รีวิว Annapurna Base Camp เนปาล: ABC Trek ไปช่วงไหนดี? ABC เดินกี่วัน? ABC ยากไหม? สูงเท่าไหร่? ABC ต่างจาก EBC อย่างไร?

คุณคือคนหนึ่งที่เคยฝันอยากเห็นหิมาลัย อยากไป ABC สักครั้งในชีวิตไหม? หากจะพูดถึงหนึ่งในเส้นทางเทรคกิ้งเนปาลสุดฮิต ก็คงไม่พ้น Annapurna Base Camp หรือ ABC Trek แล้วเพื่อนๆ ทราบไหมคะ ว่า ABC Trek ไปช่วงไหนดี? อากาศเป็นอย่างไร? หนาวมากไหม? เจอฝนเจอหิมะหรือเปล่า? ABC เดินกี่วัน? ถึงจะปลอดภัย หลีกเลี่ยง AMS ได้ ABC ยากไหม? มือใหม่ไปได้หรือเปล่า? ประกัน ABC ซื้อเจ้าไหนดี? แล้ว ABC ต่างจาก EBC อย่างไร? และ อื่นๆ อีกมากมาย ที่จะรวบรวมไว้อย่างครบถ้วน และ เป็นปัจจุบัน ใน รีวิว Annapurna Base Camp ที่บทความข้างล่างนี้

รูปภาพใน รีวิว ABC Trek นี้ มาจากการไปเทรคเองของหยก (ตอนสำรวจเส้นทางก่อนจัดทัวร์ ABC) และ ระหว่างการนำทัวร์ ABC ปะปนกันไปนะคะ คือ ช่วงเดือนกลางพฤศจิกายน, ปลายธันวาคม-ต้นมกราคม และ ปลายเมษายน ค่ะ ซึ่งสภาพอากาศบนเขาสูงนั้นคาดการณ์ได้ยาก เช่น ปลายเมษายน ซึ่งเป็นฤดูใบไม้ผลิ กลับดันเจอหิมะตกและมีฝนตก ทั้งๆ ที่ปกติไม่ควรมี เป็นต้น

รูปเยอะหน่อยนะคะ ค่อยๆ เลื่อนดูไปนะคะ สวยทุกรูป นี่ขนาดเลือกแค่บางส่วนแล้วนะคะเนี่ย คัดเอารูปออกยากจริงๆ ค่ะ

ก่อนอื่น ขออธิบายให้ฟังคร่าวๆ ก่อน ว่า ABC Circuit Trek ไม่มีนะคะ ที่มี คือ ABC (Annapurna Base Camp) Trek และ Annapurna Circuit Trek (AC Trek หรือ ACT) สองเส้นทางนี้เป็นคนละเส้นทางกันค่ะ ABC Trek คือ การเดินไปกลับเส้นเดิม ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในรีวิวฉบับนี้ ส่วน Annapurna Circuit Trek (คลิกอ่านได้) คือการเดินเป็นลูป ไม่ได้กลับทางเดิม และ ไม่ผ่าน ABC ค่ะ แต่เพื่อนๆ สามารถ รวมเส้นทางทั้งสองเส้นทางได้ เพื่อที่จะไปทั้ง ABC และ Annapurna Circuit ก็จะกลายเป็นเส้นทางที่เรียกว่า Annapurna Circuit + ABC Trek ค่ะ นอกจากนี้แล้ว บนเส้นทาง Annapurna Circuit Trek นี้ คนนิยมเทรคไป Tilicho Lake ทะเลสาบสุดสวยที่อยู่สูงถึง 4949 m ด้วยนะคะ

เทรคกิ้งเนปาลเส้นไหนๆ จะไปกับใคร จะเตรียมตัวดีมากน้อยแค่ไหน จะสุขจะทุกข์อย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว ก็คือ “เดินเส้นเดียวกัน เดินเหมือนกัน” ค่ะ “แต่เรื่องราว ความสุข ความสนุก และ ความประทับใจที่ได้ระหว่างทาง นี่สิ ที่จะได้ไม่เท่ากัน” เลือกทัวร์ที่ไปด้วยสักนิด เพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า จะดีกว่าไหมคะ

หยกจัดทำ รีวิว Annapurna Base Camp เนปาล นี้ขึ้นมา เพื่อ

• อยากให้เพื่อนๆ มีความเข้าใจเบื้องต้น ถึงปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวแนวเทรคกิ้ง ที่เพื่อนๆ อาจจะนึกไม่ถึง เช่น การเดินทางด้วยรถ หรือ การวางแผนการเดินที่ดี เพิ่มวันอีกนิดเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้น เป็นต้น ทั้งปัจจัยที่เราควบคุมได้ เพื่อการเตรียมตัวเตรียมการณ์ที่ดีพร้อม และ ปัจจัยอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือความควบคุมของเรา เพื่อเตรียมใจรับทราบไว้ว่าสิ่งเหล่านี้สามารถและอาจเกิดขึ้นได้ เพื่อทำการมองหาแผนสำรองไว้ค่ะ

• อยากให้เพื่อนๆ มีความสนุกและความสุขกับการเทรคกิ้ง ไม่ใช่ “เดินเหนื่อย(แทบขาดใจ)ทุกวัน หมดแรงใจทุกวัน มาลำบากทำไม ไม่มาอีกแล้ว หนาว ไม่สบาย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ” หรือ “เดินไม่จบ ต้องเสียเงินนั่งม้า หรือ เรียก ฮ กลับ” สำหรับเพื่อนๆ ที่มาเทรคกับหยก หยกจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นเด็ดขาดค่ะ หยกทนเห็นความเศร้าความไม่สนุกของเพื่อนๆ ที่รวมเทรคด้วยกันไม่ได้

ทราบไหมคะ ว่าเทรคกิ้ง สามารถสนุกได้, สามารถไม่เหนื่อยมากได้, สามารถนอนหลับแบบอุ่นสบาย ไม่หนาวทรมานได้ และ สามารถชอบและมีความสุขกันการเทรคกิ้งได้นะคะ แอดไลน์มาคุยกับหยกได้นะคะ LINE ID: sanooktiew

1. ลักษณะเส้นทางทั่วไป รีวิว Annapurna Base Camp เนปาล

Annapurna Base Camp Trek หรือที่รู้จักกันสั้นๆ ว่า ABC Trek นั้น เป็นเส้นทางเทรคกิ้งของเนปาล ที่อยู่ในเขต Annapurna ค่ะ มีจุดเริ่มเดินอยู่ที่หมู่บ้านบนเขา ที่ใกล้ๆ กับ เมือง Pokhara การเดินทางไปเทรคเส้นทางนี้ จึงต้องเดินทางจาก Kathmandu ไป Pokhara ก่อนค่ะ แล้วจาก Pokhara ค่อยเดินทางไปยังจุดเริ่มเดิน เพื่อเริ่มเดิน

เส้นทาง Annapurna Base Camp Trek คือ เราเดินตามเส้นทางเทรล ไปจนถึงที่ Base Camp ของ Annapurna หรือ ABC ค่ะ และเดินกลับจาก ABC ลงมาทางเดิมค่ะ ที่ระหว่างทาง จะมีที่พักที่เรียกว่า teahouse คล้ายๆ โฮมสเตย์บนเขาค่ะ ที่มีห้องพัก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องทานอาหาร และ มีบริการอาหารให้เรา (เมนูบนเขามีหลากหลายกว่าที่เพื่อนๆ คิดไว้เยอะเลยนะคะ) ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ไวไฟ ที่ชาร์จไฟ และ ยังมีน้ำร้อนให้อาบด้วยค่ะ

ในข้อ 1 นี้ จะมีข้อย่อยและรายละเอียดตามหัวข้อดังต่อไปนี้

1.1 ลักษณะทางเดิน บนเส้นทาง ABC ยากไหม เป็นอย่างไร และ ABC เดินกี่วัน

1.2 วิวที่ ABC เป็นแบบไหน มียอดเขาอะไรให้ดูชม มีจุดชมวิวที่ไหน

1.3 อาหารบนเขา เส้นทาง Annapurna Base Camp เป็นยังไง มีอะไรให้กินบ้าง

1.4 การเดินทางจาก Kathmandu ไป Pokhara

1.5 การเดินทางจาก Pokhara ไป จุดเริ่มเดิน ของเส้นทาง ABC

1.1 รีวิว ABC เนปาล ลักษณะทางเดิน บนเส้นทาง ABC ยากไหม เป็นอย่างไร และ ABC เดินกี่วัน

จุดเริ่มเดินเส้นทาง ABC สามารถเริ่มเดินได้จากหลายหมู่บ้านค่ะ ทั้งนี้ ทางเดินวันแรกๆ จะเป็นบันไดคนทำค่ะ เดินจะเหนื่อยหน่อย ทั้งวันแรกเราเริ่มเดินจากที่ต่ำๆ อากาศระหว่างการเดินในวันแรกๆ จึงจะร้อนและชื้นหน่อยค่ะ พอเข้าวันที่ 2 – 3 ทางเดินจะเริ่มเป็นทางเดินเทรลแล้ว จะเดินง่ายขึ้น สนุกขึ้น เป็นบันไดน้อยลง และ อากาศจะเริ่มสบายขึ้นค่ะ

ABC Trek ถูกจัดให้เป็นเส้นทางเทรค ที่ง่าย ถึง กลางๆ แต่หากไม่มีการเตรียมตัว ทั้งทางกาย คือออกกำลังกายมาบ้าง, ทางอุปกรณ์ คือ เตรียมเครื่องกันหนาว กันฝน กันลมมาให้เหมาะกับสภาพอากาศช่วงที่ไป และ ทางแผนการเดินที่ดี ยังไงก็ถือว่ายากสำหรับท่านที่ไม่ได้เทรคบ่อย และ เหนื่อยมากๆ ค่ะ เพราะต้องเดินทุกวันต่อเนื่อง 5 – 7 วัน แล้วแต่ตารางการเดิน ต้องตื่นเช้า ต้องแพ็คของทุกวัน ไหนจะอากาศที่หนาวเย็น และ แห้ง ที่แตกต่างจากที่ไทยโดยสิ้นเชิง หากไม่มีการเตรียมที่ดี เผลอๆ พลอยหมดสนุกได้ หรือ หนักสุดคือเทรคไม่จบ อาจจะต้องเสียเงินเพื่อนั่งม้าลงก็ได้นะคะ

หมู่บ้านตลอดเส้นทาง ABC Trek นี้ อยู่ใกล้ๆ กันหมดเลยนะคะ เดินประมาณ 30 นาที – 1.5 ชั่วโมงก็ถึงหมู่บ้านถัดไปแล้วค่ะ ทำให้พอกล่าวถึงระยะทางของการเดินแล้ว จึงนิยมที่จะวางแผนการเดิน แค่ไม่กี่วัน เช่น เดินขึ้น 2 – 3 วัน และ เดินลงอีก 1 – 2 วัน ทัวร์ ABC Trek ส่วนใหญ่ที่เห็นจึงมักจัดแผนการเดินกันสั้นๆ เพียง 4 – 5 วัน (เฉพาะวันเดิน ไม่รวมวันเดินทางไปกลับจากไทยนะคะ แล้ว ABC เดินกี่วัน ดี? อ่านต่อที่ข้อ 5 นะคะ) และ มักไม่มีวันเต็มที่ Kathmandu และ ที่ Pokhara แบบที่เป็นทัวร์เทรคกิ้งอย่างเดียวเลยจริงๆ คือ มาเพื่อเทรค เทรคจบ แล้วก็กลับ แบบที่ไม่มีพักผ่อนเที่ยวเมืองเลย

แล้ว ABC ต่างจาก EBC อย่างไร อ่านต่อที่ข้อ 7 นะคะ ทั้งนี้ หยกมีจัดทริป EBC 2 Passes Trek ที่จัดให้มีการค้างคืนที่ Gokyo Lake ถึง 3 คืน ด้วยนะคะ สนุกแน่นอนค่ะ

1.2 วิวที่ ABC เป็นแบบไหน มียอดเขาอะไรให้ดูชม มีจุดชมวิวที่ไหน

ที่ ABC มีที่พักอยู่เพียง 4 – 5 ที่เท่านั้นค่ะ ช่วงไฮซีซั่นคนจะเยอะมาก ที่พักแน่น ห้องทานอาหารเต็ม ป้ายฮิต “Namaste Annapurna Base Camp” ก็ต้องต่อคิวถ่ายรูปยาวววว หยกชอบไปช่วงที่คนไม่แน่นมาก จะได้มีเวลาส่วนตัวมากหน่อย ทั้งนี้ ไปชมภาพกันเลยค่ะว่าที่ ABC ในวันที่ท้องฟ้าแจ่ม เพื่อนๆ จะได้เห็นอะไรบ้าง

1.3 อาหารบนเขา เส้นทาง Annapurna Base Camp เป็นยังไง มีอะไรให้กินบ้าง

ที่พักบนเขาตลอดเส้นทาง ABC นั้นมีอาหารบริการค่ะ ซึ่งหลากหลายมากๆ มีทั้งอาหารพื้นเมือง และ อาหารนานาชาติ ที่รับรองว่าเพื่อนๆ ไม่มีทานไม่ได้แน่ค่ะ เมนูค่อนข้างใหญ่ ใีให้เลือกเยอะมากๆ เลยทีเดียวค่ะ ไปดูชมภาพอาหารบางส่วน ทั้งอาหารเช้า เที่ยง เย็น กันค่ะ เพื่อเป็นไอเดียให้เพื่อนๆ ได้ว่า มีอะไรให้ทานบ้างบนเขา รับรอง น้ำหนักขึ้นกลับไทยแน่นอนค่ะ

1.4 การเดินทางจาก Kathmandu ไป Pokhara

สามารถเดินทางได้ 2 แบบ คือ

1. ทางอากาศ ด้วยเครื่องบิน ซึ่งมีหลายสายการบิน และ หลายเที่ยวบินต่อวันค่ะ
   • ข้อดีคือ ใช้เวลาน้อย เพียง 25 นาที เท่านั้น (ไม่รวมเวลาไปรอเช็คอินที่สนามบินนะคะ)
   • ข้อเสียคือ ตั๋วเครื่องบินมีราคาสูง ไปกลับ ราคา 6,000 – 8,000 บาท และ หากสภาพอากาศไม่ดี ก็บินไม่ได้ การที่จะเจอเที่ยวบินดีเลย์ และ/หรือ ถูกยกเลิก มีค่อนข้างบ่อยค่ะ
2. ทางบก ด้วยรถค่ะ สามารถเลือกได้ทั้งรถส่วนตัว และ รถสาธารณะ ค่ะ
   • รถส่วนตัว มีราคาแพงกว่ามาก แต่มีความเป็นส่วนตัว ทั้งคันมีแต่กลุ่มเรา นั่งสบายกว่า ไม่ต้องกลัวของหาย รถใหม่กว่า คนขับสุภาพกว่า คนขับมักขับปลอดภัยกว่ารถสาธารณะ จะออกกี่โมง จะจอดที่ไหน ปวดเข้าห้องน้ำ ทานข้าว ก็ได้หมด ทั้งยังใช้เวลาเร็วกว่ารถสาธารณะอีกด้วยค่ะ คือ 6 – 8 ชั่วโมง (ทัวร์หยกทุกเส้นทาง หยกจัดเดินทางด้วยรถส่วนตัวทั้งหมดค่ะ)
   • รถสาธารณะ ราคาถูกกว่าเยอะค่ะ มีหลายแบบ หลากราคา มีทั้งแบบรถแอร์ รถไม่แอร์ แบบนั่งวีไอพี ไม่มีคนต้องยืน แบบคลาสสิกๆ เบียดๆ ที่มีทั้งนั่งและยืน รถสาธารณะจะใช้เวลาเดินทางนานกว่า 8 – 10 ชั่วโมง รถออกเป็นเวลา แน่นอนว่านั่งไม่สบาย ไม่มีความเป็นส่วนตัว เท่ารถส่วนตัว ข้าวของสัมภาระที่เก็บรวมๆ กัน ห่างไกลสายตา นั่งไป จอดที ก็กังวลว่าของจะหายไหม คนขับก็อาจซิ่งมากหน่อย (บางคนเน้นทำรอบ) ปวดเข้าห้องน้ำก็ต้องอดไว้ แวะพักทานอาหารก็อาจเป็นร้านที่เราทานไม่ลง ทั้งนี้ การเดินทางด้วยรถสาธารณะนี่ก็เหมาะกับมือใหม่ที่อยากประหยัด อยากผจญภัย ที่อยากซึมซับความเป็นแบ็คแพ็คลุยๆ นะคะ หยกนั่งมาเยอะค่ะ แต่ตอนนี้ขอเลือกความสบาย นั่งรถส่วนตัว นะคะ

1.5 การเดินทางจาก Pokhara ไป จุดเริ่มเดิน ของเส้นทาง ABC

เนื่องจาก ลักษณะถนนที่เดินทางไปถึงจุดเริ่มเดินนั้น เป็นถนนดิน ขรุขระ และ คดโค้ง ทั้งยังมีบางช่วงที่ต้องขับผ่านน้ำ อีกด้วยค่ะ รถที่เหมาะสมจึงเป็น รถโฟร์วีล อย่าง รถจี๊ป Jeep ค่ะ ซึ่งก็มีให้บริการทั้ง จี๊ปส่วนตัว และ จี๊ปสาธารณะ ค่ะ

1. จี๊ปส่วนตัว มีความส่วนตัว จะออกตอนไหน เช้าแค่ไหน สายแค่ไหน ได้หมด ไม่ต้องรอ นั่งกันสบาย มีแต่กลุ่มเราเอง ไม่ต้องพะวงเรื่องสัมภาระ รถสภาพดีกว่า ใหม่กว่า คนขับสุภาพกว่า
2. จี๊ปสาธารณะ ไม่มีรอบออกที่ชัดเจน คนครบ 8 หรือมากกว่า (ถึงได้ราคาที่ถูกกว่าเยอะมากค่ะ) รถถึงจะออก นั่งไม่สบาย คนอาจแน่นมาก ต้องเบียดกัน รอนานกว่ารถจะออก คนขับ

นั่งรถไปจุดเริ่มเดินนี่ยากกว่าการเทรคอีกนะคะ 55+ ไหนจะถนนดินขรุขระๆ เอย ความคดและโค้งเอย แนะนำให้เลือกเดินทางด้วยรถจี๊ปส่วนตัวนะคะ นั่งสบายกว่าเยอะค่ะ อีกทั้งรถจี๊ปส่วนตัว รถจะใหม่กว่า กว้างกว่า คนขับสุภาพกว่า รถจี๊ปสาธารณะมากๆ อีกทั้งการที่ต้องนั่งกันเบียดๆ แล้วดันเมารถอีก พอถึงจุดเริ่มเดินเพื่อเริ่มเทรคนี่จะลำบากมากขึ้นนะคะ

2. ABC Trek ไปช่วงไหนดี? อากาศเป็นอย่างไร? หนาวมากไหม? ต้องเดินบนหิมะหรือเปล่า? ฝนตกหิมะตกไหม?

โดยทั่วไปแล้ว ฤดูเทรคกิ้งเนปาลที่เป็น high season มี 2 ฤดู คือสามารถไปเทรคได้ทั้งสองช่วงเลยค่ะ แล้ว ABC Trek ไปช่วงไหนดี นั้น ก็ขึ้นกับว่า ช่วงไหนลางานได้ง่ายกว่ากัน ได้วันลาเยอะกว่ากัน (ใช่ค่ะ หาวันลานี่ยากกว่าเทรคกิ้งซะอีกนะคะ) อยากเห็นบรรยากาศประมาณไหนบนเขา ชอบอากาศแนวไหน เพราะทั้งสองฤดูนั้นมีความแตกต่างกันค่ะ 

ทั้งนี้ สภาพอากาศบนเขานั้นคาดการณ์ได้ยากนะคะ ยิ่งปัจจุบัน ยังมีภาวะโลกร้อนร่วมด้วย ทำให้อากาศแปรปรวน ไม่ตรงฤดู บางครั้ง การมาเทรคช่วง high season ที่ไม่ควรเจอฝน หรือ หิมะ เราก็อาจจะเจอ ฝน หรือ หิมะ ได้ ดังนั้นแล้ว โปรดทำการบ้านมาให้ดี ตรวจสภาพอากาศก่อนมา (ซึ่งหากมาเทรคกับหยกแล้ว หยกจัดการตรงส่วนนี้ให้ค่ะ แล้วจะแจ้งให้ทุกท่านในกลุ่มทราบล่วงหน้า จะได้เตรียมของได้ครบ)

2.1. ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) เดือนมีนาคม – พฤษภาคม 

ช่วงนี้ก็ตามชื่อเลยค่ะ ใบไม้ผลิ จะเป็นช่วงที่ดอกไม้ป่าผลิบานสะพรั่ง เป็นช่วงที่มีสีสัน มีดอกไม้ฮิตๆ ที่บานสวยสีสด คือ ดอกกุหลาบพันปี (Rhododendron) ช่วงมีนาคมถึงต้นเมษายน ทางเดินบนเขาสูงๆ เช่น จาก MBC 3700 m ไปยัง ABC 4130 m และ ที่ ABC จะยังคงมีหิมะ(เก่า)ปกคลุมทางเดิน (จากฤดูหนาวที่พึ่งหมดไป) โดยปกติแล้วช่วงนี้อากาศดี ฟ้าเปิด ซึ่งจะไม่เจอทั้งฝนและหิมะ

2.2. ฤดูใบไม้ร่วง (Fall) เดือนตุลาคม – กลางเดือนธันวาคม 

ช่วงนี้จะมีสีสันของความเขียวขจี หลังจากมรสุมที่พึ่งผ่านพ้นไป สภาพอากาศช่วงนี้จะหนาวเย็นกว่า ในฤดูใบไม้ผลิ ทางเดินบนเขาสูงๆ มักไม่มีหิมะ(เก่า)ปกคลุม โดยปกติแล้วช่วงนี้อากาศดี ฟ้าเปิด ท้องฟ้าบนที่สูงๆ มักเป็นสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งจะไม่เจอทั้งฝนและหิมะเช่นกัน

2.3. ต้นฤดูหนาว (Early Winter) ปลายเดือนธันวาคม – กลางเดือนมกราคม 

ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะไม่ได้อยู่ใน high season ของเทรคกิ้งเนปาล แต่ช่วงนี้ยังเหมาะแก่การเทรคนะคะ โดยจะเจอคนได้เรื่อยๆ ตลอดเส้นทาง แต่ไม่ได้แน่นตลอดเส้นทางเหมือนสองช่วงของ high season ค่ะ ต้นฤดูหนาวนี้จะเทรคกันได้สบายมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น คนน้อย ไม่ต้องแย่งกันกิน (รออาหารที่นานมากๆ) แย่งกันต่อคิวอาบน้ำร้อน แย่งกันหาที่นั่งในห้องทานอาหาร ไม่ต้องเสี่ยงลุ้นว่าห้องพักจะเต็มไหม จะต้องแชร์ห้องกับคนแปลกหน้าหรือเปล่า หรือ จะต้องมานอนในห้องทานอาหารไหม

โดยทั่วไปสภาพอากาศช่วงต้นฤดูหนาวนี้ คือ หนาวค่ะ แต่จะเป็นอากาศหนาวที่เราสามารถจัดการความเตรียมพร้อมด้านอุปกรณ์ได้ ไม่ได้หนาวแบบทรมาน หรือ น่ากลัวอะไร ถ้าอุปกรณ์เราพร้อม ช่วงนี้อากาศมักจะดี ฟ้าเปิด ฟ้าสีน้ำเงินเข้ม สวย เห็นวิวหิมาลัยชัดเจน 

หากเพื่อนๆ สังเกต ทัวร์ ABC ที่หยกจัดแล้ว (เพื่อนๆ สามารถคลิกที่ลิ้งค์ แล้วอ่านรีวิว เพื่อดูความคิดเห็นจากเพื่อนผู้ร่วมทริปกับหยกได้นะคะ) จะเห็นได้ว่า หยกไม่จัดเทรคเส้นทางนี้ในช่วงฮิตๆ ค่ะ เพราะคนเยอะมากๆ ความเป็นส่วนตัวน้อย โดยหยกจะจัดช่วงปลายฤดูเทรคกิ้ง และ ต้นฤดูหนาวค่ะ ซึ่งตามทางเดิน และ ที่พักจะไม่วุ่นวาย มีเวลาพักผ่อน สบายกว่า และ เดินสนุกกว่าเยอะมากๆ ค่ะ 

รีวิว Annapurna Base Camp สรุป ABC Trek ไปช่วงไหนดี

ทั้ง 3 ช่วงนั้นดีทั้งหมดค่ะ ขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ และ ความชอบส่วนบุคคลด้วยค่ะ อย่างหยกเอง ไปเที่ยวทั้งที หยกไม่ชอบไปที่ๆ มีคนเยอะๆ หยกชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า ชอบความเรื่อยๆ เพลินๆ ไม่วุ่นวายค่ะ

3. เทรค ABC เสี่ยง AMS ไหม? อย่างไร? หลีกเลี่ยงได้ไหม?

แล้วทราบกันไหมคะ ว่าถึงแม้ว่าจะสามารถจัดแผนการเดิน ABC แค่ไม่กี่วันได้ (หากวัดตามระยะทาง) แต่ด้วยความสูง ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิด AMS หรือ Altitude Moutain Sickness ได้ง่าย หลายท่านอาจคิดว่า เอาน่า หากเป็น AMS ก็คงเป็นอาการเบาๆ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ทานไม่ได้ นอนไม่หลับ ก็เดินแค่ไม่กี่วันเอง แปปๆๆ ก็เดินลงแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่า จึงเสี่ยงเกิด AMS ที่ ABC ได้ ถ้าวางแผนเดินเพียงสั้นๆ แบบที่ร่างกายยังไม่ได้มีโอกาสปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาวะอากาศบนที่สูง

แล้วทราบไหมคะ ว่า ไอ้อาการต่างๆ ที่จะทนเอา ที่เกิดขึ้น แปปๆ ที่ว่านั้นน่ะ สามารถทำให้การเทรคสนุกน้อยลง เหนื่อยและเพลียมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ นี่คืออีกหนึ่งเหตุผล ที่คนที่เตรียมตัวมาดี ฟิตมากมาย แต่กลับเจอ AMS อย่างที่ไม่คิดว่าจะเจอ ร่างกายที่ฟิตมาจาก sea level ก็ไม่ได้หมายความว่า ความฟิตนั้นจะทำให้ปรับตัวในสภาพอากาศที่สูงได้ดีนะคะ แต่ร่างกายที่ฟิตนั้น จะทำให้กล้ามเนื้อต่างๆ ปวดเมื่อยและเหนื่อยล้าน้อยลงต่างหากล่ะคะ 

คุณคือคนหนึ่งที่มีความคิดว่า “ฉันมาทำอะไรที่นี่? มาทรมานตัวเองทำไม? จะไม่มาอีกแล้ว!” นั่น อาจหมายความว่า

คุณอาจยังเตรียมตัวเองมายังไม่ดีพร้อม ไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง หรือ หลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมร่างกาย (ออกกำลังกาย) เตรียมจิตใจ (ทราบข้อมูลเบื้องต้นกับเส้นทางที่จะเจอ ตั้งแต่เรื่องสภาพอากาศ, ลักษณะของที่พัก ห้องน้ำห้องท่า และ อาหาร รวมทั้ง ลักษณะของเส้นทางที่จะเจอ เป็นต้น) เตรียมอุปกรณ์ (กันแดด กันหนาว กันลม หิมะ หรือ ฝน ถ้ามี) รวมไปถึง การเตรียมแผนการเดินที่ดีพร้อม (ABC Trek ไปช่วงไหนดี ABC เดินกี่วัน ให้ปลอดภัย หลีกเลี่ยง AMS และ ให้มีเวลาพักบ้าง ไม่เอาแต่เดินๆๆ อย่างเดียว จนเหนื่อย จนท้อ จนล้าไปหมด)

เพราะหากคุณพร้อมครบทุกด้านแล้ว ความคิดลบๆ เหล่านั้นจะไม่มีในหัวเลยค่ะ นอกเสียจากว่า คุณไม่ชอบการเทรคกิ้งจริงๆ หากไม่เชื่อ หลังเทรคกิ้งสักหนึ่งเดือน แล้วคุณกลับมีความคิดถึงเทรคเส้นทางนั้นๆ ที่ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะทรมานเหลือเกินก็ตาม หรือ เริ่มหาข้อมูลและมองหาเส้นทางเทรคกิ้งเส้นใหม่แล้ว ก็แสดงว่า คุณหลงรักการเทรคกิ้งเข้าแล้วล่ะคะ ครั้งหน้า เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ให้พร้อมๆ นะคะ จะได้เทรคไป และ มีแต่ความคิดบวกๆ ค่ะ

มันจะดีกว่าไหม ถ้าเพื่อนๆ สามารถมีประสบการณ์เทรคกิ้งที่ดีได้ระหว่างการเทรคกิ้งด้วย โดยที่มีความคิดในแง่ลบให้น้อยที่สุด ❤️ ใช่ค่ะ นี่คือจุดประสงค์ของทัวร์เทรคกิ้งของหยก SanookTiew Tours | Your Tours. Your Friends. ดั่งเพื่อน เสมือนครอบครัว มาสัมผัสประสบการณ์เทรคกิ้งที่แตกต่างด้วยกันสิคะ ❤️

4. ประกันการเดินทาง ABC Trek ที่ครอบคลุม ABC และ การกู้ภัยฉุกเฉินด้วยเฮลิคอปเตอร์

เนปาลเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของหยกไปแล้วค่ะ นับจำนวนรอบที่ไปไม่ถ้วนแล้ว (8 ครั้งเห็นจะได้ค่ะ) โดยแต่ละครั้งที่หยกอยู่ที่เนปาล จะไม่ต่ำกว่า 35 วัน โดยอยู่มากสุดคือเต็มวีซ่า 90 วัน (3-4 ครั้งเห็นจะได้) เลยค่ะ 

ทุกครั้งที่ไปเนปาล หยกก็ไปเทรคกิ้งนั่นแหละค่ะ ซื้อประกันทุกครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยเคลมเลยสักครั้ง ดังนั้นแล้ว หยกยังไม่เคยได้มีการเรียก ฮ หรือ ใช้ประกันในกรณีใดๆ นะคะ ทำให้ไม่มีประสบการณ์ตรงในการเคลมค่ะ 

4.1. แนะนำ ประกัน ABC (คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและวิธีการซื้อ)

WorldTrips เป็น International Travel Medical Insurance – ประกันการเดินทาง ทางการแพทย์ นานาชาติ คือ 

• เป็นประกันการเดินทางทั่วๆ ไป (Travel Insurance) เช่น เที่ยวบินดีเลย์, กระเป๋าหาย เป็นต้น 
• ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทางการแพทย์ (Medical Insurance)
• ครอบคลุมหลายประเทศทั่วโลก (International Insurance) รวมทั้ง ประเทศเนปาล
• ครอบคลุมการท่องเที่ยวประเภท trekking ที่ความสูงไม่เกิน 4,500 เมตร ซึ่งครอบคลุมทั้งเส้นทาง ABC Trek ค่ะ (ที่ ABC สูง 4,130 เมตร)
• ครอบคลุมการกู้ภัยฉุกเฉินด้วยเฮลิคอปเตอร์ และ การส่งศพกลับประเทศไทย ทั้งสองแผน

4.2. เงื่อนไขการซื้อประกัน และ ราคาประกัน ประกันที่ซื้อ จะต้อง

• ระยะเอาประกัน จะเริ่มนับจากวันที่เดินทางออกจากประเทศบ้านเกิด และ สิ้นสุดวันที่กลับมายังประเทศบ้านเกิด ซึ่งก็คือ ประเทศไทย (ให้สมกับที่เป็นประกันการเดินทาง เอาไว้ใช้เฉพาะทริปเดินทางท่องเที่ยวเท่านั้น) ดังนั้นแล้ว ต้องซื้อประกันตามวันที่บินไปและบินกลับนะคะ จะเลือกซื้อแค่ช่วงสั้นๆ ไม่ได้ เช่น เดินทางไปเนปาล 1 – 13 ตุลาคม แต่วันที่เทรคกิ้ง คือ 4 – 11 ตุลาคม จะเลือกซื้อประกันแค่ 4 – 11 ตุลาคม นั้นซื้อได้ค่ะ แต่หากต้องมีการเคลมประกัน จะเคลมไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด จะต้องซื้อประกันที่ครอบคลุม 1 – 13 ตุลาคม นะคะ
• ราคาประกันนั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นกับ อายุผู้เอาประกัน, จำนวนวัน และ แพลนที่เลือกค่ะ

5. ABC เดินกี่วัน? แผนการเดินแบบไหน ถึงจะปลอดภัย หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการเกิด AMS ได้ 

จะดีกว่าไหม ถ้าไปเทรคกิ้ง ABC แล้วไม่ต้องเจอกับ AMS? แล้วจัดแผนการ เดิน ABC กี่วันดี?

เพื่อนๆ สามารถหลีกเลี่ยง AMS บนเส้นทาง Annapurna Base Camp Trek ได้ง่ายๆ นะคะ ด้วยการวางแผนการเดินแบบใช้เวลา แล้ว ABC เดินกี่วัน ดีน้า หยกแนะนำให้วางแผนเดิน ABC ประมาณ 7 วันค่ะ เพื่อนๆ สามารถดูแผนการเดินในแต่ละวันได้ที่ลิ้งค์นี้ โดยคลิกที่ “โปรแกรม”

• ใช้เวลาในการเดิน ไม่ต้องรีบร้อนเดินขึ้นเร็วๆ ให้ร่างกายได้ค่อยๆ ทำความคุ้นชินกับสภาวะอากาศบนที่สูง
• ประกอบกับการทานอาหารให้ได้ครบ 3 มื้อ, ดื่มน้ำให้มากๆ และ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• นอกจากจะไม่เกิด AMS แล้ว ยังทำให้สนุกมากขึ้นมากๆ ไม่รู้สึกทรมาน ไม่มีความคิดว่ามาทำอะไร หรือ คิดอยากกลับบ้าน อีกด้วยนะคะ
• ซึ่งความสุข สนุก ไม่เจ็บป่วย มีเวลาพักผ่อนในแต่ละวัน (ไม่ใช่เดินถึงที่พัก ก็เย็นก็ค่ำแล้ว) แบบนี้น่าจะเป็นประสบการณ์เทรคกิ้งในฝันของใครหลายคนเลยไหมคะ? 

นอกจากนี้แล้ว อย่าลืมจัดพักผ่อนสัก 1 วัน หลังเทรคจบ ที่ Pokhara ก่อนเดินทางกลับเข้า Kathmandu ด้วยนะคะ Pokhara เป็นเมืองที่น่าเที่ยว ชิล ไม่วุ่นวาย และ เหมาะสุดๆ กับการพักผ่อน โดยเฉพาะหลังเทรคจบค่ะ ทั้งยังมี ทะเลสาบเฟวา สุดฮิต บรรยากาศดี สุดจะรีแลกซ์ ให้ได้พักร่างก่อนกลับไปทำหน้าที่ตัวเองที่ไทยนะคะ

6. ABC ยากไหม? มือใหม่ไปได้หรือเปล่า? 

รีวิว Annapurna Base Camp เนปาล จะบอกว่า เส้นทาง ABC ถูกจัดระดับความยากง่าย เมื่อเทียบกับเส้นทางทั้งหมดที่มีในเนปาลว่า “moderate” หรือก็คือ “กลางๆ” ค่ะ 

ส่วนแผนการเดิน ABC Trek ที่หยกจัดทัวร์นั้น ABC ยากไหม หยกจัดระดับความยากง่ายคือ “ง่ายๆ ถึง กลางๆ” ค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่า 

• หยกออกแบบแผนการเดินเองใหม่ (ทุกเส้นทาง) ให้เหมาะสม กระจายความยากง่าย มีวันที่เดินสั้นๆ วันที่เดินกลางๆ และ วันที่เดินเยอะ ไม่ขึ้นสูงที่สูงเร็ว โดยหยกจัด ABC ให้เดินแบบสบายๆ 7 วันค่ะ
• นอกจากจะหลีกเลี่ยง AMS แล้ว หยกยังเน้นเรื่องความปลอดภัย และ เน้นให้ผู้ร่วมทริปได้ประสบการณ์เทรคที่ดีเยี่ยม ให้มีเวลาสนุกสนาน เอนจอยวิวทิวทัศน์ ระหว่างเทรคได้เยอะขึ้น มีเวลาว่างหลังเดินเสร็จในแต่ละวัน (ไม่ชอบแบบที่เดินถึงที่พัก ก็ถึงเวลาทานอาหารเย็นแล้ว แล้วก็นอน เช้าวันถัดมา ก็ออกเดินอีกแล้ว แบบที่ไม่มีเวลาพักผ่อนเลย) 
• เช่น ทัวร์ปกติ จะขึ้นไปค้างที่ ABC 4130 m จาก Deurali 3200 m เลย ซึ่งขึ้นเร็วมากเกือบ 1000 m นอกจากจะอันตราย เสี่ยงเกิด AMS และ ทรมานตัวเอง แบบที่ทำให้ไม่สบายตัว ทานอาหารไม่ลง ปวดหัว นอนไม่หลับ หรือ หลับยาก แล้วจะพลอยหมดสนุกเอาได้ค่ะ 

• แต่หยกจัดให้เราค้างที่ Deurali 3200 m 1 คืน, ค้างที่ MBC 3700 m 1 คืน และ ค้างที่ ABC 4130 m อีก 1 คืนค่ะ ทำให้เราจะมีวันเดินสั้นๆ ประมาณ 2.5 – 4 ชั่วโมง 2 วัน, มีวันเดินกลางๆ และ เดินเยอะๆ สลับกันไป
• ทริปที่หยกจัดจึงไม่หนักมาก มีเวลาสนุกมากขึ้นค่ะ และ เสี่ยงเกิด AMS น้อยที่สุดค่ะ 
• ระยะทางทั้งหมดประมาณ 52 กิโลเมตร ทั้งนี้ โปรดอย่าสนใจมากในเรื่องระยะทางของการเดินเทรคกิ้งในแต่ละวันนะคะ เพราะทางเดินบนเขาหิมาลัยนั้น ไม่ได้ราบเรียบเหมือนทางเดินในเมืองนะคะ มีทั้งลาด ชัน บันได หรือ ทางเดินหินขรุขระๆ ระยะทางที่คิดว่าสั้นๆ แต่เอาเข้าจริง สามารถเดินนานกว่าที่คิดไว้ได้ค่ะ
• ที่สำคัญ หยกมีจัดวันพัก 1 วันเต็มที่ Pokhara ด้วยค่ะ เราจะแค่มาเทรคอย่างเดียวไม่ได้ อุตส่าห์มาทั้งที เที่ยวเมืองน่ารักๆ บรรยากาศดีๆ หลังเทรคจบ เดินเล่น ช้อป กิน นวด นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ริมทะเลสาบ Fewa ยามเย็น ผ่อนคลายๆ ชาร์จแบตร่างกาย และ จิตใจให้เต็มที่ ก่อนกลับไทยไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อนะคะ

ดังนั้นแล้ว มือใหม่สามารถไปเทรคเส้นทาง ABC Trek ได้นะคะ แอดไลน์หยกเพื่อมาพูดคุยกันได้ค่ะ หยกยินดีให้คำแนะนำ ซึ่งนอกจากการวางแผนเส้นทางเดินที่ดีแล้ว การเตรียมตัวเตรียมร่างกายให้พร้อมระดับหนึ่ง และ มีความรู้เกี่ยวกับเส้นทางและสภาพอากาศบนเขาสูง เพื่อเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม จึงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อประสบการณ์เทรคกิ้งที่จะได้รับนะคะ 

7. ABC ต่างจาก EBC อย่างไร? อยากเห็น ยอดเขา Everest ไป ABC จะได้เห็นไหม? 

• ถาม อยากเห็น ยอดเขา Everest ไป ABC จะได้เห็นไหม? 
• ตอบ ไม่ค่ะ 

• ถาม อ้าว แล้วทำยังไงจะได้เห็น ยอดเขา Everest
• ตอบ ต้องไปเทรคกิ้งในเขต Everest นะคะ เช่น บน เส้นทาง EBC หรือ Everest Base Camp Trek หรือ EBC 2 Passes Trek เป็นต้น

• ถาม งี้ไปเทรคเส้นทาง ABC แล้วเห็นอะไร? 
• ตอบ ตอบง่ายๆ เลยค่ะ เส้นทาง ABC Trek นั้นอยู่ในเขต Annapurna ดังนั้น ที่ ABC หรือ Annapurna Base Camp จะได้เห็น ยอดเขาตามชื่อเขต นั่นก็คือ Annapurna I และ Annapurna South นอกจากนี้ ยังจะได้เห็นยอดเขาอีกหลายลูก ซึ่งที่ฮิตๆ ก็คือ ยอดเขาหางปลา หรือ Machhapuchhre ค่ะ

• ถาม ขอสรุปสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ABC ต่างจาก EBC อย่างไร? 
• ตอบ ABC และ EBC เป็นเส้นทางเทรคกิ้งในเนปาล ที่อยู่กันคนละเขต อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ทั้งสองเส้นทางนั้นอยู่กันคนละภาคค่ะ ประมาณว่า ภาคกลาง กับ ภาคใต้ 

• ถาม ขอยาวๆ สักหน่อย ABC ต่างจาก EBC อย่างไร? 
• ตอบ จุดเริ่มเดินของ ABC อยู่ใกล้ๆ เมือง Pokhara (สามารถเลือกเริ่มเดินได้จากหลายหมู่บ้าน) โดยต้องเดินทางจาก Kathmandu ไป Pokhara อาจเดินทางด้วยรถ ที่ใช้เวลาประมาณ 5-8 ชั่วโมง หรือ เครื่องบิน ที่ใช้เวลาบิน 25 นาที ส่วนจุดเริ่มเดินของ EBC นั้น อยู่ที่หมู่บ้าน Lukla ค่ะ โดยต้องเดินทางจาก Kathmandu ไป เมือง Ramechhap ด้วยรถจี๊ป 3.5-4.5 ชั่วโมง แล้ว นั่งเครื่องบินเล็กต่ออีก 15 นาทีถึง Lukla ค่ะ 
• โดยที่ทั้งสองเส้นทางมีความคล้ายคลึงกัน คือ เป็นการเดินไป Base Camp ทั้งคู่ และ เป็นการเดินไปและกลับทางเดิม (เดินขึ้นไปถึง ABC หรือ EBC ด้วยเส้นทางไหน ขากลับก็เดินกลับเส้นทางเดิมที่เดินขึ้นไปนั่นแหละค่ะ) 

• ถาม ABC ยากไหม EBC ยากไหม แล้ว ABC กับ EBC อันไหนยากกว่ากัน
• ตอบ EBC ยากกว่าเยอะค่ะ แต่มือใหม่ที่เตรียมตัวมาดีหน่อย สามารถไปเทรคแรกที่ EBC ได้นะคะ แอดไลน์มาพูดคุยกันหยกได้ค่ะ หยกยินดีให้คำแนะนำ

• ถาม ABC เดินกี่วัน EBC เดินกี่วัน
• ตอบ แบบปลอดภัยๆ และ มีเวลาสนุกๆ ก็จะแนะนำ เฉพาะจำนวนวันที่ต้องเดินนะคะ คือ ABC 7 วัน ส่วน EBC 12 วันค่ะ

8. แนะนำที่พัก ทำเลดี ไม่เสียงดัง ไม่วังเวง แต่ก็ไม่เงียบเกินไป ใน Kathmandu และ Pokhara

ใน รีวิว Annapurna Base Camp เนปาล นี้ หยกยังแนะนำที่พัก ทั้งใน Kathmandu และ Pokhara ดังข้อมูลด้านล่างนี้นะคะ

8.1. รีวิว ABC เนปาล มีแนะนำที่พัก ใน Thamel, Kathmandu

ที่พักที่หยกจะแนะนำต่อไปนี้ เป็นที่พักที่หยกเลือกและสรรหามาเอง ไม่ได้มีสปอนเซอร์จากโรงแรมหรือที่ไหนมาบอกให้เอาลงนะคะ โดยหยกเลือกอิงจากตัวเองค่ะ ว่าอยากพักที่ไหนในงบที่ต่างกันออกไป โดยที่หยกหลีกเลี่ยงการเลือกที่พักที่อยู่ใจกลางทาเมลจ๋าๆ นะคะ เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย และเสียงที่ดังมากๆ ในยามค่ำคืนค่ะ 

A). Hostel Funky Monkey Thamel Kathmandu (ถูก)

ที่พักราคาถูก ที่มีห้องห้องแบบดอร์ม และห้องส่วนตัวให้ได้เลือก ทำเลดี อยู่ริมๆ ทาเมลค่ะ จึงไม่วุ่นวายมากนัก โดยเดินแค่ไม่กี่ร้อยเมตรก็เข้าเขตเข้าทาเมลแล้วค่ะ 

B). Kathmandu Peace Guesthouse (ถูก)

ที่พักแบบห้องส่วนตัวที่ราคาถูก ดีงาม น่าอยู่ ทั้งทำเลดีก็ดี เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย เพราะอยู่ริมทาเมล เดินนิดเดียวเพียง 2 – 3 นาทีก็เข้าทาเมลแล้วค่ะ

C). Gurung’s Home (ถูก-กลางๆ)

ที่พักหลากหลายราคา น่าอยู่มากๆ มีตั้งแต่ดอร์มราคาถูกๆ ห้องพักส่วนตัวราคาถูก ไปจนถึงห้องพักส่วนตัวราคากลางๆ ที่ทำเลก็ดีค่ะ เงียบสงบ ไกลจากความวุ่นวายของทาเมล แต่ก็ไม่ได้ไกลจากทาเมลมากนัก เดินเบาๆ ชมเมืองไปเรื่อยๆ ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

D). Flying Yak Kathmandu (ถูก-กลางๆ)

แนะนำมากๆ ค่ะ ที่นี่ กับที่พักในทาเมล ที่ไม่ได้อยู่ใจกลางมากให้วุ่นวายเสียงดัง คือทำเลดีสุดๆ ห้องพักก็ดูดี สะอาด น่าเข้าพัก มีตั้งแต่ดอร์ม ไปจนถึง ห้องพักส่วนตัว ให้ได้เลือกตามงบเลยค่ะ ทั้งห้องพักส่วนตัวราคาก็ดี แถมยังมีพ่วงบริการรับที่สนามบินเมื่อจองที่พักออนไลน์อีกด้วยนะคะ 

E). Bodhi Boutique Hotel (กลางๆ-หรูหรา)

แนะนำอีกแล้วค่ะ ที่พักทำเลเหมาะ อยู่ในทาเมล แต่ไม่อยู่ในใจกลางจ๋าๆ เลยไม่วุ่นวายมาก ทั้ฃการตกแต่งก็มีเอกลักษณ์ สไตล์บูติกตามชื่อ แม้กระทั่งการตกแต่งในห้องน้ำก็ยังเข้าคอนเซปต์สวยงามเลยค่ะ หากมากัน 3 คนที่นี่ก็เหมาะสุดๆ เพราะมีห้องสำหรับ 3 คนในราคาที่ถูกสุดๆ เลยค่ะ 

F). Kumari Boutique Hotel (กลางๆ-หรูหรา)

อีกที่พักที่แนะนำมากๆ ก็น่าอยู่สุดๆ ทั้งยังทำเลดีอีกแล้วค่ะ อยู่ในทาเมล แต่ไม่ได้อยู่ใจกลางทาเมล จึงค่อนข้างเงียบ และไม่วุ่นวายมากนัก หรูหราตั้งแต่การตกแต่งหน้าโรงแรม ห้องนอน ห้องน้ำสะอาด ใหม่ เป็นสัดส่วน ทุกห้องมาพร้อมอาหารเช้าอย่างดี ให้ได้เลือกทานมากมาย

8.2. รีวิว ABC เนปาล มีแนะนำที่พัก ใน Lakeside, Pokhara

ไปเทรคกิ้งเส้นทาง Annapurna Bae Camp Trek เราต้องเดินทางจาก Kathmandu ไป Pokhara ค่ะ ทริปที่เร่งรีบ มักจะจัดกันแบบไม่ต้องค้างที่ Pokhara คือ บินจาก Kathmandu ไป Pokhara แล้วเดินทางไปยังจุดเริ่มเดินเลย แต่เพื่อนๆ ทราบไหมคะ ว่า Pokhara เป็นเมืองที่น่าเที่ยว ชิล ไม่วุ่นวาย และ เหมาะสุดๆ กับการพักผ่อน โดยเฉพาะหลังเทรคจบ

ที่พักเหล่านี้ หยกเลือกเองจากความเห็นส่วนตัวว่าน่าพัก ถ้าหยกต้องเลือกที่พักในโพคารา ที่พักแบบไหนที่หยกจะเลือก จึงมั่นใจได้ค่ะ ว่าที่พักเหล่านี้หยกไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสปอนเซอร์ไหนๆ ไม่ได้มีการถูกบอกให้เอามาลง เพราะเป็นที่พักที่หยกเลือกมาแนะนำเพื่อนๆ เองค่ะ

A). Gurkha Lodge (ถูก)

คนรักธรรมชาติ ความเงียบสงบ และความเป็นกันเอง ต้องรักที่นี่ค่ะ ที่พักกึ่งๆ บังกะโล แบบธรรมดาๆ แต่มีเสน่ห์และอบอวลไปด้วยความสุขความสบายใจ มีเสียงนกร้องเพลงคลอเบาๆ ในยามเช้า ทั้งยังใกล้ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว และไม่ไกลจากทะเลสาบเฟวาอีกด้วยค่ะ กับราคานี้คือคุ้มค่าเกินราคา แบบไม่ต้องเสียเวลาตัดสินใจ ทั้งยังจะกลับมาค้างที่นี่อีกแน่นอน

B). Hotel Blue Magnet (ถูก)

โรงแรมใหม่กิ๊ก ที่ทุกอย่างใหม่ ตั้งแต่หมอน ผ้าห่ม ไปจนถึงอุปกรณ์ต่างๆ จึงมีความสะอาด และสะดวกสบาย ตัวตึกมีการตกแต่งสวยงาม มีระเบียง ที่ด้านล่างยังมีสวนหย่อมให้ได้นั่งทานอาหารเช้าเพลินๆ เคล้าบรรยากาศชิวๆ กับแสงแดดอ่อนๆ อีกด้วยค่ะ ทั้งยังใกล้ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว และไม่ไกลจากทะเลสาบเฟวาอีกด้วยค่ะ 

C). Hotel Blossom (ถูก)

อีกตัวเลือกที่ดีกับที่พักกึ่งร้านกาแฟ ตกแต่งเก๋ไก๋ บรรยากาศดี น่านั่งชิวสุดๆ กับชุดอาหารเช้าสุดเริศ เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีเยี่ยมมากๆ ห้องพักสะดวกสบาย มีหน้าต่างให้แสงสว่างเข้า บางห้องยังมีระเบียงให้ออกไปนั่งจิบชาชิวๆ อีกด้วยค่ะ และแน่นอนว่า อยู่ใกล้ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว และไม่ไกลจากทะเลสาบเฟวาอีกด้วยนะคะ

D). Hotel Ezen (ถูก-กลางๆ)

ที่พักทำเลดี อยู่ใกล้ถนนใหญ่ ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว ที่มีวิวดี สามารถมองเห็นทะเลสาบเฟวาได้จากห้องนอน และที่ชั้นบนสุดยังเป็นจุดชมวิวหิมาลัยที่สวยงามมากๆ อีกด้วยค่ะ ต้องรีบจองเลยนะคะ ราคาดี ทำเลดี ที่พกดีแบบนี้ เต็มไวมากๆ ค่ะ 

E). Hotel Rosemary Homes (ถูก-กลางๆ)

ที่พักทำเลดี อยู่ใกล้ถนนใหญ่ ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว ห้องพักใหม่ ตกแต่งเรียบง่าย ด้วยสีสันที่แตกต่างในแตะละห้อง ทั้งยังอยู่ติดกับร้านอาหารเจ้าของเดียวกัน ร้านอาหารดังที่มีชื่อเสียง มีรสชาติและคุณภาพดี ไหนจะยังมีพื้นที่สวนหย่อมให้ได้นั่งทานอาหารและผ่อนคลายเพลินๆ อีกด้วยค่ะ

F). Three Jewels Boutique Hotel (กลางๆ)

ที่พักทำเลดีอีกแล้ว เดินไม่กี่นาทีก็ถึงถนนใหญ่กลางเมืองท่องเที่ยวแล้วค่ะ เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ กับที่พักที่ตกแต่งเรียบง่าย ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สวยงาม ห้องสะอาด และน่านอนสุดๆ ทั้งยังมีห้องนอนที่สามารถมองเห็นวิวหิมาลัยให้ได้เลือกพักด้วยนะคะ 

G). Hotel The Coast (กลางๆ)

แนะนำที่นี่สุดๆ เลยค่ะ กับห้องพักที่มีระเบียงพร้อมที่นั่งเล่นในห้องนอน กับวิวทะเลสาบเฟวาแบบส่วนตั๊วส่วนตัว ที่จะทำให้ฟินจนไม่อยากออกจากห้องเลยค่ะ ซึ่งแน่นอนเลยว่าทำเลของที่พักนั้นดีสุดๆ ห้องพักก็กว้าง สะอาด ตกแต่งแบบคลาสสิก และอีกอย่างที่น่าดึงดูดใจให้เข้าพักคือ บริเวณทานอาหารเช้านั้นให้วิวทะเลสาบเฟวาเต็มๆ แบบใกล้ชิดสุดๆ เลยค่ะ 

H). Tourist Residency (กลางๆ)

แนะนำๆๆ อีกแล้ว ถ้าใครมีงบสักหน่อย และกำลังมองหาที่พักแบบมีเอกลักษณ์ แบบที่ตกแต่งกึ่งๆ สไตล์ยุโรป แบบที่ไม่คิดว่าจะมีในเนปาล อยู่หรือเปล่าคะ นี่เลยค่ะ ที่พักสไตล์บ้านพักตากอากาศ กับห้องพักที่สวยมากๆ น่าอยู่เป็นที่สุด กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่ตกแต่งได้อย่างลงตัว บางห้องยังมีอ่างจากุชชี่อีกด้วยนะคะ 

I). Pokhara Choice Inn (หรูหรา)

ที่พักทำเลดีๆ บนถนนใหญ่เลยค่ะ ทั้งห้องยังใหญ่ กว้าง ตกแต่งหรูหรา ดูดีสุดๆ มีระเบียงด้วยค่ะ ที่เลือกได้ว่าต้องการวิวเมือง หรือ วิวหิมาลัย หรือ วิวทะเลสาบเฟวา อาหารเช้าก็เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ มีให้เลือกทานมากมาย ที่นี่ดีไปทุกอย่าง ทั้งทำเล ห้องพัก และบริการ ตัวเลือกดีๆ หลังเทรคเสร็จ นี่เหมาะเลยค่ะ 

J). Mingtang Garden Cottage (หรูหรา)

โอ้ยย หลงรักที่นี่มากๆ เลยค่ะ ทำเลก็เริ่ด การตกแต่งก็สวย มีเอกลักษณ์ แบบที่น่าจะมีแค่ที่นี่ที่เดียวในเนปาล เน้นการตกแต่งแบบจีน สุดโบราณ ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลักอย่างปราณีตงดงาม ประกอบกับการตกแต่งที่เก๋ไก๋ ของที่พักขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ของสวนหย่อม ที่จัดและตกแต่งร่มรื่น ที่เหมาะสุดๆ กับการมาพักผ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการให้รางวัลตัวเองหลังเทรคเสร็จ ซึ่งถือว่าราคาไม่แพงเลยถ้าเทียบกับที่ไทย 

เป็นอย่างไรบ้างคะ รีวิว Annapurna Base Camp เนปาล หรือ ABC Trek นี้ ช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับ เส้นทางเทรคสุดฮิต ABC Trek ไหมคะ ว่า ABC Trek ไปช่วงไหนดี อากาศเป็นอย่างไร? หนาว? เจอฝนเจอหิมะ? ABC เดินกี่วัน ให้ปลอดภัย หลีกเลี่ยง AMS ให้ได้ประสบการณ์เทรคที่ดีเยี่ยม ให้เทรคได้จบ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม นั่งม้า หรือ นั่ง ฮ. กลับ (คลิกเพื่ออ่านรีวิว ความคิดเห็นโดยตรงจากเพื่อนๆ ที่ร่วมทริปกับหยกได้นะคะ), ABC ยากไหม มือใหม่ไปได้หรือเปล่า? ประกัน ABC ซื้อเจ้าไหนดี? แล้ว ABC ต่างจาก EBC อย่างไร? อันไหนง่ายยากกว่ากัน และ สิ่งน่ารู้อื่นๆ อีกมากมาย ที่จะทำให้การเทรคกิ้งเส้นทาง Annapurna Base Camp ของเพื่อนๆ สนุกมากยิ่งขึ้นนะคะ