
จำกันได้ไหมคะ ว่าหยกซื้อตั๋วรถรางเพื่อขึ้นปีนังฮิลล์ แค่ขาเดียว 555+ จะมาเล่าให้ฟังค่ะ ว่าขากลับ หยกไปผจญภัยอะไร ยังไง ที่ไหนมา อ่ะ ใบ้ให้ๆ ว่าที่ด้านล่างปีนังฮิลล์นี้มี สวนพฤกษศาสตร์ ปีนัง หรือ Penang Botanic Gardens ใบ้เยอะไปไหม! 55+ คงรู้กันหมดแล้วว่าหยกจะไปไหน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นของโพสต์นี้ค่ะ เพราะจุดพีคๆ ที่หยกจะมาเล่าให้ฟัง และ แนะนำให้ทำด้วย ก็คือการเดินลงเขา ด้วยระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร นั่นเอง
ขอเกริ่นก่อนว่า การเดินทางมักคู่กับการเดิน การเดินทางท่องเที่ยวของหยกก็เช่นกัน สิ่งที่หยกบ่นไป ไม่ว่าจะ เหนื่อย หิว อยากเข้าห้องน้ำ หรืออะไรมากมายนั้น ไม่ได้หมายความว่าหยกฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบนะคะ หยกชอบกับการเดินชมธรรมชาติ การทำอะไรที่ไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเค้า ชอบหาลู่ทางและรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ๆ ประสบการณ์ที่พบเจอระหว่างทางนั่นมีคุณค่านัก ทั้งยังหาไม่ได้ง่ายๆ และยังสอนอะไรให้กับหยกอีกมากมาย จึงอยากจะแบ่งปันสิ่งดีๆเหล่านี้ให้กับเพื่อนๆชาวสนุกเที่ยวทุกคนค่ะ
หลายๆคนคงเคยขึ้นรถรางไปปีนังฮิลล์ หรือ เคยชมวิดีโอรถรางขาขึ้นไปปีนังฮิลล์กันแล้วนะคะ หากไม่ 1. ไปหามาดูซะ เพราะเดี๋ยวจะคุยกันคนละภาษา เว่อร์ไป อิอิ หรือ 2. ลองหลับตา แล้วจินตนาการดูว่า ที่ความสูง 800 กว่าเมตรจากระดับน้ำทะเล แล้วนั่งรถรางขึ้นแค่ 3 นาที มันจะชันมากมายแค่ไหน หากนึกภาพออกแค่เลือนลาง ก็ตามหยกไปเดินลงจากปีนังฮิลล์ด้วยกันเลยค่ะ
จำสวนนก สวนดอกไม้ ในโรงแรมที่ปีนังฮิลล์ได้ไหมคะ (หากจำไม่ได้ก็คลิ๊กที่นี่ ตรงข้อ 9 นะคะ) ตรงนั่นแหละค่ะ คือจุดเริ่มต้น คือทางที่จะเดินลงนี้ จริงๆ แล้วก็คือถนนดีๆ นี่เอง (จริงๆมีหลายทางเดินอย่างจากปีนังฮิลล์ไป สวนพฤษศาสตร์ ปีนัง ที่เค้าเรียกกันว่า trail ประมาณว่าเดินในป่า แต่หยกหาไม่เจอ แป่ว เลยได้เดินตามถนนลงเขามาเรื่อยๆ)
แค่ 5 กิโลเมตรเอง ขาลงเขาอีก จิ๊บๆ ก็วิ่งลงมันส์ๆ ไปเลย ทุกคนคงคิดกันเช่นนี้ หยกก็เช่นกัน นอกจากความท้าทาย และต้องแข่งกับเวลาแล้ว ยังมีความกังวลเข้ามาด้วย เพราะตลอดทาง ไม่มีป้ายหรือสัญลักษณ์ใดๆ แจ้งว่าปลายทางข้างหน้า คือ สวนพฤกษศาสตร์ ปีนัง เลย ที่บอกว่าท้าทายคือยังไง ก็ลองคิดถึงความชันของการขึ้นไปดอยต่างๆ ที่ภาคเหนือ ของไทยเราสิค่ะ ที่ทั้งชัน ทั้งคดเคี้ยว โอ้ย แค่นึกก็คลื่นไส้แล้ว

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์คนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? สโลเวเนีย? ศรีลังกา? หยกจัดทริปค่ะ
สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ
ช่วงแรกๆ ทางเดินจะยังไม่ค่อยชันมากค่ะ ประมาณว่า ยังเดินง่ายๆ สบายๆ อยู่ อากาศที่เย็นสบายจากสองข้างทางที่หนาแน่นไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่นานาชนิด มีแสงแดดเบาๆ ทะลุผาดผ่านต้นไม้ที่สูงใหญ่ลงมาเป็นช่วงๆ ทั้งยังเพลิดเพลินกับการวิ่งไล่ตามผีเสื้อสีสันสวยงาม ที่บินไปมาอยู่เกือบตลอดทาง หรือ การพยายามมองหาตามเสียงที่ได้ยินว่ามีอะไรกระโดดไปมา บนกิ่งต้นไม้สูงๆ จากต้นนั้นไปต้นนี้ ซึ่งก็คือเจ้าค่างแว่นตัวใหญ่ๆ นั่นเอง แถมบางตัวยังมีลูกของมันเกาะอยู่ด้านหน้าอีกด้วย

หรือ การหลบหลีกจากเจ้าลิงแสมที่มีอยู่มากมาย เกือบตลอดสองข้างทาง จากที่กลัวจนหายกลัว เพราะเจ้าลิงแสมพวกนี้แลดูจะไม่ได้สนใจคนที่เดินผ่านไปมาเลยแม้แต่น้อย หากเพียงแค่เราไม่หยิบของกินขึ้นมา หืม คือตลอดระยะทาง 5 กิโลเมตรนี้ จะหิวไม่ได้เลยสินะ ยังมีการทักทายจากคนเดินสวนทางกัน ซึ่งมีเพียงประปราย การยกนิ้วโป้งให้กับคนที่มาจ๊อกกิ้ง และปั่นจักรยาน เพราะทั้งคนที่มาจ๊อกกิ้ง และ ปั่นจักรยานนั้น มาในทิศทางตรงกันข้ามกับหยก คือ ขึ้นเขา ยากกว่าหยกเดินลงเขาอีกแหะ

ทริค 1: หากเจอพวกเจ้าลิงแสม ห้ามเอาของกินขึ้นมาเด็ดขาดนะคะ มันจะเดินตามของกินค่ะ ลิงแสมพวกนี้ไม่ได้น่ากลัวนะคะ เราก็เดินๆไปของเรา อย่าไปยุ่งกับมัน อย่าเอาของกินขึ้นมาล่อ ก็ไม่มีรัยน่ากลัวแล้วค่ะ


สักพักความชันเริ่มมา ความคดเคี้ยวของถนนก็มากขึ้น ยังไง ก็เจ็บนิ้วเท้าสิค่ะ เดินทะแยงก็แล้ว เดินถอยหลังลงก็แล้ว คือไอ้เดินถอยหลังลงเนี่ยค่อยข้างสบาย แต่หยกไม่มีตาหลังไงค่ะ แล้วทางมันก็คดเคี้ยวมากๆซะด้วย เดินๆไปก็ชนกำแพง 555+ จริงๆนะ เดินๆไปก็งงๆ ตาลายๆ

ชันขนาดไหนก็นึกเอาค่ะ ถึงขนาดว่ามีป้ายเตือนความชันกันเลยทีเดียว โดยที่ความชัน 30% นั่นหมายถึงอะไร ลองคิดง่ายๆว่าระยะทางราบ 100 เมตร ทางจะชัน (สูง) ขึ้น 30 เมตร ในที่นี่เป็นขาลง ก็หมายถึงว่า ทางจะต่ำลงไปอีก 30 เมตร ทุกๆการเดินของ 100 เมตร ขอกรี๊ดเบาๆ
ทริค 2: การเดินทะแยงเป็นมุมประมาณ 45 องศา จากถนนฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่ง เดินซิกแซกๆไปมาแบบนี้ ช่วยให้การเดินในที่ชันๆนั้นง่ายขึ้น แต่หยกลองแล้วมันใช้ไม่ได้กับที่ๆทั้งชันทั้งคดเคี้ยวหน่ะสิคะ
อ่อ ลืมบอกไปค่ะ ว่าระหว่างทางเดินนั้นเค้ากำลังก่อสร้างกำแพงกันอยู่ เพื่อกั้นพวกหิน พวกดินถล่ม หรือต้นไม้หักโค่น เลยมีคนงานอยู่เกือบตลอดทาง โดยดูแลรับผิดชอบกันแค่คนหรือสองคน ในแต่ละช่วงของการก่อสร้างเท่านั้นเอง แต่เค้าทำงานขยันขันแข็งกันมาก อีกทั้งยังอารมณ์ดี หันมาโบกมือบ้าง ยิ้ม และทักทายบ้าง หยกก็ยิ้ม และทักทายกลับ พร้อมยกนิ้วโป้งให้สองนิ้วเลยค่ะ
ทริค 3: ควรเข้าห้องน้ำก่อนเดินลงไป Penang Botanic Gardens นะคะ เพราะตลอดระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร นี้ คุณจะหาห้องน้ำเข้าไม่ได้เลย หยกก็เกือบไม่รอดค่ะ คือ ตอนถึง (ห้องน้ำที่) สวนพฤกษศาสตร์ ปีนัง นี้ดีใจยิ่งกว่าได้ทองอีก เฮ้ย ไม่ใช่กิ้งก่า! 555+

ทริค 4: เดินไปสักประมาณสักเกือบครึ่งทางก็จะมีป้ายบอกระยะทางที่เหลือ เช่น 2.9 ซึ่งหมายถึง อีก 2.9 กิโลเมตร นะก็จะถึง สวนพฤกษศาสตร์ ปีนัง แล้ว
หากมองเห็นลาดจอดรถ นั่นก็หมายถึงว่า ได้ถึงที่ สวนพฤกษศาสตร์ปีนัง แล้ว เย้ๆๆ
หยกไม่ค่อยได้ทำอะไรมากที่นี่ค่ะ นอกจากวิ่งหาห้องน้ำ แล้วหาที่นั่งกินขนม คือหิวมาก แต่ก็ยังหนีไม่พ้นเจ้าลิงแสม ซึ่งมาจากไหนไม่รู้ ล้อมเต็มหยกเลย เก็บขนม กับ ควักร่ม แทบไม่ทัน คือหิวมากนะ แบบวันนี้เดินเกือบ 20 กิโลเมตรได้ ไม่ว่าหยกจะเดินไปไหน เจ้าลิงแสมก็ตามกันเป็นฝูงเลย ด้วยความหิว เหนื่อย และกลัว จึงรีบออกจาก สวนพฤกษศาสตร์ ปีนัง เลยค่ะ อดเดินเล่นในสวนเพราะโมโหหิวเลยสินะ

ใครชอบเดินมั่ง มาแข่งกันมั๊ย หยกสู้ตายนะจะบอกให้
สวัสดีค่ะ ถ้าหนูอยากจะเดินลงpenang Hill ทางสวนพฤษศาสตร์แล้วไป วัดkek look Si ควรเดินทางยังไงดีคะ รถปะจำทางหรือเดิน
สวัสดีค่ะ คุณ Sasiwan
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
Penang Hill (ด้านล่าง) กับ วัด Kek Lok Si นั้นอยู่ใกล้กันค่ะ เดินถึงกันได้ใน 25 – 30 นาทีค่ะ ส่วน สวนพฤษศาสตร์ กับ วัด Kek Lok Si นั้น อยู่ค่อนข้างไกลกันค่ะ หากเดินอาจใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง ส่วนการเดินทางด้วยรถเมล์ก็อาจไม่สะดวกนักและใช้เวลา 2 – 3 ชั่วโมงเลยค่ะ เพราะต้องนั่งรถเข้าจอร์จทาวน์ แล้วเปลี่ยนสายเพื่อเดินทางต่อไปยัง วัด Kek Lok Si ค่ะ
ทานลอดช่องปีนังเผื่อด้วยนะคะ
อยากรบกวนสอบถามหน่อยครับว่าลงมาที่สวนแล้วออกไปนั่งรถเมล์กลับเลยได้ไหมครับ มีสายอะไรบ้าง ขอบคุณมากค้าบ
สวัสดีค่ะ คุณ Beatdefent
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
มีรถประจำทางสาย 10 สายเดียวนะคะ ออกจากสวนพฤกษศาสตร์เข้าจอร์จทาวน์ที่ Komtar เลยค่ะ เที่ยวให้สนุกนะคะ 🙂
ขอบคุณมากๆครับผม สำหรับคำแนะนำดีๆครับ ^^
-ผมไปแบคแพคคนเดียว July 19-20, 2016 เริ่มที่นั่งรถไฟไปสงขลา แล้วข้ามไปปีนังด้วยโดยตู้ ไปแบบไม่มีจุดหมาย เดินทางที่พักเอง ส่วนใหญ่จะให้จองผ่านเว็บ ภาษาอังกฤษผมก็ ห่วย กว่าจะได้ที่พัก ก็ ค่ำ พักเพียงแค่คืนเดียว เที่ยวและถ่ายรูป Street Art ได้เพียงไม่กี่แห่ง
– มาเจอข้อมูลของคุณหยก คงจะช่วยได้มาก โดยเฉพาะ ปีนังฮิล
——–ขอบคุณครับ ตั้งใจจะไปวันที่ August 20-22,2018 แต่ต้องรอผลการขอลา
สวัสดีค่ะ คุณ Rangsan
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
ก่อนอื่นขอให้ผลการขอลาอนุมัติผ่านฉลุยนะคะ 🙂 เที่ยวปีนังนั้นสนุกมากๆค่ะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หยกไปกี่ทีๆก็ไม่เบื่อ หากอึดพอ แนะนำให้ออกลุยแต่เช้าๆค่ะ ปีนังมีตลาดเช้าหลายแห่ง ไม่เงียบเหงา ทั้งยังนานกว่าจะมืดอีกด้วย ได้เที่ยวกันยาวๆไปเลยค่ะ ของกินก็มากมาย ราคาก็ไม่แพง พูดแล้วก็คิดถึงปีนังนะคะเนี่ย เที่ยวให้สนุกนะคะ มีวันน้อย วางแผนเที่ยวดีๆค่ะ จะได้คุ้มค่าคุ้มเวลาที่ลางานมา 🙂
เคยไปเกาะปีนัง 2 – 3 เที่ยวแล้ว ขึั้นปีนังฮิล 2 ครั้ง แต่ไม่เคยใช้วิธีการเดินลงนะครับ (อาจจะมีเวลาไม่พอ) น่าสนุกนะครับ ^^ ปลายเดือนนี้จองที่พักบนเกาะปีนังอีกแล้วจะพาภรรยาและเพื่อนๆไปเที่ยว ชิม ช็อป ฯลฯ ในฐานะคุณหยกเชี่ยวชาญบนเกาะปีนัง มีจุดไหนบนเกาะปีนังที่น่าสนใจอีกไหม แนะนำหน่อยครับ ขอบคุณครับ ^^
สวัสดีค่ะ คุณ A-chi-T ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์และคำชมนะคะ 🙂 ปีนังนี่ไปเที่ยวครั้งเดียวไม่พอจริงๆนะคะ แต่มาเที่ยวปีนัง 2-3 ครั้งแล้ว หยกไม่แน่ใจว่าจะแนะนำที่ซ้ำๆที่เคยไปมาแล้วหรือเปล่า เลยจะขอแนะนำที่ๆหยกคิดถึงและอยากไปอีกแล้วนะคะ
สวนผีเสื้อ (Entopia & Butterfly Farm) ค่ะ คุณภรรยาน่าจะชอบ ที่นี่มีผีเสื้อมากมาย หลากหลายพันธ์ุ หน้าตาแปลกๆ สวยๆทั้งนั้น บินไปบินมารอบๆตัวเราเต็มไปหมดเลยค่ะ ทั้งยังมีสัตว์ชนิดอื่นๆ และนิทรรศการเกี่ยวกับธรรมชาติให้ได้ชม ได้ศึกษาอีกด้วย หรือ จะเป็น อุทยานแห่งชาติปีนัง ที่นอกจากจะได้เดินออกกำลังกายในป่าที่สวย สมบูรณ์แล้ว ยังอยู่ติดริมชายหาด เลยมีจุดชมวิว นั่งชิวๆริมหาด อากาศดีๆ แต่หากไม่อยากจะเดินป่า ก็สามารถนั่งเรือไปชมตามหาดต่างๆได้ด้วยค่ะ หรือ จะไปย้อนวัย ที่ สวนสนุก escape ซึ่งมีสวนน้ำ(ที่พึ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน) วัยไหนๆ ก็เล่นได้ค่ะ ไปกันหลายๆคน ก็ยิ่งทั้งสนุก ทั้งมันส์ แบบปลดปล่อยอารมณ์สุดๆไปเลย หรือจะไปชมงานศิลป์ที่ Hin Bus Depot Center ซึ่งหากไปตรงกับวันอาทิตย์ ที่นี่จะมี Pop-Up Market ตลาดนัดขายของทำมือ สวยๆ แปลกๆทั้งนั้น ทั้งยังมีดนตรีสด และอาหารอร่อยๆ ด้วยค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ ทั้งนี้ หยกได้แนบลิ้งค์ คู่มือเที่ยวปีนัง และ ข้อมูลสถานที่เที่ยวต่างๆในปีนัง มาด้วยค่ะ เพื่อจะได้รายละเอียดเพิ่มเติมที่มากขึ้น หากมีข้อสงสัย หรือคำถามใดๆ เพิ่มเติม ก็คอมเม้นต์เข้ามาได้เลยนะคะ
พี่ใช้เวลาเดินลงจากปีนังฮิลกี่ชั่วโมงหรอ พอดีสนใจแต่มีเวลาไม่มาก
สวัสดีค่ะ คุณ gee เส้นทางเดินลงจากปีนังฮิลล์ไปสวนพฤกษศาสตร์นั้นร่มรื่นและเพลินมากค่ะ เลยเดินชิวๆ ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เจออะไรน่าสนใจก็หยุดดู ทั้งยังหยุดทักทายพูดคุยกับผู้คนเดินสวนทางด้วย เลยใช้เวลาสัก 2-3 ชั่วโมงเห็นจะได้ค่ะ หากมีเวลาแนะนำเลยนะคะ ทั้งได้อากาศที่บริสุทธิ์ ธรรมชาติที่สวยงาม และยังได้ออกกำลังกายด้วย อย่าลืมพกน้ำดื่มไปเผื่อด้วยนะคะ หากพกเสบียงไปก็ระวังเจ้าลิงด้วยนะคะ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ คุณอาทิตย์ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์และยินดีมากๆเลยนะคะ ไปเที่ยวปีนังมาแล้วหรือกำลังจะไปคะเนี่ย
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะค้าาา
แล้วจะมาเล่าให้ฟังน้า
สวัสดีค่ะ คุณ An Ant ยินดีมากๆเลยค่ะ 🙂 ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมสนุกเที่ยวนะคะ
สวัสดีค่ะ
พอดีจะไปpenang hillช่วงตอนที่รถรางปิดซ่อมพอดี คุณหยกพอจะมีคำแนะนำไหมคะว่าจะขึ้นไปยังไง เห็นที่หน้าเว็บรถรางบอกว่าให้นั่งรถJeepจาก botanical gardenขึ้นไปน่ะค่ะ ^^
รบกวนด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ An Ant ปีนังฮิลล์ปิดการให้บริการรถราง เพื่อบำรุงรักษารถรางประจำปี ในช่วงวันที่ 24-30 กรกฎาคม 2560 ค่ะ คือดีมากๆค่ะ ทำให้มีความมั่นใจ และรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น แต่ข้อเสียคือ ไม่ได้นั่งรถราง ข้อดี คือ ได้ประสบการณ์การขึ้น-ลงปีนังฮิลล์ในแบบที่น้อยคนจะได้ทำ แต่การได้นั่งรถขึ้น-ลง ปีนังฮิลล์ จาก สวนพฤกษศาสตร์ ปีนัง ก็น่าตื่นเต้นดีเหมือนกัน แถมขากลับ ถ้ามีเวลาก็แวะเที่ยวที่ สวนพฤกษศาสตร์ ปีนัง ก่อนกลับด้วยนะคะ
เดินทางไปโดยขึ้นรถเมล์ สาย 10 จากสถานีรถเมล์ที่ Komtar หรือ Weld Quay (Jetty) ก็ได้ค่ะ ไปลงสุดสายที่ สวนพฤกษศาสตร์ ปีนัง เลย แล้วต่อด้วยรถจี๊ป ซึ่งให้บริการในราคาเหมาคัน 80 RM เที่ยวเดียว (160 RM ไป-กลับ) นั่งได้มากสุด 4 คนนะคะ ถ้าไปน้อยกว่า 4 คน อย่าลืมหาคนแชร์ค่ารถขึ้นและลงด้วยนะคะ (หรือไม่ก็ไปเช้าๆ หน่อย แล้วลองเลือกเดินลงดูนะคะ)
เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให้สนุกนะคะ ไปมาแล้วเป็นยังไง กลับมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ