
แหม.. ก็แค่ซื้อของที่ขายบนเครื่องบิน แถมยังเป็น สินค้าดิวตี้ฟรี หรือ สินค้าปลอดภาษี ไม่เห็นจะมีอะไรซับซ้อนเลย มันยังจะมีข้อคิดข้อเตือนใจอะไรนักหนาเนี่ย จริงๆ ก็ไม่น่าจะมีหรอกค่ะ เพราะก็แค่ ซื้อของ Duty Free บนเครื่องบิน ธรรมดาๆ “ถ้าไม่โดนเจ้าหน้าที่สนามบินโยนทิ้ง!” ยังไม่พอ หยกยังยืนเถียงกันอยู่นาน จนเกือบจะตกเครื่องด้วยแน่ะ ดีที่ยังมีสติที่ยอมทิ้งของไป แล้วรีบไปขึ้นเครื่องบิน ไม่เช่นนั้นคงจะได้ซื้อตั๋วเครื่องกลับบ้านใหม่แน่เลยค่ะ

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางท่องเที่ยว อย่าลืมซื้อประกันการเดินทางนะคะ แนะนำให้เลือกเจ้าที่มีศูนย์ในไทย จะได้ติดต่อไปง่ายๆ เกิดมีการเคลมจะได้พูดคุยกันรู้เรื่องค่ะ หยกมีเจ้าที่หยกใช้ประจำ คือ World Trips ซึ่งเป็นเครือเดียวกันกับ Tokio Marine (หยกใช้เองค่ะ กับทุกที่ที่ไปเลย ไม่ได้มีสปอนเซอร์นะคะ) เป็นประกันของญี่ปุ่น ที่มีศูนย์ในไทย ครอบคลุมโซนยุโรป ทั้งตอนนี้ทุกประกันการเดินทางที่ซื้อกับเจ้านี้ ยังครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลกรณีติดโควิดอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญกับหยกมากๆ คือ ครอบคลุมเทรคกิ้งที่เนปาลยังไงล่ะคะ
ก่อนที่จะไปฟังเรื่องราวอันปวดใจ เกี่ยวกับ สินค้าดิวตี้ฟรี หรือ สินค้าปลอดภาษี เมื่อยังเมื่อครั้งยังวัยละอ่อน และรู้น้อย (ไร้เดียงสา 555+) ก็ขอแนะนำซีรี่ย์บทความเกี่ยวกับการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไปต่างประเทศ ที่หยกได้ทำเป็นซีรี่ย์ไว้ ซึ่งอาจจะยาวหน่อย เพราะหยกเขียนแบบละเอียดมาก แต่อ่านง่าย มีทุกขั้นตอน เรียงเป็นข้อๆ พร้อมทั้งคำอธิบาย และ หยกได้แยกเป็นเรื่องๆ ไว้ ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
ตอนเริ่มต้น การเตรียมตัวแพ็คของมาจากบ้าน พวกของเพลวต่างๆ อะไร carry-on ได้ แล้วกระบวนการผ่านเครื่องสแกนล่ะ ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ตอนที่ 1 เตรียมตัวในสนามบิน ก็การเตรียมตัวตั้งแต่ตอนอยู่ที่สนามบิน ต้องไปก่อนกี่ชั่วโมง, เช็คอินอย่างไร, การกรอกใบตม., การผ่านตม., เกทอยู่ตรงไหน รวมถึง คำศัพท์ต่างๆ ที่คุณจะได้พบเจอที่สนามบิน เป็นต้น
ตอนที่ 2/1 คำศัพท์บนเครื่องบิน ศัพท์ทั้งหลาย ที่คุณจะได้ยิน และ ได้เห็น เช่น transfer หรือ transit คืออะไร ทำยังไง
ตอนที่ 2/2 บนเครื่องบิน เมื่อเข้าไปในเครื่องบินแล้ว จะปฏิบัติตัวต่างๆ ยังไงบ้าง ลุก นั่ง รัดเข็มขัด เปิด-ปิดโทรศัพท์ตอนไหน ดูหนังอย่างไร แล้วรู้ไหมว่า คุณสามารถขอขนมว่าง หรือ ผลไม้ได้ด้วยนะ
ตอนที่ 2/3 การใช้ห้องน้ำ ข้อควรปฏิบัติ ทริค และ การแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ชักโครกไม่ลง หรือ ส้วมสกปรก
ตอนที่ 2/4 ทำไมเวลาเครื่องบินขึ้น ลง ต้องทำอะไร? ห้ามทำอะไร? และทำไม? โดยหยกทำเป็น check list มาให้ค่ะ พร้อมทั้งคำอธิบาย สิ่งที่ควรทำ และห้ามทำ ว่าด้วยเหตุผลอะไร เพื่อที่จะได้เข้าใจกันอย่างถูกต้อง และนำไปสู่การปฏิบัติที่เคร่งครัด
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ


รูปภาพในบทความนี้เป็นรูปเก่าเมื่อตอนเที่ยวที่แคนาดานะคะ อย่าแปลกใจทำไมดูเด็ก 555+
ประสบการณ์ ซื้อของ Duty Free บนเครื่องบิน กับการถูกทิ้งๆๆๆ
ซื้อของ duty free บนเครื่องบิน หรือ สินค้าปลอดภาษี บนเครื่องบิน ก็เหมือนกับซื้อของ duty free ในสนามบินนั่นแหละค่ะ กฎเกณฑ์ทุกอย่างก็เหมือนกัน แต่เรื่องมันก็มีอยู่ว่า…


-ของฝาก-
เรื่องมันก็มีอยู่ว่าขากลับไทยจากแคนาดา หยกตั้งใจจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากสับปะรด ที่หยกได้มีโอกาสลิ้มรสแล้ว คือรสชาติมันดีและหอมมาก ทั้งยังแปลกใหม่ ไม่เคยเจอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน จนคิดว่าจะเอาไปฝากผู้ใหญ่ที่เคารพ โดยตั้งใจว่าจะไปซื้อที่ดิวตี้ฟรีในสนามบิน ซึ่งก็มีค่ะแต่ทำไมก็ไม่รู้ ในใจตอนนั้นก็ดันคิดขึ้นมาว่า “เอ๊ะ! เค้าว่าให้เหล้า = แช่ง” หยกเลยเปลี่ยนใจไปซื้อคุกกี้ที่ทำจากเมเปิ้ลไซรัปแทน ซึ่งก็เป็นของขึ้นชื่อที่ประเทศแคนาดาเช่นกัน แต่ขณะที่อยู่บนเครื่องก็ยังคงคาใจ คือตั้งใจจะซื้อไอ้เจ้าเครื่องดื่มสับปะรดไม่ใช่เหรอ ของแปลกใหม่ ไม่เหมือนใครดี ส่วนคุกกี้น่ะผู้ใหญ่เค้าคงไม่ทานหรอก ก็คงเสร็จลูกหลานเค้าน่ะสิ

-ซื้อของ Duty Free บนเครื่องบิน-

ประจวบเหมาะกับที่บนเครื่องบินกำลังประกาศขายสินค้าดิวตี้ฟรีพอดิบพอดี ช่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้เมื่อหยกได้ยินเช่นนั้น ก็รีบเปิดแคตตาล็อกดูทันทีเลยค่ะ ก็ปรากฏว่ามีสิ่งที่ต้องการ ไม่รีรอจัดไปสองขวดเลยค่ะ แต่ก่อนที่จะซื้อก็ได้ถามพี่แอร์ไปว่า ” ซื้อของ duty free บนเครื่องบิน แต่จะไปต่อเครื่องที่ญี่ปุ่น จะไม่มีปัญหากับสินค้าตัวนี้ ใช่ไหมคะ? “ ก็ได้คำตอบมาว่าใช่ เลยสบายใจแหละ เพราะคุกกี้ก็จะตกเป็นของหยกไปโดยปริยาย อิอิ ดีใจ

-Duty Free ที่ญี่ปุ่นละลานตามาก-
การต่อเครื่องที่ญี่ปุ่นเป็นอะไรที่เพลินมากค่ะ ก็สินค้าปลอดภาษีทั้งหลายที่นี่ มากมายละลานตามาก ไม่ว่าจะเป็นขนมกล้วยฮิตฮอตหลากหลายรส ไหนจะคิทแคทชาเขียวอีก ยังมีช็อกโกแลตสดนิ่มๆ และของแพ็คเกจสวยๆ มากมาย จนต้องเสียสตางค์เพียบ แต่ก็ฟิ๊นฟิน ช้อปปิ้งซะมันส์เลย และได้ของเต็มไม้เต็มมือเลยค่ะ (ซึ่งกระเป๋าเดินทางของหยกจะตรงจากแคนาดาเข้าไทยเลยค่ะ)

และด้วยความที่ช้อปเพลินไปหน่อย ก็เลยเหลือเวลาอีกประมาณ 20 นาทีก่อนที่จะถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่อง (boarding time) ค่ะ เลยต้องรีบบอกลาสิ่งหลอกล่อใจทั้งหลาย แล้วรีบจ้ำไปที่เกททันที แต่ก็จะต้องผ่านเครื่องสแกนก่อนค่ะ เป็นแบบนี้ทุกทีสินะ ยิ่งรีบก็เหมือนยิ่งช้า ไหนจะต้องรื้อเจ้าคอมพิวเตอร์ออกมา ไหนจะต้องถอดรองเท้าอีก โอ๊ยย ทั้งปวดเข้าห้องน้ำด้วย



มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
-ผู้ต้องสงสัย-
แต่แล้วไอ้เจ้าเครื่องดื่มสับปะรดได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เนื่องจากปริมาณภาชนะบรรจุมากกว่า 100 มิลลิลิตรค่ะ แต่แหมเรื่องแค่นี้เอง ก็เลยบอกพนักงานเค้าไปว่าซื้อในดิวตี้ฟรีบนเครื่องบินค่ะ พร้อมกับควักใบเสร็จออกมาให้ดู แต่ถามว่าเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นสนใจไหม ไม่เลยค่ะเค้าบอกว่า “ถ้าซื้อในดิวตี้ฟรี ก็จะต้องใส่ในถุงพลาสติกที่ปิดสนิท มีใบเสร็จด้านใน และไม่มีการแกะจนกว่าจะถึงปลายทาง หากแกะปุ๊ปถึงแม้จะมีใบเสร็จมายืนยัน ก็จะไม่ยอมรับว่าเป็นสินค้าในดิวตี้ฟรีอีกต่อไป” ห๊ะ!!



เค้าไม่สน หยกก็ไม่หยุดค่ะ ย้ำเค้าไปอีกว่าซื้อมาจากดิวตี้ฟรีบนเครื่องบินจริงๆ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ใส่ลงในถุงพลาสติกให้ นี่ไงใบเสร็จมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรไม่ใช่เหรอ เพราะก่อนซื้อ ก็ได้ถามเจ้าหน้าที่แล้วว่าจะต้องมาต่อเครื่องที่ญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร
-เสียดาย-

หยกก็พยายามอธิบายอยู่นาน แต่แล้วก็ถูกกลบด้วยเสียงพี่ผู้ชายที่เครื่องสแกนถัดไป ที่จำได้ว่าลงมาจากเครื่องลำเดียวกัน คือพี่แกซื้อครีมทาหน้าและเครื่องสำอางที่เป็นของเหลวมากมาย ยี่ห้อดังๆ แพงๆ ทั้งนั้น มากถึง 8 กระปุกเลยเชียว ซึ่งทุกกระปุกก็มีขนาดบรรจุมากกว่า 100 มิลลิลิตร และแล้วหยกก็เจอเพื่อนค่ะ เพียงแต่ราคาสินค้านี่สิ ของพี่แกในระดับไฮเอนด์ ส่วนของหยกน่ะเหรอ ก็กลายเป็นของตามตลาดนัดมือสองไปเลยน่ะสิคะ
-พยายามจนเกือบตกเครื่อง-

ซึ่งขณะนี้ก็เลยเวลาเรียกขึ้นเครื่องมาได้สักพักแล้วค่ะ โดยที่อาเฮียข้างๆ บอกว่าแกได้ตกเครื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแกจะไม่ยอมเสียสินค้าเหล่านี้ไปด้วย และทางสนามบินจะต้องหาตั๋วเครื่องมาทดแทนที่ทำแกตกเครื่อง เหมือนเรื่องจะไม่จบง่ายๆซะแล้วค่ะ หยกจึงรีบจบ ถึงแม้จะเจ็บเบาๆก็ตาม โดยตัดสินใจปล่อยน้องสับปะรดนั้นไป เพราะดูแล้วยังไงพี่เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นก็เซย์โนวอย่างเดียว ไม่แม้แต่จะดูใบเสร็จเลยด้วย แล้วรีบวิ่งไปขึ้นเครื่อง ซึ่งก็ทันค่ะ ขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้ายพอดี๊พอดีเลย 17เสื้อกันฝนก็เอาไม่อยู่จ้า มันส์สุดๆ เปียกกระจายเลย
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1).จะไม่ ซื้อของ Duty Free บนเครื่องบิน อีก!

เฮ้ย.. ไม่ใช่สักหน่อย ซื้อก็ได้ค่ะ แต่ต้องมั่นใจว่าเค้าจะใส่ถุงพลาสติกพร้อมใบเสร็จและปิดถุงให้สนิท (กระบวนการเดียวกันกับตอนซื้อของในดิวตี้ฟรีที่สนามบินเลยค่ะ) และเราจะต้องไม่เปิดถุงสินค้านั้น จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง เอาให้สบายใจก็ไปเปิดที่บ้านเลยแล้วกันค่ะ
2).อย่าเชื่อเพราะเขาเป็นครู
หลังจากนั้นมา ระหว่างการท่องเที่ยว หากหยกจะต้องถามคำถามอะไรใครซักคนแล้วล่ะก็ หยกจะถามอย่างน้อยสามคนค่ะ ก็เพื่อความมั่นใจยังไงละคะ ซึ่งบ่อยครั้ง 1 ใน 3 จะให้ข้อมูลที่ผิดพลาด

ใครมีประสบการณ์เด็ดๆ เกี่ยวกับการ ซื้อของ duty free บนเครื่องบิน หรือ ที่สนามบินระหว่างการท่องเที่ยว ก็แชร์มาได้เลยนะคะ
คุณหยกคะ สอบถามหน่อยค่ะ ถ้าจากสนามบิน A ไป C แต่ต้องแวะต่อเครื่องที่สนามบิน B เราสามารถซื้อของมากกว่า 100 ml พวกครีมต่าง ๆ จาก สนามบิน A ได้มั้ยคะ จะไปโดนทิ้งที่สนามบิน B มั๊ยคะ จะไปรัสเซียค่ะ แต่ต้องแวะต่อเครื่องที่คาซัคสถาน แต่อยากซื้อของที่คิงพาวเวอร์ค่ะ คุณหยกเคยเจอกรณีโดนทิ้งของมั๊ยคะ
สวัสดีค่ะ คุณ BlackStone
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
ซื้อของที่ ดิวตี้ฟรี ที่ สนามบิน A เป็นของเหลวที่เกิน 100 ml สามารถหิ้วของบินต่อไปยัง สนามบิน B เพื่อต่อเครื่องไปสนามบิน C ได้โดยไม่มีปัญหาเลยค่ะ แต่ต้องไม่มีการแกะบรรจุ ตั้งแต่รับของมาจาก ร้านค้าในดิวตี้ฟรีที่ซื้อมานะคะ โดยปกติแล้ว สินคเาที่ซื้อมาจาก ดิวตี้ฟรี จะมีการซีลที่สนิท พร้อมใบเสร็จด้านในถุงค่ะ ทั้งนี้ ตรวจสอบการกำจัดปริมาณการนำของเข้าที่ศุลกากรปลายทางด้วยนะคะ ในกรณีที่จะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ
หยกเคยเจอโดนทิ้งของค่ะ แต่เพราะของที่หยกซื้อนั้นไม่ได้บรรจุในถุงพลาสติกที่ซีลมาจาก ดิวตี้ฟรี ค่ะ ในกรณีนี้ ถึงแม้จะมีใบเสร็จยืนยันว่าซื้อมาจาก ดิวตี้ฟรี ก็ตาม เค้าก็ไม่สนใจค่ะ ทิ้งอย่างเดียว เสียใจอย่างสุดซึ้ง ไม่ทำซ้ำอีกแน่นอน จดจำได้ไม่ลืมเลยค่ะ 55+
เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให่้สนุกนะคะ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ คุณหยก
สวัสดีค่ะ คุณหยก
ขอสอบถามเกี่ยวกับการซื้อน้ำหอมในดิวตี้ฟรีจากสนามบิน A ไปสนามบิน B
ขนาด 100 ml. ถ้ามีจำนวน 5-6 ขวด จะมีปัญหามั้ยคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ Apple
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
ปกติแล้ว อย่างที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้ว ของเหลวที่มีภาชนะบรรจุุไม่เกิน 100 ml ไม่เกิน 10 ชิ้น สามารถถือขึ้นเครื่องได้ไม่มีปัญหาค่ะ ส่วนของใน duty free นี้อีกเรื่องค่ะ ไม่ว่าจะมีปริมาณในภาชนะบรรจุเท่าใด ถ้ายังไม่ได้แกะออกจากถุงที่ปิดผนึกที่ซื้อจาก duty free ก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ต้องไม่ผิดข้อกำหนดและกฎเกณฑ์การนำของเข้าประเทศนั้นๆ เช่น ของที่นำเข้ามาไม่มีปริมาณเกินกว่าที่จะใช้ส่วนตัว และ/หรือ มีมูลค่ารวมทั้งหมดไม่เกิน 20,000 บาท หรือไม่ได้มีวัตถุประสงค์นำเข้่าเพื่อการค้า หรือ แอลกอฮอล์ไม่เกิน 1 ลิตร เป็นต้น ดังนั้นแล้ว น้ำหอมขนาด 100 ml ซึ่งเป็นขวดเล็กๆ ประมาณ 5 – 6 ขวดนี้ไม่น่าจะมีปีญหาค่ะ ถือไปด้วยได้ค่ะ
เดินทางปลอดภัยนะคะ 🙂
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์นะคะ
สวัสดีค่ะ คุณปุญ อรุณ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์และการติดตามเข้ามาอ่านนะคะ แชร์ประสบการณ์เข้ามาที่คอมเม้นต์ได้นะคะ 🙂
สวัสดีคะคุณหยกกำลังจะไปเที่ยวอังกฤษครั้งแรกในชีวิตและก็ต่อเครื่องที่ดุไงครั้งแรกด้วย แอบกลัวๆ เรายัฃสามารถซื้อของตาดดิวตี้ฟรีที่ดูไบไปปลายทางอังกฤษได้เหมือนกันใช่ไหมคะแต่ถึงห้ามเปิดแกะออกเด็ดขาดหรือว่าขนาดต้องห้ามเกิน100มิลลิลิตรเช่นกันคะ ขอบคุณคะ
สวัสดีค่ะ คุณขวัญ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 ว้าวๆๆ หยกยังไม่เคยไม่เที่ยวอังกฤษเลยค่ะ ต้องสวยและสนุกมากๆ แน่ๆ ตื่นเต้นแทนเลยค่ะ 🙂 คุณขวัญสามารถซื้อของในดิวตี้ฟรีระหว่างต่อเครื่องแล้วบินต่อได้ค่ะ สามารถเป็นของเหลวที่มากกว่า 100 มิลลิลิตรได้ (แต่ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ อย่าลืมตรวจสอบด้วยนะคะว่าปลายทางเค้าจำกัดให้ถือแอกอฮอล์เข้าไปได้คนละไม่เกินเท่าไหร่) ทั้งนี้การซื้อของเหลวในดิวตี้ฟรีและต้องบินต่อนั้น อย่าแก ฉีก เปิด หรือแม้กระทั่งเจาะรู กับของที่เราซื้อมา เพราะซองที่เค้าใส่สินค้านั้นๆ จะถูกปิดอย่างแน่นหนา พร้อมกับมีใบเสร็จกำกับไว้ด้านในค่ะ ก็จะไม่มีปัญหา ผ่านด่านตรวจสบายค่ะ (แต่ถ้าแกะออก ถึงแม้จะมีซองที่ถูกฉีกและใบเสร็จ เพื่อเป็นหลักฐาน ก็จะเป็นหลักฐานที่ฟังไม่ขึ้นค่ะ ของเหลวชิ้นนี้ก็จะต้องถูกทิ้งลงถังไปค่ะ)
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ เดินทางปลอดภัย เตรียมของให้ครบ และเที่ยวให้สนุกค่ะ 🙂
?ขอบคุณมากค่าคุณหยก ตอนนี้กลับมาแล้วคะตั้งแต่เมษายน กระเป๋าแทบแตกขากลับ31โล หอบแต่ขนมของฝากกลับมา ? เป็นทริปที่สนุกตื่นเต้นมากเลยได้บินแวะไปที่สก็อตแลนด์ด้วยคะ ชอบบบมากย้านเมืองเขาสวยมากตื่นตาตื่นใจ ตึกรา บ้านช่องเขาสวยเก่าแก่มีเอกลักษณ์มากเลย ต้องหาโอกาสไปโซนอื่นๆบ้างแล้ววว ?
สวัสดีค่ะ คุณขวัญ
ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์นะคะ พอนึกถึงสก็อตแลนด์ ก็จะนึกถึงการแต่งกายในชุดพื้นเมือง หยกยังไม่มีโอกาสได้ไปแถบนี้เลย คงต้องหาโอกาสไปบ้างแล้ว ดูน่าสนุกมากเลยค่ะ และคงสนุกมากๆ ตอนช้อปปิ้งนี่แหละ ? ของล้นเลย