
สิ่งที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ คือข้อมูลการเทรคกิ้งไป Ghorepani Poon Hill Trek (โก-ระ-ปา-นี ปูน-ฮิลล์ เทรค) ในประเทศเนปาล ที่ครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมตัวสำหรับการเทรคกิ้ง อาหารการกิน อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม และค่าใช้จ่าย เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น..หยกยังได้สอดแทรกทริคดีๆ ที่หยกประสบพบเจอเองระหว่างการเทรคกิ้ง เพื่อให้แค่แหล่งข้อมูลจาก “SanookTiew ! สนุกเที่ยว” เพียงที่เดียวก็เพียงพอ และให้ประโยชน์มากที่สุดสำหรับทริปที่ใครๆ ก็ทำได้ อีกทั้งทริปนี้ ยังเป็นทริปสั้นๆ ที่เหมาะกับชีวิตมนุษย์เงินเดือน ที่หาวันลายากเหลือเกิน และยังเป็น เทรคกิ้งทริปที่สนุก ท้าทาย และสวยงามมาก จนทำให้คุณๆ ประทับใจแบบไม่รู้ลืมเลยแหละค่ะ
บทความข้อมูลเกี่ยวกับการเทรคกิ้ง
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากลองเทรค อยากเที่ยวแนวนี้ แต่เริ่มไม่ถูก ไม่รู้จะหาข้อมูลเกี่ยวกับการเทรคกิ้งทั้งหมดได้ที่ไหน หรือแม้แต่เพื่อนๆ ที่หลงใหลการเทรคกิ้งเนปาล ที่อยากได้ข้อมูลเทรคกิ้งเพิ่ม นี่เลยค่ะ ที่เดียวกับข้อมูลเต็มๆ
- ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง คืออะไร? ต่างกันยังไง? พร้อมคำอธิบายที่แจ่มชัด และตัวอย่าง
- ข้อมูลเทรคกิ้ง Poon Hill สำหรับใครที่อยากเทรคบนเส้นทางฮิตเส้นนี้
- ไป Pokhara พักที่ไหนดี มีอะไรเที่ยว
- Checklist เตรียมอะไรไปเทรคกิ้ง ที่สามารถเตรียมเองได้ ไม่มีสิ่งนี้ ทำยังไง หาอะไรทดแทน หาซื้อที่ไหน เตรียมสิ่งนี้ไปทำไม ใช้ประโยชน์อะไร
- How to ขอวีซ่าเนปาล ตั้งแต่การเตรียมการณ์มาจากบ้าน เพื่อยื่นขอ Visa On Arrival ที่สนามบินตรีภูวัน
- ข้อมูลการเตรียมตัว ก่อนไปเทรคกิ้งเนปาล ให้พร้อมที่สุด ต้องเตรียมอะไร, เทรคเส้นไหน, ประกันบริษัทอะไรดี, ฉีดวัคซีนไหม, Permits อะไรบ้าง, น้ำดื่มล่ะ, ซิมการ์ดแพงไหม และ แลกเงินที่ไหน ฯลฯ
- AMS – อาการทั่วไป? อาการรุนแรง? เกิดกับใคร? ที่ไหน? ป้องกัน+หลีกเลี่ยงยังไง? ข้อควรปฏิบัติ? ถ้ามีอาการต้องทำยังไง? รักษาได้ไหม?
- ประกันการเดินทาง ครอบคลุมเทรคกิ้ง บนเขาสูงไม่เกิน 4,500 m + ครอบคลุม เนปาล & ประเทศอื่นๆ
- DOs & DON’Ts ระหว่างเทรคกิ้ง เนปาล ข้อควรรู้ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ – ใส่หูฟังฟังเพลง? ให้ขนมเด็กบนเขา? เดินลุยข้ามแม่น้ำ ต้องถอดรองเท้าเดินป่า? ต้องทำยังไงเพื่อไม่ให้เมื่อยกล้ามเนื้อ? ฯลฯ
เป็นยังไงละคะ เพื่อนๆ ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเทรคกิ้งที่ครบถ้วน ที่ละเอียด อ่านง่าย เข้าใจเองได้ และยังทำตามได้เองสบายๆ เลยใช่ไหมล่ะ หากมีข้อสงสัยใดๆ คอมเม้นต์ที่ช่องคอมเม้นต์ด้านล่าง เข้ามาได้เลยนะคะ หยกรอตอบแล้วค่ะ
หยกจัด ทัวร์เทรคกิ้ง Ghorepani Poon Hill Trek แบบเดินสบายๆ เทรค 4 วัน เดินวันละไม่เกิน 4 ชั่วโมงค่ะ มือใหม่ไม่เคยเทรค มาเทรคได้สบายๆ เลยค่ะ ทั้งหยกยังจะมีนัดเจอ พาช้อปของเทรคกิ้งด้วยน้า คลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิ้งค์ได้เลยค่ะ
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ
โดยที่บทความนี้ จะกล่าวถึงรายละเอียดตามหัวข้อดังต่อไปนี้นะคะ
- ถึงแม้จะมาเทรคกิ้งที่ Ghorepani Poon Hill Trek แต่รู้ไว้ใช่ว่า: ข้อควรรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับประเทศเนปาล
- ทัศนียภาพที่จะทำให้คุณประทับใจและลืมไม่ลงแน่ๆ
- จะไป Ghorepani Poon Hill Trek ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ อะไรบ้าง
- จะไป Ghorepani Poon Hill Trek ต้องไปเมืองไหน จุดเริ่มเดินคือที่ไหน
- เพื่อนนักเดินทางที่คุณอาจจะพบ
- ไป Ghorepani Poon Hill Trek ในช่วงไหนดีที่สุด?
- ต้องขอวีซ่าไหม?
- บนเขาจะมีไฟฟ้าใช้ไหมนะ แล้วต้องเตรียมปลั๊กไฟแบบไหนไปน้า?
- เทรคกิ้งแบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายคร่าวๆประจำวันต่อคนจะประมาณเท่าไหร่กันน้า?
- ประกันการเดินทางเนปาล ที่ครอบคุลมกิจกรรมการเทรคกิ้ง
- แนะนำที่พักใน Pokhara
ประกันการเดินทางในเนปาล ครอบคลุมเทรคกิ้ง บนเขาสูง
สำหรับเพื่อนๆ ที่จะไปเทรคกิ้งเนปาล กำลังมองหา “บริษัทประกันการเดินทางท่องเที่ยวในเนปาล ที่ครอบคลุมกิจกรรมเทรคกิ้งบนภูเขาสูงไม่เกิน 4,500 เมตร” อยู่สินะคะ หายากมากเลยใช่ไหมละ หยกมีมาแนะนำค่ะ เป็นบริษัทของญี่ปุ่น เชื่อถือได้ มีศูนย์ในไทยด้วยค่ะ ซื้อง่ายๆ ผ่านทางออนไลน์ (คลิ๊กอ่านวิธีการซื้อ และ รายละเอียดกรมธรรม์) ได้เลย ซึ่งหยกใช้บริการมาตลอดค่ะ กับทุกที่ๆ ไป ไม่ใช่แค่ในเนปาล แต่ยังไม่เคยเคลมนะคะ
เพื่อความโปร่งใส: ไม่ได้มีการว่าจ้างจากบริษัทให้เอามาลงนะคะ ใช้เอง หาเจอ เลยเอามาแบ่งปันค่ะ
แต่ก่อนจะไปเตรียมตัวลุย Ghorepani Poon Hill Trek หากใครอยากทราบความหมายเพิ่มเติม เทรคกิ้ง คืออะไร แตกต่างจาก ไฮกิ้ง อย่างไร คลิ๊กอ่านได้ที่ตัวหนังสือสีส้มๆ นี้เลยค่ะ หรือใครกำลังจะไปอิตาลี แล้วต้องการจะทำกิจกรรมลุยๆ ไฮกิ้งเบาๆ ไม่เอาช้อปปิ้ง ก็เข้าไปหาข้อมูลเพิ่มได้ที่นี่ เที่ยวอิตาลี ไปไหนดี? และ ข้อมูลเที่ยว Cinque Terre อิตาลี หมู่บ้านเล็กๆที่ไม่เล็ก ได้เลยนะคะ

จริงๆแล้ว ที่เนปาลนั้น มีเส้นทางสำหรับเทรคกิ้งอยู่มากมายเลยเชียว คือ มีหลายเส้นทาง หลายจุดหมายปลายทาง และระยะเวลาที่ใช้เทรคก็ต่างกัน มีทั้งเป็นวัน, สัปดาห์ จนถึงเดือน หลายๆ คนมักเริ่มจากที่หนึ่ง และไปสิ้นสุดอีกที่หนึ่ง แต่สำหรับหยก (หรือใครๆ) ที่มีเวลาไม่มากนัก จึงมีเวลาแค่ 5 วัน แต่ด้วยความที่อยากไปเทรคกิ้งที่เนปาลมากๆ จึงขอเลือกเทรคกิ้ง เส้นทาง “Ghorepani Poon Hill” โดยไป-กลับ ในเส้นทางเดิม โดยจะใช้เวลาเพียงแค่ 3 วัน ที่ปกติแล้ว ในเส้นทางนี้ เค้าแนะนำว่าให้ใช้เวลา 4-5 วัน ก็มันไม่มีเวลานี่เนอะ ทำยังไงได้ หลังจากหาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่เนปาลแล้ว เค้าว่า “เป็นไปได้” โดยที่หยกต้องเผื่อ 1 วันหัวและท้ายสำหรับการเดินทางไป-กลับระหว่างกรุงเทพฯ – กาฐมาณฑุ (Kathmandu) – โพคารา (Pokhara)
แนะนำเส้นทางเทรคกิ้งเนปาล เพื่อจะช่วยเลือกได้ว่าไปเทรคเส้นทางไหนดี
ในเขต Annapurna
- เส้นทางฮิต Poon Hill Trek ที่เลือกเทรคได้ตั้งแต่ 3 – 5 วัน
- Mardi Himal Trek ใช้เวลา 4 – 7 วัน
- เส้นทางน้องใหม่ ใกล้ Poon Hill Trek กับ Mohare + Khopra Trek ใช้เวลา 9 – 10 วัน
ในเขต Langtang
- Langtang Trek ใช้เวลา 5 – 12 วัน
ในเขต Manaslu
- ฮาร์ทคอร์หน่อย ก็ต้องเขตหวงห้าม Manslu Circuit & Tsum Valley Trek ใช้เวลา 20 – 22 วัน มี Manaslu Base Camp ให้ได้เทรคด้วยค่ะ
แต่ก่อนจะไปเตรียมตัวลุย Ghorepani Poon Hill Trek หากใครอยากทราบความหมายเพิ่มเติม เทรคกิ้ง คืออะไร แตกต่างจาก ไฮกิ้ง อย่างไร คลิ๊กอ่านได้ที่ตัวหนังสือสีส้มๆ นี้เลยค่ะ หรือใครกำลังจะไปอิตาลี แล้วต้องการจะทำกิจกรรมลุยๆ ไฮกิ้งเบาๆ ไม่เอาช้อปปิ้ง ก็เข้าไปหาข้อมูลเพิ่มได้ที่นี่ เที่ยวอิตาลี ไปไหนดี? และ ข้อมูลเที่ยว Cinque Terre อิตาลี หมู่บ้านเล็กๆที่ไม่เล็ก ได้เลยนะคะ
ไม่เพียงเท่านั้น หยกยังรับ จัดทริปส่วนตัว พาเที่ยว ด้วยนะคะ โดยจัดโปรแกรมเว่อร์ชั่นใหม่ ไม่ซ้ำใคร จัดตามที่เพื่อนๆ ออร์เดอร์มาเลยค่ะ อยากไปไหน อยากเที่ยวสไตล์ไหน ทำกิจกรรมอะไร บอกมาเลย หยกจัดให้! กับโปรแกรมเที่ยวหนึ่งเดียว ตรงใจ เฉพาะคุณ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์คนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปลายปี 2564 – 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
ข้อมูลและทริคดีๆ สำหรับการเทรคกิ้งที่ Ghorepani Poon Hill Trek ประเทศเนปาล

1. ถึงแม้จะมาเทรคกิ้งที่ Ghorepani Poon Hill Trek แต่รู้ไว้ใช่ว่า: ข้อควรรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับประเทศเนปาล
1). ประเทศเนปาลมีชื่อทางการว่า “สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล” เป็นประเทศในเอเชียใต้ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาหิมาลัย โดยมีพรมแดนติดกับทิเบตของประเทศจีนและประเทศอินเดีย
2). หน่วยเงินคือ รูปี (Nepalese Rupee; NPR หรือ RS) ตอนหยกไป 10 RS ประมาณ 3 บาท
3). อาหารพื้นเมืองของคนเนปาลีเรียกว่า “Nepali Dal bhat Thali set (เนปาลี ดอล บัต ธาลี่ เซ็ท)” คือจะเป็นอาหารแบบเซ็ทให้เลือกระหว่างมังสวิรัติกับมีเนื้อสัตว์ ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าว, ซุปถั่วที่เรียกว่า Dal, ผัดผักหรือมันฝรั่งกับถั่ว (ขึ้นอยู่กับผักแต่ละฤดู), แกงเนื้อสัตว์ที่เรียกว่า Curry (ขึ้นอยู่กับว่าเอาเนื้อสัตว์อะไร), Papad ประมาณว่าเป็นข้าวเกรียบทอดกรอบ มีรสชาติเค็มนิดๆ, Pickle เป็นผักดองที่มีรสชาติเข้มข้น เผ็ดและเปรี้ยว และ Chutney (ซัทนี่) ทำจากผักหรือผลไม้ที่ผสมเครื่องเทศบางอย่าง มีรสชาติหวาน เปรี้ยวและอาจเผ็ด

หยกทาน Dal bhat ทุกมื้อเลยค่ะ เป็นอาหารที่อร่อยมาก ยิ่งกินกับ Pickle (พิคเคิล) และ Chutney แล้วยิ่งถูกปากคนไทยอย่างเราๆ ค่ะ เผ็ดเปรี้ยว แซ่บจริงๆ ทั้งยังให้พลังงานสูง เหมาะสำหรับกิจกรรมเทรคกิ้งมาก แต่ข้อเสียคืออาจจะผายลมบ่อยไปหน่อย 555



ทริค
Nepali Dal bhat เป็นเซ็ทอาหารแบบบุฟเฟ่ต์นะคะ เราสามารถขอเติมได้เรื่อยๆ ซึ่งเริ่มแรกเค้าจะเสิร์ฟมาให้เราแค่นิดเดียว เราๆที่ใช้พลังงานในการเดินมากมายขนาดนี้ไม่อิ่มหรอกค่ะ ไกด์บอกว่าเค้ากลัวชาวต่างชาติกินไม่หมด ส่วนหยกนะเหรอ..เติมไปสามรอบทุกมื้อเลยแหละค่ะ อิอิ

2. ทัศนียภาพที่จะทำให้คุณประทับใจและลืมไม่ลงแน่ๆ:
1). เทือกเขาหิมาลัยที่ด้วยความสูง ทำให้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ได้แก่ยอดเขาเอเวอร์เรส (Mount Everest) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกโดยสูง 8,848 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล หรือเทือกเขาอันนะปุรณะ (Annapurna Massif) ที่ประกอบด้วยยอดเขาสูงเกินกว่า 7,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถึง 6 ยอด โดยยอดเขาอันนะปุรณะ 1 (Annapurna I) มีความสูงถึง 8,091 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

2). ความสวยงามของ “การทำนาแบบขั้นบันได (Rice Terrace)” ที่เห็นอยู่ทั่วไปตามภูเขา ไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดจากฝีมือคน น่าทึ่งจริงๆ


3). บ้านที่อยู่บนภูเขา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวๆแบบไม่กี่หลังหรือเป็นแบบหมู่บ้าน

4). ดอกกุหลาบพันปี (Rhododendrons: โรโดเดนดรอน) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศเนปาลค่ะ มีสีชมพูแดง มักอยู่บนภูเขาสูง โดยจะบานเต็มภูเขาจนกลายเป็นภูเขาสีชมพูแดง ช่วงประมาณกลางมีนาคม ถึง กลางพฤษภาคม ค่ะ มีความสวยงามมาก

5). ธรรมชาติของคน ที่ปราศจากการเติมแต่ง


6). ฝูงคุณลา ที่ทำหน้าที่หาบของใช้ต่างๆ ขึ้นไปจุนเจือคนในหมู่บ้านที่อยู่สูงๆ ขึ้นไป คุณลาดูแข็งแรงและสุขภาพดีมากๆ ถูกใช้งานหนัก แต่ก็ได้รับการดูแลอย่างดีเช่นกัน เดินกันดีๆ หลบคุณลาด้วยนะคะ หยกโดนชนมาแล้ว 3 ตัวเบาๆ ชนตรงทางแคบๆ ลาก็มองไม่เห็น คนก็หลบไม่ได้ แต่ตอนนั้นคือความเจ็บไม่มี เพราะว่าฮาและอายอยู่ 555+

7). การหาบของๆคุณลูกหาบที่เป็นเอกลักษณ์ พยายามคิดอยู่ตั้งนานว่าเค้าทำได้ยังไง โดยใช้แค่กำลังหน้าผากและมือสองข้าง ลองทำแล้วด้วย แต่ไม่รอด ผมร่วงไปหลายเส้นเลย 555+

3. จะไป Ghorepani Poon Hill Trek ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ อะไรบ้าง
เทรคกิ้งที่เส้นทาง Ghorepani Poon Hill เป็นเส้นทางระดับกลางๆ ค่อนมาทางง่ายนะหยกว่า ที่ให้ค่อนมาทางง่ายเพราะทางเดินก็เดินได้ธรรมดา ไม่ได้แคบมากมาย หรือเดินยากอะไร ส่วน trail นั้นก็ชัดเจนค่ะ แต่อาจจะลื่นได้บ้าง หากฝนตก จะยากก็แค่บางตำแหน่งที่ชันมาก จนทำให้ความสูงๆขึ้นอย่างรวดเร็ว บวกกับออกซิเจนก็เบาบางลง การหายใจอาจลำบากขึ้น เหนื่อยหอบง่ายขึ้น จึงต้องมีการเตรียมตัวให้ดีๆ เพื่อป้องกันการเกิด Altitude sickness แบบอ่อนๆ สำหรับบางคน และเพื่อการเดินที่สนุกและเพลินมากขึ้น
1). ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยการออกกำลังกาย เพราะเราต้องเดิน 5-8 ชั่วโมงต่อวันในชั้นบรรยากาศที่สูงขึ้นๆ ก่อนมาเทรคกิ้งนะคะ โดยเฉพาะ Cardio เพื่อช่วยให้ปอดใหญ่ขึ้น หายใจสะดวกขึ้น และไม่หอบเวลาเดิน ซึ่งจะช่วยให้อึดและเดินเร็วขึ้น และก็อย่าลืมเสริมสร้างความแข็งแรงของ(กล้าม)ขาด้วยนะคะ
แต่ไม่ต้องเอาอย่างหยกนะคะ ออกกำลังกายเยอะ เสริมกล้ามเนื้อ กินแต่โปรตีนและกินเยอะขึ้นด้วย แบบว่าเตรียมตัวดีไปหน่อย น้ำหนักเลยขึ้นมา 3 กิโลกรัมกว่า 555+ ไม่ไหวๆ ไม่เอาแบบนี้น้า

2). ป้องกันการเกิด การแพ้อากาศในที่สูง หรือ Altitude sickness แบบอ่อนๆ สำหรับบางคน โดยอาการที่อาจจะพบได้ คือ หายใจเหนื่อยหอบ ปวดหัว คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนล้า ไม่มีแรง เหมือนจะเป็นลม และอาจนอนไม่หลับ เนื่องด้วยความสูงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ค่อนข้างเร็ว ยิ่งเราเดินขึ้นอย่างรวดเร็ว ออกซิเจนจึงน้อยลงๆ ได้โดยการหยุดพักบ่อยๆ จิบน้ำอยู่เรื่อยๆ และหายใจเข้า-ออกช้าๆๆ ยาวๆๆ ไม่ควรหายใจถี่ๆ นะคะ ถึงแม้จะเหนื่อยและหอบมากแค่ไหน พยายามควบคุมลมหายใจให้ลึกๆ ช้าๆ ค่ะ
3). รองเท้าผ้าใบที่หนาพอสมควร จะดีมากถ้าได้เป็นรองเท้าสำหรับการไฮกิ้ง เทรคกิ้งโดยเฉพาะ เพราะพื้นรองเท้าจะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะได้ดี หนาและมั่นคงในการวางก้าวแต่ละก้าว ซึ่งรองเท้าประเ๓ทนี้จะยังช่วยป้องกันข้อเท้าและการเซได้ระดับหนึ่งอีกด้วย
ทริค
การใส่รองเท้าในการเดินที่ชันๆ ก็มีส่วนช่วยลดการบาดเจ็บจากนิ้วเท้าซ้ำ เล็บม่วงนะคะ โดยดันนิ้วเท้าไปด้านหน้ามากๆ ก่อนแล้วค่อยผูกเชือกรองเท้าให้แน่นๆ การทำเช่นนี้จะทำให้เท้าไม่มีการเคลื่อนไหว (ภายในรองเท้า) เมื่อเดินขึ้นหรือลงในที่ๆชันมากๆ เป็นเวลานานๆ
4). พกน้ำดื่ม และขนมคบเคี้ยวพวกถั่วชนิดต่างๆ, ลูกอม หรือ ช๊อคโกแลต ควรจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อทดแทนเหงื่อที่เสียไป และอาจมีการเติมพลังงานด้วยพวกถั่ว หรือเติมน้ำตาลด้วยลูกอม หรือ ช๊อคโกแลต
5). เพื่อง่ายต่อการเดิน และสนุกเพลิดเพลินกับวิวอันสุดยอดระหว่างทางมากขึ้น หยกแนะนำให้จ้างลูกหาบ (Porter) ในการแบกสัมภาระค่ะ ซึ่งราคาไม่แพงเลย
ส่วนตัวหยกนะเหรอ ขอลองแบกเองค่ะ (ต้องใช้กล้ามเนื้อ(หรือไขมันก็ไม่รู้)ที่อุตส่าห์สร้างมา) แค่สิบกว่ากิโลกรัมเอง ทำเอาการเทรคกิ้งที่มีระยะเวลาจำกัดแบบนี้ท้าทายมากยิ่งขึ้น
6). อากาศที่หนาวจะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว ควรนำแบตเตอรี่สำรองสำหรับกล้องและโทรศัพท์ ไปด้วย โดยทำการชาร์จไฟให้เต็ม แล้วเก็บไว้ในที่ๆอุ่นๆ
7). แน่นอนว่าการไป Poon Hill ก็เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัย แสดงว่าเช้าวันนั้น เราต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด ดังนั้นอย่าลืมพกไฟฉายไปด้วยนะคะ
8). สามารถทำการเช่าอุปกรณ์การเทรคกิ้ง และการนอน ได้ที่ เมืองโพคารา ในราคาถูก ไม่ว่าจะเป็น ถุงนอน เสื้อแจ๊คเกต ไม้เท้าเดินป่า รองเท้า ถุงเท้า และอื่นๆ อีกมากมาย
หยกก็ไปเช่าถุงนอนที่นั่นเอาค่ะ โดยหยกไปช่วงปลายมีนาคม กลางวันอากาศค่อนข้างร้อน แห้ง แดดแรง ฝนตกนิดๆในช่วงบ่าย ส่วนตอนเช้าค่อนข้างหนาวเย็น แต่กลางคืนนี่หนาวสุดๆเลยแหละค่ะ ดีนะที่มีถุงนอนไปด้วย
หากมี ไม้เท้าเดินป่า ก็แนะนำให้พกไปด้วยค่ะ จะได้เดินเร็วขึ้น คล่องขึ้น สบายขึ้น ซึ่งสามารถคลิ๊กอ่าน ประโยชน์ ส่วนประกอบ และวิธีการใช้ไม้เท้าเดินป่า ได้ที่ลิ้งค์ตัวหนังสือสีส้มนะคะ
9). ที่สำคัญสุดๆ คือ การเลือกที่นั่งบนเครื่องบินก็สำคัญนะคะ โดยจากกรุงเทพฯ ไปกาฐมาณฑุ ควรเลือกที่นั่งบนเครื่องบินฝั่งทางขวา เพื่อจะได้เห็นวิวของเทือกเขาหิมาลัย
ส่วนขาลุยคนไหนที่เป็นมือใหม่หัดบินไปต่างประเทศ ก็สามารถอ่านการเตรียมตัวสำหรับการบินไปต่างประเทศครั้งแรก ที่นี่ได้เลยค่ะ และ วิธีการเลือกซื้อกระเป๋าแบ็คแพ็คให้เหมาะกับคุณ


พร้อมที่จะจดโน๊ตและพร้อมไปเที่ยวหรือยังคะ ไปกันเลยค่ะ
4. จะไป Ghorepani Poon Hill Trek ต้องไปเมืองไหน จุดเริ่มเดินคือที่ไหน
ก่อนอื่นก็ต้องหาตั๋วเครื่อง ซึ่งปัจจุบันมี 3 สายการบินที่บินตรงจาก ไทย ไป กาฐมาณฑู ค่ะ โดย Thai Airways และ Nepal Airlines ออกบินจาก สุวรรณภูมิ ส่วน Lion Air นั้นบินจากดอนเมืองค่ะ ซึ่งปกติแล้ว หยกจะหาตั๋วแบบมีโปร ที่ราคาถูกหน่อย ส่วนจุดเริ่มเดินไป Poon Hill อยู่ที่ เมืองโพคาราค่ะ โดยสามารถเดินทางจากกาฐมาณฑุ ไปโพคารา ได้โดย รถทัวร์ หรือ เครื่องบิน ซึ่งถ้ามีเวลาน้อย เดินทางโดยเครื่องบินจะสะดวกกว่า เพราะใช้เวลาแค่ประมาณ 30 – 40 นาที ส่วนรถโดยสารอื่นๆ เค้าว่ากันว่าใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นค่ะ

วันที่ 1 Nayapul – Hile – Tikhedungha – Ureli
จุดเริ่มเดินคือ Nayapul (นายาบูล) (สูง 1070 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) เป็นถนนดินลูกรัง เดินง่าย วนเขาขึ้นไปเรื่อยๆ ประมาณ 8 กิโลเมตรก็ถึง Hile (ฮิลเล) (1430 เมตร) ซึ่งทางนี้รถยังสามารถวิ่งผ่านได้ รถผ่านทีฝุ่นนี้คลุ้งเชียว

หมู่บ้านต่อไปที่จะเจอก็คือ Tikhedungha (1550 เมตร) จากนี้จะเริ่มยากแล้ว ทั้งหายใจก็เริ่มลำบากขึ้นเรื่อยๆ
ทริค
หายใจเข้าออกยาวๆ หยุดพัก จิบน้ำบ่อยๆ
ทริค
ยืดเส้นยืดสายเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้ออยู่เรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นจะระบมไปทั้งตัว โดยเฉพาะขาที่จะสั่นแล้วก้าวไม่ออกในวันรุ่งขึ้น
เพราะความสูงที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากทางที่ค่อนข้างชัน ซึ่งทางเป็นบันไดหิน เค้าว่ากันว่ามีประมาณ 3500 ขั้น แต่หยกว่ามีมากกว่านั้นแน่ๆคะ ใครจะไปเทรคกิ้งรบกวนฝากนับด้วยนะคะ หึหึ เดินไปเรื่อยๆจนถึง Ureli (คนท้องถิ่นบอกว่าสูงประมาณ 2500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถึงแม้จะขัดแย้งกับข้อมูลทางอินเตอร์เนทหลายๆแหล่งบอกว่า 1960 เมตรก็ตาม เราก็เดินต่อไปค่ะ) ซึ่งนี่คือเส้นทางวันที่ 1 ของหยกคะ ค้างที่นี่คืนนึง สลบไปตั้งแต่ทุ่มกว่าๆจนเช้าเลยค่ะ

วันที่ 2 Ureli – Ghorepani
เดินไป Ghorepani (โกรีปานี) (2874 เมตร) ทางเดินค่อนข้างสบายกว่าเมื่อวาน มีบันไดหินบ้างสลับกับทางเดินดินลูกรัง ช่วงที่หยกไปเป็นช่วงที่ดอกกุหลาบพันปี (Rhododendron) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติเนปาลกำลังบานสะพรั่ง สีชมพูแปร๊ดบ้าง แดงบ้าง ชอบขึ้นบนที่สูงๆโดยเฉพาะช่วงยอดเขา กลายเป็นว่ายอดเขาละแวกนั้นเป็นสีชมพูอมแดงเลย สวยมากค่ะ

วันที่ 3 Ghorepani – Poon Hill – Ghorepani – Ureli – Tikhedungha – Hile – Nayapul
ต้องตื่นแต่เช้ามืดประมาณตี 4 เพื่อเดินไป Poon Hill (ปูนฮิลล์) (3210 เมตร) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที ทางเดินเป็นบันไดหิน เสียค่าผ่านทาง 50 RS

ทริค
ถ้าใครมีขาตั้งกล้อง ไปถึงเร็วๆก็ดีค่ะ จะได้จองตำแหน่งดีๆก่อนใคร
หลังจากนั้นก็กลับไปเอาของที่ที่พัก แล้วก็รวดเดียวค่ะ กลับลงมาเส้นทางเดิมที่เดินไปใน 2 วันแรก แทบจะกลิ้งลงมา น่วมเลยค่ะ
5. เพื่อนนักเดินทางที่คุณอาจจะพบ
นานาชาติเลยแหละคะ นักท่องเที่ยวเยอะจริงๆ พูดนมัสเตกันตลอดทางเลย
6. ไป Ghorepani Poon Hill Trekในช่วงไหนดีที่สุด?
ช่วงที่เหมาะแก่การเทรคกิ้งอยู่ระหว่างกลางกันยายนถึงกลางพฤษภาคมค่ะ โดยที่ช่วงธันวาคมมกราคมอาจจะมีอากาศที่หนาวมากหน่อย ทั้งนี้จะไปเทรคช่วงไหน ตรวจสอบอากาศก่อนไปอีกครั้งนะคะ พักหลังๆ อากาศแปรปรวนค่ะ ฤดูไม่เป็นฤดู จะได้เตรียมเครื่องกันหนาว กันฝน และอื่นๆ ไปด้วยแบบครบๆ

7. ไป Poon Hill Trek ต้องขอวีซ่าไหม?
สามารถขอวีซ่าที่สนามบินที่นู้นได้ (Visa on arrival) โดยต้องเตรียมรูปถ่ายสีขนาด 1 หรือ 1.5 นิ้ว จำนวน 1-2 ใบไปด้วย และต้องชำระค่าธรรมเนียมเป็นเงิน US dollar หรือ ไทยบาท ก็ได้ค่ะ
ทริค
สำหรับเพื่อนๆ ที่มีเวลาในกทม และไม่อยากเสียเวลาดำเนินการขอวีซ่าที่สนามบินที่เนปาล (ซึ่งกรณีนี้ เพื่อนๆ ก็จะเสียเวลาเหมือนกัน แต่จะเสียเวลาดำเนินการ และเดินทางในกทม แทนค่ะ เลือกเอานะคะว่าสะดวกแบบไหน) หยกแนะนำให้ขอจากที่สถานฑูตที่ประเทศไทยไปก่อนจะง่ายและประหยัดเวลามากกว่าค่ะ เพราะคิวของการขอ Visa on arrival ที่สนามบินนั้นยาวและดูวุ่นวายมาก อาจเสียเวลา 1-2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
7.1) ขอที่สถานฑูต ที่ กทม
นี่คือ เว็บไซต์ระเบียบการและเอกสารสำหรับการขอวีซ่าของสถานฑูตเนปาลในกรุงเทพฯ
- ยื่นคำขอได้ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 12.00 น.
- รับเล่มหนังสือเดินทางกลับได้ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 14.30 – 16.30 น. นะคะ
- โดยใช้เวลาในการพิจารณา 1 วันทำการ (รวมวันที่ยื่นขอ) นะคะ แนะนำให้ไปเช้าๆ มีสิทธิ์ยื่นเช้า รอรับเล่มกลับในช่วงบ่ายได้เลยค่ะ แต่หากต้องใช้เวลานานกว่า 1 วัน ทางสถานฑูตจะแจ้งให้ทราบ
7.2) ขอที่สนามบินเนปาล Visa On Arrival
ส่วนนี่ก็ แบบฟอร์มออนไลน์ สำหรับการขอวีซ่าที่สนามบินที่เนปาล (visa on arrival) ค่ะ โดยทำการกรอก แล้วปริ๊นถือไปที่สนามบินด้วยค่ะ ค่อยจ่ายค่าธรรมเนียมที่สนามบินเนปาล
8. บนเขาจะมีไฟฟ้าใช้ไหมนะ แล้วต้องเตรียมปลั๊กไฟแบบไหนไปน้า?
น่าประทับใจที่มีไฟฟ้าใช้เกือบตลอดเวลา โดยเค้าใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 230 V 50 Hz ใช้ปลั๊กชนิด C

9. เทรคกิ้ง Ghorepani Poon Hill Trek แบบนี้มีค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ประจำวันต่อคน ประมาณเท่าไหร่กันน้า?
A. ค่าเดินทาง อุปกรณ์และการเตรียมพร้อม ซึ่งสามารถหาซื้อหรือเช่าได้ที่โพคารา
1). แท๊กซี่คันใหม่ๆ มารอรับทั้งไป – กลับ Pokhara – Nayapul (จุดเริ่มเดินเท้า) 3,800 RS (1,140 บาท)
2). TIMS (Trekkers Information Management System) Card จาก Nayapul – Poon Hill $10 (ถ้าขอ TIMS ผ่านบริษัทท่องเที่ยวเพราะเราจะใช้บริการไกด์และ/หรือลูกหาบจากบริษัทท่องเที่ยวนั้นๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าไปขอเอง คือจะเดินเทรคเองโดยไม่มีไกด์และลูกหาบจะเสีย $20 นะคะ) ซึ่งเป็นแบบเข้าไปครั้งเดียวอยู่ได้ 30 วันค่ะ
3). ค่าไกด์ที่พูดภาษาอังกฤษได้ $25-35 ต่อวัน ขึ้นกับประสบการณ์ไกด์และการต่อรองราคาค่ะ โดยที่ราคานี้เนทๆ แล้ว โดยที่เราไม่ต้องเสียค่าที่พักหรืออาหารให้ไกด์เพิ่มนะคะ
4). ค่าลูกหาบ (Porter) $20 ต่อวัน สามารถหาลูกหาบได้ที่ Pokhara หรือ Nayapul
ทริค
หยกว่าการจ้างไกด์ไม่จำเป็นถ้าคุณได้จ้างลูกหาบที่พอจะพูดภาษาอังฤษได้ ยังไงก็ไม่หลงทางค่ะ ทางเดินค่อนข้างจะชัดเจน ถึงแม้จะไม่มีป้ายบอกทาง แต่ยังไงก็ต้องเดินไปกับลูกหาบอยู่ดี

5). ค่าเช่าถุงนอนและเสื้อกันหนาว 100 RS (30 บาท) ต่อวัน
ทริค
หยกแนะนำให้เช่าถุงนอนไปนะคะเพราะตอนกลางคืนอากาศหนาวมาก แล้วเกสเฮาส์ก็ไม่ได้มีฮีทเตอร์ที่ห้องนอน แต่หลายๆ ที่จะมีเตาผิงที่ห้องกินข้าวค่ะ

B. ค่าที่พักและอาหารในโพคารา
1). ค่าที่พักต่อคืน ยังสามารถหาที่พักราคาประหยัดๆ 700-1300 RS (210-390 บาท) ที่รวอาหารเช้าได้ค่ะ ซึ่งมีให้เลือกเยอะแยะไป
2). ค่าอาหารที่เป็นอาหารพื้นเมือง Nepali Dal bhat 1 เซ็ท (บุฟเฟ่ต์) เริ่มที่ 200 RS (60 บาท)
3). ชานม 1 แก้ว 30-40 RS (9-12 บาท)
4). โมโม่ 100-250 RS (30-75 บาท)
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์คนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปลายปี 2564 – 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
C. ค่าที่พักและอาหารในหมู่บ้านระหว่างทางที่เทรคกิ้ง
1). ค่าที่พักแบบห้องน้ำรวมต่อคืน 200-250 RS (60-75 บาท) ส่วนแบบมีห้องน้ำในตัวต่อคืน 500-600 RS (150-180 บาท) ซึ่งเกือบทุกเกสเฮ้าส์จะมีน้ำร้อนให้อาบค่ะ
ข้อควรรู้
ตรวจสอบเงื่อนไขให้ดี เพราะหลายๆที่จะให้ที่พักราคานี้ให้ในกรณีที่คุณจะต้องทานอาหารที่เกสเฮ้าส์ด้วยเท่านั้น ไม่เช่นนั้นต้องจ่ายค่าห้อง 1,000 RS (300 บาท) ต่อคืน
2). ค่าอาหารที่เป็นอาหารพื้นเมือง Nepali Dal bhat 1 เซ็ท (บุฟเฟ่ต์) เริ่มต้น 400 RS (120 บาท) ในเขตพื้นที่ต่ำๆ โดยที่ยิ่งสูงขึ้น ราคาก็เพิ่มค่ะ
3). ชานม 1 แก้ว 60-100 RS (18-30 บาท)
4). ชานม 1 เหยือกเล็ก เริ่มต้น 250 RS (75 บาท)
5). น้ำร้อนต้ม 1 แก้ว 50 RS (15 บาท)
6). น้ำดื่ม 1 ขวดใหญ่ (1.5 L) 300-400 RS (90-120 บาท)
ข้อควรรู้
เกือบทุกเกสเฮ้าส์และร้านอาหารจะมีน้ำดื่ม (Safe drinking water) แบบเติมบริการ โดยเติมใส่ขวดน้ำของเรา ราคา 60 RS (18 บาท) ต่อ 1 ลิตร ซึ่งเป็นน้ำดื่มจากบริษัทในประเทศเนเธอแลนด์ที่มาเปิดโรงงานผลิตบนเขา สะอาด และได้มาตรฐาน ที่สำคัญราคาถูกกว่าน้ำดื่มเป็นขวดเยอะเลยค่ะ

ทริค
เพื่อเป็นการประหยัดเพิ่มไปอีก หยกแนะนำให้ซื้อมูสลี่ ที่ร้านขายของที่เมืองโพคาราค่ะ มาเติมชาหรือกาแฟลงไป ทานอุ่นๆท้อง อิ่มมากด้วย พลังงานมาเพียบ พร้อมลุยเทรคกิ้งยาวไปๆ

10. ประกันการเดินทาง ที่ครอบคุลมกิจกรรมการเทรคกิ้ง ใน เนปาล ที่ความสูงไม่เกิน 4,500 m
ใช่ค่ะ ประกันการเดินทางสำหรับกิจกรรมการเทรคกิ้งในเนปาล นั้นหายากมากๆ แล้ว บริษัทต่างๆ ที่เคยครอบคลุม ก็ต่างยกเลิกและครอบคลุมเทรคกิ้งเนปาลกันแล้ว แต่หยกมีบริษัทที่ครอบคลุมกิจกรรมการเทรคกิ้ง บนเขาสูงที่ไม่เกิน 4,500 เมตร ที่เนปาล มาแนะนำค่ะ ซึ่งครอบคลุมการเทรคกิ้งบนเส้นทาง Poon Hill Trek ด้วย เป็นบริษัทของญี่ปุ่นค่ะ เชื่อถือได้ มีประสบการณ์สูง และเก่าแก่มากๆ ค่ะ คือก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี 1879 โอ้โหหห ที่สำคัญคือ ศูนย์ในไทยด้วยค่ะ หากมีข้อข้อใจใดๆ ก็โทรสอบถามได้เลย ส่วนการซื้อประกันนั้น ก็ซื้อผ่านออนไลน์ได้ง่ายๆ เลยค่ะ
โดยมีขั้นตอนการซื้อ ดังนี้
1. คลิ๊กลิ้งค์นี้
2. ที่ช่องทางด้านขวา ตรงคำว่า “Quote Estimator”
3. ช่อง “Coverage Area” เลือก “Worldwide, excluding U.S.
4. ช่อง “Coverage Start Date” ใส่วันที่เดินทางไป | ช่อง “Coverage End Date” ใส่วันที่เดินทางกลับ
5. ช่อง “Traveler’s Birthdates” ใส่วันเดือนปีเกิด
6. หากมีผู้เดินทางมากกว่า 1 ท่าน (ที่เดินทางในช่วงเดียวกัน) ให้เลือก “Add traveler” แล้วใส่วันเดือนปีเกิด
7. จากนั้นคลิ๊ก “Get Quote Now”
จะเปลี่ยนเข้าสู่อีกหน้า “Choose Plan”
8. เราจะได้ราคามาสำหรับ 2 แพลน คือ
8.1) Atlas International | Most popular plan = แพลนพื้นฐาน
8.2) Atlas International Premium | Highest coverage = แพลนดีสุด
- ไม่ต้องสนใจ ช่อง “Deductible” นะคะ เพราะประกันที่เราซื้อไม่ได้สูงมากพอที่จะทำการลดหย่อนแล้วคุ้มค่าค่ะ
- สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของแพลนนั้นๆ โดยคลิ๊กที่ “View Plan Highlights” แล้วคลิ๊ก “Download Full Policy PDF” เพื่อดู policy แบบละเอียดของแพลนนั้นๆ
9. เลือกแพลนที่ต้องการ ส่วนตัวหยกจะเลือกตัว premium ค่ะ ประโยชน์เยอะกว่า หากมีอะไรเกิดขึ้น จะครอบคลุมและคุ้มที่สุดค่ะ (แต่หวังว่าจะไม่ต้องได้ใช้นะคะ) จากนั้น คลิ๊ก “Buy Now”
จะเปลี่ยนเข้าสู่อีกหน้า “Destinations”
10. ที่ช่อง “Primary Destination” ให้เลือกประเทศที่จะเดินทาง เราก็เลือก “Nepal” ค่ะ แล้วคลิ๊ก “Next Step”
จะเปลี่ยนเข้าสู่อีกหน้า “Traveler Information”
11. ให้ใส่รายละเอียดของเราลงไป ในช่องของ “Beneficiary” คือ ชื่อผู้รับผลประโยชน์ค่ะ หมายถึงว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเรา เงินประกันจะตกไปอยู่กับคนๆ นั้น นั่นเองค่ะ เมื่อใส่ข้อมูลครบ ให้คลิ๊ก “Next Step”
จะเปลี่ยนเข้าสู่อีกหน้า “Check Out”
12. กรอกข้อมูลเพิ่ม และชำระเงินค่ะ
จะเปลี่ยนเข้าสู่อีกหน้า “Confirmation”
13. รับการยืนยัน และเป็นอันเรียบร้อยค่ะ ปริ๊นประกันเก็บไว้ได้เลยค่ะ
11. แนะนำที่พักใน Pokhara
ที่พักเหล่านี้ หยกเลือกเองจากความเห็นส่วนตัวว่าน่าพัก ถ้าหยกต้องเลือกที่พักในโพคารา ที่พักแบบไหนที่หยกจะเลือก จึงมั่นใจได้ค่ะ ว่าที่พักเหล่านี้หยกไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสปอนเซอร์ไหนๆ ไม่ได้มีการถูกบอกให้เอามาลง เพราะเป็นที่พักที่หยกเลือกมาแนะนำเพื่อนๆ เองค่ะ
A). Gurkha Lodge (ถูก)
คนรักธรรมชาติ ความเงียบสงบ และความเป็นกันเอง ต้องรักที่นี่ค่ะ ที่พักกึ่งๆ บังกะโล แบบธรรมดาๆ แต่มีเสน่ห์และอบอวลไปด้วยความสุขความสบายใจ มีเสียงนกร้องเพลงคลอเบาๆ ในยามเช้า ทั้งยังใกล้ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว และไม่ไกลจากทะเลสาบเฟวาอีกด้วยค่ะ กับราคานี้คือคุ้มค่าเกินราคา แบบไม่ต้องเสียเวลาตัดสินใจ ทั้งยังจะกลับมาค้างที่นี่อีกแน่นอน
B). Hotel Blue Magnet (ถูก)
โรงแรมใหม่กิ๊กที่ทุกอย่างใหม่ตั้งแต่หมอนผ้าห่มไปจนถึงอุปกรณ์ต่างๆจึงมีความสะอาดและสะดวกสบายตัวตึกมีการตกแต่งสวยงามมีระเบียงที่ด้านล่างยังมีสวนหย่อมให้ได้นั่งทานอาหารเช้าเพลินๆเคล้าบรรยากาศชิวๆกับแสงแดดอ่อนๆอีกด้วยค่ะทั้งยังใกล้ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวและไม่ไกลจากทะเลสาบเฟวาอีกด้วยค่ะ
C). Hotel Blossom (ถูก)
อีกตัวเลือกที่ดีกับที่พักกึ่งร้านกาแฟ ตกแต่งเก๋ไก๋ บรรยากาศดี น่านั่งชิวสุดๆ กับชุดอาหารเช้าสุดเริศ เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีเยี่ยมมากๆ ห้องพักสะดวกสบาย มีหน้าต่างให้แสงสว่างเข้า บางห้องยังมีระเบียงให้ออกไปนั่งจิบชาชิวๆ อีกด้วยค่ะ และแน่นอนว่า อยู่ใกล้ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว และไม่ไกลจากทะเลสาบเฟวาอีกด้วยนะคะ
D). Hotel Ezen (ถูก–กลางๆ)
ที่พักทำเลดีอยู่ใกล้ถนนใหญ่ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวที่มีวิวดีสามารถมองเห็นทะเลสาบเฟวาได้จากห้องนอนและที่ชั้นบนสุดยังเป็นจุดชมวิวหิมาลัยที่สวยงามมากๆอีกด้วยค่ะต้องรีบจองเลยนะคะราคาดีทำเลดีที่พกดีแบบนี้เต็มไวมากๆค่ะ
E). Hotel Rosemary Homes (ถูก–กลางๆ)
ที่พักทำเลดี อยู่ใกล้ถนนใหญ่ ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว ห้องพักใหม่ ตกแต่งเรียบง่าย ด้วยสีสันที่แตกต่างในแตะละห้อง ทั้งยังอยู่ติดกับร้านอาหารเจ้าของเดียวกัน ร้านอาหารดังที่มีชื่อเสียง มีรสชาติและคุณภาพดี ไหนจะยังมีพื้นที่สวนหย่อมให้ได้นั่งทานอาหารและผ่อนคลายเพลินๆ อีกด้วยค่ะ
F). Three Jewels Boutique Hotel (กลางๆ)
ที่พักทำเลดีอีกแล้วเดินไม่กี่นาทีก็ถึงถนนใหญ่กลางเมืองท่องเที่ยวแล้วค่ะเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจกับที่พักที่ตกแต่งเรียบง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สวยงามห้องสะอาดและน่านอนสุดๆทั้งยังมีห้องนอนที่สามารถมองเห็นวิวหิมาลัยให้ได้เลือกพักด้วยนะคะ
G). Hotel The Coast (กลางๆ)
แนะนำที่นี่สุดๆเลยค่ะกับห้องพักที่มีระเบียงพร้อมที่นั่งเล่นในห้องนอนกับวิวทะเลสาบเฟวาแบบส่วนตั๊วส่วนตัวที่จะทำให้ฟินจนไม่อยากออกจากห้องเลยค่ะซึ่งแน่นอนเลยว่าทำเลของที่พักนั้นดีสุดๆห้องพักก็กว้างสะอาดตกแต่งแบบคลาสสิกและอีกอย่างที่น่าดึงดูดใจให้เข้าพักคือบริเวณทานอาหารเช้านั้นให้วิวทะเลสาบเฟวาเต็มๆแบบใกล้ชิดสุดๆเลยค่ะ
H). Tourist Residency (กลางๆ)
แนะนำๆๆอีกแล้วถ้รใครมีงบสักหน่อยและกำลังมองหาที่พักแบบมีเอกลักษณ์แบบที่ตกแต่งกึ่งๆสไตล์ยุโรปแบบที่ไม่คิดว่าจะมีในเนปาลอยู่หรือเปล่าคะนี่เลยค่ะที่พักสไตล์บ้านพักตากอากาศกับห้องพักที่สวยมากๆน่าอยู่เป็นที่สุดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ตกแต่งได้อย่างลงตัวบางห้องยังมีอ่างจากุชชี่อีกด้วยนะคะ
I). Pokhara Choice Inn (หรูหรา)
ที่พักทำเลดีๆบนถนนใหญ่เลยค่ะทั้งห้องยังใหญ่กว้างตกแต่งหรูหราดูดีสุดๆมีระเบียงด้วยค่ะที่เลือกได้ว่าต้องการวิวเมืองหรือวิวหิมาลัยหรือวิวทะเลสาบเฟวาอาหารเช้าก็เป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีให้เลือกทานมากมายที่นี่ดีไปทุกอย่างทั้งทำเลห้องพักและบริการตัวเลือกดีๆหลังเทรคเสร็จนี่เหมาะเลยค่ะ
J). Mingtang Garden Cottage (หรูหรา)
โอ้ยยหลงรักที่นี่มากๆเลยค่ะทำเลก็เริ่ดการตกแต่งก็สวยมีเอกลักษณ์แบบที่น่าจะมีแค่ที่นี่ที่เดียวในเนปาลเน้นการตกแต่งแบบจีนสุดโบราณด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลักอย่างปราณีตงดงามประกอบกับการตกแต่งที่เก๋ไก๋ของที่พักขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ของสวนหย่อมที่จัดและตกแต่งร่มรื่นที่เหมาะสุดๆกับการมาพักผ่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการให้รางวัลตัวเองหลังเทรคเสร็จซึ่งถือว่าราคาไม่แพงเลยถ้าเทียบกับที่ไทย

พร้อมไปเทรคกิ้งที่ Poon Hill หรือยังคะ หยกหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณผู้อ่าน ได้เตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการเทรคกิ้ง เส้นทาง Poon Hill เพื่อทริปที่สนุก และประทับใจแบบสุดๆ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้หยกฟังบ้างนะคะ
ถ้ามีข้อสงสัยหรือคำถามใดๆ เขียนลงคอมเม้นต์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ หยกยินดีจะตอบและอ่านทุกคอมเม้นต์
เส้นทางนี้เดินไป-กลับประมาณกี่กิโลเมตรคะ?
ขอบคุณมากค่ะ
สดีค่ะ คุณ Alisa
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ และขออภัยที่ตอบช้าค่ะ หยกพึ่งจบทริปไทยเที่ยวไทยค่ะ แอบหนีไปขึ้นเขาหลวงสุโขทัย, เข้าประจวบ ไปปีนเขาล้อมหมวก และ ขึ้นชมวิวที่จุดชมวิวเขาแดงที่ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดมาค่ะ 🙂
เส้นทางเดิน Poon Hill Trek นี้สามารถเลือกเดินไปกลับได้หลายแบบเลยค่ะ ระยะทางจึงแตกต่างกันไปตามเส้นทางที่เลือกเดิน เช่น ถ้าเริ่มจาก Nayapul สิ้นสุดที่ Ghandruk จะประมาณ 40 กิโลเมตรค่ะ แต่ถ้าเริ่มจาก Nayapul แล้วกลับมาทางเดิมที่ Nayapul ก็จะประมาณ 50 กิโลเมตรค่ะ ทั้งจำนวนวันที่เดินก็ต่างกันไป
คุณ Alisa แพลนจะไปช่วงไหนคะเนี่ย หยกนี่อยากไปเทรคเนปาลมากมายเลยค่ะตอนนี้ หิวโหยมากๆๆๆ
ขอบคุณมากเลยค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้แพลนเลยค่ะ กำลังเข้ามาเก็บเกี่ยวข้อมูลของแต่ละเส้นทางค่ะ หลายๆเส้นทางน่าสนใจมาก แต่ระยะเวลาจำกัดเลยสนใจเส้นนี้เป็นพิเศษ อีกอย่างเป็นคนชอบเดินเขาเหมือนกัน คิดว่าเส้นทางนี้น่าจะง่ายสำหรับตัวเราเอง ไม่ต้องปรับตัวอะไรกับอากาศมากด้วย ถ้าระยะทางไม่เกิน50กิโลก็สบายเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะคุณหยก ??
สวัสดีค่ะคุณหยก ชื่อจอยค่ะ
สนใจไป trek แต่ไม่มีปสก.มาก่อน มีแต่ใจและเวลาค่ะ อยากไปชมดวงอาทิตย์ ขึ้นที่ poonhill ช่วงปลายเดือนตุลาคมปีนี้ 2563 ตอนนี้ยังไม่มีเพื่อนร่วมทริปค่ะ กำลังหาอยุ่
สวัสดีค่ะ คุณจอย
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ วันนี้หยกพึ่งดูรูปที่หยกไปเทรคที่เนปาลพอดีเลยค่ะ ?
Poon Hill เดินง่ายค่ะ เดินสั้นๆ มือใหม่สามารถไปเดินได้สบายๆ ยังไม่ต้องมีอุปกรณ์เฉพาะอะไรก็ไปได้ค่ะ โดยสามารถใส่รองเท้าผ้าใบที่มีอยู่แล้วไปเดินได้อีกด้วยนะคะ ทั้งยังเดินไปที่ไม่สูงมาก จึงลดความกังวลเรื่องอาการแพ้ความสูงไปได้ค่ะ
ช่วงนี้ยังติดเรื่องโควิด และการปิดประเทศ จึงอาจคาดการณ์ยากเรื่องการเดินทางไปเนปาลในปีนี้ คุณจอยติตตามข่าวเรื่อยๆ นะคะหากต้องการที่จะไปปลายปีนี้
ทั้งนี้ มีเพื่อนๆ หลายท่านติดต่อหยกมา เรื่องทัวร์ จัดทริปเที่ยวหลายๆ ที่ รวมทั้งทริป Poon Hill ด้วยนะคะ ซึ่งหยกกำลังวางแผนจัดทริปเที่ยวสำหรับปีหน้า หากคุณจอยสนใจร่วมทริปไปสนุกด้วยกัน ซึ่งก็จะมีเพื่อนใหม่มากมายที่ยังไม่เคยเทรคกันทั้งนั้น มือใหม่อยากเทรคไปด้วยกันทั้งกลุ่ม สนุกแน่ค่ะ ตอนนี้หยกให้เพื่อนๆ ทำการจองที่ไว้ โดยไม่ต้องวางมัดจำจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2564 ค่ะ คุณจอยสามารถจองที่ไว้ก่อนได้เลย โดยแอดไลน์หยกมาที่ LINE ID: sanooktiew รายละเอียดต่างๆ พร้อมเมื่อไหร่ หยกจะอัพเดทให้ทราบทันทีเลยค่ะ
สวัสดีค่ะ เห็นคุณหยก จัดทริปเทรคเเบบให้กำลังใจคนมือใหม่หัดเดิน เหมือนว่ามีความหวังว่า ในชีวิตนี้เราก็มีสิทธิ์ทำได้
ขอสอบถามเป็นข้อๆนะคะ
1. ถ้าไปกับคุณหยก ทริป poon hill เหมาะกับการเดินครั้งเเรกไหมคะ
2. ที่พักที่ระหว่างเดินคุณหยกจัดให้ใช่ไหมคะ
3. มีอะไรบ้างที่ไม่รวมในค่าทริป3×,××× แล้วต้องจ่ายเอง
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณจิ๊
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ ช่วงนี้โควิดระบาด ทำการเดินทางท่องเที่ยวหยุดนิ่งไปเลยค่ะ แต่สิ่งที่ไม่หยุดแน่ๆ สำหรับคนรักและอยากเที่ยว ก็คือการท่องเที่ยวออนไลน์ แบบที่หาข้อมูลและที่เที่ยวสะสมๆ ไว้ รอวันฟ้าใส แล้วออกไปท่องโลกกันอีกครั้งนะคะ 🙂
“ต้องมีครั้งแรก สำหรับทุกคน” ซึ่งครั้งแรกคนมักจะ “คิดว่า” ยากและน่ากลัวเสมอ เพราะเราไม่รู้เลยว่ามีอะไรรออยู่ ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เราจะทำนั้นคืออะไร แต่ความเป็นจริงแล้ว มันคือแค่ความคิดค่ะ เพราะในความเป็นจริง เราแค่ต้องการความกล้า กล้า…ที่จะเริ่มทำ และการเตรียมตัวที่ดี ซึ่งในเรื่องของการเตรียมตัวนี้ หยกยินดีช่วยเต็มที่ค่ะ
ขอตอบคำถามเลยนะคะ
1. ใช่ค่ะ Poon Hill Trek เหมาะสำหรับการเริ่มเดินครั้งแรก สำหรับมือใหม่ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย มากันเป็นครอบครัวก็สนุกได้ค่ะ หยกรับหมดค่ะตั้งแต่วัยเด็ก (8 ขวบขึ้นไป) จนถึงสูงวัย โดยเฉพาะเส้นทางที่หยกจัดที่หยกได้ออกแบบแผนการเดินใหม่ ให้ง่ายมากกว่าเดิม ให้มีเวลาได้ซึมซับบรรยากาศระหว่างเดินมากขึ้น แบบที่ไม่ต้องเร่งรีบ จะได้ไม่ต้องมาปวดเมื่อยทรมานกล้ามเนื้อเมื่อจบทริปค่ะ
2. ใช่ค่ะ หยกจัดการเรื่องที่พักตลอดทริป ทั้งที่พักในเมืองและระหว่างเทรคให้ด้วยค่ะ รวมทั้งเรื่องอาหารการกิน ที่จะแนะนำอาหารพื้นเมือง แต่ละจานคืออะไร ทำจากอะไร รสชาติจะประมาณไหน ทานยังไง ซึ่งรับรองได้ว่า จะเป็นการท่องเที่ยวเนปาลของจริงตลอด 9 วัน ที่หยกจะพาลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของจริง ที่ชาวพื้นเมืองทานกัน ไม่ใช่อาหารพื้นเมืองเว่อร์ชั่นที่ชาวต่างชาติทานกันค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะว่าจะทานไม่ได้ เพราะหยกจะพาทานอาหารหลากหลายชนิดมากๆ ค่ะ ที่รับรองได้ว่าต้องมีอาหารจานโปรดที่คุณจิ๊ชอบอยู่ด้วยแน่ค่ะ
3. ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ประมาณนี้ค่ะ
✅ รวม: ค่าที่พักในเมืองทุกวัน+อาหารเช้า, ที่พัก+อาหารระหว่างเทรค, เดินทางด้วยรถส่วนตัว, ไกด์ไทย (หยกเองค่ะ) ตลอดทริป, ไกด์พื้นเมืองและลูกหาบ ระหว่างเทรค
❌ ไม่รวม: ค่าตั๋วเครื่องบินนานาชาติ (ประมาณ 7,500 – 15,000 บาท ขึ้นกับสายการบินที่เลือก), ค่าวีซ่า (1,000 บาท สำหรับวีซ่า 15 วัน), ค่าประกันการเดินทาง (ราคาขึ้นกับอายุ), ค่าทิป (แล้วแต่พอใจ) และ ค่าซื้อหรือเช่าอุปกรณ์เทรคกิ้ง (ราคาคร่าวๆ ของค่าเช่าอุปกรณ์กับร้านที่หยกจะพาไปเช่าในเนปาล ถุงนอนขนห่านแท้ 25 – 40 บาท/วัน | ไม้เท้าเดินป่า 150 – 200 บาท/ครั้ง | down jacket ขนห่านแท้ 25 – 40 บาท/วัน)
หวังว่าจะคลายข้อข้องใจนะคะ ระหว่างนี้ (ถึงแม้จะยังไม่มีทริปออกจนกว่าโควิดจะหายไป) หากคุณจิ๊มีคำถาม หรือ ข้อสงสัยต่างๆ คอมเม้นต์เข้ามาถามหยกได้เลยนะคะ ยินดีมากๆ ค่ะ
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ล้างมือให้ถูกสุขลักษณะ และ ช่วยกันลดการออกนอกบ้านนะคะ โควิดจะได้ไปเร็วๆ และเราจะได้ออกเที่ยวกันไวไวค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหยก
ขอสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายหน่อยค่ะ
ทางบริษัททัวร์ที่เนปาลส่งราคามาให้พร้อมทั้งแจ้งว่าให้โอนเงิน 50$ ต่อคนไปล่วงหน้า เพื่อให้ทางเค้าดำเนินการเรื่อง permit, ค่ารถทัวร์ และเรื่องอื่นๆ อยากทราบว่าเราจำเป็นต้องโอนจริงๆไหม มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกบริษัททัวร์เค้าให้โอนหรือเปล่า คือเอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยไว้ใจ
อีกเรื่องคือ รถที่จะไปและกลับ Nayapul-Pokhara ค่ารถที่ว่าประมาณ 3,800rs อันนี้คือต่อเที่ยว ต่อคันใช่ไหมคะ แล้ว 1 คันนั่งได้กี่คน คือว่าจะไปกัน 6 คน เลยจะได้ประมาณราคาได้ว่าจะตกคนละเท่าไหร่
รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
เบ๊บ
สวัสดีค่ะ คุณเบ๊บ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 เอเจนซี่ที่เนปาลมีเยอะมากๆ ค่ะ แต่ละที่ก็มีนโยบายที่แตกต่างกัน เราก็ไม่ไว้ใจเค้า ในทางกลับกัน เค้าก็เกรงว่าเราจะจองแต่สุดท้ายยกเลิกหรือเงียบหายไป ใจเค้าใจเราค่ะ แต่ทั้งนี้ ใจเย็นๆ ค่ะ ไหนๆ เราจะเสียเงินแล้ว เราต้องมั่นใจว่ามันจะต้องคุ้มค่าที่สุด หยกแนะนำให้ตรวจสอบเอเจนซี่นั้นๆ ค่ะว่าได้รับการรับรองจากรัฐบาลเนปาลหรือไม่ (ตามลิ้งค์เลยค่ะ) ลองหามาสัก 2 – 3 ที่นะคะ เทียบคุณภาพ การบริการ ราคา และความถูกใจเบื้องต้นค่ะ
เรื่องค่ารถไปกลับ Nayapul – Pokhara นั้น เป็นรถแท๊กซี่ค่ะ 1 คัน นั่งได้ 3 คน ซึ่งราคาเก่าตอนที่หยกไปมาเมื่อปี 2015 ค่ะ หยกเดว่าตอนนี้ราคาคงไม่เท่าเดิมแล้ว ทั้งนี้ สอบถามเอเจนซี่ได้เลยค่ะ เค้ามีรถไว้บริการมากมาย ไปหลายจุดหมายปลายทางด้วยค่ะ จะได้ราคาที่เป็นปัจจุบันค่ะ อ่อ อย่าลืมสอบถามเอเจนซี่ด้วยนะคะ ว่า ไกด์กับลูกหาบเดินทางพร้อมเราไหม หรือแยกไปกันเอง ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไหม ประมาณนี้ค่ะ
ทั้งนี้ หยกจัดทริปเทรคกิ้งเนปาลด้วยนะคะ บนเส้นทาง Mohare + Khopra + Khayer Lake (วันที่ 6 – 19 พ.ย. 2562) ค่ะ สวย มีเอกลักษณ์ คนน้อยสุดๆ ที่สำคัญ ใครๆ ก็ว่าสวยกว่า Poon Hill ด้วยนะคะ ทั้งยังได้เห็นหิมาลัย 4 – 6 ลูกแบบพาโนรามาแทบทุกวันเลยค่ะ มากันหลายๆ คน หยกมีส่วนลดให้ถึง 15% เลยด้วยนะคะ ลองดูรายละเอียดทริปได้ที่นี่ และอ่านรีวิวพร้อมรูปภาพสวยๆ ตอนที่หยกไปมาเมื่อต้นปีได้ที่นี่เลยค่ะ หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติม สอบถามเข้ามาได้เลยนะคะ ที่ trips@sanooktiew.com
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากค่ะคุณหยก หากมีอะไรสงสัยเพิ่มเติม ขอรบกวนส่งคำถามไปหานะคะ รีวิวดีมาก จะเข้าไปชมเรื่อยๆ ค่า
ยินดีมากเลยค่ะ และขอบคุณมากๆ สำหรับการติดตามค่ะ แนะนำติชมเข้ามาได้เลยนะคะ 🙂
ผมอ่านแล้วข้อมูลเเน่นมากครับ แต่ขออนุญาตถามเพิ่มเติมนะครับ เพราะผมจะเดินทางในเดือนหน้าแล้ว เดินทางเองเทรคกิ้งเองไม่จ้างไกด์ครับ
1. พอจะทราบราคาตั๋วรถบัส จากกาฏมานฑุ-โพคารา ราคาประมานเท่าไหร่ครับ
2. ขากลับจาก nayapul กลับเข้าโพคารามีรถบัสหรือต้องเหมาเเท๊กซี่อย่างเดียวครับ
สวัสดีค่ะ คุณปรานต์
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์และคำชมนะคะ เป็นกำลังใจสุดๆ เลยค่ะ 🙂
1.รสบัสมีราคาตั้งแต่ $8-25 เลยค่ะ ขึ้นกับความไฮโซ ราคาถูกๆ ก็ open-air ธรรมชาติจังๆ ฝุ่นเยอะหน่อย แต่สนุกกว่า ให้บรรยากาศของการเริ่มออกเดินทางเพื่อจะไปเทรคกิ้งดี แถมประหยัดด้วยค่ะ ส่วนราคาแพงๆ ก็แบบมีแอร์ มีอาหาร(ที่อาจจะอร่อยหรือไม่อร่อยก็ได้)+น้ำดื่มบริการ บรรยากาศน่าเบื่อ 555+ ไม่มีอะไรตื่นเต้นสักเท่าไหร่ระหว่างการเดินทาง หนำซ้ำยังจ่ายแพงกว่าอีก
2.เท่าที่ทราบคือมีรถบัสและ/หรือรถตู้ออกทั้งวันตั้งแต่ 6 โมงเช้า แทบจะทุกชั่วโมงเลยนะคะ โดยมองหารถที่จะไปถนน Baglung Beni หรือ Kushma ไม่งั้นก็ลองหานักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เพื่อแชร์แท๊กซี่ไปก็จะเร็วและสบายกว่านะคะ
สุดยอดเลยค่ะไปเทรคเอง ตื่นแต้นไหมคะเนี่ย เดินทางปลอดภัย เทรคกิ้งให้สนุกนะคะ กลับมาเล่ามาอัพเดทให้ฟังบ้างนะคะ
ปล. หยกกำลังจะออกหนังสือ คู่มือเทรคกิ้ง บนเส้นทาง Manaslu & Tsum Valley ในเนปาล เดือนหน้านี้แล้ว ฝากติดตามด้วยนะคะ เอาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับเทรคกิ้งครั้งถัดไปค่ะ ซึ่งเดี๋ยววันนี้หยกจะเอาสารบัญไปโพสต์ในเฟสบุ๊คเพจ จะได้เห็นว่าข้างในมีอะไรบ้างนะคะ 🙂
ขอบคุณมากๆเลยครับ มาเจอข้อมูลเเน่นๆที่นี่ก็หายห่วงไปเยอะเลย ตอนนี้ก็ทำแค่วีซ่ากับจองโฮสเทลคืนแรกที่กาฏมานฑุไว้ที่เหลือคือลุยครับ 555 ผมไป 12 วัน อยากจะเก็บบรรยากาศให้ครบรวมถึงเมืองมรดกโลกด้วยครับ
สวัสดีค่ะ คุณปรานต์
ยินดีมากๆเลยค่ะ อย่าลืมตรวจสอบช่วงวันหยุดในเนปาลนะคะ เผื่อบังเอิญไปตอนที่มีวันหยุดพอดี จะติดปัญหาเรื่องขอใบ permit เอาค่ะ ดื่มชาเนปาลเผื่อหยกด้วยนะคะ 🙂
สนใจอยากเทรคกิ้งแบบคุณหยกสักครั้ง ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้เลย ไม่ทราบจะมีทริปอีกมั้ยคะ อยากสมัครเป็นลูกทีมคะ
สวัสดีค่ะ คุณเม
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะและขอบคุณที่อยากร่วมทริปเทรคไปด้วยกันนะคะ 🙂 หยกมีแพลนจะจัดทริปเทรคค่ะ กำลังมองหาแนวร่วมอยู่ค่ะว่าจะมีคนอยากร่วมทริปไปด้วยกันไหม ขอบคุณที่เม้นต์เข้ามาให้หยกได้มีแรงฮึดที่จะจัดทริปเทรคจริงๆขึ้นนะคะ ฝากติดตามด้วยนะคะ หากหยกจัดทริปเมื่อไหร่จะมาคอมเม้นต์แจ้งนะคะ 🙂
ปล.ต้องขออภัยที่ตอบล่าช้านะคะ ตอนนี้หยกท่องเที่ยวอยู่ในทาจิกิสถาน พึ่งเข้าเมืองใหญ่เลยพึ่งจะมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตค่ะ
รบกวนสอบถามค่ะถ้าไปเทรคกิ้งตามคุณหยกต้องเตรียมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่คะ
ขอบคุณค่ะ?
สวัสดีค่ะ คุณทราย
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ ? หยกพึ่งจบทริปเทรคมาวันนี้ค่ะ เลยต้องขออภัยที่ตอบล่าช้านะคะ ?
หยกได้ระบุค่าใช้จ่ายคร่าวๆไว้ในบทความในข้อ 9 ข้อย่อย A แล้ว ยังไงลองเข้าไปดูรายละเอียดเพื่อนำทางคร่าวๆนะคะ ทั้งนี้ด้วยความที่เทรคเส้นทางนี้เป็นที่ฮิตมากๆ ค่าใช้จ่ายอาจจะแตกต่างจากปัจจุบันได้นะคะ
น้องหยก พี่อยากทราบที่จะติดต่อทุกอย่างที่จะไปtrekking poll hill ต้องจองจากไทยไปหรือไปหาที่เนปาล ถ้าไปที่เนปาลควรติดต่อที่ไหน พี่ควรใช้ระยะเวลากี่วัน พี่เดินทางไปเองครั้งแรกค่ะรบกวนช่วยหน่อยนะค่ะ พี่ติดตามน้องอยู่อยากร่วมทริปด้วยค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ (เราทำงานวงการเดียวกันค่ะ)
สวัสดีค่ะ คุณพี่ Renu
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 หยกไม่ทราบว่าคุณพี่ Renu วางแผนจะไปเทรคช่วงไหน คือหยกกำลังวางแผนจัดทริปเทรคที่เนปาลค่ะ กำลังสำรวจตลาดและหาข้อมูลอยู่ค่ะ 🙂 สนใจไปร่วมลุยด้วยกันหรือเปล่าค่ะเนี่ย แต่ระหว่างนี่ที่หยกยังไม่มีทริปออกมา หยกขอตอบคำถามดังนี้ค่ะ โดยสามารถติดต่อบริษัทท่องเที่ยวในเนปาล(ผ่านอีเมล)จากที่ไทยไปเลยได้ค่ะ เพื่อให้บริษัทท่องเที่ยวนั้นๆจัดเตรียมเอกสารต่างๆให้พร้อม พอไปถึงก็จะได้เตรียมเดินได้เลย
หยกแนะนำให้ติดต่อไปสัก 2-3 บริษัทเพื่อหาบริษัทที่ให้ดีลที่ดีที่สุด ซึ่งบริษัทท่องเที่ยวที่แนะนำให้ติดต่อไปนั้นจะต้องเป็นบริษัทท่องเที่ยวที่มีการรับรองจากรัฐบาล ซึ่งสามารถสอบถามขอดูเอกสารจากบริษัทท่องเที่ยวนั้นๆได้เลยค่ะ ทังนี้เค้ายังมีแผนการเทรคมาให้เลือกด้วยค่ะ ว่าจะเดิน 4 วันแบบไป-กลับ หรือถ้าจะเดินจบลูปต้องใช่เวลากี่วัน จะได้เลือกตามเวลาที่เรามีค่ะ ทั้งอย่าลืมสอบถามถึงไกด์คนที่จะไปกับเราด้วยนะคะว่ามีใบอนุญาตไกด์หรือเปล่า จะได้ไม่มีปัญหาระหว่างการเทรคตอนที่ตรวจใบอนุญาตเดินเขาค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ 🙂 เดินทางครั้งแรกมันก็จะตื่นเต้นและกังวลเป็นธรรมดาค่ะ เตรียมตัวดีๆ ออกกำลังกายให้พร้อมให้ร่างกายฟิตๆก็ไม่มีปัญหาแล้วค่ะ 🙂
ทำงานวงการเดียวกันคือสายการแพทย์ใช่ไหมคะ? เอ๊ะๆๆๆ หรือสายเที่ยวค่ะ อิอิ เพราะตอนนี้หยกออกแล้ว เบนเข็มมาทำทางท่องเที่ยวอย่างเดียวเลยค่ะ แฮ่ๆๆ ลั้นล้าๆ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมทริปด้วยกันค่ะ
สนใจเข้าร่วมทริปเนปาลกะคุณหยกด้วยนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณสุดาพร
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์และความสนใจที่อยากร่่วมทริปกับหยกนะคะ 🙂 หยกกำลังวางแผนเรื่องทริปอยู่ค่ะ อาจจะเป็นช่วงปีหน้า หากมีหยกจะอัพเดทให้ค่ะ ยังไงฝากติดตามด้วยนะคะ 🙂
จ้า น้องหยก ขอโทษทีทำให้รอเนิ่น นาน เพราะ หลังจากกลับมา น่วมด้วยงาน และเรื่องมากมายไม่ได้มีโอกาส มาเล่าประสบการณ์เลย
ปี 2016 พี่และสามี เดินทาง ไปเนปาล ในช่วง กลาง พย ค่ะ โดยวางแผนว่า จะเทรคกิ้งแบบง่ายๆ คือ พูลฮิล ในระยะเวลา 3วัน 2 คืนค่ะ
โดยที่จะบิน ไป กาฐ และ โพคารา ในวันเดียวกัน ค้างในเมืองโพคารา 1คืน และเทรคในวันรุ่งขึ้น แต่ความจริง คือ
**วันแรก** เดินทางโดยการบินไทย เครืองบิน ดีเลย์ค่ะ 2 ชม บินวนๆไป หาที่จอดไม่ได้ ตกเครื่องบิน ไป โพคารา ทำให้ต้องนอนค้าง ที่ กาฐ 1 คืน พี่เลย หาเช่า อุปกรณ์การเดิน จาก กาฐไปเลยค่ะ เยี่ยมมากในวันแรก โชคดี ทางไกด์ ดูแล เรื่อง โรงแรม และ เปลียนตั๋วให้ค่ะ
**วันที่สอง** เที่ยวบินโพคารา เที่ยวเช้า ประมาณ 8โมงเช้า แต่ ดีเลย์ อีก ชมได้ ทำให้ การเทรค ต้องเปลี่ยนเส้นทางอีก พี่มี สองหนุ่ม มารับที่สนามบินโพคารา ขึ้นรถไป นายาปูลโดยเร็ว เพื่อทานอาหารกลางวันแบบเร็ว และเริ่ม เทรคอย่างเร็ว พรวดเดียว ถึง Hile มีความรู้สึกว่า ทาง สองหนุ่ม ไม่ได้ เตรียม ที่พักไว้ นะคะ เหมือนว่า ดูการทำเวลาของเราก่อน แต่ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ที่พักสะดวกสบาย และมาถึง ช่วง บ่าย3 ด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะ เส้นทาง เป็นทางราบ เลยเดินสบาย วันนี้ ร่างกายไม่มีอะไร สบายๆ แต่คิดว่า เดินเร็วเกินไป (คิดในใจนะคะ) อาหารในวันนั้น คือ ซุปถั่ว กับ แป้งน่าน อร่อยดีค่ะ นั่งคุยกับ นักท่องเที่ยวอื่นๆ เล็กน้อย และเข้านอน ที่พักไม่มี ผ้าห่มนะคะ แต่เรามีถุงนอน การอาบน้ำ เนื่องด้วยห้องน้ำค่อนข้างไกล เรา ใช้ ผ้าเปียกแทนการอาบน้ำค่ะ
**วันที่สาม** วันนี้ Hile-Ullie-Ghorepani พรวดๆ สำหรับพี่ค่ะ เราออกแต่เช้า คือดีดตัวออกมาเป็นกลุ่มแรกใน ที่พักค่ะ ทางเดิน เร่ิ่มเป็นขั้นบันไดแล้วค่ะ ไม่อยากนับ เดี๋ยวท้อค่ะ ตอนนี้ มีความรักในไม้เท้ามากๆ คือช่วยผ่อนแรงได้เยอะค่ะ การเดินในวันนี้ หยุดพักมากขึ้นกว่า เมือวาน กินน้ำมากขึ้น แต่ไม่อยาก อาหารเท่าไหร่ เรามาถึง Ghorepani เกือบเย็นค่ะ มีเวลานอนพัก ก่อนอาหารค่ำ ที่พักที่นี้เป็นที่แรก ที่มีห้องน้ำในตัว มีผ้าขนหนู ผ้าห่ม สำหรับอาหารค่ำ สองหนุ่ม จะมาถามก่อน ว่า ต้องการทานอะไร เวลาอะไร ทางห้องครัวจะเตรียมทำไว้ ตามเวลา ปกติ พี่จะทานช่วง 6 โมงครึ่งค่ะ อาหาร ค่ำสั่งข้าวผัด และผัดหมี่ค่ะ วันนี้ พี่มีอาการเข่าตึงๆ ในข้างที่เคยบาดเจ็บ
**วันที่สี่** ตื่นตี3 ออกจากที่พัก ตี4 ค่ะ เดิน ไป พูลฮิล ใช้เวลาไม่นาน (คือ เค้าเดินกันเร็ว พี่เลยต้องเร็วตาม) มีการจ่ายค่าธรรมเนียม ก่อนขึ้น
ข้างบน มีเครืื่องดื่ม ร้อนขายค่ะ คนไม่เยอะมาก นั่งรอ แสง สบายๆ ไม่หนาวมากค่ะ
พวกเราเดินลงมายังคงมีมาพวกเดินสวนขึ้นไป เก็บกระเป๋า และเดินต่อค่ะ จุดเจ็บใจ(ตัวเอง)อยู่ตรงนี้ค่ะ คือ ขากลับ Ghorepani -Ghundruk แล้วจะต่อรถที่ Bazaar อะไรสักอย่าง ต้องขอโทษนะคะ จำชื่อไม่ได้ แล้วมานอนที่โพคารา คือ เข่า ข้างขวาเจ็บค่ะเจ็บแบบทุกครั้งที่งอ เริ่มมีอุปสรรคการเดินเกิดขึ้น จากที่เดินเร็วมาตลอดตอนนี้ เดินช้า ถึงช้ามาก คนเดินแซงไป ๆ เส้นนี้เดินเข้าที่ ป่าชื้น ค่อนข้างลื่น ก็ยิ่งช้าไปอีก สุดท้ายไม่ถึงปลายทางค่ะ สองหนุ่ม ให้หยุดพัก ที่กลางทาง เค้าบอกว่า มันต้องเดินอีก 3 ชม ซึ่งเค้าคิดว่า พี่ทำเวลาไม่ได้ พี่จึงต้องนอนบนเขา อีกหนึ่งคืน เวลาตอนนั้นคือ บ่าย3 กว่าๆ ค่ะ จึงพักนอน และ มาทานอาหารค่ำ ซึ่ง จะสั่งไว้และระบุเวลา ที่ต้องการไว้ก่อน ค่ะ เมนู ซุปค่ะ ที่พัก สบายค่ะ มีผ้าห่ม ผ้าขนหนู มีห้องน้ำทุกๆชั้นเลย มีน้ำอุ่นด้วย
**วันที่ห้า** วันนี้ตื่นเช้าออกจากที่พักแบบมืดๆ ค่ะ เพราะกลัวไม่ทัน เครื่องบิน รอบ 11โมง ที่โพคารา ขาดีขึ้นค่ะ รู้สึก ขัดๆบ้างแต่เดินได้ดีกว่าวันก่อน วันนี้ เราเดินแนวทางลัดค่ะ ไม่มีวิว ลัดเลาะไปตามไหล่ทาง ก้อนกรวด เดินยากแต่มันเป็นทางลัด( สองหนุ่มว่างั้นค่ะ) ใช้เวลา ชม กว่าๆ ค่ะ ถึงที่หมาย นั่ง ดื่มกาแฟ รอแท็กซี่มารับ ตอน 7โมงเช้า
เส้นทางที่แท็กซี่ ขับลงมา เป็นเส้นทาง คล้ายๆ นายาปูล นะคะ ทางแบบลงเขา(หินเยอะมาก)ไต่ไหล่เข่า ยางแตกไปหนึ่งรอบ คือพี่ทำใจนะคะ ว่า คงไม่ทันเครื่อง แต่แล้ว ก็ทันนะคะ เย้ มีเวลาเพียงพอมากๆเลย เพราะ เครื่องดีเลย์ อีก เราเลยทาน อาหารเช้า ดื่มกาแฟ สแนก คุยกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ บางคน ลุ้นหนักมาก เพราะ ต้องบินกลับประเทศ ภายในวันนั้น
ในที่สุดถึงที่หมาย กาฐ ในช่วง บ่าย 3กว่าๆ เข้าที่พัก เป็นคืนแรกที่พักจริงจังค่ะ คือ อาบน้ำ สระผม เป่าผมกันเลยที่เดียว ออกไปทานอาหาร ดื่มกาแฟ ร้านน่ารักๆเยอะนะคะ แถวทาเมล ช็อปกันเล็กน้อย ยังมีอารมณ์ ไปโยคะ ด้วย ถือเป็นฉลองคืน สุดท้าย ที่เนปาลค่ะ
**วันที่หก** วันนี้ไม่เร่งรีบเลย จัดการตัวเองเรียบร้อย ใช้เวลาที่เหลือ ในการเที่ยวในกาฐ วัดลิง จตุรัส แล้วตรงไปสนามบินค่ะ อ้อ วันนี้ เครื่องยังคงดีเลย์ แต่เล็กน้อยค่ะ ไม่มาก
สรุปเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยนะคะ สำหรับประสบการณ์ของพี่เอง
1. การจองตั๋ว เครื่องบิน ในลักษณะ บินติดต่อกันวันเดียว อาจมีกรณีล่าช้าได้ แต่คุยกับสายการบินได้นะคะ ว่าขอบินรอบถัดไป หรือวันถัดไป เที่ยวแบบนี้ ต้องทำใจสบายๆค่ะ ปัญหาเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง
2. ของทานเล่น ถ้าลืมซื้อ ข้างบนมีเยอะนะคะพวก บิสกิต น้ำอัดลม อาหารเยอะ แต่ราคา อาจสูงหน่อย จุดพัก จุดช้อป ข้างบนมีเยอะเช่นกันค่ะ แต่พี่ไม่ค่อยพักกันค่ะ พักทานกลางวันกันอย่างเดียว ยกเว้นวันที่ลงจาก พูลฮิลนี้ละ มีพักกินน้ำชากันเลยทีเดียว
3. อุปกรณ์ การเดิน มีขาย และเช่า เยอะนะคะทุกอย่างเลย ทั้งที่ กาฐ และ โพคารา พวกพี่เอง มีซื้อ และ เช่า จากที่นั้น หลายอย่างเหมือนกัน ยกเว้น พวก เสื้อกันหนาว อันนี้ เราเอามากันเองค่ะ
4. ของใช้เล็กๆน้อยๆ เช่น ผ้าทิชชู่เปียก มีไว้ดีนะคะ เช็ดตัวได้ ร้องเท้าแตะ เอาหน่อยก็ดีค่ะ เพราะ บางที่พัก ไม่มีให้ค่ะ เผื่อเราอยากเข้าห้องน้ำ
5. อินเตอร์เนท มีนะคะ บางที่พัก ค่อนข้างดีเลย สำหรับพี่ พี่ซื้อซิม ที่มีเนทน่ะคะ เพราะ ถึงจะลาพักร้อนมา แต่มันมีงานบางอย่างที่ต้องทำทุกวัน ฉะนั้น พี่จำเป็นต้องใช้เนทค่ะ
6. อาหาร สำหรับพี่ พี่ว่าดีนะคะ พี่ทานได้ทุกอย่าง แต่ไม่ได้สั่ง อาหารชุดพื้นเมือง เพราะมันเยอะค่ะ อาหารกลางวัน สำหรับพวกพี่ ไกด์จะหยุดพักช่วงเกือบบ่ายๆ ร้านอาหารมักจะมีแค่กลุ่มพี่อยู่กลุ่มเดียวทุกครั้งไป (สงสัยทานสายไป) อาหารค่ำ ไกด์ จะมารับออเดอร์และถามเวลาที่เราต้องการทาน ทำให้ไม่เคยต้องรอเลย ไม่ว่าคนเยอะแค่ไหนก็ตาม
7. ค่าใช้จ่าย พี่ซื้อความสะดวกนะคะ แบบแพคเกจ ตกคนละ 513. ค่ะ อันนี้ รวมถึง ค่า โรงแรม คืนแรกที่กาฐ ด้วย สิ่งที่ไม่รวมคือ
– ค่าน้ำดื่ม น้ำเปล่า น้ำอัดลม และ ชา กาแฟ ในแก้วที่สอง
– ค่า แท็กซี่ ตอนเที่ยววันสุดท้าย ที่กาฐ ค่าอาหารค่ำ ที่กาฐ
หวังว่า จะเป็นประโยชน์ บ้างนะคะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าคำไหนสะกดผิด พี่ไม่แป้นไทย ส่วนรูปถ่าย ถ่ายน้อยมาก ถึงมากที่สุด เพราะลืมกล้องค่ะ ฮ่าๆ ถ่ายในมือถือ นิดหน่อยค่ะ เลยไม่มีภาพอวด
ถ้าพี่มีได้มีโอากาสไปไหนอีก จะมาแชร์อีกนะคะ
พี่แก้ม
สวัสดีค่ะ พี่แก้ม
โหหหหห ขอบคุณมากๆสำหรับการสละเวลามาแบ่งปันประสบการณ์เทรคกิ้งเส้น Poon Hill นะคะ อ่านแล้วลุ้นตามเลยค่ะ ตั้งแต่ตกเครื่อง ไหนจะดีเลย์ทุกเที่ยวบิน เจ็บเข่าจนต้องค้างอีกคืน ยางรถแตกอีก! แต่อ่านดูแล้ว พี่แก้มกับสามีคงสนุกและมีความสุขกับทริปนี้มากเลยนะคะเนี่ย เพราะขนาดเจออุปสรรคเยอะแบบนี้ สิ่งที่เขียนมา กลับดูอ่อนโยน ไม่มีอารมณ์โกรธ หรือ หงุดหงิดเลย หรือตอนนั้นพี่แก้มอาจจะหัวเสียมากๆ ก็เป็นได้ แต่เรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ ทั้งสภาพอากาศที่ทำให้เครื่องดีเลย์ ยางรถแตก หากจะหงุดหงิดไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ซึ่งพอเวลาผ่านไปเรื่องราวปนอุปสรรคแบบนี้ก็กลายเป็นเรื่องเล่าผจญภัยที่มันส์ สนุกตื่นเต้นเลยนะคะ (หยกก็มีเรื่องแบบนี้เยอะค่ะ พักหลังๆ หากเจอพวกอุปสรรคแบบนี้ ก็ไม่อารมณ์เสียค่ะ เพราะรู้ว่าเดี๋ยวเรื่องแบบนี้มันก็จะกลายเป็นประการณ์ที่เล่าได้ไม่ลืม) โชคดีที่แก้ปัญหาได้ตลอด หยกนี้ลุ้นตามมากๆ ต้องขอบคุณสองหนุ่มอีกแรงด้วยค่ะที่พาไปทางลัดตอนขากลับ และถึงแม้ยางรถแตกแต่ก็ทันเครื่อง เลยมีวันว่างชิวๆที่กาฐมัณฑุ ถึงขนาดที่ว่าได้ไปโยคะด้วย โอ้ววว ปรบมือดังๆสามทีเลย สุดยอดมากๆ กล้ามเนื้อคงแฮปปี้มากมายหลังจากเล่นโยคะเสร็จนะคะ 🙂
ต้องขอบคุณพี่แก้มมากๆอีกครั้งค่ะที่สละเวลาอันมีค่ามาแชร์ประสบการณ์ให้ได้ลุ้นตาม 🙂
วันเวลาผ่านไป(เร็ว) และไม่เคยย้อนกลับ ดูแลตัวเองดีๆนะคะ ดูแลหัวเข่าด้วย ทำงานหนักๆ พักผ่อนเยอะๆ กินดีๆ ออกกำลังกายด้วยค่ะ ที่สำคัญหาเวลาไปท่องเที่ยว ผ่อนคลายกายและใจด้วยนะคะ 🙂
น้องหยก
สวัสดีอีกครั้งค่ะ ขอบคุณค่ะ พี่หวังว่า ประสบการณ์ของพี่จะเป็น เกร็ดเล็กๆ สำหรับ คนอื่นต่อไปนะคะ พี่เป็นคนไม่ หงุดหงิดโมโหอะไรค่ะ
คือมันเป็นเรื่องควบคุมไม่ได้น่ะคะ มองในแง่ดีว่า อย่างน้อยเรามีทางเลือกอย่างอื่นอีก
ขอบคุณจ้า ในเรื่องเข่า ตอนนี้ดีขึ้นจ้าปีนี้ จริงอย่างที่น้องหยกว่า นะคะ วันเวลาผ่านไปเร็ว พี่เองไม่มีโปรแกรมเที่ยวอะไรเลย ปีนี้เพราะเวลาและโอกาสไม่เหมาะสมเลย มีแต่ร่วมแข่ง สปาตัน อันนี้ เอามาแชร์ได้ไหมละ ฮ่าๆ
สวัสดีค่ะ พี่แก้ม 🙂 หยกว่าประสบการณ์ของพี่แก้มให้ข้อคิดและเกร็ดมากมายเลยแหละค่ะ ไหนจะเรื่องที่หลายคนมักนึกไม่ถึง หรือไม่คิดว่าจะเกิด การควบคุมสถานการณ์ การคิดบวก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยเสริม ปัจจัยทางอ้อม ที่ทำให้ปัญหาอุปสรรคทุกอย่างผ่านพ้นไป และที่สำคัญคือพี่แก้มช่วยทำการอัพเดทข้อมูลเทรคกิ้งเส้นทาง Poon Hill และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่เพื่อนๆที่สนใจจะไปเดินเส้นทางนี้ด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆ ต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะ
ว่าแต่ สปาร์ตัน ที่พี่แก้มไปร่วมแข่งขัน นี่คือ การแข่งขันผจญภัยผ่านด่านลุยๆต่างๆหรือเปล่าคะ ถ้าใช่ นี่คือหญิงเหล็กเลยนะเนี่ย ขอคารวะเลยค่ะ 🙂
ฮัลโหลน้องหยกจ๋า พี่แก้มเอง พี่ขอโทษด้วยที่ไม่ได้มาอัพเดท การเดินทางให้ฟัง เพราะต้องสารภาพว่า พี่หา เวป เราไม่เจอ (น่าอาย)จนกระทั่งมีเมลเตือน เลย ได้มีโอกาสเข้ามาอีก ขอเวลาสักพัก จะมาอัพเดทนะจ๊ะ
พี่แก้ม
สวัสดีค่ะ พี่แก้ม ไม่มีปัญหาค่ะ ชิวๆ แค่เข้ามาคอมเม้นต์ทักทายเล็กๆน้อยๆก็ดีใจแล้วค่ะ 🙂 พี่แก้มสบายดีนะคะ กล้ามน้งกล้ามเนื้อเป็นยังไงบ้าง ว่าแต่ขาลงได้กลิ้งลงหรือเปล่าคะ 55+ รอฟังเรื่องราวสนุกๆ ตื่นเต้นๆ นะคะ เทคแคร์ค่ะ 🙂
สวัสดีครับคุณหยก
อ่านเพลินเลย มีประโยชน์แม้กระทั่งคำถามและคำตอบ เยี่ยมมากๆ เลยครับ พอดีผมจะมีทริปไปกาฐ โพคารา และนากากอต พอดี หาข้อมูลอ่าน มาได้ประโยชน์ตรงนี้พอดีเลย ผมกำลังงงกับราคาของคุณแก้มที่ได้ราคามา กับราคาของคุณหยก 585 เหรียญ อันนี้เป็นราคาอะไรเหรอครับ ทำไมถึงต่างจากคุณหยกมาก หรือว่าแล้วแต่สถานที่จะไปครับ คือผมจะไปตรงที่ตอนเช้าอาทิตย์ขึ้นแสงสาดส่องยอดเขาเป็นสีส้มๆ กลายเป็นสีทองน่ะครับ ผมไม่แน่ใจว่าเรียกว่า มัจฉาปูชาเล่มั้ย
รบกวนขอความเห็นคุณหยกด้วยครับ
ชอบอ่านที่คุณหยกรีวิว อ่านง่ายดี เข้าใจ ตื่นเต้นตามเหมือนไปด้วยกันเลยครับ ชอบมากครับ อ่อ ผมชอบเดินทาง ชอบสัมผัสวิถีชีวิตคนท้องถิ่นครับ ผมเดินทางกาฐ โพคารา นากาก๊อต 6 วัน น่าจะพอ เดินทางช่วง 20 มกราคม 61 ครับ ขอให้ฟ้าเปิดเห็นแสงสีทองทีเถ้อะะะ 555
สวัสดีค่ะ คุณอิ่มบุญ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 ราคาที่คุณพี่แก้มแจ้งมาคือราคาจากบริษัททัวร์ที่เสนอมาให้ในทริปเทรคกิ้ง Poon Hill ค่ะ โดยรวมใบอนุญาตในการเทรคกิ้ง “TIM card”, ที่พักทุกคืน (ยกเว้นในกาฐมัณฑุ) และอาหารทุกมื้อ ไม่รวมค่าไกด์, ลูกหาบ และตั๋วเครื่องบิน กาฐมัณฑุ – โพคารา ซึ่งราคาสูงมากๆ ส่วนหยกไปเทรคกิ้งเอง ไม่ได้ซื้อผ่านบริษัททัวร์ เลยถูกกว่าเยอะค่ะ
โดยทั่วไปการเห็นแสงอาทิตย์สีส้มทองในตอนเช้า และตอนเย็น เป็นไปได้ในทุกๆที่เลยค่ะ ถ้าท้องฟ้าเป็นใจ อากาศแจ่มใส ไม่มีเมฆและมลพิษ (ฝุ่น) บดบัง ซึ่งช่วงมกราคมนั้นเป็นช่วงที่อากาศดี เป็นใจในการชมแสงสีทองมากๆค่ะ 🙂 เพียงแต่ว่าถ้าหากคุณอิ่มบุญไม่ได้วางแผนในการเทรคกิ้ง การที่จะเห็นแสงสีทองสาดส่องยอดเขาชัดๆเต็มๆ นั้นเป็นไปได้ยากค่ะ หากจะกล่าวถึง ยอดเขาหางปลา หรือ Machapuchare ยอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ห้ามปีนนี้แล้ว โดยหยกยังไม่มีโอกาสได้เทรคกิ้งเพื่อชื่นชมยอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ค่ะ ซึ่งตอนที่หยกเทรคกิ้งไป Poon Hill นั้น หยกสามารถมองเห็นยอดเขาหางปลานี้แบบไกลๆ แต่มุมที่เห็นเป็นด้านข้างค่ะ เลยเห็นเป็นแค่ยอดเขาแหลมๆ ไม่ได้เห็นรูปร่างของยอดเขาที่เป็นหางปลา อีกทั้งในช่วงเช้าที่ Poon Hill พระอาทิตย์ขึ้นที่ด้านหลังยอดเขาแห่งนี้ จึงย้อนแสง เลยมองไม่เห็นแสงสีทองค่ะ
คุณอิ่มบุญจะไปเที่ยวใน 3 เมืองที่กล่าวมานั้น คือเที่ยวชมบ้านเมือง สัมผัสวิถีคนพื้นเมือง ไม่ทราบว่าได้เทรคกิ้งด้วยไหมคะเนี่ย เตรียมตัวดีๆนะคะ สอบถามเข้ามาได้เรื่อยๆเลยนะคะ หยกยินดีตอบคำถามเต็มที่เลยค่ะ 🙂
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ 🙂
สวัสดีครับคุณหยก
ผมไม่แน่ใจว่าจะได้ไปแทรคกิ้งหรือเปล่าครับ จริงๆ แล้วผมชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติและได้สัมผัสชีวิตคนพื้นเมืองที่ต่างจากที่เราคุ้นเคยน่ะครับ ชอบเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของผู้คนที่เราไปสัมผัส ผมไปอินเดียมาหลายรอบได้เห็นวิธีชีวิตหลายอย่างของคนอินเดีย ทำให้ผมได้แง่คิดการใช้ชีวิต ซึ่งดีมากๆ เลยครับ ทริปกาฐ โพคาร่า นากากอต เป็นทริปกลางมกราคมปีหน้าครับ แต่ผมมีทริปพม่าก่อน ตามด้วยบาหลี ครับ ถ้ามีอะไรก็จะเล่าให้คุณหยกฟังนะครับ ขอให้ทริปเดินทางของคุณหยกสะดวกสะบายปลอดภัยทุกประการครับ
ขอโทษด้วยครับที่ไปตอบกลับในอีเมล ผมลืมไปครับ
สวัสดีค่ะ คุณอิ่มบุญ อ่านคอมเม้นต์แล้วเหมือนว่าหยกกำลังส่องกระจกเลยค่ะ มันมีความสุขแบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆค่ะ แถมยังรู้สึกสบายใจ โล่งใจ แบบไม่มีความกลัวใดๆ คงเป็นเพราะความจริงใจของคนพื้นเมือง ว่าไหมคะ 🙂 แต่ต่างกันที่หยกเคยไปอินเดียแค่ครั้งเดียวเองค่ะ ทั้งๆที่อยากจะไปอยู่ไปเที่ยวที่นั่นสัก 3 เดือน 6 เดือนเลยเชียว
พม่า กับ บาหลี หยกก็ยังไม่เคยไปค่ะ คุณอิ่มบุญไปกลับมาแล้ว ชี้แนะ แนะนำหยกด้วยนะคะ ให้สุขภาพแข็งแรง, เดินทางปลอดภัย และสนุกทุกๆทริปนะคะ 🙂
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ และก็ไม่มีปัญหาค่ะเรื่องตอบกลับไปที่อีเมล์ 🙂
ยินดีเลยครับคุณหยก จริงๆ แล้ว อินเดียพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลผู้คนย่อมแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ครับ แต่เราเลือกเฉพาะสิ่งดีรับเอาไว้ในใจเรา อย่างบาหลีครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วครับ เที่ยวธรรมชาติ สัมผัสชีวิตผู้คน พม่าครั้งที่สามแล้วครับ สัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมพื้นเมือง สนุกดีครับ ใช่ครับ เหมือนที่คุณหยกบอก รู้สึกมีความสุขใจ สะบายใจ โล่งใจอย่างบอกไม่ถูกครับ ไม่มีจากความกังวลความกลัวเลย แม้ว่าเราจะเดินทางคนเดียว เอาไว้นึกออกแล้วค่อยๆ เล่าให้ฟังนะครับ อาจจะเล่าไม่เก่ง หากคุณหยกเดินทางไปที่ไหนก็ให้ปลอดภัยและมีความสุขนะครับ
สวัสดีค่ะ คุณอิ่มบุญ เห็นด้วยอย่างยิ่งยวดเลยค่ะ หลังจากไปเที่ยวเนปาลแล้ว หยกว่าคุณอิ่มบุญคงได้ไปอีกหลายรอบเป็นแน่ 🙂 เช่นกันนะคะ เดินทางปลอดภัย มีความสุข สนุก และมีรอยยิ้มทุกๆทริปเลย 🙂
การได้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์บนยอดเขาที่เราอยากไปนั้นมีความสุขมากครับ ขอให้ได้ไปหลายๆๆๆ ครั้งให้ทั่ว อย่างที่คุณหยกบอกคงจะดีนะครับ ขอบคุณมากครับ ขอให้คุณหยกมีสุขภาพดีแข็งแรงจะได้แทรกกิ้งมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
สวัสดีครับ คุณหยก
ผมมีคำถามจะถามอีกละ 555+ สงสัยกับเพื่อนมากและอยากได้คำตอบที่ชัวร์ๆ จากคุณหยกผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน อิอิ
สรุป…1. เส้นที่ไป Poon Hill ที่คุณหยกเคยไป คุณหยกไปทำ TIMS อย่างเดียวใช่มั้ยครับ ไม่ต้องทำ ACAP ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ เพราะเห็นว่าถ้าทำ ACAP ด้วยต้องไปเส้น Annapun
2. ตอนคุณหยกถึงนายาปุล ตอนนั้นกี่โมงครับที่เริ่มเทรคกิ้ง
3. คุณหยกรู้จักอีกเส้นทางมั้ยครับ Ghandruk ถ้ารู้จัก…คิดว่าทางไหน ภาพอลังกว่ากัน ถ้าไม่ก็…ข้ามไปเลยครับ 55+
สวัสดีค่ะ คุณเชษ แหมๆๆ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน ฟังดูแก๊แก่ เอ้ย ดี๊ดี 555+
1. ACA Entry Permit (ที่คุณเชษเรียก ACAP ดูได้ตามรูป ใบยาวๆภาพล่างนะคะ) ต้องทำค่ะ เพราะว่า Poon Hill เป็นส่วนหนึ่งใน ACA (Annapurna Conservation Area) แต่ว่าใบนี้จะทำตอนเริ่มเดินไปสักพักแล้วนะคะ โดยยื่นใบ TIMS card (ใบขอบฟ้าๆ ตามรูป ภาพบนเลยค่ะ) ให้ตรงจุดตรวจ ซึ่งจะอยู่หลังจากเราเดินไปได้สักพัก คือถ้าไม่ผ่านจุดนี้ก็จะเดินต่อไม่ได้ 555+ ดังนั้นจะเห็นเคาน์เตอร์จุดตรวจชัดเจนค่ะ
2. หยกเริ่มเดินจากนายาปุล ประมาณ 10 โมงเช้าค่ะ มัวแต่เอ้อระเหย ออกเดินสายเลย
3. Ghandruk มันเป็นลูป คือ เทรคกิ้ง ไป Poon hill แล้วกลับลงมาอีกทาง หยกไม่ได้กลับทางนั้นค่ะ เสียใจ เพราะเวลาน้อย เลยไป-กลับทางเดิม ถ้าคุณเชษมีเวลา ควรๆๆอย่างยิ่ง เถียงกับเพื่อนด่วนค่ะ เทรคกิ้ง ไป-กลับ เป็นลูปเลย จัดไปๆ รับรองวิวอลังแน่ แล้วเอามาอวดคนผ่านร้อนผ่านหนาวแต่ไม่ได้ไปด้วยนะ
เที่ยวเผื่อ กินเผื่อ ถ่ายรูปเผื่อด้วยนะคะ หากมีอะไรที่หยกพอจะช่วยได้ ก็เม้นต์มาเลยจ๊ะ ยินดีมากมาย 🙂
โอ้ว ขอบคุณมากครับ เข้าใจละ
ผมหาข้อมูลมาเรื่องทำ TIMS ได้มาว่า ในทาเมล สามารถทำได้ที่สำนักงานฯ ถ้าไปเองไม่จ้างใครเลย ก็ต้องเข้าไปทำเองอันนี้ถูกต้องใช่มั้ยครับ แต่วันที่ผมไปถึงคือวันเสาร์ซึ่งจากที่หาข้อมูลมาก็ปรากฎว่า สำนักงานใหญ่น่าจะปิด
ข้อมูลจากเว็บนี้ครับ – ผมก็อ่านอังกฤษไม่เก่งด้วยสิ แต่เข้าใจตามนั้นอะครับ
แบบนี้ผมคงต้องทำวันอาทิตย์สินะ แล้วสายๆ ค่อยบินไปโพขระ
สวัสดีค่ะ คุณเชษ เอางี้ๆ เว็บที่คุณเชษหามา แลดูมิค่อยน่าเชื่อถือ เอาลิ้งค์นี้ๆ ดีกว่าค่ะ TAAN website (Trekking Agencies’ Association of Nepal) มีที่มาชัดเจน รายละเอียดชัด เข้าใจง่าย เป็นขั้นเป็นตอน และครบถ้วน จะบอกว่าโชคดีแหละ สำนักงานที่ ทาเมล เค้าเปิดวันเสาร์ด้วย แต่เปิด 10 โมงเช้า ถึง บ่ายโมงตรง ไปทำทันไหมเอ่ย? ถ้าไม่เช่นนั้นก็ต้องเป็นวันอาทิตย์ แต่ที่ทาเมล เค้าเปิดเช้ามากๆ ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็นนะ 🙂
เอกสารที่ต้องเตรียม มี 3 อย่างค่ะ สำเนาพาสปอร์ต, รูปถ่ายขนาดเท่ารูปติดพาสปอร์ต 2 ใบ และ แผนการเดินทาง (วางแผนจะเทรคกิ้งจากไหนไปไหน กี่วัน ประมาณนั้นค่ะ)
ทำเองทั้งหมดแบบนี้ แค่ขั้นตอนการเตรียมตัวก็เริ่มสนุกแล้วสินะคะ เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง สนุกล้นๆ บอกเลย 🙂
ปล. สิ่งที่คุณเชษถามมาทั้งหมดนั้น มันเป็นประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่จะไปเทรคกิ้งที่ Poon Hill ดังนั้น หยกจึงย้ายคอมเม้นต์ที่มีประโยชน์เหล่านี้ จากบทความ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง กับข้อคิดดีๆที่จะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น นี้ ไปสู่ ข้อมูลท่องเที่ยว เทรคกิ้งที่ Ghorepani Poon Hill นะคะ ^^
ขอบคุณครับ อาจถามยาวไปเยอะ 555+ ตอนนี้ก็เริ่มคิดเรื่องที่พักกับสถานที่เที่ยวเมืองต่างๆ ต่อละ ขอบคุณคุณหยกที่แนะนำข้อมูลดีดีให้ครับ
ยินดีมากๆค่าา อีกทั้งคำถามต่างๆนั้นก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้อื่นที่สนใจจะไปเทรคกิ้งที่ Poon Hill เป๊ะๆเลยค่ะ ดีๆๆ ไปเที่ยวกลับมา หากมีข้อมูลใดอัพเดท หรือมีประสบการณ์มันส์ๆ อยากแชร์ ก็อย่าลืมมาคอมมเม้นต์ให้ทราบ ให้หยกและเพื่อนๆชาวสนุกเที่ยวได้ร่วมสนุกไปด้วยนะคะ 🙂
อยากทราบว่าใช้รองเท้าอะไรในการเดิน trekking ABC คะ ใช้เป็นผ้าใบที่มีพื้นหนาใส่สบายสำหรับเราพอได้ไหมคะ ขอบคุณค่าาาา
สวัสดีค่ะ คุณ kornkamon หยกยังไม่เคย เทรคกิ้ง เส้น ABC เลยค่ะ แต่อยากจะไปรูทนี้มากมาย ส่วนเรื่องรองเท้าสำหรับ เทรคกิ้ง นั้น หากจะไป เทรคกิ้ง ในช่วงที่ไม่มีหิมะ ก็สามารถหารองเท้าผ้าใบที่พื้นหนาหน่อย พอมีดอกยางบ้าง เดินระวังๆ ก็พอได้ค่ะ
แต่ถ้าชอบ เทรคกิ้ง ไฮกิ้ง อยู่แล้ว หยกแนะนำให้ซื้อรองเท้าสำหรับ เทรคกิ้ง ไปเลยค่ะ คู่เดียวคุ้มค่า ใช้ได้ไปตลอด ในหลายๆทริปเลย แถมช่วยในการรองรับการลงน้ำหนัก ช่วยถนอมข้อเท้า ลดการบาดเจ็บได้ เพราะรองเท้าประเภทนี้ เค้าออกแบบมาสำหรับกิจกรรมประเภทนี้โดยเฉพาะค่ะ โดยพื้นรองเท้าจะมีดอกที่ลึกและมีพื้นหนา ช่วยในการเกาะทางเดินพวกหิน หรือ ทางเดินที่ขรุขระๆ แถมยังช่วยป้องกันการลื่น และลดการเกิดอุบัติเหตุจากข้อเท้าแพลงได้ด้วย 🙂
เที่ยวให้สนุก และมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ
ฮัลโหลๆ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ พี่กำลังมองหาที่อื่นอยู่ ได้เรื่องยังไงจะแจ้งให้ทราบจ้า พี่น่ะใจลุยมาก แต่สังขารไม่รู้นะ อีกเรื่องหนึ่ง
หยกข้อมูลแน่นมาก พี่ฟังเราเล่าตื่นเต้นตาม ทั้งตั๋วทั้งล้มและลา เป็นพี่อาจยังอึ้งๆอยู่
พี่ ก้ออยากไปเทรคกับเราเหมือนกัน เดี๋ยวจะรีบมาอัพเดทข้อมูลอีกทีนะคะ ถ้ามีอะไรคืบหน้า
สุขสันตวันอาทิตย์นะคะ
สวัสดีอีกรอบค่าพี่แก้ม หากใจเกินร้อยนี่คือชนะทุกอย่างค่ะ เนอะๆ 🙂 แค่ต้องเตรียมตัวดีๆและระมัดระวังให้มากๆ ที่เหลือคือรอสนุกและเก็บประสบการณ์ไว้ในความทรงจำ หยกต้องขอขอบคุณพี่แก้มที่ไว้วางใจในการมาสอบถามข้อมูลนะคะ เช่นเดิมค่ะ สอบถามเข้ามาได้ตลอดเวลานะคะ หยกยินดีมากๆ รอฟังความคืบหน้านะคะ คือมันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเตรียมตัวไปเทรคด้วยเลยค่ะ ใจลอยไปอยู่บน trail เบาๆ
เทคแคร์นะคะ 🙂
น้องหยก
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ พี่ไม่ค่อยถนัดคารืดิโอ เท่าไหร่ แต่ พอออกกำลังกายอยู่บ้างจ๊ะ พี่ลองดูแผนที่เหมือนขากลับต้องเดินลงพรวดเดียว ประมาณ 11ไมล์ เอาการอยู่ คงกลิ้งเป็นลูกขนุน(เด็กสมัยนี้รู้จักคำนี้ไหมหนอ) ลองดูๆ เพราะไม่มีเวลาจริงๆ
พี่เคยไป กาฐเมื่อ เกือบ 18ปีที่แล้ว ป่านนี้ คงเจริญขึ้น คงพอถามทางไหวแต่ พี่จะช้าเรื่อง ทำวีซ่าที่นั้น เดี๋ยวจะลองศึกษาการขอ อี แอพพลิเคชั่นดู ถ้าได้เรื่องยังไง จะมาแชร์นะ
พี่เรื่องสอบถามเพิ่มอีกหน่อยค่ะ
1. น้องหยกจองตั๋วโดเมสติก ยังไงค่ะ หรือให้ไกด์จอง พี่ฟังของหยก ตื่นเต้นแทน ตอนปริ้น ตั๋ว
2. น้องหยกจองไกด้ และลูกหาบยังไงค่ะ มีแนะนำไหมค่ะ พี่ก้อไม่ต้องการไกด์ค่ะ กำลังเหนื่อยลื้นห้อยๆ ไม่อยากฟัง แต่ จะทำยังไงถึงจะ สื่อสาร กับลูกหาบได้ เค้าจะพูดภาษาอังกฎษได้ไหม
3. น้องหยกได้มานอนค้าง ที่กาฐไหมค่ะ หรือพรวดพราดกลับเลย แล้วจอง รร เองไหมค่ะ พี่คิดว่า พี่จะจองเองนะ ทั้งที่กาฐและ โพคารา
4. จำเป็นไหมที่ต้องหาคนมารับและส่งที่สนามบิน โพคารา
5. แพคเกจ ค่ะ แพงมาก เพียงแต่พี่รู้สึกว่า เวลามันน้อยกลัวว่า ไม่เตรียมตัว ให้ดี เดี๋ยวไม่ทัน
6. อุปกรณ์ การเทรคกิ็ง ถ้า พี่ไปหาซื้อที่โพคารา ในตอนกลางคืน ร้านเค้ายังเปิดขายไหมค่ะ เพราะพี่วางแผนว่าจะบินไป ในวันเดียวกันที่ไปถึง
พอละ เดี๋ยวหยกเมื่อยตา ยาวเกิน พี่จะมาเล่าให้ เราฟังเป็นคนแรกค่ะ สัญญา ว่า เป็นยังไง หลังจากไป สัญญาๆ
พี่แก้ม
สวัสดีค่ะพี่แก้ม ยินดีมากๆเลยค่ะ ฟังแล้วอยากไปเทรคที่ Ghorepani Poon Hill กับพี่แก้มจัง คงจะเป็นสาวลุยน่าดูเชียว กลิ้งได้ แต่อย่าเอาแผลมาด้วยนะคะ หยกหกกะล้มไปที ได้แผล แถมด้วยหัวเข่าช้ำ เดินลงลำบากกว่าเก่าเลยค่ะ เลยได้อาศัยรถจี๊บกลับตอนช่วงท้าย เกือบไม่รอด 555+
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับข้อมูลที่จะมาแชร์นะคะ เย้!
1. หยกจองตั๋วเองผ่าน buddha air ค่ะ ตอนนั้นเข้าใจว่า e-ticket มันเวริ์คทุกที่ไงค่ะ แต่ที่เนปาลเค้าไม่ยอม 555+
2. เนื่องจากไปแบบเร่งรีบ ทริปสั้นๆ เลยจองทุกอย่างผ่าน โรงแรม Marigold ค่ะ เค้าจัดการให้ตั้งแต่ที่พักในโพคารา (ซึ่งก็พักที่ Marigold ค่ะ), ไกด์ (ที่ไม่ได้ๆประโยชน์ใดๆ), TIMS card และค่าแทกซี่ ไป-กลับ สนามบินโพคารา-ตัวเมืองโพคารา ตอนเค้าเสนอราคามาให้ก็ต่อเค้าไปอีกนิดน่อยด้วยค่ะ และใช่ค่ะที่ลูกหาบพูดภาษอังกฤษไม่ได้ (น้อยมากที่จะเจอพูดได้ค่ะ) ภาษามือเท่านั้นค่ะ
3. หยกไม่ได้ค้างที่กาฐมัณฑุเลยค่ะ แต่จองเองน่าจะดีกว่านะคะ ตัวเลือกมีเยอะ เลือกตาม budget ได้ด้วย
4. หยกไปเนปาล 5 วัน มีเวลาจำกัดมากๆ เลยให้ที่ marigold จัดการเรื่องรถมารับส่งค่ะ ประหยัดเวลาและประหยัดแรง ต้องเก็บแรงไว้ไปเทรคค่ะ เตรียมพร้อมและลุย!!
5. แพงมากจริงๆค่ะ และใช่ค่ะ เรามีเวลาจำกัด ต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม หยกว่าพี่แก้มลองหาเจ้าอื่นดู หรือลองดูที่เดียวกันกับหยกก็ได้ค่ะ ราคาต้น(ก่อนหยกต่อ)ที่เค้าให้มาก็ไม่ได้สูงลิ่วแบบของพี่แก้มเลยค่ะ
6. อุปกรณ์ที่โพคาราเพียบค่ะ ช่วงค่ำๆร้านยังคงเปิดอยู่ค่ะ (ตอนที่หยกไปนะคะ น่าจะขึ้นกับช่วงเวลา ถ้า high season ร้านคงเปิดถึงดึกค่ะ) ลองถามๆ ที่โรงแรมเพื่อสำรวจราคาดูก็ได้ค่ะ ว่าเช่าประมาณเท่าไหร่ แต่อย่าให้มีคนท้องถิ่นพาไปนะคะ เพราะมันจะแพงขึ้น 2-3 เท่าตัวเลยค่ะ โดนมาแล้วกับตัว พี่แก้มลองเข้าไปถามหลายๆ ร้านเทียบราคากันดูค่ะ เทียบคุณภาพของด้วย ราคาเช่าของที่นั่นค่อนข้างถูกเลยแหละค่ะ
ตื่นเต้นซะแล้วล่ะค่ะ อยากฟังแล้วเรื่องลุยๆแล้ว อ่อ ระวังเจ้าลา ที่ขนของนะคะ หยกโดนชนไปที (สามตัวในขบวนเดียวกัน) ทางเดินก็แคบ เจ้าลาก็หลบไม่เป็น ไอ้เราก็หลบไม่ได้ ดีที่ไม่เป็นอะไร ได้เรื่องฮามาแทน ทริปสั้นๆแต่มันส์และความทรงจำดีๆ เพียบเลยค่ะ
สอบถามหยกเข้ามาได้ตลอดนะคะพี่แก้ม หยกยินดีมากๆค่ะ เพราะมันทำให้หยกระลึกถึงทริปตัวเองตอนนั้นด้วย คิดแล้วก็อยากไปลุย Ghorepani Poon Hill อีก ถ้าได้ไปนะ จะต่อไป ABC เลยค่ะ
คุณหยก
ขอบคุณสำหรับ รีวิวดีๆนะคะ พี่ชือพี่แก้มค่ะ พอดีกำลังเก็บข้อมูลไปเที่ยว ทริปสั้นเหมือน หนูละคะ เทรค 3วัน เส้นทางคงไปในแนวเดียวกัน
พี่คิดว่า จะไป6 วัันค่ะ พี่มีเรื่องรบกวนสอบถามหยกดังนี้ค่ะคือ
* วันแรกไปถึง แล้วจะบินต่อไปโพคาราเลย ไปนอนคืนแรกที่นั้น
คำถามคือ มันเป็นไปได้ไหมค่ะ แล้วมันสนามบินเดียวกันใช่ไหมค่ะ ต้องเผื่อเวลามากน้อยแค่ไหนค่ะ ถ้าพี่เลือกบินการบินไทย
** ในวันที่สอง พี่จะเริ่มเทรคคงเป็นเสนทางเดียวกับหยก เพราะวันสุดท้ายนี้ จะเดินพรวดเดียวพา นายาบูล โพคารา และค้างหนึ่งคืน บินกลับกาฐ วันรุ่งขึ้น เพราะ พี่อยากเล่นโยคะ ที่โพคารา
คำถามคือ ทัวร์ทางโน้น เค้าเสนอราคา 585 เหรียญต่อท่าน ราคานี้รวมทุกอย่าง รร ทั้ง กาฐ โพคารา เทรค อาหาร ทุกทียกเว้น ที่กาฐ ไกด ลูกหาบ และตั่วบินภายใน มันเป็นราคา ที่โอเคไหมค่ะ การเดินพรวดเดียวถึง นายาบูล นี้ เหนื่อยมากไหมค่ะ กี่ ชมค่ะ
วันที่ 5 พี่บินกลับไปกาฐ และนอน อีกคืน จึงกลับ กทม ในวันที่ 6ค่ะ
สุดท้ายนี้ พี่ขอบคุณน้องหยกสำหรับคำแนะนำ และสละเวลา มาอ่านคอมเม้นท์ ทุกๆอย่างนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณพี่แก้ม ยินดีมากๆเลยค่ะ Ghorepani Poon Hill เป็น trail ที่สวยมาก ประทับใจในวิวมากๆค่ะ เดินได้เพลินๆเลยค่ะ แต่อาจต้องระวังเรื่องการเกิด Altitude sickness แบบอ่อนๆ (อาจมีอาการอ่อนๆ เพราะความสูงที่ไม่ได้สูงมากสักเท่าไหร่) แต่เนื่องด้วยความสูงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ค่อนข้างเร็ว ยิ่งเราเดินขึ้นอย่างรวดเร็ว ออกซิเจนจึงน้อยลงๆ จึงควรหยุดพักบ่อยๆ จิบน้ำอยู่เรื่อยๆ และหายใจเข้า-ออกช้าๆๆยาวๆๆ ซึ่งจะช่วยป้องกันได้ค่ะ
* สนามบินที่กาฐมาณฑุคล้ายๆสนามบินดอนเมือง(ปัจจุบัน)ค่ะ เพราะมี International และ Domestic Terminal ที่อยู่ใกล้ๆกัน ซึ่งหยกก็บินไปโพคารา ในวันเดียวกันเลยค่ะ แต่เผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมงนะคะ ตอนที่หยกไปนั้น Domestic Terminal กำลังสร้าง(หรือปรับปรุง)ค่ะ จึงเดินหานานพอควร ป้ายบอกทางก็ไม่มี หรืออาจมีแต่เป็นภาษาเนปาลีก็เป็นได้ค่ะ เดินวกไปวนมา กว่าจะเจอ ตื่นเต้นแทบแย่ และเมื่อถึงแล้ว ก็เจอปัญหาอีก เพราะหยกไม่ได้ปริ๊นตั๋วเครื่องบินมากค่ะ คุยกับพี่จนท.อยู่นานกว่าจะยอมให้ไปปริ๊นที่เคาน์เตอร์ข้างๆ และยอมให้เข้าไป ใช้เวลาทั้งหมดชั่วโมงกว่าๆเลยทีเดียว ผจญภัยตั้งแต่เริ่มเลยค่ะ ดังนั้นอย่าลืมปริ๊นตั๋วเครื่องบินไปด้วยนะคะ ส่วนตอนที่หา Domestic Terminal นั้น ก็ถามๆพี่ๆจนท.แถวๆนั้น ยาวๆไป หลายๆคนเลยค่ะ โชว์ตั๋วให้เค้าดูง่ายสุด
** ขอตอบเรื่องเดินลงรวดเดียวก่อนละกันค่ะ เป็นไปได้ค่ะ เพราะเดินลงมันง่าย และอากาศก็มีออกซิเจนเพิ่มขึ้นด้วย แต่ต้องอึดมาก เพราะมันเหนื่อยมากๆค่ะ จะดีมากหากไม่ต้องแบกกระเป๋าเอง พี่แก้มต้องเตรียมพร้อมร่างกายดีๆนะคะ เราเดินกัน 3 วัน ทั้งๆที่เค้าแนะนำให้เดินชิวๆ 5 วัน ต้องออกกำลังกายเลยค่ะ โดยเน้นคาร์ดิโอ กับ กล้ามเนื้อขา และขณะเดินลงอย่าหยุดพักนาน และออกเดินแต่เช้าๆเลยนะคะ แต่หากไม่ไหว ประมาณ 8 กิโลเมตรสุดท้าย จะเริ่มเป็นถนนดินลูกรังแล้ว ซึ่งตรงนี้รถผ่านได้ จึงมีรถจี๊บไว้บริการกลับไปยังนายาบูลค่ะ ราคาต่อหัว ประมาณ 500 รูปี รถเต็มเมื่อไหร่ก็ออกค่ะ หรือเป็นแบบเหมาคัน อันนี้จะแพงหน่อย ประมาณ 2000-2400 รูปี (ระวังเจอโกงราคาจากแก๊งค์คนขับนะคะ)
ส่วนเรื่องทัวร์ 585 เหรียญนั้น น่าจะหมายถึงหน่วยดอลล่าร์ใช่ไหมคะ ถือว่าแพงมากกกกค่ะ เพราะค่าเทรคกิ้งไป Ghorepani Poon Hill แบบ 3 วัน ประมาณ 3,800 RS (1,140 บาท) ต่อคน, ค่าที่พักระหว่างทาง ถ้าแบบห้องส่วนตัวก็ 500-600 รูปี (150-180 บาท), ค่าอาหารพื้นเมืองเป็นเซ็ท มื้อละ 400 รูปี (120 บาท) 3 วัน ก็ 9 มื้อ ประมาณ 1,080 บาท, ค่าโรงแรมในโพคารา 500-700 รูปี (150-210 บาท) รวมๆแล้วยังไงก็ไม่น่าจะเกิน 4,000 บาท หยกไปมาเมื่อปีที่แล้วค่ะ ราคาไม่น่าจะขึ้นเยอะ (หยกติดต่อกับโรงแรม Marigold ที่โพคาราให้เค้าจัดการเรื่องบัตรเทรคกิ้งและพักที่นั้นค่ะ ยังไงลองติดต่อไปได้นะคะ หากที่ๆพี่แก้มติดต่อ ให้ราคาสูงลิบขนาดนี้) ส่วนตั๋วไป-กลับ กาฐมาณฑุ-โพคารา ประมาณ 6,000-7,000 บาท, ค่าจ้างลูกหาบก็ไม่น่าจะเกิน 600 บาทต่อวันค่ะ หากจ้างลูกหาบแล้ว หยกว่าไม่จำเป็นต้องเสียเงินจ้างไกด์ เราเทรคแบบเร่งด่วน 3 วันเองค่ะ คงไม่มีเวลามาฟังไกด์อธิบายอะไรหรอกค่ะ แต่หากว่ากลัวหลงทาง เราก็มีลูกหาบอยู่แล้ว ลูกหาบรู้ทางค่ะ หยกก็จ้างไกด์ รู้สึกเสียดายเพราะไม่มีคำอธิบายใดๆที่เป็นประโยชน์ นอกจากดอกไม้นี้ชื่ออะไร 555+ เสียดายตังค์เปล่าๆค่ะ เอาตังค์ไปทิปลูกหาบยังจะดีซะกว่า
หลังจากกลับมาแล้วหากมีข้อมูลอะไรอัพเดต รบกวนแจ้งหยกด้วยนะคะ หยกจะได้แก้ไขข้อมูลด้านบน หรือหากมีเรื่องอะไรมาเล่ามาแชร์ ก็จะเป็นประโยชน์หรือเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆชาวสนุกเที่ยวอยากไปเทรคกกิ้งที่ Ghorepani Poon Hill บ้าง หวังว่าคำตอบหยกจะเป็นประโยชน์นะคะ หากพี่แก้มมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติม ก็สอบถามมาได้เลยค่ะ หยกยินดีมากๆค่ะ เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุก เตรียมตัวดีๆนะคะ ฟิตๆๆๆ ลุยๆๆๆ เล่นโยคะเผื่อหยกด้วยค่ะ 🙂
It’s actually a great and helpful piece of information. I’m happy that
you shared this helpful info with us. Please stay us informed like this.
Thank you for sharing.