
สิ่งที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ คือข้อมูลการเทรคกิ้งไป Ghorepani Poon Hill Trek (โก-ระ-ปา-นี ปูน-ฮิลล์ เทรค) ในประเทศเนปาล ที่ครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมตัวสำหรับการเทรคกิ้ง อาหารการกิน อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม และค่าใช้จ่าย เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น..หยกยังได้สอดแทรกทริคดีๆ ที่หยกประสบพบเจอเองระหว่างการเทรคกิ้ง เพื่อให้แค่แหล่งข้อมูลจาก “SanookTiew ! สนุกเที่ยว” เพียงที่เดียวก็เพียงพอ และให้ประโยชน์มากที่สุดสำหรับทริปที่ใครๆ ก็ทำได้ อีกทั้งทริปนี้ ยังเป็นทริปสั้นๆ ที่เหมาะกับชีวิตมนุษย์เงินเดือน ที่หาวันลายากเหลือเกิน และยังเป็น เทรคกิ้งทริปที่สนุก ท้าทาย และสวยงามมาก จนทำให้คุณๆ ประทับใจแบบไม่รู้ลืมเลยแหละค่ะ
บทความข้อมูลเทรคกิ้งเนปาล
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากลองเทรค อยากเที่ยวแนวนี้ แต่เริ่มไม่ถูก ไม่รู้จะหาข้อมูลเกี่ยวกับการเทรคกิ้งทั้งหมดได้ที่ไหน หรือแม้แต่เพื่อนๆ ที่หลงใหลการเทรคกิ้งเนปาล ที่อยากได้ข้อมูลเทรคกิ้งเพิ่ม นี่เลยค่ะ ที่เดียวกับข้อมูลเต็มๆ
- ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง คืออะไร? ต่างกันยังไง? พร้อมคำอธิบายที่แจ่มชัด และตัวอย่าง
- ข้อมูลเทรคกิ้งบนเส้นทาง Poon Hill
- ข้อมูลเทรคกิ้งบนเส้นทาง Langtang
- ข้อมูลเทรคกิ้งบนเส้นทาง Annapurna Circuit ที่รวม Tilicho Lake ทะเลสาบสีฟ้าสุดเข้ม และ สวยงามสุดๆ เข้าไว้ด้วย
- ข้อมูลเทรคกิ้งบนเส้นทาง Mohare + Khopra
- ข้อมูลเทรคกิ้งบนเส้นทาง Everest Base Camp (EBC) + Kalapatthar
- ไป Pokhara พักที่ไหนดี มีอะไรเที่ยว
- Checklist เตรียมอะไรไปเทรคกิ้ง ที่สามารถเตรียมเองได้ ไม่มีสิ่งนี้ ทำยังไง หาอะไรทดแทน หาซื้อที่ไหน เตรียมสิ่งนี้ไปทำไม ใช้ประโยชน์อะไร
- How to ขอวีซ่าเนปาล ตั้งแต่การเตรียมการณ์มาจากบ้าน เพื่อยื่นขอ Visa On Arrival ที่สนามบินตรีภูวัน
- ข้อมูลการเตรียมตัว ก่อนไปเทรคกิ้งเนปาล ให้พร้อมที่สุด ต้องเตรียมอะไร, เทรคเส้นไหน, ประกันบริษัทอะไรดี, ฉีดวัคซีนไหม, Permits อะไรบ้าง, น้ำดื่มล่ะ, ซิมการ์ดแพงไหม และ แลกเงินที่ไหน ฯลฯ
- AMS – อาการทั่วไป? อาการรุนแรง? เกิดกับใคร? ที่ไหน? ป้องกัน+หลีกเลี่ยงยังไง? ข้อควรปฏิบัติ? ถ้ามีอาการต้องทำยังไง? รักษาได้ไหม?
- ประกันเดินทางต่างประเทศ และ ประกันเดินทางที่ครอบคลุมเทรคกิ้งเนปาล บนเขาสูงไม่เกิน 4,500 m + ครอบคลุมทั่วโลก เช่น เนปาล, ยุโรป, อเมริกา & ประเทศอื่นๆ + ครอบคลุมค่ารักษาโควิด
- DOs & DON’Ts ระหว่างเทรคกิ้ง เนปาล ข้อควรรู้ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ – ใส่หูฟังฟังเพลง? ให้ขนมเด็กบนเขา? เดินลุยข้ามแม่น้ำ ต้องถอดรองเท้าเดินป่า? ต้องทำยังไงเพื่อไม่ให้เมื่อยกล้ามเนื้อ? ฯลฯ
เป็นยังไงละคะ เพื่อนๆ ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเทรคกิ้งที่ครบถ้วน ที่ละเอียด อ่านง่าย เข้าใจเองได้ และยังทำตามได้เองสบายๆ เลยใช่ไหมล่ะ หากมีข้อสงสัยใดๆ คอมเม้นต์ที่ช่องคอมเม้นต์ด้านล่าง เข้ามาได้เลยนะคะ หยกรอตอบแล้วค่ะ
หยกจัด ทัวร์เทรคกิ้ง Ghorepani Poon Hill Trek แบบเดินสบายๆ เทรค 4 วัน เดินวันละไม่เกิน 4 ชั่วโมงค่ะ มือใหม่ไม่เคยเทรค มาเทรคได้สบายๆ เลยค่ะ ทั้งหยกยังจะมีนัดเจอ พาช้อปของเทรคกิ้งด้วยน้า คลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิ้งค์ได้เลยค่ะ
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ
โดยที่บทความนี้ จะกล่าวถึงรายละเอียดตามหัวข้อ (คลิกได้) ดังต่อไปนี้นะคะ
- 1. ถึงแม้จะมาเทรคกิ้งที่ Ghorepani Poon Hill Trek แต่รู้ไว้ใช่ว่า: ข้อควรรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับประเทศเนปาล
- 2. ทัศนียภาพที่จะทำให้คุณประทับใจและลืมไม่ลงแน่ๆ:
- 3. จะไป Ghorepani Poon Hill Trek ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ อะไรบ้าง
- 4. จะไป Ghorepani Poon Hill Trek ต้องไปเมืองไหน จุดเริ่มเดินคือที่ไหน
- 5. เพื่อนนักเดินทางที่คุณอาจจะพบ
- 6. ไป Ghorepani Poon Hill Trekในช่วงไหนดีที่สุด?
- 7. ไป Poon Hill Trek ต้องขอวีซ่าไหม?
- 8. บนเขาจะมีไฟฟ้าใช้ไหมนะ แล้วต้องเตรียมปลั๊กไฟแบบไหนไปน้า?
- 9. เทรคกิ้ง Ghorepani Poon Hill Trek แบบนี้มีค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ประจำวันต่อคน ประมาณเท่าไหร่กันน้า?
- 10. ประกันการเดินทาง ที่ครอบคุลมกิจกรรมการเทรคกิ้ง ใน เนปาล ที่ความสูงไม่เกิน 4,500 m
- 11. แนะนำที่พักใน Pokhara
ประกันการเดินทางในเนปาล ครอบคลุมเทรคกิ้ง + ค่ารักษาพยาบาลโควิด
สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหา “บริษัทประกันท่องเที่ยว ที่ครอบคลุมกิจกรรมเทรคกิ้งในเนปาล” คงจะทราบกันดีว่า เริ่มหายากมากๆ แล้ว หยกมีบริษัทที่หยกใช้เป็นประจำมาแนะนำค่ะ (ไม่มีสปอนเซอร์นะคะ หยกใช้เองค่ะ) คือ Tokio Marine เป็นบริษัทของญี่ปุ่น ที่มีศูนย์ในไทยค่ะ จึงติดต่อและคุยกันง่าย อ่านขั้นตอนการซื้อและรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมที่นี่ค่ะ
เพื่อความโปร่งใส: ไม่ได้มีการว่าจ้างจากบริษัทให้เอามาลงนะคะ หยกใช้เองเป็นประจำ กับทุกที่ๆ ไปเลยค่ะ ทั้งเนปาล, สโลวีเนีย, คีร์กีซสถาน และ ทาร์จิสถาน และอีกหลายที่ หยกเลยเอามาแบ่งปันค่ะ
แต่ก่อนจะไปเตรียมตัวลุย Ghorepani Poon Hill Trek หากใครอยากทราบความหมายเพิ่มเติม เทรคกิ้ง คืออะไร แตกต่างจาก ไฮกิ้ง อย่างไร คลิ๊กอ่านได้ที่ตัวหนังสือสีส้มๆ นี้เลยค่ะ หรือใครกำลังจะไปอิตาลี แล้วต้องการจะทำกิจกรรมลุยๆ ไฮกิ้งเบาๆ ไม่เอาช้อปปิ้ง ก็เข้าไปหาข้อมูลเพิ่มได้ที่นี่ เที่ยวอิตาลี ไปไหนดี? และ ข้อมูลเที่ยว Cinque Terre อิตาลี หมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่เล็ก ได้เลยนะคะ

จริงๆแล้ว ที่เนปาลนั้น มีเส้นทางสำหรับเทรคกิ้งอยู่มากมายเลยเชียว คือ มีหลายเส้นทาง หลายจุดหมายปลายทาง และระยะเวลาที่ใช้เทรคก็ต่างกัน มีทั้งเป็นวัน, สัปดาห์ จนถึงเดือน หลายๆ คนมักเริ่มจากที่หนึ่ง และไปสิ้นสุดอีกที่หนึ่ง แต่สำหรับหยก (หรือใครๆ) ที่มีเวลาไม่มากนัก จึงมีเวลาแค่ 5 วัน แต่ด้วยความที่อยากไปเทรคกิ้งที่เนปาลมากๆ จึงขอเลือกเทรคกิ้ง เส้นทาง “Ghorepani Poon Hill” โดยไป-กลับ ในเส้นทางเดิม โดยจะใช้เวลาเพียงแค่ 3 วัน ที่ปกติแล้ว ในเส้นทางนี้ เค้าแนะนำว่าให้ใช้เวลา 4-5 วัน ก็มันไม่มีเวลานี่เนอะ ทำยังไงได้ หลังจากหาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่เนปาลแล้ว เค้าว่า “เป็นไปได้” โดยที่หยกต้องเผื่อ 1 วันหัวและท้ายสำหรับการเดินทางไป-กลับระหว่างกรุงเทพฯ – กาฐมาณฑุ (Kathmandu) – โพคารา (Pokhara)
แนะนำเส้นทางเทรคกิ้งเนปาล เพื่อจะช่วยเลือกได้ว่าไปเทรคเส้นทางไหนดี
ในเขต Annapurna
- เส้นทางฮิต Poon Hill Trek ที่เลือกเทรคได้ตั้งแต่ 3 – 5 วัน
- Mardi Himal Trek ใช้เวลา 4 – 7 วัน
- เส้นทางน้องใหม่ ใกล้ Poon Hill กับ Mohare + Khopra Trek ใช้เวลา 9 – 10 วัน
- เส้นทางในฝันของใครหลายคน ความท้าทายของ Thorong La Pass 5416 m กับ Annapurna Circuit + Tilicho Lake Trek ใช้เวลา 14 – 20 วัน
ในเขต Everest หรือ Khumbu
- Everest Base Camp (EBC) + Kalapatthar Trek ใช้เวลา 10 – 17 วัน
ในเขต Langtang
- Langtang Trek ใช้เวลา 5 – 12 วัน
ในเขต Manaslu
- ฮาร์ทคอร์หน่อย ก็ต้องเขตหวงห้าม Manslu Circuit & Tsum Valley Trek ใช้เวลา 20 – 22 วัน มี Manaslu Base Camp ให้ได้เทรคด้วยค่ะ
ไม่เพียงเท่านั้น หยกยังรับ จัดทริปส่วนตัว พาเที่ยว ด้วยนะคะ โดยจัดโปรแกรมเว่อร์ชั่นใหม่ ไม่ซ้ำใคร จัดตามที่เพื่อนๆ ออร์เดอร์มาเลยค่ะ อยากไปไหน อยากเที่ยวสไตล์ไหน ทำกิจกรรมอะไร บอกมาเลย หยกจัดให้! กับโปรแกรมเที่ยวหนึ่งเดียว ตรงใจ เฉพาะคุณ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!

1. ถึงแม้จะมาเทรคกิ้งที่ Ghorepani Poon Hill Trek แต่รู้ไว้ใช่ว่า: ข้อควรรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับประเทศเนปาล
1). ประเทศเนปาลมีชื่อทางการว่า “สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล” เป็นประเทศในเอเชียใต้ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาหิมาลัย โดยมีพรมแดนติดกับทิเบตของประเทศจีนและประเทศอินเดีย
2). หน่วยเงินคือ รูปี (Nepalese Rupee; NPR หรือ RS) ตอนหยกไป 10 RS ประมาณ 3 บาท
3). อาหารพื้นเมืองของคนเนปาลีเรียกว่า “Nepali Dal bhat Thali set (เนปาลี ดอล บัต ธาลี่ เซ็ท)” คือจะเป็นอาหารแบบเซ็ทให้เลือกระหว่างมังสวิรัติกับมีเนื้อสัตว์ ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าว, ซุปถั่วที่เรียกว่า Dal, ผัดผักหรือมันฝรั่งกับถั่ว (ขึ้นอยู่กับผักแต่ละฤดู), แกงเนื้อสัตว์ที่เรียกว่า Curry (ขึ้นอยู่กับว่าเอาเนื้อสัตว์อะไร), Papad ประมาณว่าเป็นข้าวเกรียบทอดกรอบ มีรสชาติเค็มนิดๆ, Pickle เป็นผักดองที่มีรสชาติเข้มข้น เผ็ดและเปรี้ยว และ Chutney (ซัทนี่) ทำจากผักหรือผลไม้ที่ผสมเครื่องเทศบางอย่าง มีรสชาติหวาน เปรี้ยวและอาจเผ็ด

หยกทาน Dal bhat ทุกมื้อเลยค่ะ เป็นอาหารที่อร่อยมาก ยิ่งกินกับ Pickle (พิคเคิล) และ Chutney แล้วยิ่งถูกปากคนไทยอย่างเราๆ ค่ะ เผ็ดเปรี้ยว แซ่บจริงๆ ทั้งยังให้พลังงานสูง เหมาะสำหรับกิจกรรมเทรคกิ้งมาก แต่ข้อเสียคืออาจจะผายลมบ่อยไปหน่อย 555



ทริค
Nepali Dal bhat เป็นเซ็ทอาหารแบบบุฟเฟ่ต์นะคะ เราสามารถขอเติมได้เรื่อยๆ ซึ่งเริ่มแรกเค้าจะเสิร์ฟมาให้เราแค่นิดเดียว เราๆที่ใช้พลังงานในการเดินมากมายขนาดนี้ไม่อิ่มหรอกค่ะ ไกด์บอกว่าเค้ากลัวชาวต่างชาติกินไม่หมด ส่วนหยกนะเหรอ..เติมไปสามรอบทุกมื้อเลยแหละค่ะ อิอิ

2. ทัศนียภาพที่จะทำให้คุณประทับใจและลืมไม่ลงแน่ๆ:
1). เทือกเขาหิมาลัยที่ด้วยความสูง ทำให้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ได้แก่ยอดเขาเอเวอร์เรส (Mount Everest) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกโดยสูง 8,848 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล หรือเทือกเขาอันนะปุรณะ (Annapurna Massif) ที่ประกอบด้วยยอดเขาสูงเกินกว่า 7,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถึง 6 ยอด โดยยอดเขาอันนะปุรณะ 1 (Annapurna I) มีความสูงถึง 8,091 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

2). ความสวยงามของ “การทำนาแบบขั้นบันได (Rice Terrace)” ที่เห็นอยู่ทั่วไปตามภูเขา ไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดจากฝีมือคน น่าทึ่งจริงๆ


3). บ้านที่อยู่บนภูเขา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวๆแบบไม่กี่หลังหรือเป็นแบบหมู่บ้าน

4). ดอกกุหลาบพันปี (Rhododendrons: โรโดเดนดรอน) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศเนปาลค่ะ มีสีชมพูแดง มักอยู่บนภูเขาสูง โดยจะบานเต็มภูเขาจนกลายเป็นภูเขาสีชมพูแดง ช่วงประมาณกลางมีนาคม ถึง กลางพฤษภาคม ค่ะ มีความสวยงามมาก

5). ธรรมชาติของคน ที่ปราศจากการเติมแต่ง


6). ฝูงคุณลา ที่ทำหน้าที่หาบของใช้ต่างๆ ขึ้นไปจุนเจือคนในหมู่บ้านที่อยู่สูงๆ ขึ้นไป คุณลาดูแข็งแรงและสุขภาพดีมากๆ ถูกใช้งานหนัก แต่ก็ได้รับการดูแลอย่างดีเช่นกัน เดินกันดีๆ หลบคุณลาด้วยนะคะ หยกโดนชนมาแล้ว 3 ตัวเบาๆ ชนตรงทางแคบๆ ลาก็มองไม่เห็น คนก็หลบไม่ได้ แต่ตอนนั้นคือความเจ็บไม่มี เพราะว่าฮาและอายอยู่ 555+

7). การหาบของๆคุณลูกหาบที่เป็นเอกลักษณ์ พยายามคิดอยู่ตั้งนานว่าเค้าทำได้ยังไง โดยใช้แค่กำลังหน้าผากและมือสองข้าง ลองทำแล้วด้วย แต่ไม่รอด ผมร่วงไปหลายเส้นเลย 555+

3. จะไป Ghorepani Poon Hill Trek ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ อะไรบ้าง
เทรคกิ้งที่เส้นทาง Ghorepani Poon Hill เป็นเส้นทางระดับกลางๆ ค่อนมาทางง่ายนะหยกว่า ที่ให้ค่อนมาทางง่ายเพราะทางเดินก็เดินได้ธรรมดา ไม่ได้แคบมากมาย หรือเดินยากอะไร ส่วน trail นั้นก็ชัดเจนค่ะ แต่อาจจะลื่นได้บ้าง หากฝนตก จะยากก็แค่บางตำแหน่งที่ชันมาก จนทำให้ความสูงๆขึ้นอย่างรวดเร็ว บวกกับออกซิเจนก็เบาบางลง การหายใจอาจลำบากขึ้น เหนื่อยหอบง่ายขึ้น จึงต้องมีการเตรียมตัวให้ดีๆ เพื่อป้องกันการเกิด Altitude sickness แบบอ่อนๆ สำหรับบางคน และเพื่อการเดินที่สนุกและเพลินมากขึ้น
1). ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยการออกกำลังกาย เพราะเราต้องเดิน 5-8 ชั่วโมงต่อวันในชั้นบรรยากาศที่สูงขึ้นๆ ก่อนมาเทรคกิ้งนะคะ โดยเฉพาะ Cardio เพื่อช่วยให้ปอดใหญ่ขึ้น หายใจสะดวกขึ้น และไม่หอบเวลาเดิน ซึ่งจะช่วยให้อึดและเดินเร็วขึ้น และก็อย่าลืมเสริมสร้างความแข็งแรงของ(กล้าม)ขาด้วยนะคะ
แต่ไม่ต้องเอาอย่างหยกนะคะ ออกกำลังกายเยอะ เสริมกล้ามเนื้อ กินแต่โปรตีนและกินเยอะขึ้นด้วย แบบว่าเตรียมตัวดีไปหน่อย น้ำหนักเลยขึ้นมา 3 กิโลกรัมกว่า 555+ ไม่ไหวๆ ไม่เอาแบบนี้น้า

2). ป้องกันการเกิด การแพ้อากาศในที่สูง หรือ Altitude sickness แบบอ่อนๆ สำหรับบางคน โดยอาการที่อาจจะพบได้ คือ หายใจเหนื่อยหอบ ปวดหัว คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนล้า ไม่มีแรง เหมือนจะเป็นลม และอาจนอนไม่หลับ เนื่องด้วยความสูงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ค่อนข้างเร็ว ยิ่งเราเดินขึ้นอย่างรวดเร็ว ออกซิเจนจึงน้อยลงๆ ได้โดยการหยุดพักบ่อยๆ จิบน้ำอยู่เรื่อยๆ และหายใจเข้า-ออกช้าๆๆ ยาวๆๆ ไม่ควรหายใจถี่ๆ นะคะ ถึงแม้จะเหนื่อยและหอบมากแค่ไหน พยายามควบคุมลมหายใจให้ลึกๆ ช้าๆ ค่ะ
3). รองเท้าผ้าใบที่หนาพอสมควร จะดีมากถ้าได้เป็นรองเท้าสำหรับการไฮกิ้ง เทรคกิ้งโดยเฉพาะ เพราะพื้นรองเท้าจะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะได้ดี หนาและมั่นคงในการวางก้าวแต่ละก้าว ซึ่งรองเท้าประเ๓ทนี้จะยังช่วยป้องกันข้อเท้าและการเซได้ระดับหนึ่งอีกด้วย
ทริค
การใส่รองเท้าในการเดินที่ชันๆ ก็มีส่วนช่วยลดการบาดเจ็บจากนิ้วเท้าซ้ำ เล็บม่วงนะคะ โดยดันนิ้วเท้าไปด้านหน้ามากๆ ก่อนแล้วค่อยผูกเชือกรองเท้าให้แน่นๆ การทำเช่นนี้จะทำให้เท้าไม่มีการเคลื่อนไหว (ภายในรองเท้า) เมื่อเดินขึ้นหรือลงในที่ๆชันมากๆ เป็นเวลานานๆ
4). พกน้ำดื่ม และขนมคบเคี้ยวพวกถั่วชนิดต่างๆ, ลูกอม หรือ ช๊อคโกแลต ควรจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อทดแทนเหงื่อที่เสียไป และอาจมีการเติมพลังงานด้วยพวกถั่ว หรือเติมน้ำตาลด้วยลูกอม หรือ ช๊อคโกแลต
5). เพื่อง่ายต่อการเดิน และสนุกเพลิดเพลินกับวิวอันสุดยอดระหว่างทางมากขึ้น หยกแนะนำให้จ้างลูกหาบ (Porter) ในการแบกสัมภาระค่ะ ซึ่งราคาไม่แพงเลย
ส่วนตัวหยกนะเหรอ ขอลองแบกเองค่ะ (ต้องใช้กล้ามเนื้อ(หรือไขมันก็ไม่รู้)ที่อุตส่าห์สร้างมา) แค่สิบกว่ากิโลกรัมเอง ทำเอาการเทรคกิ้งที่มีระยะเวลาจำกัดแบบนี้ท้าทายมากยิ่งขึ้น
6). อากาศที่หนาวจะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว ควรนำแบตเตอรี่สำรองสำหรับกล้องและโทรศัพท์ ไปด้วย โดยทำการชาร์จไฟให้เต็ม แล้วเก็บไว้ในที่ๆอุ่นๆ
7). แน่นอนว่าการไป Poon Hill ก็เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัย แสดงว่าเช้าวันนั้น เราต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด ดังนั้นอย่าลืมพกไฟฉายไปด้วยนะคะ
8). สามารถทำการเช่าอุปกรณ์การเทรคกิ้ง และการนอน ได้ที่ เมืองโพคารา ในราคาถูก ไม่ว่าจะเป็น ถุงนอน เสื้อแจ๊คเกต ไม้เท้าเดินป่า รองเท้า ถุงเท้า และอื่นๆ อีกมากมาย
หยกก็ไปเช่าถุงนอนที่นั่นเอาค่ะ โดยหยกไปช่วงปลายมีนาคม กลางวันอากาศค่อนข้างร้อน แห้ง แดดแรง ฝนตกนิดๆในช่วงบ่าย ส่วนตอนเช้าค่อนข้างหนาวเย็น แต่กลางคืนนี่หนาวสุดๆเลยแหละค่ะ ดีนะที่มีถุงนอนไปด้วย
หากมี ไม้เท้าเดินป่า ก็แนะนำให้พกไปด้วยค่ะ จะได้เดินเร็วขึ้น คล่องขึ้น สบายขึ้น ซึ่งสามารถคลิ๊กอ่าน ประโยชน์ ส่วนประกอบ และวิธีการใช้ไม้เท้าเดินป่า ได้ที่ลิ้งค์ตัวหนังสือสีส้มนะคะ
9). ที่สำคัญสุดๆ คือ การเลือกที่นั่งบนเครื่องบินก็สำคัญนะคะ โดยจากกรุงเทพฯ ไปกาฐมาณฑุ ควรเลือกที่นั่งบนเครื่องบินฝั่งทางขวา เพื่อจะได้เห็นวิวของเทือกเขาหิมาลัย
ส่วนขาลุยคนไหนที่เป็นมือใหม่หัดบินไปต่างประเทศ ก็สามารถอ่านการเตรียมตัวสำหรับการบินไปต่างประเทศครั้งแรก ที่นี่ได้เลยค่ะ และ วิธีการเลือกซื้อกระเป๋าแบ็คแพ็คให้เหมาะกับคุณ


พร้อมที่จะจดโน๊ตและพร้อมไปเที่ยวหรือยังคะ ไปกันเลยค่ะ
4. จะไป Ghorepani Poon Hill Trek ต้องไปเมืองไหน จุดเริ่มเดินคือที่ไหน
ก่อนอื่นก็ต้องหาตั๋วเครื่อง ซึ่งปัจจุบันมี 3 สายการบินที่บินตรงจาก ไทย ไป กาฐมาณฑู ค่ะ โดย Thai Airways และ Nepal Airlines ออกบินจาก สุวรรณภูมิ ส่วน Lion Air นั้นบินจากดอนเมืองค่ะ ส่วนจุดเริ่มเดินไป Poon Hill อยู่ที่ เมืองโพคาราค่ะ โดยสามารถเดินทางจากกาฐมาณฑุ ไปโพคารา ได้โดย รถทัวร์ หรือ เครื่องบิน ซึ่งถ้ามีเวลาน้อย เดินทางโดยเครื่องบินจะสะดวกกว่า เพราะใช้เวลาแค่ประมาณ 30 – 40 นาที ส่วนรถโดยสารอื่นๆ เค้าว่ากันว่าใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นค่ะ

วันที่ 1 Nayapul – Hile – Tikhedungha – Ureli
จุดเริ่มเดินคือ Nayapul (นายาบูล) (สูง 1070 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) เป็นถนนดินลูกรัง เดินง่าย วนเขาขึ้นไปเรื่อยๆ ประมาณ 8 กิโลเมตรก็ถึง Hile (ฮิลเล) (1430 เมตร) ซึ่งทางนี้รถยังสามารถวิ่งผ่านได้ รถผ่านทีฝุ่นนี้คลุ้งเชียว

หมู่บ้านต่อไปที่จะเจอก็คือ Tikhedungha (1550 เมตร) จากนี้จะเริ่มยากแล้ว ทั้งหายใจก็เริ่มลำบากขึ้นเรื่อยๆ
ทริค
หายใจเข้าออกยาวๆ หยุดพัก จิบน้ำบ่อยๆ
ทริค
ยืดเส้นยืดสายเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้ออยู่เรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นจะระบมไปทั้งตัว โดยเฉพาะขาที่จะสั่นแล้วก้าวไม่ออกในวันรุ่งขึ้น
เพราะความสูงที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากทางที่ค่อนข้างชัน ซึ่งทางเป็นบันไดหิน เค้าว่ากันว่ามีประมาณ 3500 ขั้น แต่หยกว่ามีมากกว่านั้นแน่ๆคะ ใครจะไปเทรคกิ้งรบกวนฝากนับด้วยนะคะ หึหึ เดินไปเรื่อยๆจนถึง Ureli (คนท้องถิ่นบอกว่าสูงประมาณ 2500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถึงแม้จะขัดแย้งกับข้อมูลทางอินเตอร์เนทหลายๆแหล่งบอกว่า 1960 เมตรก็ตาม เราก็เดินต่อไปค่ะ) ซึ่งนี่คือเส้นทางวันที่ 1 ของหยกคะ ค้างที่นี่คืนนึง สลบไปตั้งแต่ทุ่มกว่าๆจนเช้าเลยค่ะ

วันที่ 2 Ureli – Ghorepani
เดินไป Ghorepani (โกรีปานี) (2874 เมตร) ทางเดินค่อนข้างสบายกว่าเมื่อวาน มีบันไดหินบ้างสลับกับทางเดินดินลูกรัง ช่วงที่หยกไปเป็นช่วงที่ดอกกุหลาบพันปี (Rhododendron) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติเนปาลกำลังบานสะพรั่ง สีชมพูแปร๊ดบ้าง แดงบ้าง ชอบขึ้นบนที่สูงๆโดยเฉพาะช่วงยอดเขา กลายเป็นว่ายอดเขาละแวกนั้นเป็นสีชมพูอมแดงเลย สวยมากค่ะ

วันที่ 3 Ghorepani – Poon Hill – Ghorepani – Ureli – Tikhedungha – Hile – Nayapul
ต้องตื่นแต่เช้ามืดประมาณตี 4 เพื่อเดินไป Poon Hill (ปูนฮิลล์) (3210 เมตร) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที ทางเดินเป็นบันไดหิน เสียค่าผ่านทาง 50 RS

ทริค
ถ้าใครมีขาตั้งกล้อง ไปถึงเร็วๆก็ดีค่ะ จะได้จองตำแหน่งดีๆก่อนใคร
หลังจากนั้นก็กลับไปเอาของที่ที่พัก แล้วก็รวดเดียวค่ะ กลับลงมาเส้นทางเดิมที่เดินไปใน 2 วันแรก แทบจะกลิ้งลงมา น่วมเลยค่ะ
5. เพื่อนนักเดินทางที่คุณอาจจะพบ
นานาชาติเลยแหละคะ นักท่องเที่ยวเยอะจริงๆ พูดนมัสเตกันตลอดทางเลย
6. ไป Ghorepani Poon Hill Trekในช่วงไหนดีที่สุด?
ช่วงที่เหมาะแก่การเทรคกิ้งอยู่ระหว่างกลางกันยายนถึงกลางพฤษภาคมค่ะ โดยที่ช่วงธันวาคมมกราคมอาจจะมีอากาศที่หนาวมากหน่อย ทั้งนี้จะไปเทรคช่วงไหน ตรวจสอบอากาศก่อนไปอีกครั้งนะคะ พักหลังๆ อากาศแปรปรวนค่ะ ฤดูไม่เป็นฤดู จะได้เตรียมเครื่องกันหนาว กันฝน และอื่นๆ ไปด้วยแบบครบๆ

7. ไป Poon Hill Trek ต้องขอวีซ่าไหม?
สามารถขอวีซ่าที่สนามบินที่นู้นได้ (Visa on arrival) โดยต้องเตรียมรูปถ่ายสีขนาด 1 หรือ 1.5 นิ้ว จำนวน 1-2 ใบไปด้วย และต้องชำระค่าธรรมเนียมเป็นเงิน US dollar หรือ ไทยบาท ก็ได้ค่ะ
ทริค
สำหรับเพื่อนๆ ที่มีเวลาในกทม และไม่อยากเสียเวลาดำเนินการขอวีซ่าที่สนามบินที่เนปาล (ซึ่งกรณีนี้ เพื่อนๆ ก็จะเสียเวลาเหมือนกัน แต่จะเสียเวลาดำเนินการ และเดินทางในกทม แทนค่ะ เลือกเอานะคะว่าสะดวกแบบไหน) หยกแนะนำให้ขอจากที่สถานฑูตที่ประเทศไทยไปก่อนจะง่ายและประหยัดเวลามากกว่าค่ะ เพราะคิวของการขอ Visa on arrival ที่สนามบินนั้นยาวและดูวุ่นวายมาก อาจเสียเวลา 1-2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
7.1) ขอที่สถานฑูต ที่ กทม
นี่คือ เว็บไซต์ระเบียบการและเอกสารสำหรับการขอวีซ่าของสถานฑูตเนปาลในกรุงเทพฯ
- ยื่นคำขอได้ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 12.00 น.
- รับเล่มหนังสือเดินทางกลับได้ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 14.30 – 16.30 น. นะคะ
- โดยใช้เวลาในการพิจารณา 1 วันทำการ (รวมวันที่ยื่นขอ) นะคะ แนะนำให้ไปเช้าๆ มีสิทธิ์ยื่นเช้า รอรับเล่มกลับในช่วงบ่ายได้เลยค่ะ แต่หากต้องใช้เวลานานกว่า 1 วัน ทางสถานฑูตจะแจ้งให้ทราบ
7.2) ขอที่สนามบินเนปาล Visa On Arrival
ส่วนนี่ก็ แบบฟอร์มออนไลน์ สำหรับการขอวีซ่าที่สนามบินที่เนปาล (visa on arrival) ค่ะ โดยทำการกรอก แล้วปริ๊นถือไปที่สนามบินด้วยค่ะ ค่อยจ่ายค่าธรรมเนียมที่สนามบินเนปาล
8. บนเขาจะมีไฟฟ้าใช้ไหมนะ แล้วต้องเตรียมปลั๊กไฟแบบไหนไปน้า?
น่าประทับใจที่มีไฟฟ้าใช้เกือบตลอดเวลา โดยเค้าใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 230 V 50 Hz ใช้ปลั๊กชนิด C

9. เทรคกิ้ง Ghorepani Poon Hill Trek แบบนี้มีค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ประจำวันต่อคน ประมาณเท่าไหร่กันน้า?
A. ค่าเดินทาง อุปกรณ์และการเตรียมพร้อม ซึ่งสามารถหาซื้อหรือเช่าได้ที่โพคารา
1). แท๊กซี่คันใหม่ๆ มารอรับทั้งไป – กลับ Pokhara – Nayapul (จุดเริ่มเดินเท้า) 3,800 RS (1,140 บาท)
2). TIMS (Trekkers Information Management System) Card จาก Nayapul – Poon Hill $10 (ถ้าขอ TIMS ผ่านบริษัทท่องเที่ยวเพราะเราจะใช้บริการไกด์และ/หรือลูกหาบจากบริษัทท่องเที่ยวนั้นๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าไปขอเอง คือจะเดินเทรคเองโดยไม่มีไกด์และลูกหาบจะเสีย $20 นะคะ) ซึ่งเป็นแบบเข้าไปครั้งเดียวอยู่ได้ 30 วันค่ะ
3). ค่าไกด์ที่พูดภาษาอังกฤษได้ $25-35 ต่อวัน ขึ้นกับประสบการณ์ไกด์และการต่อรองราคาค่ะ โดยที่ราคานี้เนทๆ แล้ว โดยที่เราไม่ต้องเสียค่าที่พักหรืออาหารให้ไกด์เพิ่มนะคะ
4). ค่าลูกหาบ (Porter) $20 ต่อวัน สามารถหาลูกหาบได้ที่ Pokhara หรือ Nayapul
ทริค
หยกว่าการจ้างไกด์ไม่จำเป็นถ้าคุณได้จ้างลูกหาบที่พอจะพูดภาษาอังฤษได้ ยังไงก็ไม่หลงทางค่ะ ทางเดินค่อนข้างจะชัดเจน ถึงแม้จะไม่มีป้ายบอกทาง แต่ยังไงก็ต้องเดินไปกับลูกหาบอยู่ดี

5). ค่าเช่าถุงนอนและเสื้อกันหนาว 100 RS (30 บาท) ต่อวัน
ทริค
หยกแนะนำให้เช่าถุงนอนไปนะคะเพราะตอนกลางคืนอากาศหนาวมาก แล้วเกสเฮาส์ก็ไม่ได้มีฮีทเตอร์ที่ห้องนอน แต่หลายๆ ที่จะมีเตาผิงที่ห้องกินข้าวค่ะ

B. ค่าที่พักและอาหารในโพคารา
1). ค่าที่พักต่อคืน ยังสามารถหาที่พักราคาประหยัดๆ 700-1300 RS (210-390 บาท) ที่รวอาหารเช้าได้ค่ะ ซึ่งมีให้เลือกเยอะแยะไป
2). ค่าอาหารที่เป็นอาหารพื้นเมือง Nepali Dal bhat 1 เซ็ท (บุฟเฟ่ต์) เริ่มที่ 200 RS (60 บาท)
3). ชานม 1 แก้ว 30-40 RS (9-12 บาท)
4). โมโม่ 100-250 RS (30-75 บาท)
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
C. ค่าที่พักและอาหารในหมู่บ้านระหว่างทางที่เทรคกิ้ง
1). ค่าที่พักแบบห้องน้ำรวมต่อคืน 200-250 RS (60-75 บาท) ส่วนแบบมีห้องน้ำในตัวต่อคืน 500-600 RS (150-180 บาท) ซึ่งเกือบทุกเกสเฮ้าส์จะมีน้ำร้อนให้อาบค่ะ
ข้อควรรู้
ตรวจสอบเงื่อนไขให้ดี เพราะหลายๆที่จะให้ที่พักราคานี้ให้ในกรณีที่คุณจะต้องทานอาหารที่เกสเฮ้าส์ด้วยเท่านั้น ไม่เช่นนั้นต้องจ่ายค่าห้อง 1,000 RS (300 บาท) ต่อคืน
2). ค่าอาหารที่เป็นอาหารพื้นเมือง Nepali Dal bhat 1 เซ็ท (บุฟเฟ่ต์) เริ่มต้น 400 RS (120 บาท) ในเขตพื้นที่ต่ำๆ โดยที่ยิ่งสูงขึ้น ราคาก็เพิ่มค่ะ
3). ชานม 1 แก้ว 60-100 RS (18-30 บาท)
4). ชานม 1 เหยือกเล็ก เริ่มต้น 250 RS (75 บาท)
5). น้ำร้อนต้ม 1 แก้ว 50 RS (15 บาท)
6). น้ำดื่ม 1 ขวดใหญ่ (1.5 L) 300-400 RS (90-120 บาท)
ข้อควรรู้
เกือบทุกเกสเฮ้าส์และร้านอาหารจะมีน้ำดื่ม (Safe drinking water) แบบเติมบริการ โดยเติมใส่ขวดน้ำของเรา ราคา 60 RS (18 บาท) ต่อ 1 ลิตร ซึ่งเป็นน้ำดื่มจากบริษัทในประเทศเนเธอแลนด์ที่มาเปิดโรงงานผลิตบนเขา สะอาด และได้มาตรฐาน ที่สำคัญราคาถูกกว่าน้ำดื่มเป็นขวดเยอะเลยค่ะ

ทริค
เพื่อเป็นการประหยัดเพิ่มไปอีก หยกแนะนำให้ซื้อมูสลี่ ที่ร้านขายของที่เมืองโพคาราค่ะ มาเติมชาหรือกาแฟลงไป ทานอุ่นๆท้อง อิ่มมากด้วย พลังงานมาเพียบ พร้อมลุยเทรคกิ้งยาวไปๆ

10. ประกันการเดินทาง ที่ครอบคุลมกิจกรรมการเทรคกิ้ง ใน เนปาล ที่ความสูงไม่เกิน 4,500 m
ใช่ค่ะ ประกันการเดินทางสำหรับกิจกรรมการเทรคกิ้งในเนปาล นั้นหายากมากๆ แล้ว บริษัทต่างๆ ที่เคยครอบคลุม ก็ต่างยกเลิกและครอบคลุมเทรคกิ้งเนปาลกันแล้ว แต่หยกมีบริษัทที่ครอบคลุมกิจกรรมการเทรคกิ้ง บนเขาสูงที่ไม่เกิน 4,500 เมตร ที่เนปาล มาแนะนำค่ะ (ไม่มีสปอนเซอร์) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและวิธีการซื้อได้ที่ลิ้งค์นี้นะคะ ซึ่งครอบคลุมการเทรคกิ้งบนเส้นทาง Poon Hill Trek ด้วย เป็นบริษัทของญี่ปุ่นค่ะ เชื่อถือได้ มีประสบการณ์สูง และเก่าแก่มากๆ ค่ะ คือก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี 1879 โอ้โหหห ส่วนการซื้อประกันนั้น ก็ซื้อผ่านออนไลน์ได้ง่ายๆ เลยค่ะ
11. แนะนำที่พักใน Pokhara
ที่พักเหล่านี้ หยกเลือกเองจากความเห็นส่วนตัวว่าน่าพัก ถ้าหยกต้องเลือกที่พักในโพคารา ที่พักแบบไหนที่หยกจะเลือก จึงมั่นใจได้ค่ะ ว่าที่พักเหล่านี้หยกไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสปอนเซอร์ไหนๆ ไม่ได้มีการถูกบอกให้เอามาลง เพราะเป็นที่พักที่หยกเลือกมาแนะนำเพื่อนๆ เองค่ะ
A). Gurkha Lodge (ถูก)
คนรักธรรมชาติ ความเงียบสงบ และความเป็นกันเอง ต้องรักที่นี่ค่ะ ที่พักกึ่งๆ บังกะโล แบบธรรมดาๆ แต่มีเสน่ห์และอบอวลไปด้วยความสุขความสบายใจ มีเสียงนกร้องเพลงคลอเบาๆ ในยามเช้า ทั้งยังใกล้ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว และไม่ไกลจากทะเลสาบเฟวาอีกด้วยค่ะ กับราคานี้คือคุ้มค่าเกินราคา แบบไม่ต้องเสียเวลาตัดสินใจ ทั้งยังจะกลับมาค้างที่นี่อีกแน่นอน
B). Hotel Blue Magnet (ถูก)
โรงแรมใหม่กิ๊กที่ทุกอย่างใหม่ตั้งแต่หมอนผ้าห่มไปจนถึงอุปกรณ์ต่างๆจึงมีความสะอาดและสะดวกสบายตัวตึกมีการตกแต่งสวยงามมีระเบียงที่ด้านล่างยังมีสวนหย่อมให้ได้นั่งทานอาหารเช้าเพลินๆเคล้าบรรยากาศชิวๆกับแสงแดดอ่อนๆอีกด้วยค่ะทั้งยังใกล้ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวและไม่ไกลจากทะเลสาบเฟวาอีกด้วยค่ะ
C). Hotel Blossom (ถูก)
อีกตัวเลือกที่ดีกับที่พักกึ่งร้านกาแฟ ตกแต่งเก๋ไก๋ บรรยากาศดี น่านั่งชิวสุดๆ กับชุดอาหารเช้าสุดเริศ เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีเยี่ยมมากๆ ห้องพักสะดวกสบาย มีหน้าต่างให้แสงสว่างเข้า บางห้องยังมีระเบียงให้ออกไปนั่งจิบชาชิวๆ อีกด้วยค่ะ และแน่นอนว่า อยู่ใกล้ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว และไม่ไกลจากทะเลสาบเฟวาอีกด้วยนะคะ
D). Hotel Ezen (ถูก–กลางๆ)
ที่พักทำเลดีอยู่ใกล้ถนนใหญ่ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวที่มีวิวดีสามารถมองเห็นทะเลสาบเฟวาได้จากห้องนอนและที่ชั้นบนสุดยังเป็นจุดชมวิวหิมาลัยที่สวยงามมากๆอีกด้วยค่ะต้องรีบจองเลยนะคะราคาดีทำเลดีที่พกดีแบบนี้เต็มไวมากๆค่ะ
E). Hotel Rosemary Homes (ถูก–กลางๆ)
ที่พักทำเลดี อยู่ใกล้ถนนใหญ่ ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว ห้องพักใหม่ ตกแต่งเรียบง่าย ด้วยสีสันที่แตกต่างในแตะละห้อง ทั้งยังอยู่ติดกับร้านอาหารเจ้าของเดียวกัน ร้านอาหารดังที่มีชื่อเสียง มีรสชาติและคุณภาพดี ไหนจะยังมีพื้นที่สวนหย่อมให้ได้นั่งทานอาหารและผ่อนคลายเพลินๆ อีกด้วยค่ะ
F). Three Jewels Boutique Hotel (กลางๆ)
ที่พักทำเลดีอีกแล้วเดินไม่กี่นาทีก็ถึงถนนใหญ่กลางเมืองท่องเที่ยวแล้วค่ะเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจกับที่พักที่ตกแต่งเรียบง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สวยงามห้องสะอาดและน่านอนสุดๆทั้งยังมีห้องนอนที่สามารถมองเห็นวิวหิมาลัยให้ได้เลือกพักด้วยนะคะ
G). Hotel The Coast (กลางๆ)
แนะนำที่นี่สุดๆเลยค่ะกับห้องพักที่มีระเบียงพร้อมที่นั่งเล่นในห้องนอนกับวิวทะเลสาบเฟวาแบบส่วนตั๊วส่วนตัวที่จะทำให้ฟินจนไม่อยากออกจากห้องเลยค่ะซึ่งแน่นอนเลยว่าทำเลของที่พักนั้นดีสุดๆห้องพักก็กว้างสะอาดตกแต่งแบบคลาสสิกและอีกอย่างที่น่าดึงดูดใจให้เข้าพักคือบริเวณทานอาหารเช้านั้นให้วิวทะเลสาบเฟวาเต็มๆแบบใกล้ชิดสุดๆเลยค่ะ
H). Tourist Residency (กลางๆ)
แนะนำๆๆอีกแล้วถ้รใครมีงบสักหน่อยและกำลังมองหาที่พักแบบมีเอกลักษณ์แบบที่ตกแต่งกึ่งๆสไตล์ยุโรปแบบที่ไม่คิดว่าจะมีในเนปาลอยู่หรือเปล่าคะนี่เลยค่ะที่พักสไตล์บ้านพักตากอากาศกับห้องพักที่สวยมากๆน่าอยู่เป็นที่สุดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ตกแต่งได้อย่างลงตัวบางห้องยังมีอ่างจากุชชี่อีกด้วยนะคะ
I). Pokhara Choice Inn (หรูหรา)
ที่พักทำเลดีๆบนถนนใหญ่เลยค่ะทั้งห้องยังใหญ่กว้างตกแต่งหรูหราดูดีสุดๆมีระเบียงด้วยค่ะที่เลือกได้ว่าต้องการวิวเมืองหรือวิวหิมาลัยหรือวิวทะเลสาบเฟวาอาหารเช้าก็เป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีให้เลือกทานมากมายที่นี่ดีไปทุกอย่างทั้งทำเลห้องพักและบริการตัวเลือกดีๆหลังเทรคเสร็จนี่เหมาะเลยค่ะ
J). Mingtang Garden Cottage (หรูหรา)
โอ้ยยหลงรักที่นี่มากๆเลยค่ะทำเลก็เริ่ดการตกแต่งก็สวยมีเอกลักษณ์แบบที่น่าจะมีแค่ที่นี่ที่เดียวในเนปาลเน้นการตกแต่งแบบจีนสุดโบราณด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลักอย่างปราณีตงดงามประกอบกับการตกแต่งที่เก๋ไก๋ของที่พักขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ของสวนหย่อมที่จัดและตกแต่งร่มรื่นที่เหมาะสุดๆกับการมาพักผ่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการให้รางวัลตัวเองหลังเทรคเสร็จซึ่งถือว่าราคาไม่แพงเลยถ้าเทียบกับที่ไทย

พร้อมไปเทรคกิ้งที่ Poon Hill หรือยังคะ หยกหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณผู้อ่าน ได้เตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการเทรคกิ้ง เส้นทาง Poon Hill เพื่อทริปที่สนุก และประทับใจแบบสุดๆ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้หยกฟังบ้างนะคะ
ถ้ามีข้อสงสัยหรือคำถามใดๆ เขียนลงคอมเม้นต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ หยกยินดีจะตอบและอ่านทุกคอมเม้นต์