
ลูกหาบ (Porter) ก็คือคนที่หอบหิ้วสัมภาระให้เราในการเดินทางที่ยากลำบาก เช่นต้องเดินขึ้นเขาสูงๆ เดินเข้าป่ายากๆ ทำให้การ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง สนุกและคล่องตัวขึ้น หลายคนที่เคยใช้บริการลูกหาบคงคุ้นเคยกันดีกับการที่ลูกหาบจัดแจงสัมภาระออกเป็นสองส่วนที่เท่าๆกันแล้วผูกแต่ละส่วนติดกับปลายไม้ไผ่ทั้งสองด้าน แล้วหาบ ส่วนลูกหาบที่เห็นก็มักจะเป็นชายชาตรีที่ดูแข็งแรงๆ มีกล้ามเป็นมัดๆ ส่วมรองเท้าผ้าใบทะมัดทะแม่ง บางครั้งก็ใส่สนับเข่าด้วย
แต่ที่เนปาล มันไม่ใช่แบบที่คุณคิดค่ะ เค้าไม่หาบแบบนั้นกันที่นี่ แต่..เค้าใช้ “ศีรษะ” ในการหาบ ไม่ใช่วางไว้บนหัวแล้วเดินนะ งงล่ะสิ 555 ส่วนอาวุธของลูกหาบที่นี่ก็คือ “ผ้าและเชือก” โดยที่เค้าจะมัดสัมภาระทุกอย่างรวมเป็นชิ้นเดียววางไว้ที่หลัง แล้วเอาเชือกพันรอบๆสัมภาระนั้นๆแล้วใช้ผ้าหรือเชือกทำเป็นสายอ้อมมาที่บริเวณศีรษะ ที่มีผ้าโพกหนาๆรองรับ ใช้มือสองข้างจับกับผ้าที่อยู่ข้างหน้าแล้วดึงเพื่อให้ผ้าตรึงแน่นนาบไปกับศีรษะแล้วเริ่มต้นเดิน

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์คนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? สโลเวเนีย? ศรีลังกา หยกจัดทริปค่ะ
สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
และลูกหาบที่นี่ ก็มีตั้งแต่ลูกหาบ ยัน ปู่หาบ หลากหลายอายุจริงๆค่ะ ไม่แค่นั้นลูกหาบบางคนยังใส่แค่รองเท้าแตะ! ทางเดินที่ว่าลำบาก ทั้งสูง ทั้งชัน ทั้งลื่น แต่ลูกหาบทุกคนไม่ว่าจะลูกหรือปู่เดินเร็วมาก และก็ก้าวยาวมาก หยกถ่ายรูปแทบไม่ทันเลยค่ะ


อาชีพที่สุจริตและทำงานหนักมากอย่างลูกหาบที่ต้องดูแลรับผิดชอบทั้งชีวิตของตัวเค้าเองและทรัพย์สินของผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะการเดินป่าที่เนปาลนั้น บางครั้งต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน แล้วชีวิตลูกหาบที่ต้องแบกสัมภาระเหล่านั้นติดต่อกันนานๆล่ะ จะทำให้คนกลุ่มอาชีพนี้คร่ำเครียดกกับงานที่ทั้งหนักและลำบากบ้างไหม

แต่สิ่งที่หยกเห็นภายใต้ผ้าโพกศีรษะและของอันใหญ่โตที่ด้านหลังพวกเค้านั้น คือ ใบหน้าที่มีรอยยิ้มเป็นมิตรและสายตาที่มุ่งมั่น สังเกตได้จากเวลาที่เดินสวนกัน หยกจะทักทายดวยคำว่า “นมัสเต” ซึ่งหมายถึง “สวัสดี” พร้อมกับยิ้มให้ และทั้ง 100% ของลูกหาบมองมาที่หยกพร้อมกับรอยยิ้มจากทั้งปากและสายตา อีกทั้งยังทักทายกลับ ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆที่ลูกหาบเหล่านี้ยังมีอารมณ์มาทักทาย มองหน้าเราพร้อมกับยิ้ม ทั้งๆที่แบกของที่หนักมากแล้วเดินมาเป็นสิบๆกิโลแบบนี้
คำว่า “ท้อ” ไม่เคยทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ไม่ว่าสิ่งที่พบเจอในชีวิตประจำวันจะหนักหนาแค่ไหน แต่ถ้าเรามีความพยายามและรักในสิ่งที่เราทำแล้วนั้น ความสุขอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆที่อยู่รอบๆตัวคุณที่อาจทำให้วันที่เลวร้ายไม่ร้ายอย่างที่คิด
บางครั้ง “การยิ้มทักทายคือการให้กำลังใจที่ดีที่สุด” ในการช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จริงไหมคะ?
ทายสิคะว่า ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง แบบนี้หยกเลือกแบกเป้เองหรือจ้างลูกหาบ?
แล้วเพื่อนๆเลือกอย่างไหนกันคะ?
คอมเม้นต์กันเข้ามาเยอะๆเลยนะคะ