
ไปเที่ยวอิตาลี ทำไมต้องไป ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ? ก็ทะเลสาบนี้ ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในอิตาลีน่ะสิ ขึ้นชื่อว่า สวยที่สุดขนาดนี้ ก็ต้องมาพิสูจน์กันหน่อยละค่ะ ว่าจะสมคำร่ำลือไหม
โดยบทความต่อไปนี้ จะมีข้อมูลตามหัวขอด้านล่างนี้นะคะ
- มาทำความรู้จัก ทะเลสาบโคโม่ กันก่อนดีกว่าเนอะ
- เดินทางไป ทะเลสาบโคโม่ จาก มิลาน อย่างไร
- ทะเลสาบโคโม่ ไม่ใช่เล็กๆ จะเดินทางไปเมืองอื่นๆ ยังไง
- ทำอะไรดีที่ ทะเลสาบโคโม่
หากใครต้องการจองตั๋วรถไฟเดินทางภายในยุโรป ก็อ่านที่นี่เลยค่ะ วิธีการจองตั๋วรถไฟเดินทางในยุโรป และสามารถจองผ่าน Rail Europe ได้เลยค่ะ
ไม่เพียงเท่านั้น หากใครวางแผนเที่ยวยุโรป และเที่ยวนานหน่อย ไปหลายประเทศ แล้วต้องการจะซื้อ Eurail Pass แต่งง ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าบัตรนี้ใช้งานยังไง ซื้อยังไง จะคุ้มไหม ครอบคลุมประเทศไหนบ้าง และอื่นๆ ที่ควรรู้ หยกได้ทำ How to แสดงวิธีการเลือกซื้อ Eurail Pass ให้ตรงกับการใช้งานของเพื่อนๆ และขั้นตอนการซื้อ ที่ลิ้งค์นี้ How to ซื้อ Eurail Pass ออนไลน์ ก็ไอ้เจ้าบัตรนี้ ต้องซื้อก่อนการเดินทางเข้ายุโรปด้วยนะสิ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
1. มาทำความรู้จัก ทะเลสาบโคโม่ กันก่อนดีกว่าเนอะ
ทะเลสาบโคโม่ ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในอิตาลี และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลี (Italy) อยู่ใน จังหวัดโคโม่ (Province of Como) แคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardy) มีความยาวโดยรอบ 160 กิโลเมตร มีพื้นที่ 146 ตารางกิโลเมตร และสามารถเห็นวิวธรรมชาติอันสวยงาม ของเทือกเขาแอลป์ ที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี และยังมีกิจกรรมลุยๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ทำหลายอย่างเชียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ไฮกิ้ง ไต่เขา เล่นสกี และพายเรือแคนู ทั้งการเดินทาง ที่มาได้ง่าย และมีหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นทางรถ รถไฟ หรือเรือ

ความเดิมตอนที่แล้ว
เที่ยวอิตาลี ไปไหนดี ? ยังคงเป็นคำถามยอดฮิตของทุกคน ก็อิตาลีใหญ่ซะขนาดนั้น ที่สำคัญคือ แพลนทริปเที่ยวอิตาลียังไงให้ถูก คลิ๊กที่ตัวหนังสือสีส้มๆ ได้เลยค่ะ แล้วไปดูกันว่า เที่ยวอิตาลี ครั้งนี้ หยกไปไหนบ้าง รับรองว่าจะเป็นการเที่ยวอิตาลีในแบบที่ไม่ซ้ำใคร ถูก และสนุกมากด้วย เดี๋ยวค่าใช้จ่ายจะทำมาอัพเดทให้ดูนะคะ รอก่อนน้า
แต่ตอนนี้มาผจญภัยภัยกันก่อนดีกว่าค่ะ มีตัวเลือกให้ทำมากมายที่ ทะเลสาบโคโม่ เลย แต่ถ้าจะไปตามสไตล์สนุกเที่ยวล่ะก็ หยกรีวิวอย่างละเอียดที่ด้านล่าง แทรกระหว่างเรื่องเล่าฮาๆ ตลอดทริป ทั้งสนุก ทั้งไปตามได้สบายๆ เลย
รู้ไหมว่า
ชื่อ โคโม่ จากชื่อ ทะเลสาบโคโม่ นั้น เป็นชื่อเดียวกับ ชื่อเมืองโคโม่ (Como) ซึ่งเป็นเมืองๆ หนึ่งที่อยู่ใน ทะเลสาบโคโม่ และชื่อของ ทะเลสาบโคโม่ ที่หลายคนอาจเรียกสั้นๆ ว่า โคโม่ ซึ่งจริงๆ ควรจะเรียกว่า เลคโคโม่ ซะมากกว่า ซึ่งที่รอบๆ ทะเลสาบโคโม่ นั้น มีเมืองและหมู่บ้านอยู่มากมายเลยค่ะ ดังนั้น ใช้ให้ถูก ว่าคุณจะไป เมืองโคโม่ หรือ เมืองไหนใน ทะเลสาบโคโม่ กันแน่ นะคะ
หยกเลือกที่จะพักที่เมือง Menaggio ทำไมน่ะเหรอ อืมม ไม่มีเหตุผลจริงจังหรอกค่ะ แค่เจอที่พักที่ถูก Lake Como Hostel คืนละ 20 ยูโร (800 กว่าบาทเอง) ได้คะแนนรีวิวสูง ทำเลดี ใกล้ป้ายรถเมล์ แถมวิวดีอีกต่างหาก (ไม่เชื่อก็คลิ๊กลิ้งค์ตัวหนังสือสีส้มดูได้เลยค่ะ) แล้วก็เหลือแค่ 2 เตียงเท่านั้น เลยกดจองไปแบบไม่รู้ตัว ซึ่งประทับใจโฮลเทลนี้มาก แนะนำเลยค่ะ

2. เดินทางไป ทะเลสาบโคโม่ จาก มิลาน อย่างไร
หยกบินไปลงที่ มิลาน ค่ะ และเดินทางไป ทะเลสาบโคโม่ ด้วยรถไฟจากสถานี Milano Centrale ไปลงที่สถานี Como San Giovanni (บางครั้งอาจเขียน Como S. Giovanni) แค่ 36 นาที ก็ถึงแล้ว ตั๋วรถไฟราคา 4.8 ยูโร ค่ะ ซึ่งสถานีรถไฟ Como San Giovanni นั้น อยู่ในเมืองโคโม่นะคะ
ทริคประหยัด
1. ก่อนซื้อตั๋ว โปรดตรวจสอบระยะเวลาการเดินทาง, เดินทางตรงหรือต้องไปเปลี่ยนรถ (อาจใช้คำว่า transfer หรือ stop) ที่กลางทาง หยกเลือกเดินทางตรงทีเดียว ใช้เวลาแค่ 36 นาทีก็ถึงแล้ว แต่มีรถไฟขบวนอื่นๆ ที่อาจใช้เวลา 46 นาที, 52 นาที หรือ เป็นชั่วโมง เพราะเราต้องลงไปเปลี่ยนรถไฟที่บางเมือง
2. ควรซื้อตั๋วรถไฟออนไลน์ล่วงหน้าไปนะคะ ตัวหนังสือสีส้มๆ นั้น คือลิ้งค์ที่หยกซื้อตั๋วค่ะ เพราะราคาจะถูกกว่าไปซื้อที่สถานีรถไฟมากกว่าเยอะเลยค่ะ
3. ทะเลสาบโคโม่ ไม่ใช่เล็กๆ จะเดินทางไปเมืองอื่นๆ ยังไง

การเดินทางไปเมืองอื่นๆ ใน ทะเลสาบโคโม่ นั้น สามารถเดินทางด้วยรถเมล์ค่ะ โดยที่หน้าสถานีรถไฟ Como San Giovanni จะเป็นป้ายรถเมล์ มีป้ายบอกว่ามีสายไหน ไปไหนบ้าง และแต่ละสายออกกี่โมง บอกไว้อย่างชัดเจน หยกต้องไปเมือง Menaggio ก็ต้องนั่งรถเมล์สาย C10 ซึ่งสายนี้ผ่านทางด้านซ้ายของ ทะเลสาบโคโม่ เกือบทั้งแถบเลยค่ะ โดยใช้เวลาประมาณ 1.20 ชั่วโมงก็ถึงเมือง Menaggio แล้ว

ทริคประหยัด
สามารถซื้อตั๋วรถเมล์ได้ที่ ร้านกาแฟตรงป้ายรถเมล์ ราคา 4.8 ยูโร และควรซื้อขากลับด้วยนะคะ เพราะราคาจะถูกกว่าไปซื้อบนรถเมล์ค่ะ ซึ่งราคา 5.4 ยูโร กรณีวางแผนไว้แล้วว่า ต้องเดินทางด้วยรถเมล์เพื่อท่องเที่ยวใน ทะเลสาบโคโม่ ก็ควรซื้อตั๋วล่วงหน้าไปเลยค่ะ (เก็บดีๆ ล่ะ) ไม่เช่นนั้นก็ค่อยไปถามกับที่พักในเมืองที่เราอยู่ ว่าสามารถซื้อตั๋วรถเมล์ได้ที่ไหน จะได้ไม่ต้องไปซื้อแพงๆ บนรถเมล์
ทริค
หากไม่ทราบว่าตัวเองต้องนั่งรถสายไหน ก็สามารถบอกชื่อปลายทางที่คุณจะไปนั่น กับจุดขายตั๋วเลยค่ะ
ทริค
คุณไม่มีทางรู้ได้ว่าป้ายหน้าคือป้ายอะไร และป้ายไหนคือป้ายที่จะลง เพราะบนรถเมล์ไม่ได้มีป้ายบอกชื่อแต่ละสถานีที่ผ่าน ดังนั้น บอกพี่คนขับไว้ว่าคุณจะลงที่ไหน เพื่อให้เค้าเรียก เมื่อถึงแล้ว ยังไม่พอค่ะ พยายามอยู่ใกล้พี่คนขับไว้ แล้วมองอยู่เป็นระยะๆ
4. ทำอะไรดีที่ ทะเลสาบโคโม่
ทะเลสาบโคโม่ มันใหญ่มาก หากมีเวลาไม่นาน แนะนำให้ล่องเรือชมวิวค่ะ จากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง นอกจากจะได้เดินเล่นชมเมืองของทั้งเมืองต้นทางและเมืองปลายทางแล้ว ยังได้ชมวิว 360 องศา ตอนอยู่บนเรือด้วย ควรตรวจสอบอากาศ และเวลาเรือออกดีๆ ก่อนซื้อตั๋วเรือด้วยนะคะ
หรือ พายเรือคายัคใน ทะเลสาบโคโม่ ตอนที่อยู่โฮลเทล มีคนถามว่า “มีแพลนไปไหนหรือยัง ไปพายเรือแคนูกันไหม 5 ชั่วโมง?” เอ่อ..คือยังไม่เคยพายแคนู แต่ก็น่าจะคล้ายๆ คายัคมั้ง
ตอนแรกก็วางแผนว่าจะนั่งเรือชมวิวค่ะ แต่น้องไข่แย้งว่า “เจ้ นั่งเรือมันแพงนะ ไปทำอะไรที่เห็นวิวเหมือนกัน แล้วถูกกว่าดีมะ” ไปดูกันว่าสองศรีพี่น้องจะทำอะไรใน ทะเลสาบอันกว้างใหญ่นี้
4.1) เดินเล่นรอบๆ เมือง Menaggio

เมืองเล็กๆ น่ารักๆ สามารถเดินเล่นชมวิวรอบๆ ทะเลสาบโคโม่ ที่ยาวประมาณ 400-500 เมตร เห็นเป็ดตัวอ้วนๆ มากมาย, เห็นคนจูงสุนัขมาเดินเล่น ที่มีหลากหลายสายพันธุ์มาก ดูแล้วก็เพลินเชียวค่ะ นึกว่าหลุดมาอยู่ในงานโชว์ตัวสุนัขยังงั้นเลย, เห็นต้นไม้หน้าตาแปลกๆ และดอกไม้หลากสี และยังไปเดินเล่นชมเมืองต่อ ลัดเลาะไปตามซอกตามลืบ ชมตึกราบ้านช่อง เสร็จแล้วก็หาร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือร้านไอศกรีม นั่งชิวๆ ชมวิว ทะเลสาบโคโม่ ที่เห็นวิวของภูเขาหิมะด้วย



ทริค
โดยที่พักส่วนใหญ่ จะมีแผนที่เมืองนั้นๆ ไว้ให้บริการ จึงสามารถถามทาง ขอคำแนะนำว่าไปไหนดี และขอแผนที่ได้ค่ะ
มาที่อิตาลี ก็ต้องกินพิซซ่า แต่ถ้ามา ทะเลสาบโคโม่ ที่อิตาลี ก็ต้องกินพิซซ่า และก็ ปลาโคโม่ ค่ะ จริงๆ คือจำชื่อปลาไม่ได้ น่าจะเป็น whitefish นะคะ ปลาตัวอ้วนยาว เนื้อหนามาก หอมกลิ่นควันเบาๆ อร่อยเชียวแหละ แต่มีก้างที่เล็ก บาง นิ่ม และยาว พอแกะเนื้อออกนะ ก้างนี่กระเด้งเชียว เลยกินง่ายค่ะ ไม่ได้มีอยู่ทุกซอกของเนื้อปลา ส่วนพิซซ่านั้นก็อร่อยอยู่แล้ว


ทริค
พิซซ่าที่นี่ เป็นแบบบางกรอบ เค้าจะไม่เสริ์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศเหมือนที่บ้านเรานะคะ และเค้าจะกินกันด้วยมือ หากใครกลัวว่าพิซซ่าที่สั่งมาจะไม่ถูกปาก ลองเลือกพิซซ่าที่เค้าใส่ ซอสพิซซ่าที่ทำมาจากมะเขือเทศ (Tomato sauce) ดูนะคะ ส่วนที่หยกชอบกินก็จะใส่ Spicy Salami ค่ะ
4.2) ไฮกิ้งไป Rifugio Menaggio เพื่อชมวิวในมุมสูงที่สวยขึ้นๆ ของ ทะเลสาบโคโม่
ทำไมมา ทะเลสาบโคโม่ แล้วต้องไปไฮกิ้งที่นี่? ก็ลองกูเกิ้ลรูปภาพของ Rifugio Menaggio ดูสิคะ เห็นรูปปุ๊ป รู้แค่อย่างเดียวว่า ต้องไปให้ได้ อีกทั้ง trail ไป Rifugio Menaggio เป็นระดับง่ายค่ะ เดินไม่นาน แค่ 1.45 ชั่วโมง ก็ถึงแล้ว ส่วนขาลงหยกใช้เวลาแค่ 1.20 ชั่วโมงเองค่ะ ตามไปไฮกิ้งด้วยกันค่ะ
ไฮกิ้งขึ้น Rifugio Menaggio เริ่มเดินตรงไหนใน ทะเลสาบโคโม่ ?

จุดเริ่มเดินอยู่ที่ Breglia ค่ะ แต่หยกพักอยู่ Menaggio จึงต้องนั่งรถเมล์สาย C13 ราคาตั๋ว 1.8 ยูโร ประมาณ 30 นาทีก็ถึงค่ะ โดยลงรถเมล์ปุ๊ป ข้ามถนนตรงนั้นเลย แล้วก็คือจุดเริ่มเดินขึ้นไป Rifugio Menaggio แล้วค่ะ คืออะไรจะหาง่ายขนาดนี้

ทริคประหยัด
ซื้อตั๋วรถเมล์ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว จะถูกกว่าซื้อตั๋วบนรถเมล์ครึ่งหนึ่งเลยนะ ดังนั้น ควรซื้อทั้งขาไป และขากลับเลยค่ะ สามารถสอบถามกับทางที่พักที่คุณพักในเมืองนั้นๆ ว่าคุณสามารถซื้อตั๋วรถเมล์ที่ไหนได้บ้าง

ทริค
เช็คเวลารถออก และ รถขากลับ ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว หรือที่โรงแรม หรือ โฮลเทลที่คุณพักอีกทีนะคะ ซึ่งที่นี่เค้าจะมีหนังสือตารางรถเมล์เป็นเล่มโตๆ เลยค่ะ มีตารางรถเมล์ครบทุกสาย เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดรถรอบสุดท้ายตอนขากลับ และจะได้วางแผนเวลาถูก โดยไม่ต้องเสียเวลารอรถนาน โดยไม่จำเป็น
ตรงจุดเริ่มเดิน จะมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจนว่าไป Rifugio Menaggio โดยทางเดินช่วงแรกเป็นถนนที่ลาดชันขึ้น วนขึ้นเขาไปเรื่อยๆ มีสัญลักษณ์ trail อยู่ตลอดทาง ด้วยแถบสีแดง-ขาว-แดง หรือ บางครั้งเป็น ขาว-แดง แถมยังมีป้ายบอกทางอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะตรงบริเวณทางแยก ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าจะเดินหลุด trail

อย่างที่บอกไปแล้วว่าทริปนี้ หยกมีเพื่อนร่วมลุย ซึ่งก็คือน้องไข่มุก น้องสาวที่คลานตามกันมา ร่วมทริปด้วย เธอเรียนยุ่งมาก จึงบอกหยกว่า “เจ้ แพลนทริปไปเลยนะ ยุ่งมาก เดี๋ยวตามไปอย่างเดียว” “โอเค… เจ้จัดให้ 555+” ซึ่งหยกพึ่งมารู้ทีหลังว่าเธอไปบ่นกับป๊าม้าว่า “ดู! เจ้มันแพลนทริปสิ ไฮกิ้งมันซะทุกวันเลย น้องไข่จะรอดไหมเนี่ย!” แฮ่ๆๆ ก็นะ ให้เค้าแพลนทริปเอง ยิ่งช่วงนี้กำลังบ้าไฮกิ้งอยู่ซะด้วย

trail ช่วงแรกเป็นถนน ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีอะไรน่ารื่นเริง บันเทิงใจเท่าใดนัก แถมทางที่ลาดชันซะอะไรเบอร์นั้น แต่จริงๆ แล้ว หันหลังกลับสิค่ะ จะเห็นบ้านคน หลังคาส้มๆ เป็นกระจุกๆ ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าๆ ที่กว้างไกล ทะเลสาบโคโม่ สีน้ำเงินเข้มๆ ที่หาจุดสิ้นสุดไม่เจอ และยังมีต้นไม้เขียวๆ สองข้างทาง สวยดีๆ หยุดดูนานจนลืมเดินต่อเลยค่ะ


หลังจากเดินตามถนนไปได้สัก 30 นาที
ก็จะเจอ trail ที่ต้องเดินเข้าไปในป่าค่ะ โดยจะมีป้ายบอก Rifugio Menaggio อย่างชัดเจน ซึ่งจะเดินอีกประมาณ 15-20 นาที แล้วก็จะต้องเดินไปตามถนน อีกประมาณ 5 นาที ส่วนตัวชอบเดินในป่าแบบนี้มากกว่าเดินตามถนนค่ะ ความลั้นล้าจึงมีมากขึ้น เดินไป ก็ถอดเสื้อหนาวไป เริ่มร้อนขึ้นมาทันที



ต่อ trail ตรงนี้นะ ความสนุกจริงๆ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

สักพักที่ด้านซ้ายมือ คุณจะเจอจุดเติมน้ำดื่ม คือจริงๆ ดูไม่ออกหรอกค่ะว่ามันคือ น้ำเอาไว้ดื่ม ดูๆ แล้วเหมือนน้ำทิ้งมาจากที่ไหนสักแห่งมากกว่า 555+ โดยจุดนี้เป็นเสมือนสวนเล็กๆ เหมือนเคยมีโต๊ะตั้งอยู่ค่ะ น่าจะเป็นจุดไว้พัก ไว้ปิกนิกก่อนไปต่อ หากพร้อมแล้วก็ไปต่อค่ะ โดย trail จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดเติมน้ำดื่มนี้ ตรงทางลาดขึ้นเข้าป่า ลองๆ มองดูนะคะ แต่หาไม่ยากค่ะ เพราะคุณจะเห็นป้ายบอกทาง Rifugio Menaggio พร้อมกับสัญลักษณ์แถบสีตรงทางเข้าค่ะ ดังนั้น เติมน้ำดื่ม แล้วก็ไปต่อเลยค่ะ อย่าลืมจิบน้ำบ่อยๆ ตลอด trail นะคะ


สักพักพอเริ่มเข้าป่า ดูเหมือนว่าหยกจะตื่นเต้นคนเดียว ไข่มุกแบบ “อือๆ เดินไปๆ” หยกวิ่งๆ เดินๆ หยุดรอน้องเป็นพักๆ ยอมรับค่ะว่าจริงๆ แล้ว หยกเอาเปรียบน้องมาก เพราะตัวหยกเองนั่นออกกำลังกาย ฟิตร่างกายมา สำหรับไฮกิ้งโดยเฉพาะ (ฟิตร่างกายก่อนมาอิตาลีประมาณ 2 อาทิตย์) แต่ไข่มุกสิ มีแต่เรียน กับอ่านหนังสือ แถมนอนน้อยอีกต่างหาก (เจ้ขอโทษ ทันไหมเนี่ย 555+)


แล้วก็เจอป้ายบอกทาง Rifugio Menaggio 0.50 หยกจึงตะโกนบอกน้องไข่ “ไข่มุก อีก 500 เมตรเอง” แต่เดินมาสักประมาณ 20 นาที ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะถึง เลยหันไปบอกใหม่ “สงสัยจะเป็น 500 เมตรแม้วมั้งเนี่ย” แล้วก็มองเห็นป้ายบอกทาง Rifugio Menaggio 0.20 ประกอบกับมองเห็น Rifugio Menaggio อยู่ไกลลิบๆ “เจ้ว่า 200 เมตรแม้วอีกแหงเลย”


ข้อควรรู้
จริงๆ ตัวเลขที่ป้ายบอกทางนั้น มีหน่วยนะคะ แต่หน่วยเป็นเวลาคือ “ชั่วโมง” ไม่ใช่เป็นระยะทางอย่างที่หยกเข้าใจ 555+ กว่าจะรู้ก็เมื่อตอนขาลงตอนกลับแล้ว แหมๆๆ อุตส่าห์บ่นไปว่าป้ายผิดๆ ที่ไหนได้ ปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเร่อเลย

อย่าเดินเพลินจนลืมมองวิวนะคะ เพราะวิว trail นี้มันอยู่ด้านหลังเราค่ะ หยุดพักแล้วหันหลังชมวิวบ้าง เพราะยิ่งเดินสูงขึ้นๆ วิวรอบๆ ตัวก็ยิ่งสวยมากขึ้นๆ ทะเลสาบโคโม่ ก็กว้างขึ้นๆ ทางเดินก็เริ่มสนุก และน่าเดินมากขึ้น คือไม่ต้องเดินตามถนนแล้ว เป็น trail ในป่าตลอดๆ trail ใหญ่เชียวค่ะ ทางคดโค้งบ้าง ลาดเอียงขึ้น ชันขึ้นนิดหน่อย แต่ก็เดินง่ายค่ะ


มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
ที่บอกว่าเดินวนสูงขึ้นเรื่อยๆ นั้น สูงขึ้นแบบไหน
Breglia ที่เป็นจุดเริ่มเดินนั้น สูง 749 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ส่วน Rifugio Menaggio นั้น สูง 1383 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลค่ะ ก็เดินขึ้นภายใน 1.45 ชั่วโมง ก็สูงขึ้นเร็วเชียวแหละคะ แต่ที่ระดับสูงขนาดนี้ ร่างกายจะยังโอเคค่ะ ยังไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความดันอากาศอะไรเทือกนั้น
สักพักจะมีบางช่วงที่ทางเดินเล็กๆ แคบๆ ประมาณว่าเดินสวนกันที นี้ต้องค่อยๆ เดิน หรือทางบางเส้นอาจต้องหยุด เพื่อปล่อยทางให้อีกฝ่ายเดินผ่าน แต่ทางเดินที่แคบๆ แบบนี้ มักจะมีเชือกหรือโซ่ไว้ให้เราจับเพื่อเดินค่ะ

ทางเดินช่วงท้ายๆ ซึ่งบ่งบอกว่าใกล้ถึงแล้วนั้น จะเป็นทางเดินแคบๆ ที่ด้านขวาเป็นภูเขา ส่วนด้านซ้ายเป็นทางลาดชันลงไป ประมาณว่า ก้าวพลาดนี้คือกลิ้งตกเขาแน่ ล้อเล่นนะคะ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น เพราะทางเดินไม่ได้แคบมากมายอะไร สามารถเดินสวนกันได้ แต่เพิ่มความระมัดระวังขึ้นมาเท่านั้นเองค่ะ และก็อย่างที่บอกคือ เค้ามีโซ่ให้จับเดินค่ะ

ก่อนมาวางแผนกันว่าจะมาซื้อเสบียงที่ Breglia ก่อนเริ่มเดิน แต่ไม่รู้ว่า เป็นเพราะจุดที่เราลงรถใน Breglia นั้นหรือเปล่า ที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากบ้านคน ที่จอดรถ สุสาน และสนามเด็กเล่น หืม ดีนะที่พกแอปเปิ้ลมา 2 ลูก และก็ดีไปอีกที่น้องไข่แอบพกช็อคโกแลตบาร์ และมันฝรั่งแผ่นถุงเล็กๆ มาด้วย เลยกะกันว่าจะดูว่าด้านบน Rifugio Menaggio นั่นมีอะไรขายไหม


ปรากฏว่าที่ Rifugio Menaggio ไม่มีอะไรขายเลยค่ะ นอกจาก จุดเติมน้ำดื่ม ที่นั่ง และจุดชมวิว แป่วว จึงนั่งพักชมวิว กินแอปเปิ้ลกันค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม
สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ (ขวด)น้ำดื่ม และ เสบียง โดยที่ trail นี้ มีจุดน้ำดื่มให้เติม 2 จุด (เท่าที่หยกทราบนะคะ) คือ กลางๆ ทาง กับที่ Rifugio Menaggio ค่ะ ที่ด้านบน Rifugio Menaggio นั้นอาจมีการขายอาหาร เพราะมีที่พักค่ะ แต่ขึ้นกับฤดูกาล คงต้องหาข้อมูลในช่วงที่จะไปกันอีกที ว่าเค้าเปิดขายของไหม

พลังหยกยังคงล้นเหลือ โชคดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่ไม่รู้สึกหิวเลย ยังคงตื่นเต้นกับการไฮกิ้ง กับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ส่วนน้องไข่นั้น ก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร แต่ดูเหมือนเธอไม่ค่อยอินกับ trail นี้เท่าไหร่ จะว่า jet lag ก็คงไม่ใช่ เพราะเธอบินมาจากเยอรมัน

สองศรีพี่น้องใช้เวลา 2 ชั่วโมง ในการเดินมาถึง Rifugio Menaggio คือพึ่งจะเที่ยงเอง กว่าจะมืดก็ 3 ทุ่ม ยังมี trail ไป Monte Grona ต่อ โดยป้ายบอก 1.00 (ซึ่งตอนนั้นยังเข้าใจว่า ระยะทางจากจุดนี้แค่ 1 กิโลเมตร อยู่เลยค่ะ)

หยก: น้องไข่ ไป Monte Grona ต่อไหม แค่โลเดียวเอง จิ๊บๆ
ไข่มุก: หือ ไปเหอะ ไม่ได้เหนื่อยนะ แต่ขอเก็บแรงไว้วันอื่นดีกว่า นี่พึ่งจะเริ่มต้นทริปเอง (แถมด้วยตาขวางๆ) งานเยอะมาก โดดเรียนมา จำได้มะ ดีนะเนี่ยที่เซฟงานเป็น PDF มาด้วย เดี๋ยวนั่งอ่านหนังสือรอที่นี่แหละ
หยก: เครๆ งั้นเดี๋ยวมานะ
ไข่มุก: จ้า เดินดีๆละ ระวังลื่น ระวังล้ม
หยก: จ้าาาาา (คุณแม่ 555+)

4.3) ไฮกิ้งเกือบตาย พิชิต Monte Grona
โปรดติดตามตอนต่อไป ครั้งแรกของการไฮกิ้ง กึ่งๆ ปีนเขา พิชิต Monte Grona ไอ้ 1 กิโลเมตร ที่บอกน้องไข่ไปนั้น คือหายไปเกือบ 3 ชั่วโมง กังวลว่าน้องจะเป็นห่วงก็กังวล กลัวว่าตัวเองจะเอาชีวิตไม่รอดก็กลัว น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ รออ่านด้วยนะคะ ว่า 3 ชั่วโมงที่หายไปนั้น จะได้แผล หกล้ม ก้นคะมำ หรือลื่นตกเขาไหม แล้วน้องไข่ที่เป็นห่วงพี่สาวที่หายไปหลายชั่วโมงใน trail ที่เธอคิดว่าไกลแค่ 1 กิโลเมตรเองนั้น เธอจะมีกลยุทธ์อะไรในการค้นหาพี่สาวที่หายไปนานหลายชั่วโมง ในเมื่อโทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณ อินเตอร์เนตก็แหงละ ไม่มี แล้วป๊าม้าที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้จะใจหายใจคว่ำ กล้าอ่านตอนต่อไปไหม ก็คงจะกล้าอ่ะนะ แต่หยกสิ คงโดยห้ามในการไฮกิ้งทริปต่อๆ ไป แหงเลย โพสต์หน้าเป็นโพสต์พลีชีพเลยนะเนี่ย
ตอนต่อไปมาแล้ว มาลุ้นการ “ไฮกลิ้ง” ครั้งแรกของหยก ที่เกือบจะกลิ้งตกเขา พร้อมทั้งข้อมูลเพิ่มเติมที่ถูกถามไถ่กันมามากมายว่า ไฮกิ้งคืออะไร? ต่างจากเทรคกิ้งยังไง? พร้อมเคล็ดลับการกำจัดความกลัวระหว่างการไฮกิ้ง ก็คลิ๊กอ่านได้ที่ตัวหนังสือสีส้มตรงนี้เลยค่ะ

หากใครต้องการจองตั๋วรถไฟเดินทางภายในยุโรป ก็อ่านที่นี่เลยค่ะ วิธีการจองตั๋วรถไฟเดินทางในยุโรป และสามารถจองผ่าน Rail Europe ได้เลยค่ะ
หวังว่านี่จะเป็นอีกทางเลือกในการไปเที่ยวอิตาลี นอกจากการเดินชมเมือง เข้าโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ และช้อปปิ้ง แบ่งเวลาไปสัมผัสธรรมชาติอันสวยงาม ที่ Cinque Terre และอาหารประจำชาติดูนะคะ หากมีข้อแนะนำ ข้อสงสัยใดๆ ก็เช่นเคยค่ะ คอมเม้นท์ที่ด้านล่างนี้เลย
ทั้งนี้เพื่อนๆชาวสนุกเที่ยวยังสามารถเลือกอ่าน ข้อมูลการท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว ที่แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ชัดเจน ตามจังหวัดและประเทศ ที่ลิ้งค์สีส้มตรงนี้เลยค่ะ