
ทะเลไทยสวยที่สุด หลายๆ คนว่ากันเช่นนั้น หยกคนนึงล่ะคะ ที่เห็นด้วยมากๆ อารมณ์ไหนก็ไปทะเลได้ แต่การไปทะเลครั้งนี้ หยกหนีร้อน และ ไปเอามันส์ค่ะ โดย เกาะสวรรค์ ที่หยกจะเล่าให้ฟังในวันนี้ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก แต่นั่น ไม่ได้บ่งบอกว่า ทะเลที่นี่ไม่สวย เลยไม่มีคนมาเที่ยวนะคะ เพราะจริงๆ แล้ว ทะเลที่นี่สวย และ สมบูรณ์มาก หากใครรู้จัก เกาะหลีเป๊ะ ก็ต้องเคยได้ยินชื่อเกาะนี้ เกาะตะรุเตา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ที่ได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดี
เกาะตะรุเตา เหมาะกับคนรักธรรมชาติ ความสงบ ชอบฟังเสียงคลื่น เสียงลม เสียงนกเสียงไม้ ชิวๆ ไม่ชอบความวุ่นวาย ชอบทำกิจกรรม และ ที่สำคัญ ชอบเที่ยวแบบงบน้อย พร้อมแล้วก็ไปรู้จักกับ เกาะตะรุเตา กันเลยค่ะ
- ทำไมต้องไปเที่ยว เกาะตะรุเตา
- แล้ว เกาะตะรุเตา อยู่ที่ไหน
- เดินทางไป เกาะตะรุเตา อย่างไรน๊า
- ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา
- เวลาเปิด-ปิด อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา
- สิ่งที่ควรเตรียมก่อนมาที่ เกาะตะรุเตา
- เกาะตะรุเตา มีทั้งหมดกี่อ่าว และแต่ละอ่าวนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง มาดูกันค่ะ
- แล้วเดินทางไปอ่าวอื่นๆ ได้อย่างไรเนี่ย
- แนะนำที่พักในหาดใหญ่
ข้อมูลท่องเที่ยว เกาะตะรุเตา อยู่ที่ไหน ไปอย่างไร มีกี่อ่าว แต่ละอ่าวมีอะไรให้ทำบ้าง อะไรราคาเท่าไหร่ ต้องเตรียมตัวอย่างไร เดินทางภายใน เกาะตะรุเตา ได้อย่างไร

หากใครมีเวลาไม่มาก แต่อยากเที่ยวทะเลใกล้ๆ กรุงเทพฯ ก็มีทะเลประจวบค่ะ ที่นี่ที่พัก อาหาร และของต่างๆมีราคาถูก นอกจากนั้น ยังสามารถไป ปีนเขาล้อมหมวก ได้ด้วย
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
1. ทำไมต้องไปเที่ยว เกาะตะรุเตา

ง่ายๆ เลยค่ะ สวย ทะเลสีฟ้า สีเขียว น้ำใส ทรายขาวละเอียด สงบ ร่มรื่น มีเสียงสัตว์ เสียงธรรมชาติมากมาย เสมือนเกาะสวรรค์ ยังไงยังงั้น หากใครที่ชอบเที่ยวทะเล ต้องไม่พลาด ที่นี่ เกาะตะรุเตา แล้วคุณจะได้รู้ว่า ธรรมชาติที่สมบูรณ์นั้น ยังมีอยู่ เกาะตะรุเตา สวย และประทับใจแค่ไหน ก็หยกไปมาแล้วหลายครั้ง รวมๆ ระยะเวลาที่ติดเกาะสวรรค์แห่งนี้ก็ เกือบๆ เดือนค่ะ

เคยไปทะเล แล้วตัวเหนียวๆ เค็มๆ จากลมทะเลไหมคะ หรือ ลงเล่นน้ำทะเล แล้วพอตัวแห้ง ก็รู้สึกแบบมีขี้เกลือเกาะ เหนียวๆ อึดอัดๆ ไหมคะ สิ่งเหล่านี้จะไม่มี หากมาเล่นน้ำที่ เกาะตะรุเตา อีกทั้ง เกาะตะรุเตา ยังไม่ใช่แค่เป็นทะเล ที่เอาไว้เล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการัง แต่ยังมีกิจกรรมมันส์ๆ ลุยๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปั่นจักรยาน พายเรือคายัค ชมพิพิธภัณฑ์ เดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ไฮกิ้งไปชมจุดชมวิว ไฮกิ้งไปน้ำตก ชมนกชมไม้ และสัตว์ป่าอื่นๆ
ที่แน่ๆ กางเต็นท์นอนริมหาด นอนฟังเสียงคลื่น เสียงธรรมชาติ สามารถกางเต็นท์ได้ทุกอ่าวเลยค่ะ
2. แล้ว เกาะตะรุเตา อยู่ที่ไหน

เกาะตะรุเตา อยู่ในเขต จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นหนึ่งเกาะในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ในมหาสมุทรอินเดีย ฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณช่องแคบมะกะลา ส่วนด้านใต้ของ เกาะตะรุเตา อยู่ห่างจากเกาะลังกาวี ของประเทศมาเลเซีย ประมาณ 5 กิโลเมตร ค่ะ
3. เดินทางไป เกาะตะรุเตา อย่างไรน๊า
หยกเดินทางไป เกาะตะรุเตา ด้วย รถไฟ จาก กรุงเทพ โดยไปลงที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อไปขึ้นเรือที่ ท่าเรือปากบารา อ.ละงู จ.สตูล

3.1. สนามบินหาดใหญ่ – ท่าเรือปากบารา
มี รถตู้ออกจากสนามบินหาดใหญ่ ไปที่ ท่าเรือปากบารา โดยตรง ราคา 250 บาท จองออนไลน์ได้เลยค่ะ ราคาเท่ากับไปซื้อโดยตรงที่สนามบิน แต่สะดวกกว่า ไม่ต้องเสียเวลา และยังทราบเวลารถออกที่ชัดเจนด้วยค่ะ เพราะเวลารถออกแต่ละฤดูนั้นไม่เหมือนกันค่ะ
3.2. สถานีรถไฟหาดใหญ่ – ท่าเรือปากบารา
3.2.1. รถตู้ ใกล้ๆ สถานีรถไฟหาดใหญ่ – ท่าเรือปากบารา
มีรถตู้ออกไปท่าเรือปากบารา ใกล้ๆ สถานีรถไฟเลยค่ะ ซื้อตั๋วออนไลน์ได้ง่ายๆ สบาย พร้อมรู้เวลารถออก กับราคาตั๋ว 200 บาท โดยที่ขึ้นรถตู้อยู่ห่างจากสถานีนถไฟแค่ 300 – 400 เมตรเท่านั้นเอง สะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทางไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งที่อยู่นอกเมืองไกลๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากผจญภัยก็เดินทางอีกวิธี รายละเอียดตาม ข้อ 3.2.2 ข้างล่างเลยค่ะ
3.2.2. สองแถว จากสถานีรถไฟหาดใหญ่ – สถานีขนส่งที่อยู่นอกเมือง – รถตู้ – ท่าเรือปากบารา
ต้องไปขึ้นรถสองแถว ที่หอนาฬิกา ซึ่งห่างจาก สถานีรถไฟหาดใหญ่ ประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถนั่งรถสองแถวเล็กๆ หน้าสถานีรถไฟไป ในราคา 40 บาท หรือจะเดินไปแบบหยกก็ได้ค่ะ แค่ 10 นาทีก็ถึงแล้ว คือรถไฟจากกรุงเทพ มา หาดใหญ่ มันนานมาก หยกนั่งๆ นอนๆ บนรถไฟมา 17 ชั่วโมงกว่าๆ จนจะเป็นง่อยอยู่แล้ว ขอเดินยืดเส้นยืดสายหน่อย คงจะดีกว่า จริงไหมคะ
เมื่อถึงหอนาฬิกา ก็ต้องข้ามถนนตรงหน้าหอนาฬิกาไปยังฝั่งตรงข้าม เพื่อไปขึ้นสองแถว ที่มีทั้งสีน้ำเงิน สีขาว โดยที่หน้ารถจะเขียนว่า “คิวรถตู้ตลาดเกษตร” รถคันไหนเขียนแบบนั้นก็กระโดดขึ้นเลยค่ะ ราคาคนละ 10 บาท
แต่เพื่อความชัวร์ ก็บอกพี่คนขับหน่อยแล้วกันค่ะ เพื่อจะได้ไม่ขึ้นผิดคัน และเพื่อให้พี่คนขับจอดและเรียกเราลงเมื่อถึงปลายทางแล้ว
โดยเมื่อลงรถสองแถวแล้ว ต้องข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม (ถนนตรงนี้ข้ามยากนิดนึง รถมาเร็วด้วย ข้ามกันระวังๆ นะคะ) เพื่อขึ้นรถตู้ ไป ท่าเรือปากบารา ใน สถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แห่งที่ 2 ที่มองเข้าไปแล้ว เห็นแต่รถตู้ จริงๆ ควรเรียกว่า สถานีขนส่งรถตู้ น่าจะถูกกว่า 555+ ค่ารถไป ท่าเรือปากบารา ราคาคนละ 120 บาทค่ะ รถจะออกก็เมื่อคนเต็ม หรือ ออกทุก 20 นาที โดยใช้เวลาถึง ท่าเรือปากบาราประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงค่ะ
3.3. ท่าเรือปากบารา – เกาะตะรุเตา
ปัจจุบันสะดวกสบายมากค่ะ เราสามารถซื้อตั๋วเรือออนไลน์ได้เลย ในราคาที่ไม่แพง เริ่มต้น 450 บาทขึ้นกับบริษัทเรือ และที่สบายมากกว่านั้นก็คือ เราสามารถทราบเวลาเรือออกจากการซื้อออนไลน์อีกด้วยค่ะ
หมายเหตุ:
เรือสปีดโบ๊ท ไป เกาะตะรุเตา นั้น โดยปกติมี 1 รอบค่ะ คือ 11.30 น. หากเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว ก็จะมีรอบ 14.30 น. เพิ่มเข้ามา โดยใช้เวลาเดินทาง 30 นาที ส่วนขากลับจาก เกาะตะรุเตา มา ท่าเรือปากบารา นั้น มีรอบเดียว คือ 10.30 น. เท่านั้นนะคะ
โดยที่ขากลับนั้น ไม่ว่าจะเดินทางด้วยเรือเที่ยวไหน บริษัทใดก็ตาม ต้องมาเช็คอิน (มาแจ้งพี่เจ้าหน้าที่) ที่ท่าเทียบเรือที่ เกาะตะรุเตา เวลา 9.00 น. เพื่อยืนยันการเดินทาง โดยเจ้าหน้าที่ที่ทางท่าเทียบเรือที่ เกาะตะรุเตา จะทำการโทรยืนยันกับทางเรือ หากไม่มีผู้โดยสาร เรือก็จะไม่มาจอดที่ เกาะตะรุเตา ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนักมาพักที่ เกาะตะรุเตา
3.3.1. แล้วราคาเรือล่ะ
ราคาขาเดียว มีตั้งแต่ 450 – 750 บาท หากซื้อไป – กลับก็จะได้ราคาที่ถูกลง ขึ้นกับบริษัทที่คุณซื้อนะคะ ซื้อกับออศฟิศโดยตรง หรือซื้อจากตัวแทนจำหน่าย อีกทั้งคุณยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ด้วยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ซื้อออนไลน์จะมีราคาที่ถูกกว่า
ทั้งนี้ รอบการเดินเรือ อาจมีมากขึ้น หรือ น้อยลงก็ได้ ขึ้นกับช่วงเทศกาล วันหยุดยาวค่ะ
3.3.2. ได้ตั๋วเรือแล้วเดินไปขึ้นเรือได้เลยไหม
1. ต้องเสียค่าธรรมเนียมผ่านท่า 20 บาท ก่อนเข้าท่าเรือค่ะ
2. หลังจากได้ตั๋วเรือแล้ว เราต้องไปเช็คอินก่อน เพื่อรับบัตรขึ้นเรือ (คล้ายๆ กับ Boarding Pass ขึ้นเครื่องบิน นั่นแหละค่ะ) และ รับสติ๊กเกอร์ติดเสื้อ ติดกระเป๋า ยื่นให้เจ้าหน้าที่ก่อนขึ้นเรือ เป็นการตรวจเช็ค เพื่อจะได้ไม่ขึ้นเรือผิดลำ
ข้อควรรู้หลังลงเรือแล้ว
ตรวจเช็คสัมภาระ ว่าออกมาจากเรือกับเราไหม เพราะ เกาะตะรุเตา นั้น ไม่ใช่สถานีปลายทางค่ะ เรือลำนี้ยังต้องไปส่งผู้โดยสารที่เกาะอื่นๆ อีก
ความปลอดภัยบนเรือ และสิ่งที่ควรปฏิบัติ
เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วงค่ะ เค้าออกกฎให้ผู้โดยสารทุกคน ต้องสวมชูชีพขณะเดินทางด้วยเรือ แต่อย่าแค่ใส่อย่างเดียวนะคะ ควรดึงสายรัดให้กระชับพอดีตัว และ หลีกเลี่ยงการเดินไปมาระหว่างอยู่บนเรือด้วยค่ะ
เรือขับนุ่ม กระแทกกับคลื่นเป็นพักๆ แต่ฟ้าที่ฟ๊าฟ้า เมฆขาวๆ เป็นก้อนๆ น้ำทะเลที่เขียวสลับฟ้า ลมเย็นๆ ที่ลอยเข้ามา วิวที่เห็นก็มี หาดทรายขาวเป็นบางช่วง ต้นไม้ที่เขียวในทุกๆ เกาะที่นั่งผ่าน คือมันชิว และเพลินมากเลยค่ะ ทำให้เวลา 30 นาทีที่อยู่บนสปีดโบ๊ท ผ่านไปไวยังกับโกหก มาถึง เกาะตะรุเตา อย่างรวดเร็ว

4. ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เกาะตะรุเตา
เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท บัตรนี้อยู่ได้ 5 วันค่ะ ดีเนอะ
5. เวลาเปิด-ปิด อุทยานแห่งชาติ เกาะตะรุเตา
เกาะตะรุเตา เปิดเกาะให้เข้าทำการท่องเที่ยวช่วง 16 ตุลาคม – 15 พฤษภาคม ส่วนช่วงที่ปิดเกาะนั้น ก็เพราะว่าเป็นช่วงฤดูฝนค่ะ

6. สิ่งที่ควรเตรียมก่อนมาที่ เกาะตะรุเตา
1. สเปรย์ฉีดกันยุง สามารถป้องกันได้ทั้งยุง และ ริ้นทะเล ที่อยู่ตามชายหาด เป็นแมลงตัวเล็กๆ สีดำ มีปีกสีขาว หากโดนกัดแล้ว จะคันมาก ยิ่งเกา ก็ยิ่งคัน ยิ่งเกา ก็ยิ่งแดง แล้วคันขึ้นๆ แดงขึ้นๆ บวมขึ้นๆ
2. ยาแก้แพ้ แนะนำให้พกมาด้วย ในกรณีใครที่มีประวัติการแพ้ เมื่อโดนแมลงกัดต่อยนะคะ หยกคนหนึ่งล่ะคะที่เวลาโดน ริ้นทะเล กัดทีนี่ บวม แดง คันคะเยอไปเป็นเดือนเลย
3. ไฟฉาย หรือ head lamp หากจะไปชม ถ้ำจระเข้ เพราะด้านในนั่นมืดมาก (แต่มีให้เช่าที่ เกาะตะรุเตา ค่ะ)
4. รองเท้าผ้าใบ หากต้องการเดินขึ้นไปยัง จุดชมวิวผาโต๊ะบู ที่ อ่าวพันเตมะละกา และ เพื่อความสะดวกในการเดินไป มา ระหว่างอ่าว เนื่องจากบางตำแหน่งยังคงเป็นถนนแบบดินลูกรัง ที่มีพื้นเป็นหินขรุขระๆ ปนอยู่ด้วย และ บางช่วงเป็นซีเมนต์นี่แหละ แต่เป็นทางขึ้น-ลงเนินเขา ที่ชันมาก
5. กระเป๋ากันน้ำ (Dry bag) เพื่อความปลอดภัยของข้าวของต่างๆ ระหว่างการพายเรือคายัค

6. ผ้าเช็ดตัว เสื่อ หรือ ผ้าใบผืน ไว้รองนอน หรือนั่งเล่นชิวๆ ที่หาดทราย
7. พาวเวอร์แบงค์ เพราะไฟฟ้าที่นี่ มีเวลาเปิดจำกัดค่ะ เปิดให้ใช้แค่ในช่วงเวลา 18.00 – 06.00 น. หรือ 18.00 – 22.00 น. เท่านั้น
8. แน่นอนค่ะ หมวก แว่นกันแดด ครีมกันแดด
7. เกาะตะรุเตา มีทั้งหมดกี่อ่าว และแต่ละอ่าวนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง มาดูกันค่ะ
7.1. อ่าวพันเตมะละกา หรือ อ่าวตะรุเตา
1. จุดชมวิวผาโต๊ะบู

จุดชมวิวผาโต๊ะบู เป็นจุดชมวิว ที่สามารถเห็นวิวด้านล่าง ของทะเลฝั่งทางด้านอ่าวพันเตมะละกา และ ป่าเขารอบๆ เกาะตะรุเตา แล้วจะรู้ว่า เกาะตะรุเตา นั้น ยังคงมีป่าไม้ที่แน่นหนา และ ยังคงได้รับการดูแลรักษาอย่างดี จุดชมวิวผาโต๊ะบู ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก ที่ชัดเจน และ สวยงามอีกด้วย
หยกยังมีจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยๆมาแนะนำด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นที่ ป่าหินงามเมืองปาย จ.แม่ฮ่องสอน หรือ ที่อุทยานแห่งชาติแม่วาง จ.เชียงใหม่
2. ถ้ำจระเข้

ถ้ำจระเข้ เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม การชมถ้ำนั้นก็เก๋ไก๋ คือ สามารถเดินทางไปได้โดย พายเรือคายัค หรือ เหมาเรือหางยาว เข้าไปก็ได้ค่ะ และ เมื่อไปถึงถ้ำแล้ว เราต้องนั่งแพ แล้วลากแพเอง เพื่อชมความงดงามของถ้ำ โดยเค้าจะมีเชือกไว้ให้เราดึง สนุกดีค่ะ
หรือจะไปเที่ยวถ้ำที่ ถ้ำน้ำลอด จ.แม่ฮ่องสอน หรือ ถ้ำธารลอด จ.กาญจนบุรี ก็สวยไม่แพ้กันนะคะ
3. พายเรือคายัค
นอกจากการพายเรือคายัค เพื่อเข้าไปชมถ้ำจระเข้แล้ว ยังสามารถพายเรือคายัคเล่น เพื่อชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าโกงกางได้อีกด้วย

4. นั่งชิงช้าไม้ชิวๆ

5. ดำน้ำตื้นรอบเกาะ
ติดต่อได้กับ พี่ๆ เจ้าหน้าที่เลยค่ะ ไปได้ไม่เกิน 8 คน ราคา 3500 บาท โดยจะพาไปทุกอ่าวของ เกาะตะรุเตา และ อีกหลายๆ เกาะใกล้เคียง ที่มีจุดดำน้ำตื้นที่สวยงาม ซึ่งจะใช้เวลาทั้งวัน แต่จะเริ่มกี่โมงนั้น ก็ขึ้นกับความสะดวกของเรา โดยทั่วไปก็ 9.00-16.00 น. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า เราจะใช้เวลาในแต่ละที่มากน้อยแค่ไหน อาจจะเสร็จก่อน 16.00 น. หรือ เสร็จ 17.00 น. ก็เป็นได้
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการดำน้ำตื้นรอบเกาะ
1. น้ำดื่ม เตรียมไปเยอะหน่อย ใช้ทั้งดื่ม และ ล้างหน้าหลังจากขึ้นจากการดำน้ำในแต่ละที่
2. อาหารกลางวัน ผลไม้ และขนม ไม่มีจุดดำน้ำ หรือ จุดพักตรงไหนที่มีร้านอาหาร หรือ ร้านค้าสวัสดิการไว้บริการ
3. ผ้าเช็ดตัว ครีมกันแดด หมวก กระเป๋ากันน้ำ
6. ดูนกเงือก และนกชนิดอื่นๆ

ที่อ่าวพันเตมะละกานั้น มีนกเงือกมีอยู่เต็มไปหมด บินไป บินมา ส่งเสียงร้องไพเราะเพราะพริ้ง เห็นได้ง่ายๆ ทั้งโดยที่ตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ เพราะว่ามีเยอะมากค่ะ
7. ปั่นจักรยาน
สามารถเช่า จักรยานเสือภูเขา ได้ที่นี่เช่นกันค่ะ เป็นจักรยานอย่างดี เหมาะสำหรับการปั่นแบบผจญภัย เป็นจักรยานมีเกียร์ สอบถามวิธีใช้กับพี่ๆ เจ้าหน้าที่ก่อนนะคะ จะได้ง่ายต่อการปั่น ขึ้น ลงเนินเขา สามารถปั่นเล่นรอบๆ อ่าวพันเตมะละกา หรือ ปั่นไป อ่าวใกล้เคียงก็ได้ค่ะ
8. ชมพระอาทิตย์ตก

7.2. อ่าวเมาะและ

1. ดำน้ำตื้นรอบเกาะ
ติดต่อกับ พี่ๆ เจ้าหน้าที่ประจำอ่าวได้เลยค่ะ โดยรายละเอียดเหมือนกันกับข้อมูล ใน ดำน้ำตื้นรอบเกาะ ที่ อ่าวพันเตมะละกา
2. นอนเล่นชิวๆ บนเปลญวน
ที่อ่าวเมาะและ มีต้นไม้เยอะทีเดียวค่ะ สามารถผูกเปลญวนนอนเล่นชิวๆ และ รับลมได้เต็มที่ แบบมีลมช่วยไกวให้ สบายเลยค่ะ
3. นั่งชิงช้าไม้
มาทะเล ไม่นั่งชิงช้าไม้ ใต้ต้นไม้ บริเวณหาดทราย เนี่ยถือว่ามาไม่ถึงทะเลจริงไหมคะ
4. ต่อสู้กับลิงแสม

อ่าวเมาะและ ขึ้นชื่อเรื่องลิงแสม ที่นี่ลิงเยอะมาก อาจจะต้องระวังเวลาทานอาหาร เดินทานขนม ลิงพวกนี้มันเร็วมากค่ะ บางทีก็สนุก หยกชอบวิ่งไล่ลิง ทำท่าขู่มัน ร้องคำรามซะลั่น แบบประมาณว่ามันต้องกลัวแหงๆ แต่พอมันสู้ มันขู่กลับปุ๊บ หยกวิ่งหนีแทบไม่ทันเลยค่ะ 555+ (ไม่ได้ทำร้ายสัตว์นะคะ ก็มันมาแย่งแพนเค้กหยกไปกินอ่ะ)
5. ปั่นจักรยาน
สามารถเช่า จักรยานเสือภูเขา ได้ที่นี่เช่นกันค่ะ เป็นจักรยานอย่างดี เหมาะสำหรับการปั่นแบบผจญภัย เป็นจักรยานมีเกียร์ สอบถามวิธีใช้กับพี่ๆ เจ้าหน้าที่ก่อนนะคะ จะได้ง่ายต่อการปั่น ขึ้น-ลงเนินเขา ส่วนใหญ่คนที่เช่าจักรยานจากที่นี่ จะปั่นไป อ่าวสน ค่ะ เพราะอาหารที่อ่าวสนอร่อยมากกกกก หรือปั่นไป อ่าวตะโละวาว เพื่อไปเยี่ยมชม คุกนรกตะรุเตา ยังไงล่ะคะ
7.3. อ่าวสน
1. น้ำตกลูดู
น้ำตกลูดู เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่มีน้ำที่ใสมากๆ สามารถว่ายน้ำเล่นได้ หรือเอาขาจุ่มน้ำเพื่อทำ fish spa ก็ได้ด้วย
2. ชมงูเหลือม
มีงูเหลือมตัวโตบ้าง เล็กบ้าง พันตัวเองบนต้นไม้ ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ และน่าแปลกใจมาก ที่มันไม่เคยย้ายที่อยู่เลยค่ะ คุณลุงเจ้าหน้าที่บอกว่า หากไม่เห็นพวกมันวันนี้ ยังไงพรุ่งนี้ หรือ มะรืน มันก็กลับมาอยู่ที่เดิมอยู่ดี มันไม่เคยหายไปไหน

สามารถเดินไปดูเองได้ โดยจะมีทางเดินที่ชัดเจนค่ะ แต่การหางูเหลือมบนตัวไม้นั้น จะยากหน่อย เพราะสีมันกลมกลืนกับต้นไม้ กิ่งไม้มาก หรือคุณสามารถลองเดินไปหาดูเองก่อน เอาสนุกๆ ว่าจะหาเจอไหม ทางเดินเข้าแค่ประมาณ 150 เมตรเท่านั้นเองค่ะ หากหาไม่เจอก็สามารถแจ้งคุณลุงเจ้าหน้าที ให้พาไปได้ค่ะ ค่าเสียหาย 20 บาท หรือ แล้วแต่จะให้ค่ะ
3. พายเรือคายัค
ที่ อ่าวสน มีเรือคายัคไว้ให้บริการอยู่ 2 ลำค่ะ เอาไว้พายเล่นๆ ในละแวกนั้น ทั้งนี้ ตรวจสอบทิศทางของลมก่อนออกทะเลนะคะ
4. เล่นน้ำหรือว่ายน้ำ ในน้ำกร่อย ที่ใสมากจนเห็นรูขุมขนเลยค่ะ

ตรงอ่าวสนมีลำน้ำจืดผ่าน แล้วไปบรรจบกับน้ำทะเล โดยช่วงที่น้ำทะเลขึ้น จะไหลเข้ามารวมกับน้ำจืด จึงสามารถเล่นน้ำบริเวณนี้ได้
5. เดินเล่นที่ชายหาดกว้าง ยาว ขาว ละเอียดมากกก
ซึ่งเป็นชายหาดที่กว้าง และ ยาวมาก โดยยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งชายหาดที่อ่าวสนนั้น มีทรายที่ขาว และ ละเอียด ดั่งผงแป้งเลยทีเดียวค่ะ ส่วนน้ำทะเลก็ใสมาก สีเขียวๆ ฟ้าๆ ลมก็เย็น พัดมาอยู่เรื่อยๆ
6. ดูเต่าทะเล
เอ้า ไม่ได้พูดเล่น เนื่องจากหาดทรายที่กว้างมาก ตลอดความยาวของอ่าวสน ทำให้เหมาะต่อการวางไข่ของเต่าทะเล อาจพบเจอได้บ้าง ในช่วงกลางคืน เพียงแต่ปัจจุบันนี้ เต่าทะเลเหลือน้อยลงไปทุกที และ ไข่ที่ถูกวางนั้นก็ได้รับการดูแลไม่ทัน ถูกหมูป่ากินไปหมด น่าเศร้าจริงๆ ค่ะ
7. วิ่งไล่ปูเสฉวน ปูลม

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
8. นอนเล่นชิวๆ บนเปลญวน
ที่ อ่าวสน มีเปลญวนในร้านอาหาร ผูกไว้บริการอยู่ 4 เปล และ มีอีก 1-2 เปล ที่ลานหน้าร้านอาหาร นอนเล่นสบายมากค่ะ ลมพัดเย็นสบาย ฟังเสียงคลื่น เสียงนก เสียงต้นไม้กระทบกัน คงจะพล่อยหลับไปไม่รู้ตัวเลยแหละค่ะ
9. ตกปลาทะเล
สามารถขอหยิบยืม เบ็ดตกปลา ของคุณลุงเจ้าหน้าที่ได้ โดยคุณป้ายังใจดี แถมเหยื่อให้ด้วย การยืมเบ็ดตกปลา ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ แต่สามารถให้สินน้ำใจเล็กน้อยได้ ตามเห็นสมควรค่ะ
10. ดำน้ำตื้นรอบเกาะ
ติดต่อกับ คุณลุงคุณป้าเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ โดยรายละเอียดเหมือนกันกับข้อมูล ใน ดำน้ำตื้นรอบเกาะ อ่าวพันเตมะละกา
11. นั่งชิงช้าไม้
มาทะเล ไม่นั่งชิงช้าไม้ ใต้ต้นไม้ บริเวณหาดทราย เนี่ยถือว่ามาไม่ถึงทะเล จริงไหมคะ แต่มันยิ่งฟินเข้าไปใหญ่ เพราะวิวทะเลที่สวยมาก เงียบ สงบ มีแค่เสียงธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น เสียงลม เสียงคลื่น เสียงนก แค่นั้นเองค่ะ
12. เล่นกับน้องหมา (แพนด้า กับ กาแฟ)
น้องหมาน่ารักมากค่ะ รู้ความ ช่วยปกป้องเราจากพวกลิงทั้งหลาย จึงสามารถกินอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย ที่อ่าวสน ไม่ต้องกลัวลิงจะแย่งแพนเค้กแล้ว เย้ๆ
13. แล้วลิงแสมที่นี่ล่ะ ต้องสู้รบปรบมือกับมันไหม
ก็อย่างที่บอกค่ะ เจ้าแพนด้า เจ้ากาแฟ จะดูแลเราเอง อีกทั้งลิงที่นี่ไม่ค่อยดุเท่าที่ อ่าวเมาะและ นะคะ หยกขู่มันไป มันวิ่งหนีค่ะ สนุกเลย ร้องขู่ลิง จนเสียงแหบ เจ็บคอไปเลยค่ะ 555+
7.4. อ่าวจาก
อ่าวจาก อยู่ระหว่าง อ่าวพันเตมะละกา และ อ่าวเมาะและ โดยห่างจาก อ่าวเมาะและ ประมาณ 1 กิโลเมตร อ่าวจาก เป็นอ่าวที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ไม่มีที่พัก ไม่มีร้านอาหาร มีแต่ชายหาดยาว ที่มีปูเต็มไปหมด คือปูทั้งหาดเลยค่ะ สามารถไปเดินเล่นเพลินๆ ได้ ที่นี่เงียบสงบมาก อีกทั้งการเดินเล่นที่นี่ ยังให้ความรู้สึกแตกต่างจากการเดินเล่นที่อ่าวอื่นๆ อีกด้วย หากมีเวลาควรลองไปดูนะคะ
7.5. อ่าวตะโละวาว

ที่อ่าวตะโละวาว นั้น ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ แต่มีศาลาให้นั่งพัก ซึ่งเดิมศาลานี้คือ ที่ทำการเก่าของอ่าว และหน่วยพิทักษ์ย่อยของอุทยานแห่งชาติ เกาะตะรุเตา ที่มีเจ้าหน้าที่ ประจำการอยู่ 3-4 คน ส่วนสิ่งที่ต้องทำหากไปที่ อ่าวตะโละวาว คือ การเดินชม คุกนรกเกาะตะรุเตา หรือ เส้นทางศึกษาประวัติศาสตร์ตะโละวาว (รอติดตามอ่านนะคะ) ในอดีต ที่นี่ คือที่คุมขังนักโทษค่ะ โดยนักโทษจะต้องทำงาน ถูกทำโทษเฆี่ยนตี การอยู่ที่นี่ และ การหลบหนีไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะโรคภัยไข้เจ็บที่คร่าชีวิต ไหนจะฉลามกลางท้องทะเล ทางเดินสั้นๆ เองค่ะ และ ร่มรื่นมาก

7.6. อ่าวตะโละอุดัง
อ่าวตะโละอุดัง ก็ไม่มีอะไรสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ นอกจากที่ทำการย่อย มีเจ้าหน้าที่ใจดี เป็นมิตร ประจำการอยู่ 3-4 คน การจะไปอ่าวตะโละอุดัง ทำได้โดยนั่งเรือ หรือ เดินเข้าป่า 12 กิโลเมตร จากอ่าวตะโละวาว โดยต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเส้นทาง นำเดินนะคะ ไม่งั้นหลงป่าแน่นอนค่ะ ส่วนใครที่ดำน้ำตื้นรอบเกาะ จะได้มาหยุดพัก เพื่อทานข้าวที่นี่ค่ะ พี่ๆ เจ้าหน้าที่ที่นี่ จะดีใจ และ ยินดีบริการเรามากๆ สอบถามอะไรเกี่ยวกับ เกาะตะรุเตา พี่เค้ารู้ ตอบได้หมดเลยค่ะ คุยกันเพลินๆ สนุกสนานเลย
8. แล้วเดินทางไปอ่าวอื่นๆ ได้อย่างไรเนี่ย
8.1. อ่าวพันเตมะละกา – อ่าวเมาะและ
มีรถรับส่ง จาก อ่าวพันเตมะละกา ไป อ่าวเมาะและ แต่แค่วันละ 2 รอบ เท่านั้นนะคะ เวลา 9.00 และ 13.00 น. ราคาคนละ 50 บาท ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที และเช่นกันค่ะ ขากลับก็มี 2 รอบ จาก อ่าวเมาะและ ไป อ่าวพันเตมะละกา ก็รถที่พึ่งไปส่งมานั่นแหละค่ะ หากต้องใช้บริการนอกเหนือ 2 รอบนั่น ก็คิดเหมา 200 บาทค่ะ
หรือ สามารถเดินจาก อ่าวพันเตมะละกา ไป อ่าวเมาะและ ได้ ด้วยระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ทางเดินเป็นซีเมนต์ มีขึ้นลงเนินบ้าง และ สองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้
หรือ ปั่นจักรยานไป ประมาณ 20-25 นาที ก็ถึงแล้วค่ะ
8.2. อ่าวพันเตมะละกา หรือ อ่าวเมาะและ – อ่าวสน
หากจะไป อ่าวสน จาก อ่าวพันเตมะละกา หรือ อ่าวเมาะและ สามารถเดินทางด้วยรถบรรทุก โดยต้องเหมารถไป-กลับ ราคา 600 บาทค่ะ
หรือ สามารถเดิน หรือ ปั่นจักรยาน จาก อ่าวเมาะและ ไป อ่าวสน ได้ ด้วยระยะทางแค่ 4 กิโลเมตรเองค่ะ เดินชิวๆ ไปตามถนน ก็ประมาณ 1 ชั่วโมง จักรายานก็ประมาณ 20-25 นาที ถนนเส้นทางนี้เป็น ถนนหินๆ ดินๆ ค่ะ ขรุขระบ้าง มีขึ้นลงเนินบ้าง แต่สองข้างทางนั่นร่มรื่นด้วยต้นไม้ค่ะ

แต่ จาก อ่าวสน ไป อ่าวเมาะและ สามารถเดินก็ได้ หรือ ใช้บริการรถจักรยานยนต์ จากคุณลุงเจ้าหน้าที่ ราคาคนละ 100 บาท
หรือ เหมารถบรรทุก ก็ราคาเดียวค่ะ คือ 600 บาท ไม่ว่าจะไป อ่าวเมาะและ หรือ อ่าวพันเตมะละกา
8.3. อ่าวพันเตมะละกา – อ่าวตะโละวาว
ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร เดินทางได้โดย เหมารถบรรทุกไป ราคาไป-กลับ 800 บาท หรือ เช่าจักรยานแล้วปั่นไปเอง
8.4. อ่าวเมาะและ – อ่าวจาก
สามารถเดินไปได้ค่ะ ระยะทางแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรนิดๆ เดินชิวๆ แปปเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
9. แนะนำที่พักในหาดใหญ่
หยกมีที่พักในหาดใหญ่มาแนะนำค่ะ ที่พักทำเลดีๆ กลางเมือง ใกล้ตลาดกิมหยง ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และสถานีรถไฟ แบบน่าอยู่ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ เลือกเอาตามงบและตามใจเลยนะคะ ซึ่งที่พักเหล่านี้หยกหามาแนะนำเอง ไม่ได้มีการสปอนเซอร์หรือว่าจ้างใดๆ ให้เอามาลงค่ะ
A) เดอะ ไฮฟ์ หาดใหญ่ โฮสเทล (ถูก)
ที่พักประเภทโฮลเทลทำเลดี ใกล้สถานีรถไฟแค่ไม่กี่ร้อยเมตร และอยู่หน้าตลาดกิมหยงเลยค่ะ ห้องพัก ห้องน้ำสะอาด ทั้งยังถูกสุดๆ ที่พักประเภทดอร์มเริ่มต้นเตียงละ 240 บาท ต่อคนต่อคืน เท่านั้นเองค่ะ เหมาะกับคนที่อยากประหยัดและอยากได้อารมณ์ของการพักดอร์ม ที่นี่ยังมีห้องเดี่ยวสำหรับสองคนในราคาเริ่มต้นที่ 600 บาท หรือจะมากันเป็นกลุ่มแก๊งค์ก็มีห้องสำหรับ 4-6 คน ในราคาเริ่มต้นที่ 1,300 บาท อีกด้วยนะคะ เป็นหนึ่งตัวเลือกที่ปฏิเสธไม่ลงเลยทีเดียว
B) Hasu Guesthouse (ถูก)
ห้องพักตกแต่งเรียบง่าย สะอาด ห้องกว้าง ที่ด้านล่างมีร้านกาแฟให้ได้นั่งชิวๆ จิบกาแฟเพลินๆ เติมพลังก่อนออกเที่ยวอีกด้วยค่ะ ทั้งยังอยู่ใกล้กับเซ็นทรัลเฟสติวัลแบบเดินแค่ 100 กว่าเมตรเองค่ะ ส่วนราคาห้องพักนั้นก็ถูกเลยทีเดียว เริ่มต้นที่ 680 บาทต่อคืน อ่อที่นี่ไม่มีลิฟท์นะคะ ต้องใช้บันไดเท่านั้น หากใครของเยอะหรือมากับเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ก็อย่าลืมแจ้งเจ้าหน้าที่นะคะ
C) The Bedroom (ถูก)
เป็นที่พักอีกที่ที่แนะนำค่ะ เข้าพักได้ตั้งแต่ 1-3 คน ตัวโรงแรมตกแต่งแบบมีเอกลักษณ์ มีส่วนของพื้นที่นั่งเล่นส่วนกลางให้ได้ใช้งาน ส่วนห้องพักนั้นกว้าง โล่ง ตกแต่งเรียบง่าย ส่วนห้องพักเดี่ยวนั้นเป็นแบบมีพื้นที่ว่างด้านล่าง แล้วเตียงนอนอยู่ชั้นลอย น่านอนเป็นที่สุดค่ะ ราคาเริ่มต้นสำหรับหนึ่งคน 450 บาทาต่อคืน
D) เดอะเบดหาดใหญ่ (กลางๆ)
หากใครกำลังมองหาที่พักทำเลดี ใกล้สถานีรถไฟและตลาดกิมหยง ทั้งมีห้องพักที่พักแบบครอบครัว หรือ เพื่อนฝูงมากันเป็นกลุ่ม 4 คน ได้พักกันสบายๆ เพราะห้องพักที่โล่ง กว้างขวางสุดๆ ตกแต่งสวยงาม สะอาด ดูเรียบๆ สบายตา ราคาเริ่มต้นที่ 1,400 บาทต่อคืนค่ะ
E) La Pause Hatyai (กลางๆ)
ที่พักทำเลดีอีกแล้วค่ะ รอบๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ ทั้งตลาด ร้านค้ามินิมาร์ค ร้านกาแฟ และร้านอาหาร ไม่ต้องกลัวเหงาเลย ทั้งบรรยากาศที่พักก็คลาสสิก เรียบหรูดูดีสุดๆ ส่วนการบริการนั้นเค้าก็ว่าดีเยี่ยม เป็นกันเอง จนอบากที่จะกลับมาพักอีกเลยค่ะ ราคาที่พักก็ถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับกลับมา ราคาเริ่มต้น 1,400 บาทต่อคืนค่ะ
F) The Habita Hatyai (หรูหรา)
อีกที่พักใจกลางเมืองที่สวย น่าพัก ห้องตกแต่งแบบเรียบง่าย มีให้เลือกหลายแบบ จะเลือกแบบมีอ่างอาบน้ำให้ได้แช่ตัว พักผ่อน ผ่อนคลายให้สมกับเป็น vacation ก็จะฟินที่สุด ในส่วนของล๊อบบี้นั้นเป็นห้องกระจกโดยรอบ มีเฟอร์นิเจอร์ไม้ และมองเห็นสวนเขียวด้านนอก ให้บรรยากาศที่ร่มรื่นและชิวเบาๆ ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 1,750 บาท
G) โรงแรม บุรีศรีภู บูติก (หรูหรา)
ที่พักสไตล์บูติก ที่หากใครมีงบหน่อย ก็แนะนำให้มาพักมากๆ เลยค่ะ คุ้มค่าเป็นที่สุด ทั้งยังมีสระว่ายน้ำให้วอร์มร่างกายก่อนลุยทะเลอีกด้วยค่ะ ห้องพักนั้นตกแต่งสวยงาม สะอาด และกว้างขวาง โดยมีให้เลือกหลายแบบเลยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้องเอ็กเซ็กคูทีฟสวีท นะ น่าเข้าพักเป็นที่สุด ราคาห้องพักเริ่มต้น 1,800 บาท
หมายเหตุ
ราคาที่พักอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลานะคะ ไม่ว่าจะเป็นตามกาลเวลา และ/หรือ อาจมีราคาที่สูงขึ้นในฤดูท่องเที่ยว

คงจะพอเข้าใจเบาๆ แล้ว ใช่ไหมคะ ว่าทำไม หยกถึงรักเกาะสวรรค์แห่งนี้ และ ไปตั้งหลายครั้ง แต่ละครั้งก็อยู่ซะนาน จนจะกลายเป็นชาวเกาะไปแล้ว 555+ ก็เพราะความสวยงามที่มากซะขนาดนี้ และ ยังมีกิจกรรมลุยๆ ให้เลือกทำตั้งมากมาย ก็เพลินน่ะสิคะ
ใครไปเที่ยว เกาะตะรุเตา แล้วบ้าง ชอบอ่าวไหนมากที่สุด เพราะอะไรคะ? ส่วนหยกน่ะเหรอ ก็อ่าวสน น่ะสิ เงียบสงบ ยังกับหาดส่วนตัว แถมอาหารยังอร่อยมากๆ อีกด้วย ไปติดเกาะนี้ทีไร อ้วนกลับมาทุกทีเลย 555+