
ทำไมใครๆ มาเที่ยวศรีลังกา (Sri Lanka) ต้องมา อนุราธปุระ (Anuradhapura) แล้วหากจะไปเมืองนี้ เดินทางไปยังไง รถทัวร์? หรือ รถไฟ? ลงสถานีไหน? เมืองนี้มีอะไรน่าเที่ยว เดินทางท่องเที่ยวในเมืองได้อย่างไร ค่าเช่าจักรยานเท่าไหร่ รวมทั้งข้อควรปฏิบัติ และเคล็ดลับ ในการเที่ยวชมพุทธสถาน โบราณสถาน ใน อนุราธปุระ ให้ถูกต้อง และสนุก
โดยการมาศรีลังกาครั้งนี้ ก็ยังคงสนุก ประทับใจ และ มันส์เหมือนเดิม โดยเฉพาะการนั่งรถทัวร์ขึ้นเขา จริงๆ คงต้องเรียกว่า “ยืนโยกเยก” ไปมาซะมากกว่า สามารถเข้าไปอ่าน การผจญภัย และการเอาตัวรอดในการทรงตัว และจับราว บนรถทัวร์ ที่ศรีลังกา ได้โดยคลิ๊กที่ตัวหนังสือส้มๆ ตรงนี้เลยค่ะ หรือ คลิ๊กตรงนี้ หากอยากทราบว่า รถตู้ที่ศรีลังกาบรรจุคนได้กี่คน จะเหมือนในโชว์มายากลหรือเปล่า ที่บรรจุคนได้เป็นยี่สิบสามสิบ หรือ เรื่องมันส์ๆ ของคนเลือดหวานอย่างหยก ที่ถูกทากเกาะ จนจั๊กกะจี้ไปหมด ขณะไฮกิ้งที่ Ella Rock
ทั้งนี้หยกยังมี ข้อมูลท่องเที่ยวศรีลังกา ที่มีรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อการเดินทางท่องเที่ยวเองในศรีลังกามาฝากด้วยนะคะ

- อนุราธปุระ อยู่ที่ไหน? คืออะไร? มีอะไร? และไปทำไม?
- เดินทางไปเมือง อนุราธปุระ ได้อย่างไร?
- เลือกโรงแรมใน อนุราธปุระ แถวไหนดี? แล้วลงรถทัวร์ รถไฟ สถานีไหน?
- ค่าธรรมเนียม เข้าเที่ยว อนุราธปุระ เท่าไหร่? แล้วจะเที่ยวใน อนุราธปุระ ด้วยวิธีอะไร?
- เรื่องเล่า เมื่อมาเที่ยว อนุราธปุระ ในวันฝนตก
- ทำไมใครๆ ต้องมาสักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์
- ข้อควรปฏิบัติ และค่าธรรมเนียม ในการเข้าสักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์
- ถ้าปวดห้องน้ำ เข้าตรงไหน?
- เจดีย์ขาวใหญ่ Mirisavatiya Dagoba
ก่อนจะดูข้อมูลท่องเที่ยว อนุราธปุระ หยกยังมีที่เที่ยวที่ห้ามพลาดอีกหลายที่ใน ศรีลังกา มาแนะนำด้วยนะคะ สามารถคลิ๊กที่ตัวหนังสือสีส้มๆ ได้เลยค่ะ โดยหากเที่ยว อนุราธปุระ แล้ว สามารถไปเที่ยวต่อที่ พระราชวังลอยฟ้า Sigiriya (สิกิริยา) ไปชมปราสาทหินโบราณ ที่เป็นทั้งป้อมปราการ ที่มีวิวด้านบนทุกทิศทาง ทางเดินที่นี่ระยะทางสั้นๆ เองค่ะ เดินง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และยังมีบันไดเหล็กลอยฟ้าวิวสวยๆ เสียวนิดๆ ด้วย, ไปเที่ยวต่อที่เมือง Kandy (แคนดี้) เมืองท่องเที่ยวที่มีพร้อมทุกอย่าง มีทะเลสาบอยู่ใจกลางเมือง ค่ำคืนก็ไม่เงียบเหงา แถมมีวัดที่มีสมบัติล้ำค่าคู่บ้านคู่เมือง มีสวนพฤษกชาติที่มีชื่อเสียง 1 ใน 10 ของเอเชียใต้อีกด้วย (กำลังเขียนอยู่นะคะ หากเสร็จแล้วจะเอาลิ้งค์มาแปะให้ค่ะ), แล้วก็ต้องห้ามพลาดกับการขึ้นไป ชมแสงอาทิตย์แรกของวัน ท่ามกลางทะเลหมอก ที่ Adam’s Peak พร้อมกับสักการะรอยพระพุทธบาท และหากมีเวลา ควรไปเยี่ยมชมเมือง Jaffna (จาฟฟ์น่า) เมืองทางภาคเหนือ ที่พึ่งเปิดให้เข้าท่องเที่ยวได้ไม่นานนี้เองค่ะ มีเกาะเล็กๆน้อยๆ หลายเกาะที่เชื่อมต่อกัน สามารถปั่นจักรยานเล่นได้ชิวๆ เพลินๆ เลยค่ะ ใครชอบทะเล ชอบปั่นจักรยาน ต้องชอบเมืองนี้แน่ๆ ค่ะ ยังมีเมือง Galle เมืองประวัติศาสตร์ที่โรแมนติก ที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว และยังมีไร่ชา Lipton’s Seat ที่เมือง Haputale ที่สวย อากาศดี ทั้งยังได้เห็นสาวชาวทมิฬอารมณ์ดีๆ ยิ้มหวานๆ เด็ดยอดอ่อนใบชาด้วยค่ะ
ทีนี้ก็ไปเตรียมตัวเที่ยวให้สนุก ที่ อนุราธปุระ กับ สนุกเที่ยว นะคะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!

1. อนุราธปุระ อยู่ที่ไหน? คืออะไร? มีอะไร? และไปทำไม?
อนุราธปุระ เป็นเมืองโบราณ (Ancient city) ในประเทศศรีลังกา ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวง คือ กรุงโคลัมโบ (Colombo) ไปทางทิศเหนือประมาณ 200 กิโลเมตร อนุราธปุระ นี้ เคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ อยู่นานประมาณ 1,300 ปี เลยนะคะเนี่ย และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก จากยูเนสโก (UNESCO World Heritage) ในปี ค.ศ. 1982 ด้วย แล้วรู้ไหมคะว่า ศรีลังกา ประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆ นี้ มีมรดกโลกอยู่ถึง 8 แห่งเลยทีเดียว

อนุราธปุระ เป็นที่รู้จักกันว่า เป็นถิ่นกำเนิดของพระพุทธศาสนา และ โบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยซากปรักหักพัง ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 40 ตารางกิโลเมตร โดยใครก็ตามที่มาเที่ยวที่ ประเทศศรีลังกา จะต้องแวะเวียนมาสักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ (Sri Maha Bodhi Tree หรือ The Sacred Bodhi Tree) ที่สืบพันธุ์จากต้นเดิม จาก เมืองพุทธคยา (Bodh Gaya) ประเทศอินเดีย (India)

จริงๆ หยกว่า การไปเที่ยว อนุราธปุระ ก็คล้ายๆ กับการไปเที่ยวชม อุทยานประวัติศาสตร์ใน สุโขทัย หรือ อยุธยา ที่บ้านเรานะคะ กว้างใหญ่ น่าสนใจ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และขลังมาก เยี่ยมชมวันเดียวไม่หมด การที่เดินชมไม่ได้ ต้องปั่นจักรยาน หรือ นั่งรถเท่านั้น ยิ่งทำให้สถานที่เหล่านี้ดูลึกลับ น่าค้นหา เสมือนย้อนกลับไปอดีตยังไงยังงั้น
2. เดินทางไปเมือง อนุราธปุระ ได้อย่างไร?
คนส่วนใหญ่มักจะเริ่มเดินทางไป อนุราธปุระ จาก Colombo ค่ะ โดยมีวิธีการเดินทางมาที่นี่ได้ 2 ทาง คือ รถทัวร์ หรือ รถไฟ หยกเลือกที่จะนั่งรถไฟค่ะ โดยหยกนั่งรถไฟ ประเภทรถด่วน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ส่วนรถไฟธรรมดา และ รถทัวร์ จะใช้เวลาประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง

3. เลือกโรงแรมใน อนุราธปุระ แถวไหนดี? แล้วลงรถทัวร์ รถไฟ สถานีไหน?
ตัวเมือง อนุราธปุระ จะแบ่งเป็น New Town และ Old Town นะคะ โดยที่ทั้งสองเขตห่างกันแค่ 2 – 3 กิโลเมตร เท่านั้นเองค่ะ ส่วนพวกโบราณสถานต่างๆ นั้น จะอยู่ในเขต Old Town ค่ะ
สำหรับหยกแล้ว หยกว่าจะพักอยู่เขตไหน ก็ไม่ต่างกัน เพราะไม่ได้ไกลกันมาก อีกทั้งยังไงก็ต้องเช่าจักรยานอยู่ดีค่ะ
ดังนั้น สถานีรถไฟ และ สถานีรถทัวร์ จึงมี อย่างละ 2 สถานี คือ New Railway Station และ Old Railway Station และ New Bus stand และ Old Bus Stand เลือกพักเขตไหน ก็ลงให้ถูกสถานีนะคะ
4. ค่าธรรมเนียม เข้าเที่ยว อนุราธปุระ เท่าไหร่? แล้วจะเที่ยวใน อนุราธปุระ ด้วยวิธีอะไร?
ค่าธรรมเนียม เข้าเที่ยว ในเขตเมืองโบราณของ อนุราธปุระ ค่อนข้างแพงค่ะ คือ $25 ต่อคน ต่อวัน เลยทีเดียวค่ะ

ซึ่งเมื่อปลายปี 2010 หยกก็มาเที่ยวที่ศรีลังกาค่ะ ค่าเข้าถูกมาก เป็นตั๋วที่เรียกว่า Cultural Triangle Ticket ราคา $50 จ่ายครั้งเดียว สามารถใช้ได้ถึง 14 วันแน่ะค่ะ เข้าได้หลายที่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น อนุราธปุระ, โปโลนนารุวะ (Polonnaruwa), สิคิริยา (Sigiriya) และ ดัมบุลลา (Dambulla) เป็นต้น เสียใจมากๆ เพราะตอนนี้ ถ้าจะเข้า 4 ที่ๆกล่าวมาข้างต้นนี้ ก็ต้องเสียเงินตั้ง $90 แน่ะ นี่ยังไม่รวมที่อื่นๆ ที่ตั๋วนั้นสามารถใช้ได้ด้วยนะคะเนี่ย

การท่องเที่ยวใน อนุราธปุระ ทำได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็น ปั่นจักรยาน, เหมารถตุ๊กตุ๊ก หรือ เช่ารถ(ที่มีคนขับให้) ค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้ว นักท่องเที่ยวมักจะใช้การปั่นจักรยาน และ การนั่งตุ๊กตุ๊ก มากกว่าค่ะ
ค่าเช่าจักรยาน ประมาณ 350 – 500 RS ต่อวัน สามารถเช่าได้จากโรงแรมที่คุณพักอยู่ค่ะ
5. เรื่องเล่า เมื่อมาเที่ยว อนุราธปุระ ในวันฝนตก
อนุราธปุระ นั้นกว้างมาก การจะเที่ยวให้ครบนั้นใช้เวลา 2 – 3 วันเลยค่ะ วันที่หยกมาเที่ยว ฝนตกทั้งสองวันเลย ยังไงก็เที่ยวได้ไม่ครบแน่ๆ อากาศไม่เป็นใจแบบนี้ หยกไปได้แค่สองที่หลักๆ ค่ะ คือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และ เจดีย์ขาวใหญ่ ชื่อ Mirisavatiya Dagoba ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน ก่อนที่ฝนจะตกแบบไม่หยุด คือท้องฟ้านี่ขาวโพนเป็นสีเดียวกับเจดีย์ขาวเลยค่ะ โดยจะกล่าวถึงรายละเอียดของทั้งสองที่ ที่ด้านล่างนะคะ

เมื่อฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด กลับที่พักก็ไม่ได้ หลบฝนเพื่อรอให้ฝนหยุด ก็แลดูไม่มีหวัง หยกจึงเลือกที่จะปั่นจักรยานเล่น ตากฝนไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ได้จะมีโอกาสได้เล่นน้ำฝนเย็นๆ สบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้บ่อยนัก พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสซะเลย จึงปั่นไปเรื่อยๆ จนไปโผล่ที่อ่างเก็บน้ำ (Reservoir) ชื่อ Basawakkulama Tank หรือรู้จักกันในชื่อโบราณคือ Abhayabapi หรือ Abhaya Wewa จึงปั่นเล่นรอบๆ อ่างเก็บน้ำนี้ค่ะ สนุกมากๆ อากาศดี เย็นสบาย สดชื่นสุดๆ รู้สึกปอดโล่งสะอาดมากมาย
โดยอ่างเก็บน้ำนี้ เค้าสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ในการใช้น้ำในพื้นที่ชุมชนค่ะ
จากนั้นก็ปั่นไปเรื่อยๆ เข้าซอยเล็กซอยน้อย ไปโผล่บ้านคนบ้าง เข้าป่าบ้าง ถนนใหญ่บ้าง ชอบมาก สนุกดีค่ะ รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

อ่อ ด้วยความที่ฝนตกหนักบ้าง เบาบ้าง และ ระหว่างที่ผ่านบ้านคน แทบจะทุกบ้านที่มีคนนั่งอยู่ ก็จะได้ยินเสียงตะโกนทักทาย แบบที่เป็นมิตร และเรียกให้เข้าไปพักในบ้าน เพื่อรอให้ฝนหยุดก่อน
“come come (พร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่จริงใจ จนเห็นฟันขาว, เห็นตาขาวที่กลมโต และการกวักมือเรียก)” ศัพท์ง่ายๆ สั้นๆ และเข้าใจง่าย ทุกครั้งหยกจะพยามยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ก็ปากเล็กแค่นี้เองนี่นา) พร้อมกับโบกมือตอบรับความจริงใจ และผงกหัว กึ่งๆ โค้งหัวให้ เพื่อเป็นการขอบคุณ
หลังจากปั่นเล่นอยู่นาน วนไปวนมา เริ่มจะเย็นแล้ว ก็ถึงเวลาต้องกลับแล้วสินะ คือตอนนี้เปียกทั้งตัว เปียกแบบที่รองเท้าที่ว่ากันน้ำ นั้นชุ่ม น้ำท่วมข้างในเชียว 555 แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน 555 จึงต้องหยิบมือถือออกมา ถามอากู๋แม๊บดู ซึ่งตอนนี้ น้องฝนก็ยังคงตกอยู่
เมื่อใกล้ถึงที่พัก คือ อีกแค่ 2 แยกเท่านั้น หลังจากเลี้ยวโค้งวงเวียนไป ก็ได้ยินเสียง “ฟิ๊ววววววววว…” พร้อมกับรถจักรยานที่ชะลอความเร็วลง จนหยุดนิ่งอยู่กับที่!
คือไร! ยางแบน!
คนแถวนั้นหัวเราะกัน ขำกันใหญ่เชียว ชาวต่างชาติผิวขาวๆ หน้าหมวยๆ ตัวเปียกมะลอกมะแลก แถมจักรยานยังมายางแบนอีก อย่าว่าแต่เค้าเลยค่ะ ตัวหยกเองยังขำตัวเองเลย ผจญภัยมาทั้งวัน แม้กระทั่งอีกแค่ 2 แยกก็ถึงที่พักแล้วก็ยังไม่รอด
แล้วก็ลากสังขารเปียกๆ พร้อมกับเข็นจักรยานต่อไป
ไม่อยากจะบอกว่า การผจญภัยยังไม่หมดแค่นั้น เช้าวันถัดมา หน้าจอมือถือสีเพี้ยน ขึ้นเป็นแถบๆ เลย ถึงแม้จะยังใช้งานได้อยู่ก็ตาม 🙁 พร้อมทั้งรองเท้าที่ใช้เวลาถึง 2 วันกว่าจะแห้ง
ปล. รูปอธิบายบรรยากาศ ปั่นจักรยานตากฝน และ วิวรอบข้าง อาจจะไม่มีให้เห็น แต่ก็พยายามบรรยายแล้วเนอะ หวังว่าจะพอช่วยให้นึกภาพออกนะคะ
6. ทำไมใครๆ ต้องมาสักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์


คือต้นไม้ซึ่งเป็นที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า โดยต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้ เป็นหน่อที่นำมาจากเมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย นับเป็นต้นไม้แห่งประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และยังนับได้ว่าเป็นต้นโพธิ์ที่มีอายุยืนนานที่สุดในโลกอีกด้วยนะโดยมีอายุกว่า 2500 ปี เลยทีเดียวค่ะ

ผู้คนที่มาสักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ นั้น เยอะทีเดียว โดยส่วนใหญ่จะแต่งกายด้วยชุดขาว และมากันเป็นครอบครัว ซึ่งจะมีของมาถวาย ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หลากสี ที่มีการเอาก้านออกอย่างพิถีพิถัน ให้เหลือแต่ตัวดอก และนำไปเรียงอย่างสวยงาม บนแท่นสักการะ รอบๆ ต้นพระศรีมหาโพธิ์, ผลไม้ชนิดต่างๆ ที่ได้รับการปลอกเปลือก และตัดไว้เป็นชิ้นๆ เรียบร้อยแล้ว, ข้าวสวย ที่ถูกอันแน่นใส่ไว้ในชามดินเหนียวปั้น, จีวรถวายพระ ที่อยู่ในห่อพลาสติกใหม่เอี่ยม หรือ แม้กระทั่ง ต้นโพธิ์จำลองสีทอง วิบวับๆ สวยงาม




เราไม่สามารถเข้าถึง ตัวต้นพระศรีมหาโพธิ์ได้นะคะ เพราะเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ โดยมีรั้วสีทองสวยงามล้อมรอบไว้ และที่กิ่งก้านสาขาของ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ นั้น มีไม้ค้ำสีทอง ค้ำยันกิ่งก้านสาขาไว้ ให้แข็งแรง ซึ่งดูขลัง และ สวยงามมากค่ะ โดยเฉพาะตอนที่สีทองสะท้อนกับแสงอาทิตย์


มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
7. ข้อควรปฏิบัติ และค่าธรรมเนียม ในการเข้าสักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์
7.1). การแต่งกาย พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ที่ตั้งใจมาไหว้สักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ จะนุ่งโสร่ง หรือ แต่งกายสุภาพ (เสื้อมีแขน กางเกง หรือ กระโปรงยาวเลยเข่า) ด้วยชุดสีขาว เพราะเชื่อว่าเป็นสีที่ศักดิ์สิทธิ์

7.2). ต้องทำการถอดรองเท้าไว้ด้านนอก โดยจะมีที่ให้วางรองเท้าค่ะ แล้วเดินเท่าเปล่าเข้าภายในเขตพื้นที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พื้นข้างในสะอาดมากค่ะ พื้นที่เป็นทรายก็ค่อนข้างละเอียด เดินสบายค่ะ

7.3). ทางเข้าจะแบ่งประตูทางเข้าแยก ชาย – หญิง นะคะ

7.4). เค้าว่า ต้องเสียค่าธรรมเนียมค่าเข้า คนละ 200 RS หรือ ประมาณ 45 บาท แต่หยกก็ไม่ได้เสียค่าเข้านะคะ ไม่เห็นมีใครเก็บตังค์เลย และเจ้าหน้าที่ด้านหน้าก็ให้นักท่องเที่ยวทุกคนเดินเข้าไปได้เลย

7.5). พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใส มักจะ มาสวดมนต์, ผูกด้ายสายสิจญ์ หรือ เก็บใบของต้นพระศรีมหาโพธิ์ กลับไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ไม่ได้เด็ดสดๆ จากต้นนะคะ เค้าเก็บกันที่ตกลงบนพื้นค่ะ



8. ถ้าปวดห้องน้ำ เข้าตรงไหน?
ตรงประตูทางเข้า – ออกหลัก ที่จะไปสักการะ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ บริเวณลานจอดรถแถวๆ นั้น จะมีห้องน้ำชั่วคราวไว้ให้บริการค่ะ

9. เจดีย์ขาวใหญ่ Mirisavatiya Dagoba

เจดีย์ Mirisavatiya นี้ อยู่ใกล้ๆ กับ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ค่ะ โดยการเข้าไปสักการะเจดีย์นี้ ก็ต้องถอดรองเท้า แล้วเดินเท้าเปล่าเข้าไปค่ะ
เจดีย์ Mirisavatiya เป็นเจดีย์ทรงลังกา สีขาว ขนาดใหญ่ สวยมากค่ะ พื้นที่รอบๆ เป็นป่าเขียวขจี ที่ร่มรื่น และ มีนกยูงด้วยแหละ หยกเห็น 2 ตัวเลยค่ะ ประทับใจมากๆ

ส่วนหลังจากนี้ไป ก็แวะทานข้าว แล้วคุณฝนก็กระหน่ำมา แวะเวียนตลอดวันเลย จนถึงวันพรุ่งเลยค่ะ คนศรีลังกา เค้าว่า ฝนไม่ตกในเขตนี้ มานานมากแล้ว ทุกคน, ต้นไม้, พื้นดิน และสัตว์ต่างๆ เลยดีใจกันใหญ่ที่ฝนตก หยกก็ดีใจด้วยนะ ได้เที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ต่างออกไป เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงจริงๆ
ตัวเมืองที่เป็นย่านการค้าและที่พักยอดนิยมในเมืองอนุราธปุระประมาณว่าเป็นตลาดเดินเล่นซื้อของกินของฝากจะอยู่ฝั่งไหน old หรือ new ครับ
สวัสดีค่ะ คุณ teety
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 ที่พัก ตลาด และร้านอาหารส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งทาง new town หมดเลยค่ะ ฝั่ง old town จะมีแต่โบราณสถานค่ะ
เดินทางปอลดภัยและเที่ยวให้สนุกนะคะ 🙂
เสียดายที่เพิ่งมาเจอรีวิวประเทศศรีลังกาของคุณหยก เพราะผมเพิ่งกลับจากศรีลังกาเลย
ถ้าเจอก่อน คงได้ไปที่ๆเป็น highlight และเป็น local มากกว่านี้ (เที่ยวต่างถิ่น ต้องเที่ยวแบบชุบตัวแบบนี้แหละครับ)
เขียนสนุกมากครับ ^^
สวัสดีค่ะ คุณโจ้
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
ว่าแต่ๆๆๆ นี่พึ่งกลับมา แต่กำลังหาข้อมูลไปเที่ยวรอบสองเหรอคะเนี่ย อิอิ แสดงว่าชอบศรีลังกามากและเที่ยวสนุกมากๆใช่ไหมคะ 🙂 หยกนะไปมาตั้งสามรอบแน่ะค่ะ ยังสนุกทุกครั้งๆและยังอยากไปอีกเลยค่ะ
แนะนำติชม สอบถาม หรือ แชร์ประสบการณ์มาได้นะคะ 🙂
พอดีไปเที่ยวศรีลังกากับทริปที่บ.จัดให้อ่ะครับ…guide ไม่ค่อยแนะนำหรืออธิบายเท่าไหร่ ไปเที่ยวสถานที่ประวัติศาสตร์ ต้องได้องค์ความรู้ไปด้วยจะสนุกสุดๆ
รู้สึกค้างๆ เลยมาหาข้อมูลเพิ่มเติมอ่ะครับ
ที่นี้รู้แล้วว่ามี blog ดีๆ ครั้งหน้าเผื่อไปประเทศที่ตรงกัน จะได้มาหาข้อมูลไว้ก่อน ^^
สวัสดีค่ะ คุณโจ้
เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ ก่อนที่จะเริ่มเที่ยวเองเดินทางเอง ก็ประสบพบเจอและรู้สึกแบบเดียวกันเลยค่ะ รู้สึกว่ามันยังไม่สุด มันน่าจะได้ดีและสนุกกว่านี้สิ พอได้ลุยเอง มันก็เลือกได้ แพลนได้ตามใจค่ะ จะไม่ได้ก็เรื่องกระเป๋าตังค์และเวลา 555+
ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ติดตาม ให้เที่ยวสนุกๆและเดินทางปลอดภัยทุกทริปเลยนะคะ 🙂