเทศศรีลังกา เกาะเล็กๆ แต่มีอะไรให้ทำให้เที่ยวมากมายและหลากหลายมากเลยจริงไหมคะ ทีนี้คงเข้าใจแล้วใช่ไหมคะว่าทำไมหยกถึงไป เที่ยวศรีลังกา ถึง 3 รอบ และยังคงอยากกลับไปเยือนอีก หยกเชื่อว่าเพื่อนๆ จะต้องชอบและหลงรักศรีลังกาเหมือนหยกแน่นอนเลยค่ะ คือหากได้ไปมาแล้วต้องอยากไปอีกชัวร์ๆ เลยค่ะ มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับศรีลังกา คอมเม้นต์ แชร์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนะนำติชม หรือ ซักถามเข้ามาได้เลยนะคะ
1. อาหารศรีลังกาใส่เครื่องเทศอย่างเดียวกับอินเดียไหม
2. รสชาติและกลิ่นของอาหารศรีลังกาคล้ายกับอินเดียไหม
3. สามารถนำอาหารแห้ง เช่น มาม่า น้ำพริก ของบ้านเรา เข้าศรีลังกาได้ไหม
ขอบคุณล่วงหน้าที่ตอบคำถามนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณเบญจมาศ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
1.อาหารศรีลังกาและอาหารอินเดียใช้เครื่องเทศอย่างเดียวกันค่ะ แต่จะเน้นการใส่ปริมาณเครื่องเทศที่มากน้อยต่างกัน ด้วยเทคนิคการทำอาหารที่แตกต่างกัน
2.จากข้อ 1 จึงทำให้รสชาติและกลิ่นของอาหารทั้งสองประเภทแตกต่างกัน ประกอบกับ ประเภทเนื้อสัตว์ที่นิยมใช้ทำอาหารก็ต่างกัน อาหารศรีลังกานิยมใช้ซีฟู้ด ส่วนอาหารอินเดียนิยมใช้เนื้อแกะ เนื้อแพะ และ เนื้อไก่
3.เท่าที่ทราบ เราสามารถนำอาหารแห้ง ไม่มีกลิ่น ที่อยู่ในแพ็คเกจที่ปิดมิดชิด เข้าประเทศศรีลังกาได้ค่ะทั้งนี้ แนะนำให้ตรวจสอบกับทางสายการบินที่เดินทางด้วยอีกครั้งนะคะ
เดินทางปลอดภัย และ เที่ยวให้สนุกนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับข้อมูลศรีลังกา
โปรตุเกสก็น่าสนใจค่ะ จัดทริปเมื่อไหร่บอกด้วยนะคะ
รบกวนสอบถามค่ะ ถ้าจะขึ้นบัสจาก เมือง negombo ไปลง ดัมบุลล่า ต้องขึ้นที่ไหนคะ พยายามหาข้อมูลแล้ว คือ น้อยมากเลยค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณสุภัคณา
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ค่ะ และ ต้องขออภัยที่ตอบล้าช้านะคะ ตอนนี้หยกอยู่ระหว่่างการท่องเที่ยวเดินทางเพื่อสำรวจทริปและเส้นทางที่ประเทศโปรตุเกสค่ะ
หยกไปเที่ยวศรีลังกามานานมากๆ แล้วค่ะ กาลเวลาเปลี่ยนไป ข้อมูลต่างๆ เปลี่ยนไป ทั้งนี้หยกไม่สามารถให้คำตอบเป๊ะๆ ได้่นะคะ แต่หยกสามารถให้คำแนะนำได้ค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่หยกทำประจำตอนท่องเที่ยวในศรีลังกา (นี่คือหนึ่งในเสน่ห์ และ ความสนุก ในการท่องเที่ยวในศรีลังกานะคะ) นั่นก็คือ
– สอบถามข้อมูลเรื่องการขึ้นรถจากที่พักที่หยกพัก ประกอบกับ สอบถามรถบัสทุกคันที่ผ่านหน้าว่าไปเมืองที่หยกต้องการจะเดินทางไปไหม ถ้าใช่ ก็ขึ้นเลยค่ะ แต่ถ้าไม่ใช่ ส่วนใหญ่แล้ว คนรถมักจะช่วยและบอกว่ารอคันไหน กี่โมง
– บางเส้นทางอาจมีขายตั๋วล่วงหน้าออนไลน์
– ไปก่อนเวลาอย่างน่้อย 1 ชั่วโมง หากทราบเวลาเดินทาง
– ข้อควรทราบ คือ รถอาจไม่ได้ออกตรงเวลานะคะ อาจออกเร็วกว่าเวลา ถ้าคนเต็ม หรือ ออกช้ากว่าเวลาที่ควรจะออกได้ค่ะ
เที่ยวให้สนุกและเดินทางปลอดภัยค่ะ
พอดีเพื่อนคนที่นั่นเค้าชวนไปเแต่เค้าเป็นผู้ชายและชวนไปพักบ้านเค้าที่แคนดี้แต่เราไม่สะดวกเลยจะให้จองรร.ส่วนการขอวีซ่านี่ไปสถานทูติน่าจะดีมั้ยคะและน่าจะแลกเงินไปเท่าไหร่ดีคะไป5วันค่าตั๋วที่พักเค้าจ่ายให้ค่ะขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณจีราภรณ์
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 เอางี้ค่ะ มาเที่ยวกับหยกดีที่สุด หยกจัด ทัวร์ศรีลังกา ช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ค่ะ อิอิ
เรื่องวีซ่าสบายใจหายห่วงเลยค่ะ ตอนนี้ทางศรีลังกาให้คนไทยเข้าไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่านะคะ จนถึงเดือนมกราคม 2563 เลยค่ะ ส่วนจะแลกเงินไปเท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นกับสไตล์การท่องเที่ยวค่ะ จะเข้าร้านอาหารหรูหราหรือร้านอาหารพื้นเมือง จะช้อปเยอะหรือน้อย จะเดินทางไปไหนมาไหน เที่ยวที่ไหน ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ เดินทางข้ามเมืองไหม ทั้งนี้ศรีลังกามีค่าครองชีพที่ไม่สูงค่ะ ไม่น่าจะใช้งบมาก ทั้งนี้แนะนำให้แลกเป็นเงิน ดอลล่าสหรัฐ หรือ ยูโร จากไทยไป แล้วค่อยแลกเป็นเงินศรีลังกาที่นู้นค่ะ เพราะน่าจะหาแลกเงินศรีลังกาที่ไทยไปยาก
เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให้สนุกนะคะ 🙂
ไว้จะลองไปบ้าง ไม่ทราบว่าถ้าไปซื้อตั๋วรถไฟที่ชานชาลาเลยจะมีที่นั่งไหมครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะครับ
สวัสดีค่ะ คุณ tong
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์และดีใจที่บทคววามเป็นประโยชน์ค่ะ 🙂 โอกาสน้อยมากค่ะที่จะได้ที่นั่ง แต่ถ้าอยากลุยๆ แบบเป็นไปก็เอางั้น ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ ไม่มีที่นั่งก็ยืนเอา สนุกไปอีกแบบนะคะ 🙂 แต่ถ้าต้องการที่นั่ง เพราะเดินทางหลายชั่วโมง จองล่วงหน้าจะดีที่สุดค่ะ
เที่ยวให้สนุก และเดินทางปลอดภัยนะคะ 🙂
สวัสดีครับคุณหยก
ถ้าพักที่โคลัมโบ จะไปไหว้พระเขี้ยวแก้วที่เมือง แคนดี้ ไปเช้าเย็นกลับได้ไหมครับ
ขอบคุณครับผม
สวัสดีค่ะ คุณ tong
ปกติรถสาธารณะจากโคลัมโบไปแคนดี้จะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงค่ะ แต่ถ้าเป็นรถส่วนตัวจะใช้เวลาประมาณ 3.5-4 ชั่วโมง ซึ่งหากเดินทางด้วยรถสาธารณะนี่น่าจะเป็นไปได้ยากค่ะ เพราะไม่ทราบเรื่องตารางเวลารถออก แต่ถ้าเช่ารถส่วนตัวนี้สบายค่ะ วันเดียวได้เลย ออกเช้าๆ หน่อยก็จะได้เวลาเที่ยวเต็มๆ วันเลยค่ะ 🙂
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ 🙂
ขอบคุณมากๆนะครับ คุณหยก
แล้วมีประเทศไหนที่คุณหยกไปอีกบ้างครับ จะตามไปอ่านครับผม
สวัสดีค่ะ คุณ tong
ยินดีมากๆ เลยค่ะ 🙂 สามารถดูสถานที่ต่างๆ ที่หยกไปเที่ยวมาที่ลิ้งค์นี้ได้เลยนะคะ โดยคลิ๊กที่ภาพจังหวัดหรือประเทศนั้นๆ เพื่อดูบทความของแต่ละสถานที่อีกทีค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ติดตาม 🙂
โอ้ววว ขอบคุณครับคุณหยก
พอดีเพิ่งอ่านข่าวเมื่อกี้ ระเบิดที่ศรีลังกา ครับ สงสารชาวศรีลังกามากๆครับ
ขอบคุณครับผม
สวัสดีค่ะ คุณ tong
ใช่ค่ะ นี่ก็ตกใจมาก สงสารมากๆ เลยนะคะ นี่หยกก็รีบติดต่อเพื่อนคนศรีลังกาไปเลยค่ะ มีทั้งตอบ บอกว่าโอเค และที่ยังไม่ตอบ ก็แอบกังวลนิดหน่อย
สวัสดีคะ กำลังสนใจอยากไปเที่ยว ศรีลังกา
แต่ไม่รู้จะ จัดทริปยังไงดีเลย ไป 5 วันคะ
หาข้อมูลในเนตมีน้อยมากเลย เดินทางลำบากไปไหม
สวัสดีค่ะ คุณน้อง
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 ศรีลังกา เที่ยวสนุกค่ะ เดินทางง่ายด้วย มีรถประจำทางไปทุกที่เลยค่ะ และยังมีรถไฟไปถึงในหลายๆ ที่อีกด้วย แต่มีเวลาแค่ 5 วัน อาจจะจำกัดสักหน่อย หยกแนะนำให้ไป แคนดี้ (ที่มีวัดพระเขี้ยวแก้วค่ะ) ด้วยรถไฟจาก โคลัมโบ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2.5-4 ชั่วโมงค่ะ ขึ้นกับประเภทของรถไฟ โดยสามารถซื้อตั๋วรถไฟได้จาก ลิ้งค์นี้ เลยค่ะ แนะนำให้ซื้อไปล่วงหน้านะคะ เพราะที่นั่งชั้น 1 และ 2 มักจะเต็มค่ะ หากไปซื้อเอาที่สถานีรถไฟ อาจจะได้ยืนแทนหรือไม่มีตั๋วเลยก็ได้นะคะ
จากนั้น จาก แคนดี้ มาเที่ยว กอลล์ เมืองมรดกโลกน่ารักๆ ติดทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากโคลัมโบค่ะ จากแคนดี้มากอลล์ หากเลือกนั่งรถทัวร์ จะใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมงค่ะ ทางเลือกอีกอย่างที่ทำได้คือ นั่งรถไฟกลับมาโคลัมโบ แล้วต่อรถทัวร์ (เลือกนั่งแบบ express นะคะ) จากโคลัมโบไปกอลล์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ลองแพลนทริปดูค่ะ สามารถคลิ๊กลิ้งค์เข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ หากคุณน้องมีคำถามเพิ่มเติมก็ถามเข้ามาได้เลยนะคะ ยินดีมากๆ ค่ะ 🙂
กำลังจะตามแฟนที่ไปประชุม ช่วย 7-10 มีนาคา 2019 นี้ ที่ศรีลังกา แต่ว่า จะอยู่แต่ใน โคลอมโบ ไม่ทราบว่า คุณหยก จะช่วยแนะนำที่เที่ยวให้หน่อยจะได้มั๊ยคะ เพราะเท่าที่ดูในบล๊อค ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองอื่นๆ
Thanks
สวัสดีค่ะ คุณ J
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 ที่เที่ยวในโคลอมโบส่วนใหญ่จะเป็นห้าง วัด หรือ พิพิธภัณฑ์ค่ะ แต่ทั้งนี้โคลอมโบก็อยู่ติดทะเล ช่วงเย็นลองไปเดินชมพระอาทิตย์ตกที่ Galle Face Green สวนสาธารณะริมหาด ที่มีรถเข็นขายอาหารและของขายในยามเย็น ที่นี่มักจะเป็นที่ๆ ชาวพื้นเมืองพาครอบครัวมาพักผ่อนค่ะ และยังมีอีกหาดที่มีชื่อเสียงและสวยงามคือ Mount Lavinia ที่สามารถหาอาหารทะเลสดๆ ทานได้ด้วย
แต่หากมีเวลาว่างทั้งวัน ลองนั่งรถไป Galle ที่ห่างจาก Colombo ประมาณ 120 กิโลเมตร เดินทางได้ด้วยรถทัวร์ (แนะนำให้นั่งรถแบบด่วนนะคะ จะใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมง) ขึ้นรถทัวร์ได้ที่สถานี Maharagama ในโคลอมโบค่ะ รถออกทุกๆ 20 นาทีเลย (รถรอบแรกออกจากโคลอมโบประมาณ 05.00 น. ค่ะ ส่วนรถรอบสุดท้ายที่ออกจาก Galle ประมาณ 20.40 น. นะคะ) เมือง Galle นี่เป็นเมืองมรดกโลกที่สวย น่ารัก มีความโบราณความเก่า และโรแมนติกมากๆ ทั้งยังบรรยากาศดี ร้านรวงตกแต่งเก๋ เข้ากับความโบราณได้ลงตัวสุดๆ คุณ J จะต้องหลงรักเมืองนี้แน่ๆ ค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ เดินทางปลอดภัยและเที่ยวให้สนุกนะคะ 🙂
Thanks มากๆ เลยนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณ J
ยินดีมากๆ เลยค่ะ ทานอาหารศรีลังกาและเที่ยวเผื่อด้วยนะคะ เดินทางปลอดภัยและเที่ยวให้สนุกค่ะ กลับมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ 🙂
สวัสดีค่ะ คุณหยก
เราอยากรบกวนสอบถามการเช่ารถในศรีลังกาว่ามีที่ไหนแนะนำบ้างคะ
โดยเราจองตั๋วลงที่บันดารานายะเก แอร์พอร์ท
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับข้อมูลค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ Doungkamol
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 ศรีลังกาเที่ยวสนุกมากๆ ค่ะ คนน่ารัก อาหารอร่อย การเดินทางง่าย หยกไปมาสามรอบแล้ว ยังอยากหาโอกาสไปอีกเลยนะคะเนี่ย หากจะเช่ารถขับเองก็ดีนะคะ ถนนหนทางดีเลยทีเดียวค่ะ ขับได้สบายๆ เลยค่ะ ส่วนรถเช่าหยกแนะนำ เช่ารถออนไลน์ ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ เป็นเว็บเช่ารถที่เชื่อถือได้ มีหลายบริษัทเช่ารถใหญ่ๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีเลยค่ะ เลยมีตัวเลือกเยอะให้เราได้เลือกราคาที่คุ้มค่าที่สุด ที่สำคัญคือรับรถที่สนามบินที่โคลัมโบได้เลย สะดวกสบายสุดๆ ลองดูนะคะ
เดินทางปลอดภัย ขับรถดีๆ และเที่ยวให้สนุกค่ะ 🙂
อยากสอบถามเกี่ยวการขับรถเองเที่ยวรอบศรีลังกาช่วงปีใหม่นี้อะครับ 29- 6 มกราคม . ผมจะไป kandy -nuwara eliya – ella – udawalawe – Weligma ครับ ถนนขับลำบากไหมครับ เห็นค่อนข้างคดเคี้ยว ขอบคูณมากครับ
สวัสดีค่ะ คุณ Sean
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
ถนนหนทางในเมืองและระหว่างเมืองที่ไม่ได้ขึ้นเขานั้นค่อนข้างดีและกว้างเลยแหละค่ะ ขับได้สบายๆ เลย ส่วนถนนทางขึ้น-ลงเขา Nuwara Eliya และ Ella นั้นค่อนข้างคดโค้งน่าดูเลยนะคะ ขึ้นกับประสบการณ์แล้วล่ะคะว่าเคยขับขึ้นดอยขึ้นเขาไหม มั่นใจไหม เพราะรถไม่ได้เยอะค่ะ หากตัดสินใจจะเช่ารถขับ แล้วขับไม่เร็วมาก ค่อยๆ ไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ
เดินทางปลอดภัย ขับรถระมัดระวัง และเที่ยวให้สนุกนะคะ
สวัสดีค่ะ
กำลังจะไปศรีลังกา ช่วงปีใหม่นี้ 28 ธ.ค.61 – 3 ม.ค.62
ได้อ่านรีวิว แล้วชอบมาก ได้ประโยชน์มากๆ เลยค่ะ
ได้เคยอ่านคำแนะนำมาบ้างว่า ถ้าช่วงเดือน ธันวาคม – มีนาคม
ศรีลังกาจะอากาศดี ไม่มีฝน ของทางภาคใต้ และ ตะวันตก
อยากจะขอถาม จขกท ค่ะ ว่า เที่ยวช่วงปีใหม่
ภาคใต้และตะวันตก ของศรีลังกา มีเมืองอะไรบ้างค่ะ
และแต่ละเมือง แนะนำที่เที่ยวให้ด้วยจะดีมากๆ เลยค่ะ
ไม่อยากไปแล้วเจอฝนค่ะ
หรือ สำหรับ 7 วัน แนะนำที่เที่ยวอะไรบ้างค่ะ ที่ไม่ควรพลาด
ถ้าตอบให้ทางอีเมล์ได้ จะสะดวกมากๆ ค่ะ
ขอบคุณ จขกท ไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณเอพริล
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
ศรีลังกาเป็นประเทศที่เที่ยวสนุก คนน่ารัก อาหารอร่อย ที่สำคัญคือเดินทางง่ายค่ะ ซึ่งช่วงปีใหม่สามารถเที่ยวทางใต้ ตะวันตก และแถบทางภูเขาได้ด้วยนะคะ ทั้งนี้เรื่องฝน เป็นเรื่องที่คาดการณ์ไม่ได้ค่ะ ถึงแม้ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูมรสุม แต่ก็สามารถมีฝนตกปรอยๆ ได้บ้างนะคะ ด้วยความที่ตัวประเทศเป็นเกาะ แต่ทั้งนี้ การที่มีฝนตกมันก็ทำให้รสชาติของการท่องเที่ยวนั้นแปลกใหม่และสนุกไปอีกแบบนะคะ หยกมีบทความเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในศรีลังกา ไม่แน่ใจว่าคุณเอพริลได้เข้าไปอ่านแล้วหรือยัง หยกแนบลิ้งค์มาให้ด้วยที่นี่ค่ะ เที่ยวศรีลังกา
ซึ่งหากไปเที่ยวช่วงปีใหม่ ทางใต้ก็จะเป็นเมืองชายทะเลหมดเลยค่ะ ลองดูกอลล์, อูนาวาทูนา หรือ มาริสสา ชายทะเลสุดฮิตดูนะคะ แนะนำให้ลองพิจารณาไปเที่ยวที่ แคนดี้ และ ฮาปูทาเล่ ซึ่งอยู่ทางภาคกลางค่อนมาทางใต้ค่ะ โดยที่แคนดี้อาจจะเจอฝนปรอยๆ บ้าง แต่เมืองน่ารัก อากาศดี ทั้งยังเป็นเมืองมรดกโลก จึงเป็นที่ๆ ห้ามพลาดมากๆ หรือ ถ้าอยากลุยมาสักนิดก็แนะนำให้ขึ้น adam’s peak นะคะ โดยเฉพาะคืนวันที่ 31 ธค ค่ะ ไปเคาน์ดาวบนนั้น จะฟินและอิ่มเอมสุดๆ เลยค่ะ
หยกขออนุญาตตอบกลับทางคอมเม้นต์นะคะ เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ท่านอื่นที่กำลังมองหาข้อมูลเดียวกันนี้อยู่ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ เตรียมตัวดีๆ เดินทางปลอดภัย หากมีตรงไหนที่หยกพอจะช่วยได้ก็คอมเม้นต์เข้ามาอีกได้เลยนะคะ 🙂