
“จำกัด 500 ท่าน/ช่วงเวลา ”
1). “จองเข้าเที่ยว ปิกนิก ” จองผ่านแอป QueQ ระบุช่วงเวลา & ใส่ชื่อ-สกุลทุกท่านที่ไป เริ่ม 25 มิ.ย. 63 จองล่วงหน้าได้ 15 วัน
ไม่มาเช็คอินในช่วงเวลาที่จอง=สละสิทธิ์ แต่สามารถอยู่เที่ยวได้นานกว่าช่วงเวลาที่จอง
2). “ค้างแรม ” จองที่พักออนไลน์ เริ่ม 26 มิ.ย. 63 หลัง 12:00 น. จองล่วงหน้าได้ 15 วัน
โปรดตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้งก่อนออกเดินทางนะคะ
ขอแนะนำที่แค้มปิ้งเงียบๆ สงบๆ มีอะไรให้ทำเยอะ แถมอยู่ใกล้กรุง ไม่ต้องหยุดยาว ก็มาได้ ที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ หรือ อุทยานแห่งชาติ ถ้ำธารลอด ใน จ.กาญจนบุรี ถ้ำที่นี่สวย เย็น สว่าง มีน้ำไหลลอด และ เดินง่าย และยังมี trail สั้นๆ ให้ได้เดินเพลินๆ ระหว่าง ถ้ำไปน้ำตกแล้วไปโผล่อีกถ้ำ โดยมีลำธาร น้ำเย็นๆ ใสๆ ผ่านตลอดเส้นทาง หรือหากใครที่ชอบขึ้นเขา ที่นี่ก็มี เขากำแพง สูงตั้ง 1,260 เมตร เลยเชียวค่ะ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก รีบมาก่อนที่จะฮิตจนต้องจำกัดจำนวนคนขึ้นนะคะ

โดยข้อมูลเกี่ยวกับ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ (ถ้ำธารลอด) ด้านล่างนี้ จะมีข้อมูลดังหัวข้อต่อไปนี้นะคะ
- อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ หรือ ถ้ำธารลอด อยู่แห่งหนตำบลใด
- ค่าธรรมเนียมเข้า และ ช่วงเปิด – ปิด ของอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
- ไปอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ทำไมเนี่ย มีกิจกรรมอะไรให้ชม ให้ฟิน ให้ทำ ให้เที่ยวบ้าง และ การเดินทางไปสถานที่นั้นๆ
- สิ่งอำนวยความสะดวก และ ค่าใช้จ่าย ในอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ไม่ว่าจะเป็น บ้านพัก ลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ไฟฟ้า ร้านอาหาร ร้านค้าสวัสดิการ และสัญญาณโทรศัพท์
- เรื่องเล่ามันส์ๆ ทริค ข้อควรรู้ และ ข้อควรระวัง ระหว่างการแค้มปิ้ง และ เดินทางเดินศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย – ถ้ำธารลอดใหญ่ ที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
- การเตรียมพร้อม, สิ่งที่ต้องเตรียม และ ข้อควรรู้ ก่อนมาเดินทางเดินศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย – ถ้ำธารลอดใหญ่ ที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
ปล. รูปค่อนข้างเยอะ และ ไฟล์ใหญ่สักหน่อยค่ะ จึงอาจจะโหลดช้านิดนึงนะคะ แต่รูปวิวที่นี่นั้นสวยมากๆ ใจเย็นๆ รอโหลดสักแปปนะคะ 🙂

ก่อนอื่น หยกขอแนะนำ ไปเดินเล่นที่ ผาช่อ ในอุทยานแห่งชาติแม่วาง ที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเมืองเชียงใหม่ แค่ 40 กว่ากิโลเมตรเองค่ะ, หากใครชอบแค้มปิ้ง ก็ต้องไปกางเต็นท์ริมน้ำ ที่เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติออบหลวง แล้วจะได้จุดกางเต็นท์เจ๋งๆ ฟินๆ หรือ ใครที่ชอบไปเที่ยว ปาย ก็ต้องลองไปชมพระอาทิตย์ตกที่ ป่าหินงามเมืองปาย ห้ามพลาดเลยนะคะ เพราะแม้กระทั่งคนที่ปายเอง ก็ยังไม่รู้จักที่นี่เลย หรือ ไปเที่ยว ถ้ำน้ำลอด ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ดูสิว่าจะต่างจาก ถ้ำธารลอด ที่หยกกำลังจะเล่าให้ฟังนี้อย่างไร หรือจะไปขึ้น สันหนอกวัว ซึ่งก็อยู่ใน จ.กาญจนบุรี เช่นกัน โดยสามารถคลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ตัวหนังสือสีส้มๆ ได้เลยนะคะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
หากพร้อมแล้ว ก็ไปเตรียมตัว เที่ยวให้สนุก กับ สนุกเที่ยว ที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ (ถ้ำธารลอด) กันเลยค่ะ
1. อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ อยู่แห่งหนตำบลใด

อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาภาคตะวันตก ในอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ที่ความสูงประมาณ 240 – 1,260 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลค่ะ ซึ่งยอดเขาที่สูงที่สุด คือ ยอดเขากำแพง สามารถขึ้นยอดเขากำแพงได้นะคะ แต่ต้องติดต่อให้เจ้าหน้าที่นำทางให้ โดยต้องทำการแค้มป์ด้านบนคืนหนึ่งค่ะ
อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ เป็นอุทยานแห่งชาติขนาดไม่ใหญ่มาก มีเนื้อที่ประมาณ 59 ตารางกิโลเมตร แต่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่า และจุดเด่นในความหลากหลายของธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ มากถึง 15 ชั้น และ ถ้ำธารลอด ที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติ จนทำให้ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถูกเรียกอีกชื่อว่า “อุทยานแห่งชาติถ้ำธารลอด”
2. ค่าธรรมเนียมเข้า และ ช่วงเปิด-ปิด ของ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์

ค่าธรรมเนียมเข้า อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
ผู้ใหญ่ 40 บาท ต่อครั้ง, เด็ก 20 บาท ต่อครั้ง (คืออยู่กี่วันก็ได้ค่ะ)
ช่วงเวลาท่องเที่ยว
เปิดตลอดปีเลยจ้า
3. ไป อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ทำไมเนี่ย มีกิจกรรมอะไรให้ชม ให้ฟิน ให้ทำ ให้เที่ยวบ้าง และ การเดินทางไปสถานที่นั้นๆ
อย่างที่บอกว่า อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ มีอีกชื่อคือ อุทยานแห่งชาติถ้ำธารลอด ก็แน่นอนค่ะ ใครที่มาเที่ยวที่นี่ ก็มาชม ถ้ำธารลอด คือเป็นถ้ำที่มีธารน้ำไหลลอดอยู่ใต้ถ้ำ ตามชื่อเลยค่ะ ซึ่งแบ่งออกเป็น ถ้ำธารลอดน้อย และ ถ้ำธารลอดใหญ่ ค่ะ และก็ยังมีน้ำตกด้วยค่ะ สวยๆ ทั้งนั้น ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่าที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ มีสถานที่เที่ยวอะไรที่น่าสนใจบ้าง และกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง
3.1) ถ้ำธารลอดน้อย


ถ้ำธารลอดน้อย อยู่ห่างจากที่ทำการ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ เพียง 100 เมตร เองค่ะ ตัวถ้ำยาวประมาณ 300 เมตร ปากถ้ำกว้างประมาณ 25 เมตร สูงประมาณ 10 เมตร ข้างในถ้ำไม่มืดนะคะ เพราะ มีไฟประดับประดาให้ความสว่างอยู่ตลอดทาง แถมทางเดินก็เดินง่าย เพราะ เป็นพื้นซีเมนต์ กว้างขวางเดินสบายเชียวค่ะ ซึ่งภายในถ้ำนั้น มีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่างๆ แปลกตาดีค่ะ ยิ่งตอนกระทบกับแสงไฟนะ จะส่องประกายระยิบระยับงามสวยงามมาก เสมือนมีกลิตเตอร์เลย ส่วนลำธารน้ำที่ไหลลอดใต้ถ้ำนั่น ก็ทำให้บรรยากาศภายในถ้ำร่มรื่นเย็นสบาย จนนึกว่าเปิดแอร์เลยแหละค่ะ
3.2) ถ้ำธารลอดใหญ่

ถ้ำธารลอดใหญ่ นั้น จะไม่เชิงเป็นถ้ำซะทีเดียวค่ะ แต่จะมีลักษณะเป็นเหมือนสะพานหิน หรือ ซุ้มหิน ซะมากกว่า ซึ่งกว้างมาก โดยกว้างประมาณ 60 เมตร เลยค่ะ ส่วนด้านล่างยาว 60 เมตร กว้าง 40 เมตร และสูง 40 เมตร บนสะพานหิน (เพดานถ้ำ) มีโพรงขนาดใหญ่ แสงแดดส่องลอดเข้ามาได้

ที่นี่ยังมีรอยพระพุทธบาท 2 ข้าง และรอยบาตร ไว้ให้สักการะอีกด้วยนะคะ
การเดินทางมาที่ถ้ำธารลอดใหญ่
โดยทางรถ
ซึ่ง ถ้ำธารลอดใหญ่ นั้น ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ประมาณ 35 กิโลเมตรค่ะ เส้นทางคดเคี้ยวสักหน่อยนะคะ และบางช่วงเป็นดินลูกรัง แต่รถทุกชนิดสามารถเข้าไปถึงได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง โดยจะไปถึงที่วัดถ้ำธารลอดใหญ่ และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 200 เมตร ก็ถึงตัวถ้ำธารลอดใหญ่แล้วค่ะ
โดยทางเท้า
ด้วยการเดินเท้าตาม ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย – น้ำตกไตรตรึงษ์ – ถ้ำธารลอดใหญ่ (รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ด้านล่างใน ข้อ 3.5) นะคะ)



3.3) น้ำตกไตรตรึงษ์
น้ำตกไตรตรึงษ์ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตรค่ะ เป็นน้ำตกที่มีความสูงถึง 3 ชั้น แต่ละชั้นก็อยู่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ

การเดินทางไปน้ำตกไตรตรึงษ์
โดยทางเท้าเท่านั้นค่ะ ต้องเดินไปตามทางเดินศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย – น้ำตกไตรตรึงษ์ – ถ้ำธารลอดใหญ่ โดยอยู่ห่างจากถ้ำธารลอดน้อย ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ค่ะ (รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ด้านล่างใน ข้อ 3.5) นะคะ)
3.4) น้ำตกธารเงิน และ น้ำตกธารทอง
น้ำตกธารเงิน และ น้ำตกธารทอง นั้นต้องเดินเท้าเข้าไปค่ะ โดยอยู่ห่างจาก ที่ทำการ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร โดยที่ น้ำตกธารเงิน เป็นน้ำตกขนาดย่อมลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ ถึง 7 ชั้น ส่วนน้ำตกธารทองเป็นน้ำตกขนาดใหญ่มี 15 ชั้น เค้าว่ากันว่าทั้งสองน้ำตกนั้นสวยมาก เสียดายก็แต่ เส้นทางถูกปิดไปนานแล้ว เข้าไปชมน้ำตกทั้งสองแห่งนี้ไม่ได้แล้วน่ะสิคะ
3.5) ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย – น้ำตกไตรตรึงษ์ – ถ้ำธารลอดใหญ่


โดยระยะทางขาไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร จากจุดเริ่มเดิน (ซึ่งห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ 100 เมตร) โดยเดินเท้าไป – กลับทางเดิม รวมเป็น 5 กิโลเมตรค่ะ โดยที่จุดเริ่มเดินนั้น อยู่ห่างจาก ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ประมาณ 100 เมตรค่ะ


เริ่มจากเดินผ่านถ้ำธารลอดน้อย (ตามรายละเอียดใน ข้อ 3.1)) เมื่อออกจากตัวถ้ำ ก็จะต้องเดินป่าต่อไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร จึงจะถึง น้ำตกไตรตรึงษ์ ชั้นที่ 1 นะคะ โดยจะเดินผ่านสายน้ำลำธารใสๆ อยู่เกือบตลอดทางเลยค่ะ ทำให้อากาศนั้นเย็นสบาย ส่วนทางเดินเรียบราบ เดินง่าย ร่มรื่น เต็มไปด้วยป่าไม้ทั้งสองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นป่ากล้วย ป่าไม้ไผ่ ต้นไทรขนาดใหญ่ และ ต้นไม้อีกมากมาย (พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้ามาช่วงฤดูฝน ก็จะมีเฟริ์น มีมอส มีเห็ดหน้าตาแปลกๆ และพืชอื่นๆ อีกมากมายที่ชอบขึ้นช่วงหน้าฝน ก็จะได้บรรยากาศที่สวย สดชื่นไปอีกแบบค่ะ) นอกจากลมจะพัดเย็นตลอดทางแล้ว ยังมีเสียงนกนานาชนิดส่งเสียงพูดคุยกัน อย่างไพเราะเพราะพริ้ง เพลินมากค่ะ


เมื่อถึง น้ำตกไตรตรึงษ์ ชั้นที่ 1 ก็สามารถใช้เป็นจุดในการนั่งพักชิวๆ ริมน้ำตก และ กินขนมค่ะ หรือจะเล่นน้ำตรงนี้ก็ได้นะคะ น้ำตกไตรตรึงษ์ ชั้นที่ 1 นี้ เป็นน้ำตกเล็กๆ มีแอ่งขนาดย่อมๆ ให้เล่นน้ำใสๆ เย็นๆ สบายๆ ได้ค่ะ

จากนั้นทางเดินจะชันขึ้น แต่ยังเดินง่ายอยู่ เพราะมีหินก้อนใหญ่ๆ ช่วยไว้ เสมือนว่าเดินขึ้นบันไดเลยค่ะ แต่พอถึงช่วงที่ชันมากๆ ก็จะมีบันไดไว้ให้เดินค่ะ ซึ่งหลังจากนี้ไป ทางเดินจะเป็นบันไดซะเกินครึ่ง ตัวบันไดเองก็มีราวให้จับค่ะ ทั้งแบบมีหนึ่งราว และแบบสองราว และก็มีสะพานไม้อยู่ตลอดทาง ข้ามลำธาร ไปยังอีกฝั่ง


น้ำตกชั้นที่ 2 และ 3 จะอยู่ใกล้ๆ กันค่ะ แต่ก็ไม่ได้ห่างจากชั้นที่ 1 เท่าใดนัก บริเวณนี้ก็นั่งพักชิวๆ ได้เช่นกันค่ะ จากนี้ไปก็จะเดินผ่านบันไดสูงชัน แต่เดินง่ายค่ะ เดินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดพักชมวิว แล้วจากนั้นก็เป็นทางเดินป่าแล้ว เพื่อไปสู่ ถ้ำธารลอดใหญ่

เมื่อถึง ถ้ำธารลอดใหญ่ ก็สามารถเดินอีกประมาณ 200 เมตร ถึง วัดถ้ำธารลอด ซึ่งก็คือจุดสิ้นสุดค่ะ แล้วก็ต้องเดินกลับทางเดิมค่ะ (สามารถเดินแค่ขาไป แล้วเช่ารถกลับได้ รายละเอียดอยู่ด้านล่างนะคะ)


3.6) ขึ้นยอดเขากำแพง และค่าใช้จ่าย
ยอดเขากำแพง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ค่ะ โดยอยู่สูง 1,260 เมตรเหนือระดับทะเล สามารถขึ้นไปได้โดยการเดินเท้า ด้วยระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 – 6 ชั่วโมง ขึ้นกับสภาพร่างกายของแต่ละคนนะคะ โดยจะต้องทำการค้างคืนด้านบน 1 คืน แล้วค่อยเดินลงในวันถัดมา
การขึ้นยอดเขากำแพง จะต้องทำการติดต่อเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ล่วงหน้า 1 – 2 อาทิตย์ ค่ะ เดินขึ้นเองไม่ได้ จะต้องให้เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ นำทางไปเท่านั้น จึงต้องให้เวลาพี่ๆ เจ้าหน้าที่ ในการจัดหาเจ้าหน้าที่นำทาง และลูกหาบ ด้วยค่ะ
บนยอดเขากำแพง นั้น ไม่มีอะไรเลยนะคะ ดังนั้น ต้องเตรียมเต็นท์ ถุงนอน เสื้อกันหนาว อาหาร และน้ำดื่มขึ้นไปเอง
ค่าใช้จ่ายในการขึ้นยอดเขากำแพง
ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1 ท่าน 1,600 บาท ต่อทริป (รวมทั้งวันไปและกลับ)
ลูกหาบ 1 ท่าน 1,600 บาท แบกสัมภาระได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม
จำกัดจำนวนต่อกลุ่ม ไม่เกิน 20 คนนะคะ
ข้อควรรู้
สามารถเช่ารถนั่งไปก่อน ประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อย่นระยะทางการเดินขึ้นเขา ให้เหลือแค่ 5 กิโลเมตร ราคารถ 600 บาท ต่อเที่ยว ค่ะ
4. สิ่งอำนวยความสะดวก และ ค่าใช้จ่าย ใน อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ไม่ว่าจะเป็น บ้านพัก ลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ไฟฟ้า ร้านอาหาร ร้านค้าสวัสดิการ และ สัญญาณโทรศัพท์
4.1) บ้านพัก บน อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ราคาเท่าไหร่

ราคาบ้านพักเริ่มตั้งแต่ 1,200 บาท นอนได้ 4 คน มี 1 ห้องน้ำ จนถึง 1,500 บาท นอนได้ 9 คน มี 2 ห้องน้ำ ค่ะ
4.2) ลานกางเต็นท์ บน อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ อยู่ตรงไหน ราคาเช่าเต็นท์เท่าไหร่ และมีอุปกรณ์อะไรให้เช่าบ้าง


มีเต็นท์ให้เช่า 2 ขนาดค่ะ นอนได้ 2-3 คน ราคา 250 บาท กับ 300 บาท ต่อคืน โดยมีเซ็ทเครื่องนอน ราคา 60 บาท ต่อคน ต่อคืน ซึ่งประกอบไปด้วย หมอน, ที่รองนอน และ ถุงนอน ค่ะ

ลานกางเต็นท์หลักมี 1 ที่ค่ะ โดยอยู่ห่างจาก ที่ทำการ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ประมาณ 300 เมตร ค่ะ แต่ถ้านักท่องเที่ยวเยอะ ก็จะมีลานกางเต็นท์สำรอง คือลานกว้างตรงข้าม ที่ทำการ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
บริเวณลานกางเต็นท์จะมีศาลาขนาดใหญ่ให้นั่งพักชิวๆ ด้วยค่ะ
4.3) ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ บน อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ อยู่บริเวณไหน เป็นยังไง


ห้องน้ำ จะแยกออกจาก ห้องอาบน้ำ นะคะ อยู่ห่างจาก ลานกางเต็นท์ประมาณ 10-30 เมตร เองค่ะ สะอาด สะดวกสบาย ค่ะ ห้องอาบน้ำเป็นแบบฝักบัวนะคะ
ข้อควรรู้
ที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ใช้น้ำจากธรรมชาติค่ะ ดังนั้น น้ำจะขุ่นในช่วงแรกนะคะ ไม่ต้องตกใจไปค่ะ สักพักน้ำจะใส พร้อมใช้งานค่ะ
4.4) อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ มีไฟฟ้าใช้ไหม เปิด-ปิดกี่โมง แล้วปลั๊กไฟล่ะ มีให้บริการหรือเปล่า

ตามทางเดิน และห้องน้ำ ก็มีไฟฟ้าบริการปกติค่ะ ส่วนปลั๊กไฟนี้ไม่มีนะคะ
4.5) ร้านอาหาร และ ร้านค้าสวัสดิการ บน อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ อยู่บริเวณไหน แล้วเปิด-ปิดกี่โมง

ที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ มีร้านอาหาร เป็นของเอกชนมาให้บริการค่ะ อยู่ตรงข้าม ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งก็จะมีน้ำดื่ม และขนมขายด้วย แต่พวกข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้ำนี้ไม่มีขายนะคะ
ส่วนเวลาเปิด – ปิดของร้านอาหารเอกชนนี้ก็ ประมาณ 07.00 น. – 17.00 น. แต่มักจะเปิดให้บริการแต่ช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาว และวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้นน่ะสิค่ะ

ส่วนราคาก็ไม่แพงค่ะ อาหารจานเดียว 40 บาท, ส้มตำไทย หรือ ตำแตง 35 บาท, กับข้าว 50 – 150 บาท และ น้ำดื่ม 1.5 ลิตร 20 บาท เป็นต้น

4.6) สัญญาณโทรศัพท์ ใน อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
มีสัญญาณโทรศัพท์, 3G หรือ 4G ปกติค่ะ ในทุกเครือข่ายเลย
5. เรื่องเล่ามันส์ๆ ทริค ข้อควรรู้ และข้อควรระวัง ระหว่างการแค้มปิ้ง และเดินทางเดินศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย – ถ้ำธารลอดใหญ่ ที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
งงเบาๆ ณ ลานกางเต็นท์

ลานกางเต็นท์ที่นี่เป็นอะไรที่ฮามากค่ะ คือหยกยืนงง และเดินวนอยู่นาน กว่าจะหาทำเลเรียบๆ ราบๆ กางเต็นท์ได้ ก็ทั้งบริเวณมันเต็มไปด้วยต้นไม้ และหินก้อนใหญ่ๆ แถมพื้นยังเป็นหลุมเป็นบ่อด้วยน่ะสิคะ
ความหนาวเย็นยามค่ำคืน
หยกมาแค้มป์ที่นี่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ ปลายๆ หนาวแล้ว อากาศตอนกลางวันนั้นร้อนเลยแหละ แต่ช่วงกลางคืนนี่สิ หนาวแบบเย็นยะเยือกเลย โดยอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 16 องศาเซลเซียสค่ะ หนาวจนแบบไม่อยากจะลุกไปเข้าห้องน้ำออก ดังนั้นก่อนมาก็โทรสอบถามที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ก่อนนะคะ จะได้เตรียมตัวให้พร้อมค่ะ
ใครว่า 2.5 กิโล จิ๊บๆ!

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
คือทางเดินศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย – ถ้ำธารลอดใหญ่ นี้แค่ 2.5 กิโลเมตร เองค่ะ ทางเดินก็ง่ายๆ เดินแป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว สบายมาก นั่นคือสิ่งที่หยกคิด แต่ความเป็นจริงแล้ว หยกใช้เวลาถึง 4.5 ชั่วโมง ในการเดินขึ้นเลยค่ะ ไม่ใช่เพราะทางเดินยากนะคะ แต่เป็นเพราะตลอดทางนั้น มีอะไรให้ดู ให้ชม ให้ต้องหยุดอยู่เรื่อยๆ เลยต่างหากล่ะคะ แถมทางเดินก็ร่มรื่น ลมพัดเย็นสบาย มีเสียงนกร้องเพลงอยู่ตลอดทาง แถมมีเสียงน้ำจากลำธารเพิ่มความเย็นให้อากาศ ทำให้บรรยากาศการเดินมันสุดยอดมากๆ เลยทำให้เพลินในการเดินได้ช้าๆ สบายๆ ชิวๆ ยังไงล่ะคะ
แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความชิวของแต่ละคนนะคะ ถ้าไม่ได้เดินอ้อยอิ่ง พักชิวนานๆ แบบหยก ก็น่าจะใช้เวลาแค่ 2-3 ชั่วโมงเองค่ะ ส่วนขากลับนั้น หยกเดินลงรวดเดียว ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงแล้วค่ะ
หิวโซกลางป่า
ก็อย่างที่บอก คือไม่ได้คิดว่าตัวเองจะใช้เวลาเดิน ไป-กลับ ถึง 5.5 ชั่วโมงแบบนี้ เลยไม่ได้เตรียมเสบียงอะไรไป มีแค่ซีเรียลแท่ง และเจลลี่แบร์ ติดกระเป๋าไปแค่พอรองท้องได้ ส่วนน้ำดื่มนั้น ก็ไม่พอค่ะ จิบเอาพอดับกระหาย
ตามล่าหมาน้ำ
สัตว์พิเศษที่มีใน ถ้ำธารลอดน้อย นอกจากค้างคาวหน้ายักษ์ทศกัณฐ์ ซึ่งมองเห็น แค่ว่าเป็นค้างคาว ไม่รู้ว่าหน้าตาเหมือนทศกัณฐ์หรือยังไง ส่วนหมาน้ำเนี่ยสิ เข้าใจว่าเป็น สุนัขที่อาศัยอยู่ในน้ำ หรือ สุนัขในถ้ำประมาณนั้น เค้าก็มีรูปให้ดูหรอกนะ แต่มันมืด เห็นแค่เป็นตัวอะไรดำๆ มาถึงบางอ้อทีหลังว่ามันคือ กบชนิดหนึ่ง! กบอะไรชื่อหมา คงจะต้องมีที่มาแล้วล่ะชื่อนี่เนี่ย
ประตูแห่งความฟิน

พอใกล้จะพ้นปากถ้ำ ก็เห็นแสงสว่างจ้าพร้อมต้นไม้สีเขียวที่ปากทางออกของถ้ำ ผสานกับสายลมที่พัดเย็นเข้ามากระทบปากถ้ำ บวกกับเสียงลำธารที่ไหลลอดผ่านถ้ำ มันช่างฟินจริงๆ คือหยกนี่ยืนนิ่ง กินบรรยากาศตอนนั้นอยู่นานเชียวค่ะ
ไม่น่าแปลกใจ ทำไมถึงเดินนาน


ทางเดินจาก ถ้ำธารลอดน้อย ไปสู่ น้ำตกไตรตรึงษ์ เป็นทางเดินที่บรรยากาศดีสุดๆ หยกชอบมากๆเลยค่ะ ลองจินตนาการดูสิคะ ทางเดินสองข้างทางที่มีต้นไม้เขียวๆ เดินๆไปก็ได้ยินเสียงน้ำไหลจากลำธาร เสียงนกขับกล่อมบทเพลงตลอดทาง อากาศที่สัมผัสผิวหนังเรานี่ก็เย็นสดชื่น รู้สึกสบายตัวมาก น่าจะมาจากการที่ต้นไม้หนาแน่น และความเย็นจากน้ำในลำธาร แถมทางเดินก็เป็นทางเดินดินราบๆ เดินง่าย เดินชิวๆ เพลินๆ ลืมเวลาเลยค่ะ
เสน่ห์ของการไฮกิ้ง
แล้วก็ได้ยินเสียงน้ำตกดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ดังขึ้นๆ ความตื่นเต้นนั้นทวีคูณ ยิ่งตอนได้เห็นน้ำตกนะ ดีใจมากๆ ยังกับได้รับรางวัลให้ไปเที่ยวรอบโลกยังไงยังงั้นเลย ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะตื่นเต้นอะไรนักหนากับการเห็นน้ำตกเล็กๆ ธรรมดาๆ แต่นี่สินะคือ “ความมีเสน่ห์ของการเดินป่า” เพราะจุดทุกจุดที่เราได้เห็นมันก็คือ “รางวัลชีวิต รางวัลตอบแทน” นั่นเอง
เลือกอะไรดี ทางเดินสูงชัน หรือ บันไดสูงชัน

แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดหวังจากเส้นทางนี้ก็อยู่ตรงหน้า “บันไดสูงชัน” ระหว่างที่เดินขึ้นบันได ก็มองลงไปยังพื้นด้านล่างของขั้นบันไดแต่ละขั้น แล้วก็นึกในใจว่า เออแหะ ทางมันชันมากๆ เลย 70-80 องศาเห็นจะได้ ถ้าไม่มีบันไดนี่จะเดินยังไงเนี่ย รู้สึกรักบันไดก็ตอนนี้ ยิ่งการหยุดพักบนบันไดนะ ลมพัดเย็นสบาย ทำให้การชมวิวจากมุมสูงแบบนี้เพลินขึ้นไปอีก จนลืมหอบไปเลยค่ะ
ไหนล่ะ ถ้ำธารลอดใหญ่
แล้วก็เดินสูงขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงสะพานโค้งหินสูงๆ ที่มีช่องให้แสงและลมเข้ามาได้ ตรงจุดนี้ ยังมีรอยพระพุทธบาททั้งสองข้าง, รอยบาตร และพระพุทธรูป ให้ได้สักการะค่ะ นั่งเพลินๆ รับลมสักพัก ก็ไปต่อค่ะ เป็นทางเดินลง ลงไปเจอลำธาร สะพานไม้ หินงอกหินย้อย แล้วก็เดินทะลุไปจนถึง วัดถ้ำธารลอด อ้าว! แล้วไหนล่ะ ถ้ำธารลอดใหญ่
เดินรวดเดียว
หากเจอสะพานโค้งหินที่มีช่องให้แสง ให้ลมเข้า ให้เข้าใจเลยนะคะ ว่านั่นแหละคือ ถึง ถ้ำธารลอดใหญ่ แล้ว ด้วยความหิวโซ จึงทำให้การเดินกลับนั่นเร็วเชียวค่ะ ไม่ถึงชั่วโมง ก็ถึงด้านล่างแล้ว
6. การเตรียมพร้อม, สิ่งที่ต้องเตรียม และ ข้อควรรู้ ก่อนมาเดินทางเดินศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย – ถ้ำธารลอดใหญ่ ที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์

1) ทางเดินเส้นทางนี้ ไม่ยากค่ะ โดยทางเดิน 1.5 กิโลเมตรแรกนี้ง่ายเลยค่ะ เดินชิวๆ สบายมาก แต่ 1 กิโลเมตรหลังนี้จะต้องเดินขึ้นทางชันบางช่วง และขึ้นบันไดชันๆ แต่ใครๆ ก็สามารถเดินได้ค่ะ แค่ต้องเตรียมสภาพร่างกายมาให้พร้อมในระดับหนึ่ง เพื่อลดการเจ็บกล้ามเนื้อในวันถัดๆ ไป
2) ของที่ต้องเตรียมมาก็คือ น้ำดื่ม และ ขนมค่ะ เพราะอาจต้องใช้เวลาเดินไป – กลับ 4 – 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว
3) หากวางแผนจะเดินทั้งไปและกลับ ควรเริ่มเดินก่อน 10.00 น. นะคะ เพราะ ทางเดินธรรมชาติเส้นนี้ ปิด 16.00 น. ค่ะ
4) หากวางแผนจะเดินขาไปเพียงขาเดียว ก็สามารถติดต่อเพื่อเช่ารถจาก ที่ทำการ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ให้มารับได้ ราคาเหมาคันอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท ค่ะ โดยทางออกของเส้นทางเดินนี้ จะไปสุดที่ วัดถ้ำธารลอด ซึ่งห่างจาก อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ประมาณ 35 กิโลเมตร ค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ (ถ้ำธารลอด) อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่นี้เอง ว่างๆ เสาร์อาทิตย์ หากคิดไม่ออกว่าจะไปไหนดี ก็ลองมาเที่ยว มาแค้มปิ้งที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ดูนะคะ หยกหวังว่าข้อมูลเที่ยว อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ (ถ้ำธารลอด) จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังหาข้อมูลท่องเที่ยวที่นี่อยู่นะคะ หรือ หากใครกำลังหาที่แค้มปิ้ง เดินป่าใหม่ๆ ใกล้ๆ กรุงแล้วล่ะก็ ก็ขอให้ที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวนะคะ
หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ก็ลองไปเที่ยวที่ อุทยานแห่งชาติพุเตย อุทยานแห่งชาติเดียวใน จ.สุพรรณบุรี หากมีเวลาก็ลองไปขึ้นยอดเขาเทวดาด้วยนะคะ ทั้งนี้เพื่อนๆชาวสนุกเที่ยวยังสามารถเลือกอ่าน ข้อมูลการท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว ที่แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ชัดเจน ตามจังหวัดและประเทศ ที่ลิ้งค์สีส้มตรงนี้เลยค่ะ
เพื่อนๆ คนไหนมีคำถาม ข้อสงสัย คำแนะนำ หรือ คำติชม ก็คอมเม้นต์มาที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ