
หลังจากที่หยกมี บทความ How to จองตั๋วรถไฟยุโรป ซึ่งบอก วิธีการ ซื้อตั๋วรถไฟยุโรป แบบรายเที่ยว ออนไลน์ ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี ว่ามีประโยชน์มาก เข้าใจ และใช้งานตามได้ง่าย แต่ก็มีคำถามเข้ามาในเรื่อง Pass ต่างๆ การ ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์ ทำอย่างไร? Europe Rail Pass คือ ? Eurail Global Pass คือ ? บัตรโดยสารรถไฟยุโรป หรือ Pass เหล่านี้ มีกี่ประเภท ? แต่ละประเภทต่างกันไหม ? เลือกแบบไหนดี คุ้ม กี่ประเทศ ราคาเท่าไหร่ และ ข้อสงสัยอื่นๆ มากมาย
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางท่องเที่ยว อย่าลืมซื้อประกันการเดินทางนะคะ แนะนำให้เลือกเจ้าที่มีศูนย์ในไทย จะได้ติดต่อไปง่ายๆ เกิดมีการเคลมจะได้พูดคุยกันรู้เรื่องค่ะ หยกมีเจ้าที่หยกใช้ประจำ คือ World Trips ซึ่งเป็นเครือเดียวกันกับ Tokio Marine (หยกใช้เองค่ะ กับทุกที่ที่ไปเลย ไม่ได้มีสปอนเซอร์นะคะ) เป็นประกันของญี่ปุ่น ที่มีศูนย์ในไทย ครอบคลุมโซนยุโรป ทั้งตอนนี้ทุกประกันการเดินทางที่ซื้อกับเจ้านี้ ยังครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลกรณีติดโควิดอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญกับหยกมากๆ คือ ครอบคลุมเทรคกิ้งที่เนปาลยังไงล่ะคะ
หยกเลยจัดทำ วิธีการเลือกซื้อ และ การ ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์ พร้อมรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ บัตรโดยสารรถไฟยุโรป หรือ Pass เหล่านี้ ตามหัวข้อด้านล่างนี้เลยค่ะ
- Train Ticket, Rail Pass, Europe Rail Pass, Eurail Pass หรือ บัตรโดยสารรถไฟยุโรป คืออะไร
- Rail Pass, Europe Rail Pass หรือ Eurail Pass นี้ ใช้ได้กับทุกคนไหม
- Rail Pass, Europe Rail Pass หรือ Eurail Pass มีกี่ประเภท
- Flexi Pass และ Consecutive/Continuous Pass คืออะไร ต่างกันอย่างไร
- หากซื้อ Europe Rail Pass แล้ว ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า
- Europe Rail Pass มีส่วนลด หรือ สิทธิประโยชน์ใดๆ ที่ควรรู้ไหม
- ซื้อ Europe Rail Pass แล้ว จะเริ่มใช้อย่างไร
- ข้อควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับ Europe Rail Pass เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และ คุ้มค่าที่สุด
- วิธีการเลือกซื้อ และ การ ซื้อ Europe Rail Pass ออนไลน์ ให้ตรงกับแผนการเดินทางของคุณ
- วิธีการสำรองที่ หลังจากมี Europe Rail Pass ในมือแล้ว
- ควรซื้อ Train Ticket หรือ Rail Pass ดี แบบไหนถูกกว่า คุ้มกว่า
พร้อมแล้ว ก็ไปทำความเข้าใจ และเตรียมตัว ซื้อ Pass ประเภทที่ตรงแผนการเที่ยว ด้วยกันเลยค่ะ
How to ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์
1. Train Ticket, Rail Pass, Europe Rail Pass, Eurail Pass หรือ บัตรโดยสารรถไฟยุโรป คืออะไร
Train Ticket ในที่นี้ หมายถึง ตั๋วรถไฟรายเที่ยว จาก จุด A ไป B โดยใช้ได้ครั้งเดียว กับจุดหมาย และ ปลายทางที่เราได้ทำการซื้อไว้เท่านั้น และ ต้องทำการสำรองที่นั่งทุกครั้ง โดยสามารถดูวิธีการจองตั๋วรถไฟยุโรปรายเที่ยวได้ที่ How to จองตั๋วรถไฟยุโรป ค่ะ
Rail Pass หรือ Europe Rail Pass หรือ Eurail Pass คือ บัตรโดยสารรถไฟยุโรป ที่สามารถเดินทางได้แบบ “ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และ ระยะทาง ในประเทศนั้นๆ ตามชนิดของ Pass นั้นๆ และ ในจำนวนระยะเวลาของการเดินทางที่เลือกซื้อ คือ มีวันหมดอายุนั่นเอง” โดยจะมีจำนวนระยะเวลาในการเดินทางให้เลือก เช่น 3 วัน, 5 วัน, 7 วัน, 15 วัน หรือ 1 เดือน เป็นต้น โดยที่การเดินทางไปเมืองใกล้ๆ นั้น ไม่ต้องทำการสำรองที่นั่งค่ะ
ข้อดีของ บัตรโดยสารรถไฟยุโรป เหล่านี้ คือ
- บัตรใบเดียว สามารถใช้เดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วยุโรป ตามประเทศที่กำหนดในบัตรประเภทนั้นๆ
- สามารถใช้เดินทางด้วย รถไฟความเร็วสูง ระหว่างเมืองที่ห่างกันเป็นร้อยๆ กิโลเมตร ได้ในระยะเวลาไม่นาน
- ขึ้นรถ แล้วแสดงบัตรได้เลย ไม่ต้องทำการสำรองที่ (ยกเว้น รถไฟความเร็วสูง, รถไฟกลางคืน และ รถไฟสายทัศนียภาพ)
- มีส่วนลดมากมาย ตั้งแต่ส่วนลดซื้อของในบางร้านค้า, ส่วนลดค่าโดยสารเรือ หรือ รถบัสบางประเภท, ส่วนลดที่พัก, ค่าธรรมเนียมเข้าชมพิพิธภัณฑ์ สินค้าที่ร่วมรายการ และ อื่นๆ อีกมากมาย รายละเอียดเพิ่มเติมที่ข้อ 6 นะคะ
Rail อ่านว่า เรล แปลว่า รถไฟ | Pass อ่านว่า พาส แปลว่า บัตรผ่าน ในที่นี้หมายถึง บัตรโดยสาร | Rail Pass อ่านว่า เรล พาส | Europe Rail Pass อ่านว่า ยุโรป เรล พาส | Eurail Pass อ่านว่า ยูเรล พาส
โปรดอย่าสับสน Eurail Pass กับ Eurail Global Pass นะคะ เพราะ Eurail Global Pass คือ Eurail Pass ชนิดหนึ่งค่ะ และการเรียก Rail Pass ซึ่งหมายถึง บัตรโดยสารรถไฟ อาจสับสนได้กับ Japan Rail Pass ซึ่งเป็นบัตรโดยสารรถไฟญี่ปุ่น เค้าจะเรียกกันสั้นๆ ว่า Rail Pass เช่นกัน
คุ้มค่ากับการเดินทางท่องเที่ยวในยุโรปมากกว่า 3 เมือง | ||
มีเด็กๆ เดินทางไปด้วย (เด็กได้สิทธิเดินทางฟรี) | ||
มักจะมีส่วนลดต่างๆ มากมาย | ||
ต้องทำการสำรองที่นั่งกับรถไฟทุกขบวน |
2. Rail Pass นี้ ใช้ได้กับทุกคนไหม
คนที่จะใช้ บัตรโดยสารรถไฟยุโรป นี้ ได้ จะต้องเป็นผู้ที่อาศัยอยู่นอก Europe, the United Kingdom, Morocco, Turkey หรือ ประเทศอื่นใดที่เคยอยู่ใน Soviet Union (ต้องเป็นคนที่ไม่มี ใบถิ่นที่อยู่ ของประเทศดังกล่าว)
ง่ายๆ ก็คือ บัตรเหล่านี้มีไว้เอื้อความสะดวกสบายในการเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยว ดังนั้นแล้ว บัตรเหล่านี้ จึง “ไม่มีขายในยุโรป” นะคะ จะต้องซื้อก่อนเดินทางเข้ายุโรป โดยต้องซื้อออนไลน์เท่านั้น ซึ่งหยกจะได้กล่าวถึงวิธีการเลือกซื้อ และ วิธีการซื้อ ให้ตรงกับการเดินทางของเพื่อนๆ ที่ข้อ 9 ค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ
3. Rail Pass มีกี่ประเภท
บัตรโดยสารรถไฟยุโรป นี้ มีอยู่ 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ Single-Country Pass, Multi-Country Pass และ Swiss Travel System ดังภาพ ซึ่งมีคำอธิบายด้านล่างนะคะ

3.1). Single-Country Pass
บัตรโดยสารรถไฟยุโรป สำหรับ 1 ประเทศ ภายในสหภาพยุโรป เท่านั้น โดยสามารถใช้เดินทาง ได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวและระยะทาง แต่จะกำหนดระยะเวลาในการเดินทางค่ะ
ตัวอย่าง Eurail Pass ประเภทนี้ เช่น Austria Pass, France Pass, German Rail Pass และ Italy Pass เป็นต้น
3.2). Multi-Country Pass
บัตรโดยสารรถไฟยุโรป สำหรับเดินทางมากกว่า 1 ประเทศภายในสหภาพยุโรป ที่มีพรมแดนเองติดกัน โดยจะมีหลายชนิด ที่ย่อยลงไปอีกให้ได้เลือกค่ะ ซึ่งเช่นเดิม คือ สามารถเดินทางได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และ ระยะทาง แต่จะกำหนดระยะเวลาในการเดินทาง
ตัวอย่าง Eurail Pass ประเภทนี้ เช่น
Benelux Pass ที่สามารถเดินทางได้ใน 3 ประเทศ คือ Lumxenburg, the Netherlands และ Belgium
และ
Eurail Global Pass ที่สามารถใช้ได้มากถึง 31 ประเทศ ดังนี้ Austria, Belgium, Bosnia-Herzegovina, Bulgaria, Croatia ,Czech Republic, Denmark, England, Finland, France, Germany, Greece, Hungary, Italy, Ireland, Lithuania, Luxembourg, Macedonia, Montenegro, the Netherlands, Norway, Poland, Portugal, Romania, Scotland, Serbia, Slovakia, Slovenia, Spain, Sweden, Switzerland, Turkey และ Wales
เป็นต้น
3.3). Swiss Travel System
Swiss Travel System หรือที่รู้จักกันว่า Swiss Pass บัตรประเภทนี้ เป็นบัตรท่องเที่ยวเฉพาะใน Switzerland เท่านั้น ซึ่งใช้ได้กับการเดินทางด้วยรถไฟ, รถบัส และ เรือ ค่ะ ไม่เพียงเท่านั้น ยังรวมค่าธรรมเนียมเข้าชมพิพิธภัณฑ์มากกว่า 490 แห่งอีกด้วยนะคะ
4. Flexi Pass และ Consecutive/Continuous Pass คืออะไร ต่างกันอย่างไร
บัตรโดยสารรถไฟยุโรป แต่ละชนิด ก็จะมีการกำหนดจำนวนวัน (ระยะเวลา) ที่ใช้ได้อยู่ 2 แบบ คือ
4.1). Flexi Pass หรือ บัตรประเภทยืดหยุ่น
คือ สามารถเลือกกำหนดวันเดินทางตามใจฉัน ในระยะเวลาที่กำหนด จะมี keyword คือคำว่า within เช่น 5 days within 1 month หมายความว่า สามารถเลือกใช้เดินทางได้ใน 5 วันที่เราต้องการ (ไม่จำเป็นต้องเป็นวันเรียงติดกัน) โดยที่ใน 5 วันนั้นสามารถโดยสารรถไฟได้ไม่จำกัด แต่ต้องใช้ก่อนที่บัตรจะหมดอายุ ซึ่งบัตรนี้มีอายุ 1 เดือน

4.2). Consecutive/Continuous Pass หรือ บัตรประเภทกำหนดจำนวนวันต่อกัน
เช่น Eurail Global Pass ที่จะมีให้เลือกซื้อตามจำนวนวัน จะมี keyword คือคำว่า consecutive หรือ continuous เช่น 7 days continuous หมายถึงว่า จะต้องใช้ Eurail Global Pass ภายในระยะเวลา 7 วันติดกัน (กรณีนี้ จำเป็นต้องเป็นวันเรียงติดกัน) โดยที่บัตรมีอายุ 7 วัน นับจากวันที่ทำการ activate บัตร หากวันไหนไม่มีการโดยสารรถไฟ ก็ยังคงนับเป็นวันเดินทางอยู่

5. หากซื้อ Europe Rail Pass แล้ว ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า
ถึงแม้ Eurail Pass นี้จะใช้ได้สะดวกสุดๆ คือสามารถใช้เดินทางได้เลย โดยไม่ต้องทำการสำรองที่ แค่แสดงบัตรเท่านั้น ซึ่งมักใช้ได้กับรถไฟส่วนใหญ่ที่ใช้เวลาเดินทางสั้นๆ ระหว่างเมืองใกล้ๆ กัน
แต่ Eurail Pass มีกฎ และ ข้อยกเว้นบางอย่าง ที่ควรทราบ คือ
5.1). ผู้ที่ถือ Pass นี้ จำต้องทำการจองที่นั่ง หรือ เตียงนอน ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับรถไฟประเภทต่อไปนี้ คือ รถไฟความเร็วสูง (high speed train), รถไฟสายทัศนียภาพ (scenic train) และ รถไฟกลางคืน (night train) ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เป็นรถไฟที่ใช้เวลาเดินทางนาน การสำรองที่จึงสำคัญ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมเหล่านี้ไม่แพงค่ะ จะอยู่ระหว่าง 1 – 10 euro หากทำการสำรองล่วงหน้านะคะ สำหรับรถไฟชั้น 2 และ อาจจะมีราคาที่แพงขึ้น หากทำการสำรองที่ช้า และ สำหรับรถไฟความเร็วสูงบางขบวน ทั้งนี้ ในเส้นทางส่วนใหญ่อาจมีทางเลือก ในการเดินทางด้วยรถไฟที่ไม่จำเป็นต้องมีการจองที่นั่งก็ได้ค่ะ
ทั้งนี้ หากเดินทางกับเด็ก ที่ได้สิทธิพิเศษเดินทางฟรี กับเราผู้ถือบัตร (ตามรายละเอียดข้อ 6) เราก็จะต้องทำการจองที่ให้กับเด็กด้วยนะคะ
5.2). สำหรับการใช้ Pass เดินทางระหว่างประเทศ ให้มั่นใจว่า บัตรประเภทที่ซื้อมานั้น ครอบคลุมประเทศจุดหมาย, ประเทศปลายทาง และ ทุกประเทศที่รถไฟวิ่งผ่าน ไม่เช่นนั้น อาจจะต้องมีการจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในประเทศที่เดินทางผ่าน แต่ไม่ครอบคลุมใน Pass ประเภทนั้นๆ ก็ได้ค่ะ
6. Europe Rail Pass มีส่วนลด หรือ สิทธิประโยชน์ใดๆ ที่ควรรู้ไหม
โดยทั่วไปแล้ว Eurail Pass จะมี ส่วนลด และ สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่คล้ายกัน คือ
- ผู้ที่ถือบัตรโดยสารรถไฟยุโรป ประเภทใดก็ได้ 1 ใบ สามารถพาเด็กอายุ 4 – 11 ปี จำนวน 2 คน เดินทางได้ฟรี โดยที่ปกติแล้ว เด็กอายุระหว่างนี้จะเสียค่าโดยสารครึ่งราคา ต่อคน
- ผู้ที่ถือบัตรโดยสารรถไฟยุโรปประเภทใดก็ได้ 1 ใบ สามารถให้ส่วนลดบัตรค่าโดยสาร หากเดินทางกับคนที่อายุระหว่าง 12 – 28 ปี จำนวน 1 คน
- กรณีเป็นผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีส่วนลดสำหรับการซื้อ บัตรโดยสารรถไฟยุโรป
- หากเดินทางกันเป็นกลุ่มระหว่าง 2 – 5 คน บัตรโดยสารรถไฟบางชนิด จะมีส่วนลดให้ประมาณ 15% สำหรับทั้งกลุ่มค่ะ
- หากเดินทางกันเป็นกลุ่มใหญ่ 10 คนขึ้นไป บัตรโดยสารรถไฟก็จะมีโปรโมชั่นพิเศษให้เช่นกันค่ะ
ทั้งนี้ บัตรโดยสารรถไฟบางประเภท ยังมีส่วนลดการซื้อของในบางร้านค้า, ส่วนลดค่าโดยสารเรือ หรือ รถบัส บางประเภท, ส่วนลดที่พัก, ค่าธรรมเนียมเข้าชมพิพิธภัณฑ์, เดินทางด้วย airport shuttle bus ได้ฟรี, เดินทางเรือข้ามฟากฟรี และ อื่นๆ อีกมากมาย เช่น Swiss Pass เป็นต้น
7. ซื้อ Europe Rail Pass แล้ว จะเริ่มใช้อย่างไร
ขั้นแรกคือ ต้องทำการ activate (เปิดการใช้งานของ) บัตรก่อนค่ะ ที่สถานีรถไฟในยุโรป ก่อนเริ่มใช้บัตร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะระบุช่วงวันที่ที่สามารถใช้งานได้บนบัตร ทั้งนี้ เจ้าหน้าอาจขอดู หนังสือเดืนทางของคุณ เพื่อตรวจสอบว่า บัตรนี้เป็นของคุณจริง
หากลืมทำการ activate แล้วเจอเจ้าหน้าที่ตรวจระหว่างการเดินทาง จะต้องเสียค่าปรับ และ ต้องชำระค่าตั๋วโดยสารของเที่ยวนั้น แบบเต็มราคา จ่ายโดยตรง ณ ขณะนั้นกับเจ้าหน้าที่เลยนะคะ
8. ข้อควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับ Europe Rail Pass เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และ คุ้มค่าที่สุด
8.1). สามารถ ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์ ล่วงหน้า ได้นานแค่ไหน
โดยส่วนใหญ่แล้ว เพื่อนๆ สามารถทำการซื้อ Pass เหล่านี้ ล่วงหน้า ได้ 6 – 11 เดือน ก่อนวันแรกของการเดินทางค่ะ
8.2). ต้องซื้อ Eurail Pass นอกยุโรปเท่านั้น แล้วซื้อทางไหน ยังไง
ใช่ค่ะ บัตรโดยสารรถไฟนี้ ไม่สามารถซื้อในยุโรปได้ จำต้องซื้อออนไลน์ล่วงหน้า ก่อนเดินทางเข้ายุโรปเท่านั้น โดยสามารถซื้อได้ที่นี่กับบริษัท Rail Europe และ สามารถดูวิธีการเลือกซื้อประเภทบัตรที่เหมาะกับการเดินทางของคุณได้ที่ข้อ 9
8.3). ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์ แล้วจะรับบัตรได้อย่างไร
ส่วนใหญ่แล้ว การซื้อ Pass เหล่านี้ เพื่อนๆ จะได้รับบัตรตามที่อยู่จัดส่งที่ให้ไปค่ะ แนะนำให้วางแผนล่วงหน้า และ ต้องมั่นใจว่าจะได้รับ บัตรโดยสารรถไฟ ก่อนออกเดินทาง กรณีที่ไม่สามารถพิมพ์ได้เองที่บ้าน (e-Pass) ทั้งนี้ บัตรบางประเภทมีตัวเลือกของ e-Pass ซึ่งก็ง่ายเลยค่ะ ให้ทำการพิมพ์ e-Pass นี้ออกมา และ พกไปด้วย ซึ่งนี่ก็คือ Pass ของเพื่อนๆ นะคะ
8.4). ข้อมูลใดบ้างที่ต้องใช้ในการ ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์
การซื้อ Pass เหล่านี้ ต้องใช้ชื่อ – สกุล ที่ตรงกับหนังสือเดินทางค่ะ ไม่เช่นนั้น จะไม่สามารถใช้บัตรนี้ได้ นอกจากจะเสียค่าปรับ (15%) และค่าธรรมเนียม (7%) ในการทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลค่ะ
8.5). หากเดินทางด้วยรถไฟกลางคืน นี่ถือว่าเป็นการเดินทาง 2 วันไหม หรือ นับจำนวนวันอย่างไร
หากเพื่อนๆ เดินทางด้วยรถไฟกลางคืนแบบตรงจาก A ไป B หลัง 19.00 น. โดยเดินทางถึง B หลัง 04.00 น. จะถือว่าเป็น 1 วันเดินทางคือ นับวันที่เดินทางถึง B แต่หากเดินทางถึง B ก่อน 04.00 น. จะถือว่าใช้ 2 วันเดินทางนะคะ
8.6). หากต้องเดินทางผ่านประเทศที่ Pass ประเภทที่ซื้อไม่ครอบคลุม จะมีปัญหาไหม ต้องทำอย่างไร
ถึงแม้ว่าบัตรโดยสารประเภทที่เพื่อนๆ ซื้อนั้น ครอบคลุมประเทศต้นทางและปลายทาง แต่รถไฟที่เลือก ดันต้องผ่าน ประเทศที่ไม่ได้ครอบคลุมในบัตร แนะนำให้ตอดต่อกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋วที่สถานีรถไฟ เพื่อดำเนินการซื้อตั๋ว (หากจำเป็น) สำหรับช่วงการเดินทางสั้นๆ ที่ Eurail Pass ไม่ครอบคลุมนะคะ
8.7). ซื้อ Eurail Global Pass ที่เดินทางครอบคลุม 31 ประเทศในยุโรปไปเลยไม่ได้เหรอ
ได้ค่ะ เพราะยังไงก็ครอบคลุมทุกประเทศที่เป็นสมาชิกใน European Union (EU) ข้อเสียคือมีราคาสูง หากประเทศที่เพื่อนๆ จะเดินทางไปมีแค่ไม่กี่ประเทศ ซึ่งมีบัตรประเภทนั้นๆ รองรับอยู่แล้ว ในราคาที่ถูกกว่า
8.8). เอกสารที่ใช้ เมื่อถูกตรวจบัตรโดยสารรถไฟ
แนะนำให้เก็บ หนังสือเดินทาง ในที่หยิบจับได้ง่ายนะคะ กรณีถูกตรวจ Pass เจ้าหน้าที่สามารถขอดู หนังสือเดินทาง เพื่อยืนยันว่าเป็นบัตรเราจริงไหม ได้ค่ะ
8.9). ต้องทำการบันทึก รอบการเดินทางทุกรอบ ลงบน Eurail Pass
ต้องมีการลงบันทึกบน Eurail Pass ทุกครั้งที่มีการเดินทาง ลงเวลา วันที่ที่เดินทาง จุดหมาย และ ปลายทาง ด้วยปากกาสีดำหรือน้ำเงิน ห้ามใช้ดินสอหรือปากกาสีอื่นๆ นะคะ หากมีการตรวจ แล้วไม่มีการบันทึก อาจถูกปรับได้ค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
9. วิธีการเลือกซื้อ และ การ ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์ ให้ตรงกับแผนการเดินทางของคุณ
9.1). วิธีการเลือกซื้อ Eurail Pass
ต้องรู้ก่อนว่าจะ
- เดินทางไปประเทศไหนบ้าง และจะเดินทางด้วยรถไฟถี่ไหม
- จำนวนระยะเวลาที่เดินทาง เดินทางต่อเนื่องกันทุกวัน หรือ สลับวัน มีวันที่ไม่ต้องเดินทางด้วยรถไฟไหม
- ทำการบ้านมาบ้าง ว่ามีรถไฟเดินทาง ระหว่างเมืองที่จะไปไหม ซึ่งสามารถตรวจสอบได้กับ Rail Europe ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ และลองทำการคำนวณราคาคร่าวๆ ระหว่าง ตั๋วโดยสารรถไฟรายเที่ยว ที่เรียกว่า Train Ticket กับ บัตรโดยสารรถไฟ ที่เรียกว่า Rail Pass
9.2). วิธีการ ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์ หรือ บัตรโดยสารรถไฟในยุโรป ออนไลน์
1. เข้าเว็บไซต์ของ Rail Europe ที่ลิ้งค์นี้
Rail Europe เป็นเว็บไซต์ที่มีคนใช้งานทั่วโลก เชื่อถือได้ ร่วมงานกับบริษัทรถไฟทั่วยุโรป ทั้งยังใช้งานง่าย มีตัวเลือกเยอะ และ ส่วนลดมากมาย
หากใครต้องการ ตรวจสอบราคาตั๋วรายเที่ยว (Train Ticket) เพื่อเปรียบเทียบกับราคาขอ บัตรโดยสารรถไฟ (Rail Pass) สามารถตรวจสอบได้ที่ลิ้งค์สีส้มค่ะ ซึ่งพอเข้าลิ้งค์ของการซื้อตั๋วแบบ Pass มาแล้ว จะเจอหน้าตาเว็บไซต์แบบนี้ค่ะ

การใช้งานก็ง่าย โดยมีแค่ 3 ขั้นตอนหลักๆ ในการซื้อ และ ใช้งาน Pass เหล่านี้
- เลือกซื้อบัตรให้ตรงประเภทของการเดินทางของเรา (ต้องทำ(ซื้อ)ก่อนเดินทางเข้ายุโรปนะคะ เพราะบัตรเหล่านี้ ไม่มีขายในยุโรป และ ทำการซื้อผ่านระบบอินเตอร์เน็ตในยุโรปไม่ได้)
- พอได้บัตรเรียบร้อยแล้ว ก็ ทำการ สำรองที่นั่ง แบบออนไลน์ ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง เพื่อการันตีที่นั่งหรือนอน (ตามประเภทของรถไฟ)
- ก่อนการใช้งานครั้งแรก ทำการ activate บัตร ที่สถานีรถไฟในยุโรป ที่จะทำการเดินทางด้วยบัตรนี้ครั้งแรก
หลังจากนี้ การใช้งานครั้งต่อไป ก็ทำแค่ข้อ 2 ค่ะ คือ สำรองที่ จะทำออนไลน์ หรือ ที่สถานีรถไฟก็ได้ แต่แนะนำให้ทำการสำรองที่แบบออนไลน์จะดีกว่าค่ะ จะได้มั่นใจว่ามีที่นั่ง และ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ถูก เพราะราคาของตั๋ว ยิ่งซื้อล่วงหน้านานแค่ไหน ก็จะยิ่งได้ราคาที่ถูกมากเท่านั้น
2. คลิ๊ก Use our Pass Finder
เพื่อทำการเริ่มต้นเลือก และ มองหา Pass ที่เหมาะกับเราค่ะ ดังภาพ

3. ใส่ชื่อประเทศที่จะต้องเดินทางด้วยรถไฟ
โดยที่ไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับการเดินทางนะคะ ซึ่งสามารถเลือกใส่ได้ 4 ประเทศ ซึ่งหากเดินทางมากกว่านี้ บัตรที่เหมาะที่สุด คงจะเป็น บัตรโดยสารรถไฟที่ครอบคลุมมากถึง 31 ประเทศ นั่นก็คือ Eurail Global Pass ค่ะ จากนั้น คลิ๊ก SEARCH

4. เลือกบัตรที่เหมาะและคุ้มกับการเดินทางของเรา
ระบบจะทำการหาบัตรทุกชนิดที่เหมาะกับการเดินทางในประเทศเหล่านั้นของเรามาให้ โดยคลิ๊ก SHOW MORE เพื่อดูประเภทบัตรโดยสารรถไฟที่มากขึ้น
5. เลือกประเภทบัตรที่ตรงกับการเดินทางของเรา
5.1). อ่านรายละเอียดของบัตรแต่ละประเภท
ซึ่งชื่อบัตรจะบอกคร่าวๆ อยู่แล้ว ว่าครอบคลุมการเดินทางในประเทศไหนบ้าง ในกรณีที่หยกเลือก เพื่อนๆ จะเห็นว่า Eurail Global Pass และ European East Pass ครอบคลุมทั้ง 3 ประเทศที่หยกเลือกเลย โดยที่ European East Pass มีราคาที่น่าคบกว่า
ส่วนบัตรประเภทอื่นๆ เช่น Austria Pass / Eurail นั้นครอบคลุมเฉพาะการเดินทางใน Austria เท่านั้น เช่นเดียวกับ Czech Republic Pass / Eurail และ Hungary Pass / Eurail ที่ครอบคลุมการเดินทางเฉพาะในประเทศนั้นๆ
ไม่เพียงเท่านั้น หากแพลนการเดินทางของเพื่อนๆ ใน 3 ประเทศนี้ คือ Vienna – Budapest – Prague – Vienna หรือ Vienna – Salzburg – Prague – Vienna แล้วล่ะก็ Central Europe Triangle Pass ก็เหมาะสุดเลยค่ะ


5.2). เลือกประเภทบัตรที่เหมาะกับเรา
ในกรณีนี้ หยกวางแผนเที่ยว 3 ประเทศ คือ Austria, Czech Repulic และ Hungary ซึ่งจะมีการเที่ยวอยู่หลายเมือง European East Pass จึงเหมาะที่สุด ทีนี้มาดูรายละเอียดก่อนดำเนินการซื้อตั๋วกันค่ะ คลิ๊ก MORE DETAILS ในช่องของ European East Pass ซึ่งจะแสดงดังภาพ ที่จะมีรายละเอียดต่างๆ ของบัตรประเภทนี้อธิบายไว้

5.3). เลือกจำนวนผู้เดินทางที่ต้องการซื้อบัตรนี้ ที่ช่อง WHO

5.4). เลือกจำนวนระยะเวลาการเดินทางที่ต้องการ ที่ช่อง WHAT

จำนวนวันของระยะเวลาการเดินทางของยัตรแต่ละประเภทจะแตกต่างกันค่ะ บัตรนี้ กำหนดไว้ 5 วัน ไม่จำเป็นต้องใช้เดินทางทุกวันติดกัน จนครบ 5 วัน แต่สามารถเลือกวันเดินทางได้ โดยบัตรนี้มีอายุ 1 เดือน แต่หากต้องการใช้วันเดินทางที่มากกว่า 5 วัน สามารถเลือกวันเพิ่มได้ที่ Additional days (max 5) ซึ่งเลือกวันเพิ่มได้ไม่เกิน 5 วัน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของการนับวันได้ที่ ข้อ 4)
5.5). ดูตัวเลือกของราคา ที่ View price table

5.6). เงื่อนไขการจองบัตรโดยสาร Terms & Conditions

6. ซื้อ บัตรโดยสารรถไฟ BOOK NOW

6.1). กรอกรายละเอียด เพื่อทำการซื้อบัตรโดยสาร
กรอกรายละเอียด ชื่อ – สกุล ที่ตรงกับ ชื่อ – สกุล บนหนังสือเดินทาง เพราะต้องใช้หนังสือเดินทางในการ activate บัตรโดยสาร จากนั้นคลิ๊ก ADD TO CART

6.2). ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลต่างๆ ตั้งแต่ ประเภทของ Pass, ชื่อ – สกุล, จำนวนวันเดินทางที่เลือก, ประเภทชั้นของการเดินทาง และราคา โดยคลิ๊ก Product Conditions เพื่ออ่านรายละเอียดเงื่อนไขของ บัตรประเภทนี้ อีกครั้ง

6.3). กรอกรายละเอียดต่างๆ เพื่อทำการ ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์
กรอกรายละเอียดให้ถูกต้อง และ ครบถ้วน โดยเฉพาะที่อยู่ ซึ่งกรณีนี้ที่เราไม่สามารถทำการพิมพ์บัตรโดยสารเองได้ (ไม่มีตัวเลือก e-Pass ให้เลือกทำการพิมพ์บัตรโดยสารเอง)

6.4). จำเป็นต้องซื้อ แผนการป้องกันของบัตรโดยสารรถไฟ (Rail Protection Plan) ไหม
Rail Protection Plan ก็คล้ายๆ กับประกันการเดินทางค่ะ ซื้อเพิ่มในราคา 749 บาท ซึ่งมีข้อดี เช่น ได้รับเงินคืนเต็มราคา หากทำการยกเลิก 5 วันก่อนการเดินทาง หรือ มีส่วนลดให้กรณีไปไม่ทันรถไฟ (พลาดขบวนรถ) ที่ได้ทำการสำรองที่ไว้แล้ว หรือ กรณีที่รถไฟหยุดทำการจากการประท้วง หรือ ทำบัตรโดยสารรถไฟหายหรือถูกขโมย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ *Conditions apply, learn more about the Rail Protection Plan. เพื่อรายละเอียดเพิ่มเติมที่ชัดเจนขึ้นค่ะ
แล้วถามว่าจำเป็นต้องซื้อไหม ก็ขึ้นกับความเสี่ยงของแต่ละคนนะคะ เช่น มีแนวโน้มที่ทริปจะยกเลิกไหม, มีแนวโน้มที่ต้องคืนบัตรหรือไม่, มีแนวโน้มว่าจะต่อรถไฟขบวนถัดไป ไม่ทันไหม หรือ ต้องเดินทางในช่วงที่มีเหตุการณ์ประท้วงหรือเปล่า เป็นต้น

6.5). ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
มีค่าดำเนินการซื้อ Pass และ ส่งมาที่อยู่ที่บ้าน ราคา 349 บาท ทั้งน้ี ราคาในส่วนนี้ สามารถแตกต่างกันออกไป ตามประเภทของบัตรนะคะ
6.6). เลือกวิธีการชำระเงิน
สามารถเลือกชำระเงินได้ 2 ทาง คือ บัตรเครดิต และ Paypal ค่ะ จากนั้นคลิ๊ก PROCEED TO PAYMENT เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์ ค่ะ
10. วิธีการสำรองที่ หลังจากมี Pass ในมือแล้ว
หลังจากที่มี Pass ไว้ครอบครองแล้ว ก็สามารถนั่งรถไฟได้ไม่จำกัดเที่ยว ตามระยะเวลาที่เราเลือกซื้อ แต่ก่อนการเดินทาง จะต้องทำการสำรองที่ก่อนนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางด้วย รถไฟความเร็วสูง (high speed train), รถไฟสายทัศนียภาพ (scenic train) และ รถไฟกลางคืน (night train) ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับรถไฟบางประเภท แต่จะมีราคาที่ไม่แพงสำหรับคนที่ถือ Pass ค่ะ ทั้งนี้ รถไฟบางประเภท เช่น ที่เดินทางสั้นๆ และ ไม่ใช่รถไฟ 3 ประเภทข้างต้น ก็ไม่จำเป็นต้องมีการสำรองที่ค่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ข้อ 5
การสำรองที่ มีขั้นตอนดังนี้
1). เข้าลิ้งค์นี้

2). เลือก Book Seat Reservations
สังเกตได้ว่า ที่ช่อง I have a rail pass นั้น มีเครื่องหมายถูกไว้แล้ว (ถ้าไม่มี ก็ให้ใส่เครื่องหมายถูกไว้นะคะ เพื่อบอกว่าเรามี Pass แล้ว ดังภาพ

3). ใส่รายละเอียดการเดินทาง
ต้องการเดินทางเที่ยวเดียว เลือก One-way | ต้องการเดินทางไป-กลับ เลือก Round-trip | ต้องการเดินทางไปหลายเมือง เลือก Multi-City
จากนั้นเลือกวันที่เดินทาง และจำนวนผู้โดยสาร และที่สำคัญที่สุดคือ ใส่ประเภทบัตรโดยสารลงในช่อง Which Pass แล้วคลิ๊ก SEARCH

4). เลือกรอบรถที่ต้องการ
ทำการเลือกรอบรถที่ต้องการ ก็เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการแล้วค่ะ
11. ควรซื้อ Train Ticket หรือ Rail Pass ดี แบบไหนถูกกว่า คุ้มกว่า
พิจารณาซื้อ Rail Pass กรณี
- เดินทางกับเด็ก 2 คน ที่มีอายุระหว่าง 4 – 11 ปี เพราะ ผู้ที่ถือ Pass ประเภทใดก็ได้ 1 ใบ สามารถพาเด็กอายุ 4 – 11 ปี จำนวน 2 คน เดินทางได้ฟรี
- เดินทางกับคนที่อายุระหว่าง 12 – 28 ปี จำนวน 1 คน จะมีส่วนลดในการซื้อตั๋วของคนๆ นี้
- เป็นผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีส่วนลดสำหรับการซื้อ Pass
- เดินทางกันเป็นกลุ่มระหว่าง 2 – 5 คน ถ้าซื้อ Pass กันทั้งกลุ่ม บัตรบางชนิดจะมีส่วนลดให้ประมาณ 15% ค่ะ
- เดินทางกันเป็นกลุ่มใหญ่ 10 คนขึ้นไป ถ้าซื้อ Pass กันทั้งกลุ่ม ก็จะมีโปรโมชั่นพิเศษให้ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เจอ Pass ที่ถูกใจแล้วใช่ไหมล่ะคะ หากเพื่อนๆ มีคำถาม ข้อสงสัย หรือ อยากแค่ทักทาย ก็คอมเม้นต์มาที่ช่องคอมเม้นต์ด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ
สอบถามหน่อยครับ ผมซื้อ Eurail Global Pass แล้ว
จะสอบถามว่าควรจอง Seat Reservation ล่วงหน้านานประมาณเท่าไหร่ดีครับ
และค่า Seat Reservation นี่ยิ่งใกล้วันเดินทางจะยิ่งแพงขึ้นมั๊ยครับ หรือราคาจะคงที่ตลอดเลยครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ คุณ Dummy
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
การจองที่นั่งของ Eurail Global Pass เท่าที่หาข้อมูลตามลิ้งค์นี้แล้ว ราคาแตกต่างกันไปในรถไฟแต่ละประเภท, รถไฟในแต่ละประเทศ และ แต่ละเส้นทางเดินรถ (จุดหมายและปลายทาง) ค่ะ ลองศึกษารายละเอียดในลิ้งค์ดูนะคะ
ทั้งนี้ หากตั้งใจจะจองที่นั่งอยู่แล้ว จองเร็วก็จะดีนะคะ จะได้มีตัวเลือกของที่นั่งมากหน่อยค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ เตรียมตัวให้ดี เดินทางปลอดภัย และ เที่ยวให่้สนุกค่ะ
สวัสดีจร้า คุงหยก
พี่ชือนก นะคะ ไม่เคยเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง มีครั้งนี้ว่าจะลองกันกับเพื่อน 2 คน พี่ไปลงที่ Berlin แล้วว่าจะนั่งรถไฟไป Prague แล้วเที่ยวที่นั้น 1-3 ส.ค ต่อจากนั้น ไป Vienna 4-5 ส.ค. จากนั้นวันที่ 6 เดินทางกลับ Berlin มีประชุม 6-11 อยู่เที่ยวทีเยอรมัน บินกลับ 12 ส.ค ทริป สั้น ๆ จะรบกวนคุงหยก แนะนำการเดินทาง หรือมีสถานที่ ทีควรแวะ ไหมคะ ขอบคุณมากคะ
สวัสดีค่ะ พี่นก
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ และต้องขออภัยที่ตอบล่าช้ามากๆ ค่ะ หยกออกทริปสำรวจเทรคกิ้งที่ Ladakh ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. และพึ่งเทรคจบค่ะ 🙂
การเดินทางท่องเที่ยวในยุโรปนั้นค่อนข้างง่ายและสะดวกมากๆ ค่ะ ด้วยระบบรถไฟทั่วยุโรปที่ตรงเวลา รวดเร็ว มีสถานทีรถไฟอยู่ทุกที่ หยกแนะนำให้ซื้อตั๋วรถไฟแบบ บัตรโดยสาร ที่เรียกว่า Rail Pass (คลิกเพื่อซื้อบัตรได้ค่ะ) ค่ะ จะเป็นบัตรเดียวที่ใช้ขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัด (ไม่ต้องซื้อตั๋วเป็นรายเที่ยว ที่เรียกว่า train ticket) การใช้งานช่วงแรกอาจงงๆ หน่อย เพราะเป็นการใช้งานครั้งแรกของเราค่ะ ซึ่งพอจับจุดได้แล้ว การใช้งานบัตรโดยสารแบบ Rail Pass นั้นจะง่ายและสะดวกมากๆ ค่ะ
ที่ Czech ยังมีเมืองเล็กๆ ที่สวยงามโรแมนติกมากๆ คือ Cesky Krumlov พี่นกต้องหลงรักเมืองนี้แน่ค่ะ อยู่ไม่ไกลจาก Prague ค่ะ พี่นกลองดูนะคะ อาจนอนค้างสักคืน ก่อนไปต่อ Vienna หยกยังไม่เคยเที่ยวที่ Germany (เคยมีไปประชุมที่ Cologne แต่ไม่ได้ไปเที่ยวไหนค่ะ) เลยให้คำแนะนำไม่ได้
เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให้สนุกนะคะ
เดินทาง 12-18 ตุลา ทริป สแกนดิเนเวีย ควรซื้อEurial Global pass 15 วันติด หรือ เลือกวันเดินทาง ควรซื้อ ชั้น 1 หรือ ชั้น 2 ดีคะ รบกวนคุณหยก ช่วยชี้แนะหน่อยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ Cooper
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ และต้องขออภัยที่ตอบล่าช้ามากๆ ค่ะ หยกออกทริปสำรวจเทรคกิ้งที่ Ladakh ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. และพึ่งเทรคจบค่ะ 🙂
การซื้อบัตรเดินทางแบบ Eurail Global Pass นั้น จะคุ้มค่าที่สุด เมื่อเรานับจำนวนครั้งการเดินทางของเรา ตามแผนที่เราวางไว้ ว่าวันไหนจะเดินทางไปไหน มีการเดินทางทั้งหมดกี่รอบ แล้วลองคำนวณเปรียบเทียบดูว่า บัตรแบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากันค่ะ ส่งนเรื่องชั้น 1 หรือ ชั้น 2 นั้น ขึ้นกับงบและความสบายใจในการอยากนั่งรถไฟเที่ยวเลยค่ะ ซึ่งแน่นอนว่า ชั้น 1 นั้น มีราคาสูงกว่ามากๆ โดยทั่วไปหยกเลือกนั่งชั้น 2 ค่ะ ส่วนตัวแล้วเลือกที่จะเก็บตังค์ไปกินไอติม อิอิ หรือเที่ยวอย่างอื่นแทนค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ เตรียมตัวให้ดี เที่ยวให้สนุกนะคะ
ถ้าอยู่ยุโรปตอนนี้ แล้วฝากคนที่ไทยซื้อด้วยชื่อเราเเละเราcode eurailมาใส่ในแอพ rail plannerจะสามารถใช้ได้มั้ยครับ
สวัสดีค่ะ คุณภาคิน
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
ในทางทฤษฎีไม่น่ามีปัญหานะคะ แต่ในทางปฏิบัติ หยกไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่แต่ละท่านจะตรวจสอบเคร่งครัดขนาดไหน จะมีท่านที่ถึงขั้นตรวจสอบหนังสือเดินทาง วันเดินทางเข้า ดูวีซ๋าด้วยไหม เป็นต้น ลองพิจารณาดูนะคะ
เดินทางปลอดภัย และ เที่ยวให้สนุกนะคะ
Eurail global pass ใช้เดินทางลอนดอน-ปารีสได้ไหมค่ะ? และขึ้นที่สถานีไหนได้บ้าง?
แล้วแบบ3 วัน ใน 1 เดือน หมายถึง ถ้าเราใช้จากลอนดอนไปปารีส = 1 ครั้ง, แล้ว ใช้จากปารีสมาลอนดอน = 1 ครั้ง เท่ากับเหลืออีก 1 ครั้ง แบบนี้ถูกไหมค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ Fon
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
Eurail Global Pass ครอบคลุมเส้นทาง London-Paris ค่ะ ใช้เดินทางได้ไม่มีปัญหาค่ะ และสามารถขึ้นที่สถานีรถไฟไหนก็ได้ค่ะที่มีรถออก โดยแนะนำให้ทำการจองตั๋วในเที่ยวและวันที่จะเดินทางก่อน โดยเลือกวันที่จะเดินทางเพื่อทำการจองได้ ที่นี่ เลยค่ะ โดยทำตามข้อ 10 ข้อย่อย 2 ในรีวิวนี้นะคะ เพื่อที่จะได้ทำการจองที่ และ ทราบเวลารถออกและสถานีที่ออกค่ะ
ส่วนการใช้งาน หากเลือกแบบ 3 days within 1 month จะหมายถึงว่า สามารถเดินทางได้ไม่จำกัดครั้ง ได้ในระยะเวลา 3 วัน วันใดก็ได้ ภายใน 30 วันหลังจากที่ activate บัตรค่ะ เช่น ทำการ activate บัตรและใช้บัตรครั้งแรกวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา (บัตรนี้จะมีอายุถึง 30 ธันวาคม) ซึ่งในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ยังสามารถเดินทางไปไหนมาไหนใน 32 ประเทศที่บัตรครอบคลุม แบบไม่จำกัดครั้ง จากนั้นวางแผนจะเดินทางด้วยบัตรใบนี้ในวันที่ 10 และ 21 ธันวาคม (หรือวันใดก็ได้ อีก 2 วัน ก่อนบัตรหมดอายุ)
หวังว่าจะช่วยไขข้อข้องใจนะคะ 🙂 วางแผนดีๆ เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให้สนุกค่ะ
หลังจากทำการจองแล้ว ตั๋วจะถูกส่งมาหลังจากนั้นประมาณกี่วันครับ
สวัสดีค่ะ คุณ Jacob
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 กรณีที่เค้าจะส่งตั๋วมาที่บ้าน (Physical deliver ประเภท paper ticket) ก่อนถึงขั้นตอนการชำระเงินนั้น เค้าจะบอกระยะเวลาคร่าวๆ ที่จะใช้เวลาส่งตั๋วมาตามจุดหมายปลายทางที่เราระบุไว้ค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้ว จะระบุไว้ 3-5 วันทำการ (ไม่รวมวันหยุดประเทศเรา วันหยุดประเทศเค้า และเสาร์อาทิตย์) แต่ทั้งนี้ ต้องมีคนรอรับเพื่อเซ็นต์เอกสารที่บ้านด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้น ก็จะเกิดความล่าช้าได้ค่ะ แต่เพื่อความมั่นใจแล้ว หยกแนะนำให้เผื่อเวลาเยอะๆ อย่างน้อยๆ 2 สัปดาห์ก่อนการเดินทาง จะสบายใจกว่าค่ะ เผื่อกรณีฉุกเฉินใดๆ ในการส่งเอกสารต่างแดน
เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให้สนุกนะคะ 🙂
สวัสดีค่าน้อวหยก
ถ้าเราซื้อ Eurail pass online แล้ว เราจะได้ pass จากทางไหนคะ เค้าจะส่ง ไปรษณีย์มา หรือ ให้เรา print ได้เองคะ
สวัสดีค่ะ คุณ Nok
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 เค้าจะส่งมาให้เราตามที่อยู่ที่เราให้ไปค่ะ เพราะบัตรมีลักษณะเป็นคล้ายๆ เล่ม ขนาดประมาณตั๋วรถไฟ และมีหลายหน้าค่ะ ดังนั้นแล้ว เขียนที่อยู่ให้ชัดเจน และเผื่อเวลาในการจัดส่งด้วยนะคะ
ปล. ต้องขอโทษที่ตอบล่าช้านะคะ หยกกำลังเทรคกิ้งที่สโลเวเนีย วันนี้วันพัก เลยเพิ่งมีอินเตอร์เน็ตค่ะ