
หากคุณคือคนที่มีทริปในฝันมากมาย ชอบมองหาแต่สถานที่ท่องเที่ยว ชอบค้นคว้าหาข้อมูลท่องเที่ยว รู้เสมอว่าเมื่อไหร่มีวันหยุด แต่สุดท้ายฝันนั้นก็ถูกพับเก็บไป ไม่ว่าจะเป็นเพราะความไม่พร้อม ไม่กล้า ไม่มั่นใจ ความกลัว ที่จะไป เที่ยวคนเดียว เพราะไม่มีเพื่อนไปด้วย คิดเสมอว่าการท่องเที่ยวจะต้องใช้เงินจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ เที่ยวคนเดียว เพราะไม่มีคนช่วยหาร
ลองอ่านสิ่งต่อไปนี้ ที่หยกกำลังจะบอกดูนะคะ เพราะ มันมาจากประสบการณ์ตรงที่หยกก็ “เคยเป็น” เช่นนั้นเหมือนกัน ย้ำค่ะย้ำ ว่า “เคยเป็น” แล้วลองเอาไปประยุกต์ใช้ กับตัวคุณเองดูนะคะ
การที่จะทำอะไรซักอย่างนั้น มันมีปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง ที่เราต้องทำไปด้วยกัน สิ่งนั้นจึงจะประสบผลสำเร็จ ซึ่งสิ่งที่หยกกำลังจะบอกต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่ง่าย หากหยกทำได้ ใครๆ ก็ทำได้ค่ะ เที่ยวคนเดียว ยิ่งง่ายไปใหญ่
หยกมีบทความแนะนำ วิธีการเลือกซื้อกระเป๋าแบ็คแพ็ค โดยสามารถอ่านได้ที่ลิ้งค์ตัวหนังสือส้มๆตรงนี้เลยนะคะ ซึ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ชอบเที่ยวลุยๆ จะได้เลือกกระเป๋าแบ็คแพ็คที่เหมาะกับคุณได้ หรือจะเป็น การเลือกรองเท้าเดินป่า (hiking shoes) ให้เหมาะกับกิจกรรมที่จะทำ รวมทั้งชนิดของรองเท้าเดินป่า และวิธีการดูแลรักษารองเท้า
- “ทำตามเสียงเรียกของหัวใจ”

วี๊ดวิ้ว หยกหมายความตามนั้นค่ะ เพราะ อะไรที่มาจากใจของเราจริงๆ แล้ว เราจะมีความตั้งใจ และ มุ่งมั่นกับสิ่งนั้นเป็นพิเศษ ซึ่งมักจะประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ หากว่าคุณมีความสุข กับการหาข้อมูลท่องเที่ยว, การฟังเรื่องราวท่องเที่ยวจากคนอื่นๆ, การดูรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยว ผจญภัยทั้งหลาย, การชมรายการพาเที่ยว หรือ แม้กระทั่งการซื้อหนังสือหรือนิตยสารท่องเที่ยวมากมาย ด้วยจิตใจที่ฝักใฝ่ และ พยายามขนาดนี้แล้ว แสดงว่าคุณ คือ มีเลือดนักท่องเที่ยวอยู่ในตัว และ พร้อมที่จะท่องเที่ยว ได้ทุกเมื่อ ดังนั้น เรื่องการหาข้อมูล เพื่อวางแผนทริปนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ไม่ว่าจะ เที่ยวคนเดียว หรือไปกันเป็นกลุ่ม
อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะค่ะ หาข้อมูลท่องเที่ยวต่อไป ลิสต์ไว้เยอะๆ จัดหมวดหมู่ตามฤดูกาลการท่องเที่ยวเลยก็ดีนะคะ รอแค่หาวันว่างๆ และฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับสถานที่นั้นๆ พร้อมความกล้าและมั่นใจ ที่นี้ จะเลือกไปได้ไม่หมดเลยทีเดียว
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ
- “อย่าทำให้ตัวเองสิ้นหวังหรือหมดหวัง”

อย่าคิดว่าสิ่งนั้นๆ จะเป็นไปไม่ได้ อีกความหมายหนึ่งที่หยกจะบอกก็คือ “กำลังใจจากตัวเอง คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เราได้จากมันเต็มๆ 100%” ความหวังที่จะไปตามฝันนั้น จะทำให้เราหาลู่ทางที่จะทำสิ่งนั้นๆให้สำเร็จให้จงได้ ถึงแม้เราจะยังไม่พร้อม หรือ ขาดปัจจัยอย่างอื่นก็ตาม เราก็จะพยายามสร้างฝันจากความหวัง และ กำลังใจจากตัวเอง ซึ่งคนที่มีความหวังย่อมมีทางออกที่ดีเสมอ นั่นหมายถึงว่า คุณจะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ และ จะทำฝันนั้นๆให้กลายเป็นจริงได้ในสักวัน เช่น ตอนที่หยกไป อินเดีย แล้วมีเหตุจำเป็น ที่ต้องโดยสารรถไฟกลางคืน ซึ่งหยกทั้งกลัวและกังวลมาก แต่ด้วยความฝันที่ยังไงก็ต้องไปให้ได้ จึงพยายามหาทางออก จนในที่สุดก็เจอทางออกที่ดีเยี่ยม และปลอดภัยมาก จนหายกังวลไปเลยค่ะ
โดยอย่างยิ่งการท่อง เที่ยวคนเดียว คุณจะบั่นทอนกำลังใจจากตัวเองไม่ได้เด็ดขาด คิดบวกเท่านั้น แต่หากคุณหยุดคิดในทางลบไม่ได้ ก็จงพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยเอาความคิดด้านลบนั้นๆ มาจัดการ หาข้อมูลและวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้ตัวคุณเองพร้อม และ ระมัดระวังมากขึ้น คงจะดีกว่าใช่ไหมคะ โดยเฉพาะกับการไป เที่ยวคนเดียว ที่คุณต้องเตรียมพร้อมให้ได้มากถึงมากที่สุด
อย่าหยุดความฝันค่ะ เพราะ ฝันนั้นจะกลายเป็นจริงได้ ก็ขึ้นอยู่กับที่ตัวเราเองเท่านั้น
- “หยุดหาข้ออ้าง”

หากคุณได้ทำตามสิ่งที่คุณต้องการ ด้วยจิตใจที่มีความหวังแล้ว ก็เลิกอ้างนู้นอ้างนี้ เช่น เราคงไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่นั่นหรอก, งบก็มีน้อย ที่นี่ต้องแพงแน่เลย, พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ คงไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้สินะ, จะต้องกินอาหารที่นั่นไม่ได้แน่ๆ, ไม่มีเพื่อนไปด้วย เที่ยวคนเดียว คงจะต้องเหงามากๆ และ อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งข้อถัดๆไป คือ วิธีที่หยกลบล้างข้ออ้างเหล่านี้นั่นเองค่ะ
- “งบน้อย”
ใช่ค่ะที่เค้าว่ากันว่า “เงินเป็นสิ่งที่สำคัญ และ ไม่ได้หากันง่ายๆ” แต่การที่คุณมีงบการท่องเที่ยวที่จำกัด ไม่ได้หมายความว่า การท่องเที่ยว หรือ การ เที่ยวคนเดียว จะเป็นไปไม่ได้นะคะ เอาง่ายๆกันเลย เคยกันไหมคะที่เงินเดือนไม่พอกินพอใช้? หากเคย…แล้วคุณทำอย่างไรกันคะในเมื่อเงินเดือนก็ไม่ได้จะเพิ่มขึ้นมาภายในเดือนนั้นอยู่ดี สิ่งเดียวที่ทำได้ ก็คือ “วางแผน แล้วก็ต้องใช้ให้มันพอ”
การไปเที่ยวก็เหมือนกันค่ะ ยังไงคุณก็ต้องใช้แค่เท่าที่คุณมี หากมีไม่พอก็ต้องประหยัด โดยมีการวางแผน และ จัดสรรปันส่วนค่าใช้จ่ายให้ได้ ดังนั้น เรื่องงบไม่พอ ก็ไม่ควรมาเป็นอุปสรรคขัดขวางทริปในฝันนะคะ
หยกเที่ยวค่อนข้างบ่อย แต่ว่า การท่องเที่ยวในแต่ละทริปของหยกนั้น ไม่แพงเลยค่ะ เช่น ตอนที่หยกไป เที่ยว จ.น่าน ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม 2558 โดยไปแค้มป์ปิ้งที่ ดอยเสมอดาว และ ขุนสถาน 3 วัน 2 คืน รวมทุกอย่างแล้ว ทั้งค่าเดินทางจากกรุงเทพฯ ค่ารถขึ้น-ลงดอย ค่ากิน ค่านอน และค่ารถกลับกรุงเทพฯ แค่ประมาณ 1,800 บาทเท่านั้นเองค่ะ
- “ตั๋วเครื่องบินราคาแพง”
ใช่แล้วค่ะ หากคุณไม่มีการวางแผน แต่เพราะปัจจุบันนี้ ราคาค่าเครื่องบินนั้นแสนจะถูก ซึ่งที่ถูกนี้หมายถึงต้องซื้อล่วงหน้า 3 เดือน 6 เดือน หรือ บางครั้งเป็นปี แต่อย่างนี้ก็ยิ่งดีใหญ่เลยสิคะ เพราะ จะได้มีเวลาเก็บเงิน หาข้อมูลวางแผนทริป เตรียมตัวดีๆ หาที่พักแต่เนิ่นๆ ซึ่งก็จะถูกมากอีกเช่นกัน
- “เที่ยวแบบประหยัด ก็ไม่สนุก และ อดทำอะไรหลายๆ อย่างสินะ งั้นไม่ไปดีกว่า”
ใคร ๆ ก็ชอบคิดว่า การท่องเที่ยว แบบประหยัด จะไม่สนุก ไม่ได้กินอาหารที่อร่อย แต่จริง ๆ คือ ผิดค่ะ ในทางตรงกันข้าม การเดินทางท่องเที่ยวแบบประหยัดนั้น ทำให้คุณได้มีประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ได้พบเจอคนท้องถิ่นที่รู้อะไรดีๆ เกี่ยวกับถิ่นของเค้าเองมากกว่านักท่องเที่ยวอย่างเราๆ แถมยังทำให้คุณมีงบเหลือ ให้ได้มีทริปต่อ ๆ ไป เยอะขึ้น ๆ อีกด้วยนะ
การประหยัดที่หยกมักจะทำเวลาไปเที่ยว ก็เช่น เรื่องอาหารการกิน หยกมักจะเข้าร้านอาหารพื้นเมือง ที่มีคนท้องถิ่นเข้าเยอะๆ ย้ำนะคะ ว่าคนท้องถิ่นเยอะๆ ไม่ใช่นักท่องเที่ยวเยอะๆ นะ คือนอกจากจะประหยัดแล้ว ยังจะไม่ผิดหวังกับสิ่งที่ได้มาด้วย เพราะทั้งถูก ทั้งอร่อย สด และร้อน นอกจากจะได้จ่ายราคาถูก แบบเดียวกับคนท้องถิ่นแล้ว ยังได้กินอาหารพื้นเมือง รสชาติแท้ๆ ตามต้นตำรับประเทศนั้นๆ อีกด้วย ที่สำคัญหยกยังไม่เคยมีปัญหาเรื่องท้องไส้ จากการกินอาหารที่ร้านอาหารพื้นเมืองเหล่านั้นเลย อย่างในรูปคือร้านอาหารอินเดียที่ ปีนัง ค่ะ ทั้งอร่อย ถูก และมีให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ

ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองนึกดูสิคะ กับการที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ประเทศเรา แล้วไปตามแหล่งท่องเที่ยว แล้วสั่งส้มตำหรือต้มยำ แน่นอนค่ะว่าแม่ค้าจะต้องทำแบบรสชาติไม่จัดให้ ด้วยการที่นักท่องเที่ยวเยอะ จะมานั่งถามว่าไทยสไตล์ไหม กินเผ็ดได้ไหม คงไม่ยอมเสียเวลาขนาดนั้น สู้ทำมาแบบเซฟๆ แบบทุกเชื้อชาติกินได้แน่นอน คือแบบรสไม่จัด หรือใส่เครื่องปรุงบางอย่างลงไปทั้งๆที่ปกติไม่ได้ใส่ เพื่อหวังว่าน่าจะถูกปากชาวต่างชาติ แล้วรสชาติมันจะเป็นยังไงละคะ ก็คงไม่อร่อยเท่ารสจัดๆเข้มๆอย่างที่เราทานกัน (พูดแล้วน้ำลายไหล) แล้วอีกอย่าง ตามแหล่งท่องเที่ยวราคาก็จะสูงกว่าอยู่แล้ว ที่ต่างประเทศก็เช่นกันค่ะ
อีกอย่างที่หยกชอบทำ ก็คือ การเดิน มากกว่าการนั่งรถสาธารณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดิน, รถประจำทาง หรือ รถแท๊กซี่ ซึ่งหากระยะทางห่างกันไม่เกิน 5 – 6 กิโลเมตร แล้วล่ะก็ หยกเลือกที่จะเดินค่ะ ได้ชื่นชมธรรมชาติ อาคารบ้านเรือน ได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนพื้นเมือง ได้เห็นอะไร ๆ ที่มากกว่าแหล่งท่องเที่ยวที่พบเจอทั่วไปแนะนำกันตามอินเตอร์เน็ต ผลทางอ้อมที่ได้นอกจากการประหยัดค่ารถแล้ว ยังถือเป็นการออกกำลังกายอีกด้วย
- “ไม่มีเวลาไปเที่ยว”
สิ่งนี้ผิดมหันต์ เพราะ ประเทศเรามีวันหยุดราชการค่อนข้างเยอะ เกือบทุกเดือนเลยก็ว่าได้ ติดเสาร์อาทิตย์ จนกลายเป็นวันหยุดยาวก็มีเยอะไป รัฐบาลหยุดให้เพิ่มก็มีถมไป ดังนั้นข้ออ้างเรื่องไม่มีวันหยุดก็ฟังไม่ขึ้นค่ะ
- “ไม่มีคนไปด้วย”

หลายๆคนตัดสินใจทิ้งทริปในฝัน เพราะ เพื่อนที่วางแผนจะไปด้วยกันไม่ว่าง! ไป เที่ยวคนเดียว เหรอ..ไม่ไปดีกว่า
รู้ไหมคะ ว่าข้อดีของการท่องเที่ยวอย่างหนึ่ง คือ ทำให้เราได้รู้จัก และ พบเพื่อนใหม่ๆ เช่น การพักที่โฮสเทล นอกจากจะประหยัดเงินแล้ว ยังได้เพื่อนใหม่ และ ไม่เหงาอีกด้วย ที่สำคัญ การไป เที่ยวคนเดียว ทำให้เรามีอิสระในการตัดสินใจทั้งหมดเลย อยากตื่นเช้า ตื่นสาย, หิวหรือยังไม่หิว, เหนื่อยอยากที่จะนั่งพัก, ไม่อยากไปที่นั่น แต่อยากไปที่นี่, อยากกินอาหารร้านนั้น, ไม่อยากดริ๊งค์ แต่อยากเข้าร้านกาแฟ, อยากเดินตรงนี้ต่ออีกสักหน่อย, อยากถ่ายรูปวิวนี้นานอีกสักนิด, อยากช้อปปิ้ง หรือ อยากเข้าพิพิธภัณฑ์ ก็ได้ทั้งนั้นค่ะ ตามใจฉันแต่เพียงผู้เดียว สบายออก รู้อย่างนี้แล้วข้ออ้างของการไม่มีเพื่อนไปด้วย ก็ตัดทิ้งไปได้อีกเช่นกันค่ะ
- “กลัวอันตราย”

ไม่มีที่ไหนไม่อันตรายหรอกค่ะ แม้กระทั่งหน้าบ้านของเราเอง จริงไหมคะ
เพียงแต่ทุกอย่างมีสองด้าน หากเรามองด้านลบ ทริปเราก็จะล่ม แต่หากเรามองด้านบวก ความกลัวว่าจะมีอันตรายใดๆเกิดขึ้นนั้น จะทำให้เรามีการเตรียมพร้อมที่สมบูรณ์ เที่ยวคนเดียว ก็ต้องระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้น และ ลดปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ เท่าที่จะทำได้ เช่น ไม่ใส่เสื้อสายเดี่ยว กับกางเกงขาสั้นในประเทศมุสลิม, ไม่ขับรถในประเทศที่เลน และ พวงมาลัยอยู่คนละฝั่งกับบ้านเรา หากยังไม่ชำนาญ, ไม่ดื่มจัด เมื่อไปเที่ยวต่างถิ่น, ไม่พกของมีค่าเกินความจำเป็น ระหว่างการท่องเที่ยว, ไม่เดินเที่ยวในที่เปลี่ยวๆ ตอนดึกๆ, ระมัดระวัง และ ดูแลกระเป๋าดีๆ เมื่อเดินในที่ๆมีคนพลุกพล่าน หรือ ฟังหูไว้หู ไม่เชื่อทุกอย่างที่ได้ยินจากผู้คนที่เดินเข้ามาคุยด้วย เป็นต้น แค่นี้ก็ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายไปได้เยอะแล้วค่ะ
- “พรุ่งนี้ละกัน”
หลายๆคนคงจะติดปาก ติดหู กับคำว่า “พรุ่งนี้ละกัน” หรือ “เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทำ” แต่รู้ไหมคะว่า “พรุ่งนี้นั้นไม่เคยมาถึงหรอกค่ะ ยังไงวันพรุ่งนี้ก็เป็นวันพรุ่งนี้อยู่ดี” และเราก็จะไม่ได้ทำมันสักที ดังนั้น “จงทำมันซะวันนี้” นอกจากจะประหยัดเวลา โดยทำให้ฝันเป็นจริงเร็วขึ้นแล้ว ยังทำให้ฝันคุณเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย จงให้ระลึกไว้เสมอว่า “ไม่มีพรุ่งนี้”
อย่าแค่วางแผน แต่จงลงมือ “ทำวันนี้”
- “พูดภาษาอังกฤษไม่ได้”
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลก็จริง แต่อย่าลืมว่า ไม่ใช่ทุกประเทศใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก จริงไหมคะ ง่ายๆ ลองนึกถึงการท่องเที่ยวของประเทศไทยก็ได้ ว่ามีนักท่องเที่ยวมากมายแค่ไหน และ ดูท่าทีว่าจะมากขึ้นๆ อยู่ทุกปี ทั้งๆที่ประเทศไทยเรา ก็ไม่ได้มีการใช้ภาษาอังกฤษกันอย่างแพร่หลายเท่าใดนัก หรือ แม้กระทั่งประเทศญี่ปุ่นหรือเกาหลี ที่ใครๆ ก็ยังไปเที่ยวกัน ทั้งๆที่สองประเทศนี้ ก็แทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษกันเลย แค่เราเตรียมพร้อม พร้อมที่จะโชว์รูปสถานที่ๆ เราจะไป, กล้าที่จะถาม และถามอย่างน้อย 2 -3 คน เพื่อความมั่นใจว่าไม่มีความผิดพลาดของการสื่อสาร หรือ การที่เราพูดภาษาอังกฤษได้ บางครั้งก็ไม่เป็นประโยชน์กับบางประเทศ เช่น เมื่อครั้งที่หยกไปเที่ยวที่ ประเทศบังกลาเทศ และ ประเทศศรีลังกา ที่สนุกมากมาย ได้รับความทรงจำดีๆ และประทับใจ กลับมา และ ที่สำคัญ คือ ไม่ได้มีปัญหาใดๆ โดยเฉพาะการสื่อสารระหว่างทริปเลยค่ะ อีกทั้งภาษามือก็ถูกใช้กันอยู่ทั่วโลก ช่วยให้เข้าใจกันได้มากจริงๆ
ดังนั้น ที่ใดๆก็ไม่ต่างกันค่ะ มันขึ้นอยู่กับ การเตรียมพร้อมของเราเองมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลให้ครบถ้วน การบันทึกรูปภาพอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ไว้ในมือถือ เพื่อเอาให้คนท้องถิ่นดู หรือ การซื้อซิมการ์ดของประเทศนั้นๆ รวมทั้งแพ็คเก็จอินเตอร์เน็ต ไว้สำหรับหาข้อมูลระหว่างการท่องเที่ยว การพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จึงไม่ควรมาเป็นอุปสรรคของการท่องเที่ยวเลยนะคะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
- “ความกลัว ไม่กล้า ไม่มั่นใจ”
สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติที่มีอยู่แล้วในตัวของทุกๆคน

เคยไหมคะ กับการกลัวที่ต้องไปพรีเซนต์งานหน้าห้อง? ลองมองย้อนกลับไป และ มาวิเคราะห์ความกลัวของการพรีเซนต์งานหน้าห้องกันดูคะ ว่าเรากลัวอะไร กลัวอาจารย์ดุ กลัวทำได้ไม่ดี กลัวตอบคำถามไม่ได้ กลัวอายเพื่อนๆ เป็นต้น หากเราหยุดความกลัว ไม่กล้า ไม่มั่นใจ ไว้แค่นั้น เราก็จะไม่ผ่านงานพรีเซนต์ แต่รู้ไหมคะ ว่าจริงๆแล้ว เราสามารถเอาชนะมันได้ง่ายๆด้วย “ความพร้อม” และ “ความมั่นใจ” เพราะตอนนี้เรามีอยู่แค่สองทางเลือก คือ จะยอมสอบตก (ล้มทริป) หรือ ลองทำตัวเองให้พร้อม (หาข้อมูลท่องเที่ยว, ความปลอดภัย และอื่นๆ) สู้ (ตัดสินใจที่จะกล้าออกไปท่องเที่ยว ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ) ฮึด (สอบถามข้อมูลจากผู้รู้ หรือผู้ที่เคยไปเที่ยวที่นั้นๆมาก่อน และเตรียมตัวเองให้พร้อม) และกล้าออกไปพรีเซนต์งานดู (เดินทางท่องเที่ยว) แล้วรอดูผล (ความสนุก การผจญภัย เห็นโลกที่กว้างขึ้น เจอเพื่อนใหม่ ลิ้มลองอาหารใหม่ๆ เป็นต้น)
ทางเลือกหลังนี้ ยังไงก็ไม่สอบตกแน่ค่ะ เพียงแค่จะได้คะแนนมากหรือน้อย (อาจมีบางคนที่ชอบทุกๆอย่างของทริปที่คุณไป บางคนอาจไม่ชอบเมืองนั้น ไม่ชอบอาหารจานนี้ มีปัญหาเล็กๆน้อยๆระหว่างทริป และอื่น ๆ แต่สิ่งเหล่านี้จะสร้างความแข็งแกร่งให้คุณ และทำให้ทริปถัดไปของคุณง่ายขึ้น เช่นเดียวกับ หากมีงานพรีเซนต์ครั้งที่ 2 คุณก็จะโอเคขึ้น และงานพรีเซนต์ครั้งต่อๆไป คุณก็จะสบายขึ้น) ก็ขึ้นอยู่กับความเตรียมพร้อมของเราเอง นั่นคือ แค่คุณมีการเตรียมพร้อมที่ดี และ มีการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองแล้ว ไม่ว่าอะไรๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ
ยิ่งพอมองย้อนกลับไปดู ความกลัว ไม่กล้า ไม่มั่นใจ ในอดีตแล้ว ยิ่งเห็นชัดเจนว่าจริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเลย แค่ต้องการ ครั้งแรก และ ประสบการณ์ การท่อง เที่ยวคนเดียว ก็เช่นกัน
ในทางตรงกันข้าม ความกลัว ไม่กล้า ไม่มั่นใจ ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะคะ เพราะ สิ่งพวกนี้จะเป็นสิ่งคอยเตือนให้เรารู้จักระมัดระวังอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
- “ทุกอย่างต้องมีครั้งแรก”

ประสบการณ์เป็นอะไรที่เรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น หากไม่มีครั้งแรก แล้วจะมีครั้งที่สองได้อย่างไรกันคะ ที่สำคัญคือ ประสบการณ์และสิ่งที่ได้จากครั้งแรกจะเป็นครูให้ครั้งที่สอง ครั้งที่สองจะเป็นครูให้ครั้งที่สาม และเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ กว่าจะเป็นผู้เชียวชาญที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม และ กล้าที่จะตัดสินใจทำสิ่งใดๆ มันต้องเริ่มจาก ครั้งแรก เสมอ ไม่ว่าจะเป็น ครั้งแรกของการเข้าวัดที่เสียวไส้ที่สุดที่ วัดงู ปีนัง ที่มีงูพิษเต็มวัดเลย
แล้วคุณล่ะ เที่ยวคนเดียว ครั้งแรก แล้วหรือยัง?
อย่ามัวรีรอ หากอยากมีทริปที่ 2, 3, 4,…, จนนับไม่ถ้วน
เมื่อคุณพร้อมทั้งใจ กาย งบ ความมั่นใจ ไม่มีข้ออ้าง และทำวันนี้แล้ว การ เที่ยวคนเดียว หรือ หลายคน ก็ง่ายนิดเดียว อีกทั้งประสบการณ์การท่องเที่ยวของคุณที่มากขึ้น จะทำให้อุปสรรคทั้งหลายเหล่านี้น้อยลงๆ ได้อย่างรวดเร็ว
หยกหวังว่า วิธีพิชิต 13 ข้ออ้างเหล่านี้ ที่มักทำให้การวางแผน เที่ยวคนเดียว หรือ เที่ยวกับเพื่อนๆ ของคุณล่ม ที่คุณพึ่งอ่านไปนั้น จะทำให้คุณสามารถนำสิ่งเหล่านี้ ไปประยุกต์ใช้กับการท่องเที่ยวทั่วๆไป การงาน และในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย คุณจะรัก และ สนุกกับการเดินทางท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม หรือ การ เที่ยวคนเดียว มากขึ้น และ ยังทำให้ทริปถัดๆ ไปของคุณง่ายยิ่งขึ้นๆ อีกด้วย
หากใครมีปัญหา หรือ ข้อสงสัยใดๆ ในการปรับตัว หรือ วางแผนการท่องเที่ยวของหยก เพื่อไปประยุกต์ใช้กับตัวเอง สามารถคอมเม้นต์ที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ หยกยินดีมากๆ ที่จะตอบคำถาม หรือ หากมีใครมีประสบการณ์ใดๆ อยากแบ่งปันให้หยก และชาวสนุกเที่ยว ก็เชิญคอมเม้นต์ที่ด้านล่างนี้ได้เช่นกันนะคะ
หนูอายุ 19 แต่จะไปเที่ยวที่เกาหลีคนเดียวแต่ภาษาไม่ได้ เลย กังวลมากค่ะ
สวัสดีจ๊ะ น้องอ้อแอ้
พี่ขอขอบคุณมากสำหรับคอมเม้นต์นะคะ และขอชื่นชมในความกล้าที่ถึงแม้จะบอกว่ากังวลมาก ด้วยการตัดสินใจไปเที่ยวต่างแดนคนเดียว ขอปรบมือดังๆให้เลยค่ะ 🙂
เรื่องความกังวลของการท่องเที่ยวต่างแดนและไม่ได้ภาษานั้นเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ แต่ที่ธรรมดากว่านั้นก็คือ คนที่มีความกังวลเหล่านี้ก็ไปกัน โดยไม่ยอมให้เป็นข้ออ้างเพื่อหยุดเรื่องเที่ยว ดังนั้นแล้ว อ้อแอ้ก็ทำได้ ไปเที่ยวคนเดียวในต่างแดนได้เช่นกันนะคะ ขอแค่เตรียมตัวให้พร้อมให้มากที่สุด โดยเฉพาะหากมีการแพ้อาหารหรือแพ้สิ่งอื่นใดด้วยการหารูปภาพ หรือ แปลเป็นคำพูดภาษาเกาหลีไว้ อาจใช้แอฟแปลช่วย หรือหากมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่พูดภาษาเกาหลีได้ช่วยแปลให้ และพกติดตัวไว้ ส่วนสิ่งอื่นๆ ก็เช่น จำชื่อโรงแรมให้ได้ โดยอาจจะเซฟชื่อโรงแรมและที่อยู่พกติดตัวไว้, หารูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไป อาหารที่อยากทาน เพื่อแสดงให้คนท้องถิ่นดู กรณีต้องการขอความช่วยเหลือ หรือ หาแอฟแปลภาษาพกไว้ เตรียมตัวดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ทั้งช่วยให้สบายใจขึ้นเยอะด้วยนะจ๊ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ 🙂 เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุกจ๊ะ ช้อปปิ้งเผื่อพี่ด้วย 🙂
ปล.พี่ขออนุญาตย้ายคอมเม้นต์จากบทความเรื่องเครื่องบินมาให้ตรงกับเนื้อหาในคอมเม้นต์นะคะ
สวัสดีค่ะ กำลังวางแผนจะเดินทางไกลไปคนเดียวครั้งแรกแต่มีเพื่อนอยู่ที่โน่น บางคนชอบพูดให้เราขาดความมั่นใจ แต่ได้อ่านเรื่องที่น้องเขียนรู้สึกมีกำลังใจขึ้เยอะเลยค่ะ ทุกอย่างต้องมีครั้งแรก☺☺ขอบคุณมากๆค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ AMM
ขอบคุณมากๆเช่นกันค่ะ สำหรับข้อความ ดีใจค่ะดีใจที่บทความมีประโยชน์และช่วยได้จริง 🙂
คนที่ชอบพูดให้ขาดความมั่นใจ ส่วนใหญ่แล้วเค้าก็ห่วงเรานั่นแหละค่ะ เลยพูดเรื่องมากมายให้เราระมัดระวัง จนกลายเป็นว่าพูดให้กลัวและขาดความมั่นใจในที่สุด ซึ่งหยกมักจะเอาคำพูดเหล่านั้นมาเป็นข้อคิดและข้อควรระวังให้เรารอบคอบในการท่องเที่ยวมากขึ้นมากกว่าค่ะ
เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให้สนุกๆนะคะ ครั้งที่สองคงจะตามมาเร็วๆนี้ 🙂
ขอบคุณคะคุณหยก แค่นี้ก็ข่วยได้เยอะแล้วคะ อย่างน้อยก็มีกำลังใจขึ้นมา ต้องรีบเที่ยวก่อนจะไม่มีแรงเที่ยวคะ อิจฉาคุณหยกจังได้เที่ยวตั้งแต่อายุยังน้อย ของกิ๊ฟอาจเริ่มช้าไป ต่อไปเรามีจุดหมายในชีวิตแล้วคะ ว่าจะเที่ยวไปเรื่อยๆ เปิดหูเปิดตาให้กว้างไกลกว่าที่เป็นอยู่ แค่คิดก็มีความสุขแล้ว ขอขอบคุณคุณหยกอีกครั้งที่เป็นแรงบันดาลใจให้กิ๊ฟเกิดความอยากที่จะท่องเที่ยวต่อไปนะคะ
กิ๊ฟ
สวัสดีค่ะ คุณกิ๊ฟ ขอต้อนรับเข้าสู่สมาคมคนชอบเที่ยว สนุกเที่ยว ค่ะ
ยินดีมากมายก่ายกองเลยค่ะ ไม่มีอะไรที่สายเกินไปจริงๆค่ะ ตอนหยกตอบคอมเม้นต์คุณกิ๊ฟ หยกก็ตื่นเต้น+ดีใจ+มีความสุขด้วยนะคะ 🙂 ดูแลสุขภาพตัวเองดีๆ ออกกำลังกาย+ใจ กินอาหารที่มีประโยชน์ วิตามินที่จำเป็นด้วย รับรองเที่ยวได้อีกนานเลยค่ะ
มีอะไรสอบถามหรือแนะนำหยกเพิ่มเติม จัดมาเลยนะคะ หยกยินดีมากๆ 🙂
รบกวนขอข้อมูล และกำลังใจคะ ถ้าภาษาอังกฤษเป็น 0 คือไม่ได้เลย จะมีทางไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์เองได้ไหมคะ ไม่เคยไปเลย สถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยรู้จัก รู้แต่ว่าสวย การเดินทางยากไหม ถ้าไปคนเดียวจะพอเป็นไปได้ละป่าวคะ. รบกวนด้วยคะ. อยากลองหัดเที่ยวเแอง เคยไปเองแต่โตเกียว พอได้อยู่. รบกวนด้วยคะ
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองเพิ่ม เป็นมนุษย์เงินเดือน ที่ต้องเก็บตังไปเที่ยว-สถานะ โสด ตัวคนเดียว และสูงวัย 40 อัพ ใกล้ห้าแยกแล้วคะ
รบกวนชี้แนะด้วยคะ
ขอบคุณคะ
กิ๊ฟ
สวัสดีค่ะ คุณกิ๊ฟ
ขอชื่นชมและปรบมือดังๆให้กับความกล้าที่มากมายขนาดนี้นะคะ นับถือใจเลยจริงๆค่ะ
หยกยังไม่เคยไปเที่ยวสวิตซ์เซอร์แลนด์ค่ะ แต่หยกไปเที่ยวในยุโรปมาหลายประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คล้ายๆกัน ขอตอบคำถามดังนี้นะคะ
1. เรื่องภาษา: เมื่อครั้งที่หยกไป เที่ยวคนเดียว ที่ฝรั่งเศส หยกแทบจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยเช่นกันค่ะ มีแต่ความกล้า และความมั่นใจติดตัวไปล้วนๆเลย ที่นั่นหยกก็ได้เจอคนจีนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยเหมือนกัน เราไปเที่ยวด้วยกัน 1 วัน คนละชาติคนละภาษา แต่เราก็คุยกันรู้เรื่องค่ะ ใช้ภาษามือ โชว์ปฏิทิน โชว์แผนที่คุยกันเอา เค้ามาเที่ยวเป็นเดือนเลย แม้พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ หยกว่าภาษาไม่ใช่อุปสรรคในการท่องเที่ยวเลยนะคะ
นอกจากภาษากาย การเตรียมตัวและวางแผนดีๆ หาข้อมูล จดคำศัพท์ จดชื่อสถานที่ๆจะไป พร้อมรูปภาพ ไว้ถามคนแถวนั้นเผื่อหลง ก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ โดยอาจจะ
1.1 ซื้อหนังสือคู่มือท่องเที่ยวเล่มเล็กๆ ที่มีคำศัพท์แปลเป็นไทย มีรูปภาพชัดเจน
1.2 ดาวน์โหลด offline maps ไว้ใช้ในโทรศัพท์
2. การเดินทางทั่วๆไปในประเทศในยุโรป ค่อนข้างสะดวกเลยแหละค่ะ เหมาะกับการเที่ยวเองสุดๆ ในตัวเมืองมีรถไฟใต้ดิน (subway หรือ metro), รถราง (tram) หรือรถประจำทาง (bus) ที่เยอะยังกับใยแมงมุม ขึ้น-ลงง่าย สะดวก ออก-ถึงตรงเวลา รถออกถี่มาก และสถานีส่วนใหญ่ก็ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวซะด้วย แถมมีเส้นทางแผนที่บอกทางชัดเจน หรือหากชอบเดินชมเมือง เค้าก็มีแผนที่แจก (รับได้ที่สนามบิน หรือที่พักได้เกือบทุกแห่ง) ที่ละเอียดทุกซอกทุกมุม ที่ถนนหนทางก็มีชื่อถนนบอกอย่างชัดเจน สามารถ เที่ยวคนเดียว แบบเดินตามได้สบายๆเลยค่ะ
3. การไป เที่ยวคนเดียว ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ และเป็นไปได้เสมอ สิ่งที่ยากคือความกล้าที่อยากจะไป เที่ยวคนเดียว ซึ่งหยกว่าคุณกิ๊ฟได้ผ่านจุดนี้มาแล้ว 🙂 สิ่งสำคัญของการไป เที่ยวคนเดียว ก็คือ
3.1 ลดกิจกรรมที่จะเป็นความเสี่ยงต่างๆให้ได้มากที่สุด เช่น ไม่ฝากข้าวของไว้กับคนแปลกหน้าที่พึ่งเจอกัน
3.2 ควรถามเส้นทางกับคนอย่างน้อย 2-3 คน เพื่อป้องกันการสื่อสารที่ผิดพลาด
3.3 ไม่ทำตัวให้มีพิรุธที่แสดงถึงความไม่มั่นใจในการมา เที่ยวคนเดียว คือให้แสดงไปว่ามั่นใจ ว่าฉันทำได้ เป็นต้น
3.4 ต้องทำการเก็บข้าวของ+พาสปอร์ตให้ดีๆ แบ่งสัดส่วนการเก็บเงินในที่ๆหยิบยากๆ ทริคของหยกคือหยกจะแบ่งเงินไว้สามจำนวนในทุกๆวัน จำนวนแรกคือไว้ใช้จ่ายระหว่างวัน ไม่ต้องเยอะมาก เอาไว้ในที่หยิบจ่ายได้ง่ายๆ เช่นในกระเป๋าตังค์ จำนวนที่สองคือเอาไว้สำรองกรณีใช้เงินจำนวนแรกหมด โดยเก็บไว้คนละที่กับจำนวนแรก เช่น ในช่องในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเป้ จำนวนสุดท้าย คือเงินก้อนที่เหลือทั้งหมด เก็บไว้ในช่องลับ ในซิปด้านในสุดที่หยิบยากๆ และจะสะพายกระเป๋าไว้ด้านหน้าเสมอให้กระเป๋าอยู่ในสายตาเราตลอด
ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ หากคุณกิ๊ฟกล้า มั่นใจ และเตรียมการเตรียมตัวไปอย่างดี ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วจริงไหมคะ 🙂 หยกหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยคุณกิ๊ฟให้มั่นใจและมีกำลังใจขึ้นมานะคะ
หากคุณกิ๊ฟมีคำถาม ข้อสงสัย เสนอแนะ ติชม ใดๆ ก็สอบถามมาได้เรื่อยๆเลยนะคะ ยินดีมากๆ จุดเริ่มต้นของการเริ่มเที่ยวนั้นไม่ได้น่ากลัว เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการติดใจเที่ยว 5555
ปล. ขอขอบคุณคุณกิ๊ฟมากๆนะคะ ที่ส่งเมล์มาสอบถามหยก ซึ่งหยกได้ขอให้คุณกิ๊ฟนำมาโพสต์ลงในคอมเม้นต์ตรงนี้ เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆที่อยากจะท่อง เที่ยวคนเดียว ให้มีกำลังใจและกล้าที่จะออกเดินทางคนเดียว และสนุกกับมัน 🙂
อยากสอบถามคุณหยกเพิ่มหน่อยคะ ว่าไปสวิสเดือนไหนสวยคะ ตั้งใจว่าจะไปปลาย พย. แต่ไม่ใช่ปีนี้หรอกคะ ยังอยู่ในระหว่างหาข้อมูลและเตรียมความพร้อม จะได้เจอหิมะมั้ยคะช่วงนี้ รบกวนเท่านี้ก่อนนะคะ จริงๆ ตอนแรกกะจะไปฮอกไกโดดูหิมะ แต่มาติดดูอีกทีว่าตัวเองเริ่มอายุมากแล้ว เดี๋ยวจะเดินไม่ไหวแล้ว ก็เลยเปลี่ยนใจไปสวิสแทน เพราะเป็นประเทศในฝันว่าสักครั้งต้องไปให้ได้คะ รบกวนด้วยคะ และขอขอบคุณคุณหยกที่ให้คำแนะนำและกำลังใจที่ดีมากเลยคะ ถ้ามีอะไรขอรบกวนอีกนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งคะ
กิ๊ฟ
สวัสดีค่ะคุณกิ๊ฟ ยินดีมากๆเลยค่ะ 🙂 แต่หยกยังไม่เคยไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์หน่ะสิคะ เลยให้คำตอบคุณกิ๊ฟแบบเป๊ะๆไม่ได้ว่าเดือนไหนสวยที่สุด เพราะถ้าหยกตอบแบบฟันธงไป จะกลายเป็นว่าหยกเดาเอาเอง เนื่องด้วยหยกยังไม่เคยไปสัมผัสกับสวิสเซอร์แลนด์ และอีกอย่างหยกชอบทำกิจกรรมลุยๆ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง ตามป่าตามเขา หยกไม่ทราบว่าคุณกิ๊ฟวางแผนจะเที่ยวสไตล์ไหน หากคุณกิ๊ฟวางแผนจะเดินเล่นในเมือง หรือไปเล่นสกี หรือชอบชมดอกไม้ ความงามของแต่ละเดือน แต่ละกิจกรรมมันต่างกันค่ะ ดังนั้นหยกต้องขอโทษด้วยนะคะที่ช่วยตรงจุดนี้ไม่ได้ หวังว่าคุณกิ๊ฟคงจะเข้าใจ
สวิสเซอร์แลนด์ก็เป็นประเทศในฝันของหยกเหมือนกันค่ะ หากปีหน้าหยกยังไม่มรโอกาสได้ไปเที่ยว แต่คุณกิ๊ฟไปมาแล้ว มาเล่าให้หยกฟังบ้างนะคะ 🙂 ส่วนฮอกไกโดก็อยากไปอีกเช่นกัน
แต่โชคดีที่คุณกิ๊ฟวางแผนจะไปปีหน้า แสดงว่ามีเวลาเตรียมตัวได้อย่างดีเลยแหละค่ะ ค่อยๆหาข้อมูลไปเรื่อยๆ วางแผนไปเรื่อยๆ นะคะ มีเวลาเตรียมตัวดูศัพท์ภาษาอังกฤษทั่วๆไป อีกทั้งการเตรียมตัวไปเที่ยวยุโรปล่วงหน้านานๆ ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเองได้มากขึ้นๆ และช่วยประหยัดไปได้เยอะเลยค่ะ เช่น ค่ารถไฟ ส่วนใหญ่แล้วหยกจองตั๋วรถไฟล่วงหน้า โดยคุณกิ๊ฟสามารถเข้าไปอ่านวิธีการจองตั๋วออนไลน์ ซึ่งในบทความนั้นมีลิ้งค์ของเว็บที่หยกจองผ่านบ่อยๆ ด้วยค่ะ –> https://sanooktiew.com/จอง-ตั๋วรถไฟยุโรป/ นะคะ
หากมีอะไรที่หยกพอจะช่วยได้ อย่าลังเลที่จะถามนะคะ หยกยินดีมากๆค่ะ ตอบทุกอย่างจากใจเลยค่ะ 🙂
ขอถามคุณหยกเพิ่มเติมคะ ถ้าเราไม่ได้เที่ยวหลายเมือง คือเป็นคนชอบอยู่นาน ๆ ซึมซับ ค่อย ๆ เที่ยว กับสถานที่ต่างๆ อย่างนี้แล้ว จำเป็นต้องใช้สวิสพาสไหมคะ หรือว่า ซื้อตั๋วรถไฟเป็นเที่ยวๆ ดีกว่า จากประสบการณ์ตอนไปญี่ปุ่น เราใช้แบบซื้อเป็นเที่ยว ๆ คะ เพราะคำนวณแล้ว ซื้อพาสไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ สอบถามเรื่องการใช้ห้องน้ำด้วยคะ เพราะเป็นคนท่อรั่ว ปวดบ่อยมาก บางทีทุกชั่วโมง และกลัวตอนต้องนั่งรถไฟนาน ๆ โดยเฉพาะตอนตื่นเต้น การไปคราวนี้คงตื่นเต้นมากแน่เลยกลัวด้วย กลัวหาห้องน้ำไม่เจอ มันมีเยอะไหมคะ ที่ญี่ปุ่นสบายมากเลย มีทุกสถานีรถไฟ เราเลยไม่กลัวเรื่องหัองน้ำที่ญี่ปุ่น และถ้าเป็นการนั่งรถไฟนาน ๆ บนรถไฟเค้ามึห้องน้ำไหมคะ วันนี้รบกวน 2 เรื่องคะ
ขอบคุณคะ
กิ๊ฟ
สวัสดีค่ะคุณกิ๊ฟ ตื่นเต้นแทนคุณกิ๊ฟจังค่ะคงกำลังเตรียมตัวไปลุยไป เที่ยวคนเดียว ในสวิสเซอร์แลนด์อยู่เป็นแน่ 🙂 การมีจุดหมายที่ชัดเจนและความตั้งใจในการเตรียมตัว นี่เป็นข้อได้เปรียบเลยนะคะ เที่ยวคนเดียว ได้สบายๆเลยค่ะ เสียดายที่หยกยังไม่เคยไปเที่ยวที่สวิสเซอร์แลนด์ ไม่อย่างนั้นคงจะช่วยคุณกิ๊ฟได้มากกว่านี้
หลักๆ แล้ว หยกจะมีวิธีการคำนวณว่าจะต้องซื้อตั๋วรถไฟแบบไหนดี ซึ่งน่าจะคล้ายๆกันในหลายๆที่ในยุโรป ตามนี้ค่ะ
1. อย่างแรกจะดูว่า บัตรพาสนั้น รวมรถไฟระหว่างเมือง, รถไฟใต้ดินในเมือง, รถเมล์, รถราง และอย่างอื่นไหม
2. แล้วก็มาลองนับรอบการเดินทางของหยกตามแผนการที่วางไว้ ว่าหยกจะเดินทางไปที่ไหนบ้าง ที่ไหนต้องเดินทางด้วยรถชนิดต่างๆ ที่บัตรนั้นใช้ได้ ก็จะเอามาจัดไว้ในวันใกล้ๆกัน
3. แล้วลองคำนวณดูสิว่า ถ้าซื้อรายเที่ยว รวมทุกรอบ ทั้งไปและกลับที่ต้องใช้ จะต้องจ่ายราคาเท่าไหร่
4. แล้วถ้าซื้อเป็นบัตรพาสล่ะ จะเท่าไหร่ บัตรพาสมีโปรโมชั่นส่วนลดใดๆไหม
5. จากนั้นก็เปรียบเทียบว่าอันไหนจะคุ้มกว่ากัน ก็ซื้ออันนั้นค่ะ
ส่วนเรื่องห้องน้ำ หลายๆประเทศในยุโรป ห้องน้ำมีอยู่ทั่วไปตามแหล่งท่องเที่ยว มีทั้งแบบเสียเงินและไม่เสียเงินค่ะ แบบที่ต้องเสียเงินนั้น แพงอยู่เหมือนกัน จะอยู่ตามถนนในเมือง ที่หยกเคยเสียก็มีตั้งแต่ 0.5€, 1€ หรือ 1.5€ แล้วแต่ที่นะคะ คุณกิ๊ฟอาจจะต้องตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มอีกทีนะคะ ห้องน้ำฟรีก็มีค่ะ ตามพวกร้านอาหาร ร้านกาแฟ (แต่ต้องซื้ออาหารทานนะคะ) ในพิพิธภัณฑ์ รถไฟใต้ดินบางสถานีก็มีบริการค่ะ ตามห้างสรรพสินค้า และบนรถไฟระหว่างเมืองค่ะ ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องห้องน้ำเลยค่ะ หาเข้าได้ไม่ยาก ห่วงก็แค่ตอนควักตังค์จ่ายนี่แหละค่ะ จะจ่าย 50 เซนต์ที นี่คิดหนักเลยค่ะ ก็ตั้ง 20 บาทแน่ะ ทั้งๆที่มันก็เป็นเหรียญทองแดงเหมือนเหรียญสตางค์บ้านเรา 555+
ปล. ข้อมูลที่หยกแจ้งไปนั้น เป็นข้อมูลทั่วไปในหลายๆประเทศในยุโรปที่หยกเคยไปมา ซึ่งคล้ายๆกันค่ะ
หวังว่าจะช่วยคุณกิ๊ฟได้ไม่มากก็น้อยนะคะ หากมีข้อสงสัยใดๆ ก็เช่นเคยค่ะ สอบถามหยกเข้ามาได้เรื่อยๆเลย หยกยินดีตอบมากๆค่ะ เตรียมตัวดี มีชัยไปกว่าครึ่ง แถมมั่นใจขึ้นด้วยแน่นอนค่ะ สู้ๆ เอาใจช่วยนะคะ 🙂
ป้า กำลังจะเดินทางไปเที่ยวปีนัง คนเดียว หลังจากชวนเพื่อน ๆ อยากไป ติด มีที่อื่นอยากไปมากกว่า
ท้ายที่สุดก็คิดว่า ถ้าไม่เริ่ม คงไม่ได้ไป
อีก 7 วัน จะเดิ่มเดินทางแล้วค่ะ ขอบใจสำหรับความคิดที่ได้อ่าน เด็ก ๆ เขายังไปได้ แล้วทำไม ป้าจะไปไม่ได้ คิดว่า เกษียณแล้ว อยากไปเที่ยวที่อยากไป
เลยจะเริ่มด้วยปีนังก่อน นอนใน Dorm ดูว่าเป็นอย่าไง
สวัสดีค่ะ คุณป้าชุ ยินดีมากๆเลยค่ะ หนูอ่านคอมเม้นต์ของคุณป้าชุแล้วยิ้มกว้างเลยค่ะ ชอบประโยคนี้ที่สุด “ถ้าไม่เริ่ม คงไม่ได้ไป” เห็นด้วยมากๆ การ เที่ยวคนเดียว ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากเราก้าวผ่านความกลัว ความไม่กล้ามาได้แล้ว ที่เหลือก็แค่เตรียมตัวดีๆ แล้วก็สนุกกับมัน
อีก 7 วันเดินทางแล้ว เที่ยวคนเดียว ที่ปีนังซะด้วย ตื่นเต้นไหมคะ? จะนอนที่ dorm ด้วย อย่าลืมเตรียมกุญแจล๊อคล๊อคเกอร์ไปนะคะ บางที่อาจไม่มีให้ ปีนังเป็นเมืองที่ครึกครื้น มีของกิน กิจกรรม ที่เที่ยวเยอะมาก ธรรมชาติก็สวย ที่สำคัญค่อนข้างปลอดภัยด้วยค่ะ หนูทำไกด์เที่ยวปีนังไว้ ไม่แน่ใจว่าคุณป้าชุเข้าไปอ่านหรือยัง แต่ถ้ายังไม่ได้อ่าน ก็คลิ๊กลิ้งค์ตรงนี้ได้เลยนะคะ https://sanooktiew.com/ข้อมูลท่อง-เที่ยวปีนัง/ ช่วงที่คุณป้าชุเดินทางน่าจะเป็นช่วงเข้าพรรษาที่มีวันหยุดยาว หากคุณป้าชุยังไม่ได้ทำการจองที่พัก หนูแนะนำให้จองด่วนเลยค่ะ น่าจะเริ่มหายากแล้ว ยังไงในลิ้งค์ที่ให้ไปมีที่พักให้เลือกอยู่หลายที่ค่ะ ดูจากในนั้นก็ได้ และลองเข้าไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในปีนังได้ที่ลิ้งค์นี้นะคะ https://sanooktiew.com/category/เที่ยวปีนัง/ หากมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับปีนัง ก็เข้าไปคอมเม้นต์ถามหนูได้ในโพสต์ของปีนังเลยนะคะ หนูยินดีช่วยทำให้ทริปคุณป้าชุสนุกขึ้นค่ะ
อยากไปเที่ยวปีนังอีกจังเลยค่ะ เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุกนะคะ