
เค้าว่ากันว่ามาธากา จะต้องนั่งเรือชมวิว แม่น้ำบุรีคงคา (Buriganga river: เป็นหัวใจหลักของเมือง และ ยังเป็นจุดรับส่งสินค้ามากมายอีกด้วย) สักครั้ง หืม…มาถึงแล้วก็ต้องลองดูค่ะ แต่ว่าน้ำดำปิ๊ดปี๋ยังกับคลองแสนแสบ ดำจนเกือบข้นเชียว แถมเรือก็ดูลำเล็กกะติ๊ดเดียวเอง ไม่เพียงเช่นนั้นสภาพการจราจรยังแลดูวุ่นวายไม่แพ้บนท้องถนนเลยทีเดียว แล้วจะรอดมั้ยเนี่ยเรา!?
แต่พอลงเรือแล้วก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เรือค่อนข้างกว้างและแข็งแรง ที่สำคัญไม่ต้องนั่งหวิดน้ำออกจากเรือเหมือนนั่งเรือหางยาวที่บ้านเราเลยค่ะ สามารถหมุนตัว เดินเล่นและชมวิวเพลินๆ ได้โดยไม่โคลงเคลง แบบไม่ต้องกลัวตกเลย แล้วก็ระหว่างที่นั่งบนเรือไม่มีน้ำกระเด็นมาโดนซักหยดเลยค่ะ สุดยอดมาก! ที่สำคัญ คือ ไม่เหม็น ไม่มีกลิ่นอะไรเลยด้วยนะ


คุณลุงคนพายเรือพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ก็พยายามอธิบายสิ่งรอบข้างชี้นู้นนี้นั้นและพูดเป็นภาษาเบงกาลีไม่ยอมหยุด ทำยังกะเราจะเข้าใจ แต่ใช่ว่าภาษามือจะไม่ได้ผล ก็พอจะเข้าใจคุณลุงแกบ้างค่ะ แถมคุณลุงยังใจดีให้หยกได้ลองพายเรือด้วย
นี่เป็นอีกหนึ่งการท้าทาย และเอาชนะใจตัวเองนะคะ ดูเหมือนเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่มันเป็นสเต็บเล็กๆ ที่เราจะค่อยๆ เคลื่อนไปสู่อะไรที่มันใหญ่ขึ้นๆ
จากนั้นก็ไปต่อที่ตลาดสดขายผักผลไม้ การขนส่งของที่นี่ยังคงใช้เรือและแรงงานจากความแข็งแรงของ “หัวและคอ” เป็นหลัก ต้องเดินหน้าเชิดหลังตรง แบกทุกสิ่งทุกอย่างไว้บนหัว!! แบบ แบบ..มันดูหนักมาก (แหม..แต่พี่แต่ละคนดูแข็งแรงกำยำ กล้ามเป็นมัดๆขนาดนั้น แฮ่ๆๆ)
ที่นี่ผักผลไม้เยอะมาก ดูสดใหม่ด้วย อยากกินผลไม้นะ แต่ร้านเยอะเกินจนดูเพลินและตาลาย เลือกร้านเข้าไม่ถูกกันเลยทีเดียว 55+ อ่อ..ผักผลไม้ที่นี่ดูเหมือนเค้าจะเช็ดๆ ล้างๆ ก่อนขายค่ะ อย่างหัวไชเท้าหรือมันแกวเนี่ย ขาวจั๊วเลย

เพลิดเพลินเจริญสุขใจ เดินชมพืชผักผลไม้และคนบ้านเมืองเค้าไป สนุกจุงเบย อิอิ
แต่ในที่สุด..ก็เจอร้านขายกล้วยเล็กๆ ที่มีคนมุงเยอะมาก เอ้า..ขอมุงด้วยคนค่า แล้วหยกก็จัดมา 1 หวี กล้วยอร่อยมาก หน้าตาเหมือนกล้วยไข่ แต่แตกต่างที่รสชาติและกลิ่น เนื้อกล้วยออกส้มๆนวลๆ รสชาติเข้มข้นปนเปรี้ยวนิดๆ ขอย้ำ! อร่อยมากจริงๆ หมดอย่างรวดเร็ว รู้งี้น่าจะซื้อมา 2 หวี…!

จบทริปล่องเรือและตลาดเท่านี้เอย

ใครเคยทานกล้วยรสชาติแบบนี้บ้างคะ? ยกมือขึ้น
มีข้อสงสัย คำถาม หรือ อยากแชร์เรื่องเที่ยว คอมเม้นต์ที่ช่องนี้ได้เลยค่ะ