
เวียดนาม Vietnam ประเทศเพื่อนบ้านสุดฮิต เที่ยวง่าย เดินทางง่าย ค่าใช้จ่ายไม่แพง วีซ่าไม่ต้อง มาดูข้อมูล เที่ยวเวียดนาม เพื่อเตรียมตัวเที่ยวให้พร้อม ครอบคลุมทุกที่ที่น่าไปที่อยากไป และสนุกที่สุดกันเลยค่ะ
เที่ยวเวียดนาม รอบนี้ หยกไปตะลุยเกือบเดือน ใช้ฟรีวีซ่าที่มีให้คุ้มที่ เมืองใหญ่ๆ ฮิตๆ เช่น ฮานอย, ฮอยอัน, ดานัง, เว้, ซาปา, ฟานซีปัน และ ฟองญา และเมืองใหญ่ๆ ที่ไม่ฮิต เช่น ดงฮอย และ เดียนเบียนฟู ค่ะ (ซึ่งมีรานละเอียดเพิ่มเติมที่ข้อ 6 ด้านล่างนะคะ)
ข้อมูลท่องเที่ยวเวียดนาม จะมีรายละเอียด ดังหัวข้อ (คลิกได้) ต่อไปนี้นะคะ
- 1. ข้อมูลน่ารู้ทั่วไปเกี่ยวกับ ประเทศเวียดนาม
- 1.1) Vietnam อยู่ส่วนไหนของโลก?
- 1.2) จากไทย บินไปลงไหน? เวียดนาม มีกี่สนามบินนานาชาติ?
- 1.3) เวียดนาม ใช้เงินสกุลใด? อัตราแลกเปลี่ยนประมาณเท่าไหร่? เอาเงินไทยไปแลกได้ไหม? แลกเงินที่ไหน?
- 1.4) การแต่งกาย ชุดประจำชาติและหมวก ของ ประเทศเวียดนาม
- 1.5) ปลั๊กไฟ ไป เที่ยวเวียดนาม ต้องเตรียมปลั๊กแบบไหนไปน้า?
- 1.6) เวลาที่เวียดนาม ต่างจากไทยเท่าไหร่?
- 1.7) ซื้อซิมการ์ดใช้ในเวียดนามได้ที่ไหน? ของอะไรดี?
- 2. คนไทยไป เที่ยวเวียดนาม ต้องขอวีซ่าไหมน้า?
- 3. เวียดนาม มีกี่ฤดู? แล้ว เที่ยวเวียดนาม ช่วงไหนดีที่สุด?
- 4. ข้อควรรู้เมื่อท่องเที่ยวใน เวียดนาม
- 5. การเดินทางท่องเที่ยวภายใน เวียดนาม
- 6. เที่ยวเวียดนาม ไปไหนดี? แต่ละที่มีอะไร?
- 7. ราคา กาแฟ และ อาหาร ที่ควรจะจ่าย ใน เวียดนาม
ก่อนที่จะไปเตรียมตัว เที่ยวเวียดนาม สำหรับเพื่อนๆ ที่ ขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศครั้งแรก หรือ มีความกังวลเรื่องการเตรียมตัวขึ้นเครื่อง การผ่านตม หรือ ไม่แน่ใจว่า พกอะไรขึ้นเครื่องได้บ้าง ข้อจำกัดของเหลวยังไง พาวเวอร์แบงค์เอาขึ้นได้ไหม สามารถคลิ๊กลิ้งค์ตัวหนังสือสีส้มๆ เพื่ออ่านบทความที่ละเอียดขึ้น และเพื่อการเตรียมตัวให้พร้อม ได้เลยนะคะ
พร้อมแล้ว ก็ไป เที่ยวเวียดนาม กันได้เลยค่ะ





1. ข้อมูลน่ารู้ทั่วไปเกี่ยวกับ ประเทศเวียดนาม
Vietnam ประเทศเพื่อนบ้านที่มีภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่ภูเขา ทะเล และทะเลทราย ภูมิอากาศที่มีเอกลักษณ์ ร้อนชื้น ฝนตก อบอุ่นแห้ง อากาศเย็นสบาย ไปจนถึงหิมะตก ไปดูความน่าสนใจของเวียดนามกันเลยค่ะ
1.1) Vietnam อยู่ส่วนไหนของโลก?
ประเทศเพื่อนบ้านของเรา มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของคาบสมุทรอินโดจีน เป็นประเทศที่ผอมเพรียวและยาว โดยมีพรมแดนทางทิศเหนือติดกับประเทศจีน ทางทิศตะวันตกติดกับ ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา ทางทิศตะวันออกและใต้ติดกับอ่าวตังเกี๋ย ทะเลจีนใต้ อ่าวไทย ค่ะ
เมืองหลวงของเวียดนาม VIetnam คือ กรุงฮานอย หรือ ฮานอย Hanoi โดยเมืองที่ใหญ่สุดคือ นครโฮจิมินห์ หรือ โฮจิมินห์ Ho Chi Minh City
1.2) จากไทย บินไปลงไหน? เวียดนาม มีกี่สนามบินนานาชาติ?
เวียดนามมีท่าอากาศยานนานาชาติหลายแห่งเลยค่ะ โดยท่าอากาศยานนานาชาติที่มีบินจากไทย ดังนี้
- ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย (Noi Bai) ในกรุงฮานอย – เขตเมืองเก่าโบราณ
- ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat) ในนครโฮจิมินห์ – เขตเมืองใหม่
- ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง (Danang) ในนครดานัง – เขตเมืองชายฝั่งทะเล
- ท่าอากาศยานนานาชาติเลียนเคือง (Lien Khuong) ในดาลัด – เขตเมืองทะเลทราย
เราจึงสามารถเลือกบินจาก ไทย ไปลง เวียดนาม ได้หลายเมืองเลยค่ะ จะเที่ยวที่ไหน แพลนไปไหนบ้าง ตั๋วที่ไหนถูก ก็เลือกบินไปลงที่นั้นได้เลย อย่างหยก บินไปลงที่ ดานัง แล้วเดินทางต่อไปเที่ยว เว้, หรือ จาก ดานัง แล้วเดินทางต่อไปเที่ยวฮอยอัน, ฟองญา, จาก ฮานอย เดินทางไป เที่ยวซาปา ค่ะ





1.3) เวียดนาม ใช้เงินสกุลใด? อัตราแลกเปลี่ยนประมาณเท่าไหร่? เอาเงินไทยไปแลกได้ไหม? แลกเงินที่ไหน?
A. เวียดนามใช้เงินสกุลใด?
หน่วยเงินของ Vietnam คือ ด่ง หรือ ดอง (Đồng) โดยใช้รหัสสากลคือ VND ค่ะ
B. อัตราแลกเปลี่ยนประมาณเท่าไหร่?
อัตราแลกเปลี่ยน ณ 5 กุมภาพันธ์ 2563 คือ 750 VND = 1 THB หรือ 1 VND = 0.0013 THB
C. การใช้เงินเวียดนาม
การใช้เงินที่เวียดนามในช่วงแรกจะสับสนมากหน่อย เพราะตัวเลขที่เยอะมาก ใช้เงินทีเป็นแสน เป็นล้าน นับกันจนตาลายเลยค่ะ แต่คนพื้นเมืองเค้าก็มีวิธีการใช้เงินให้ง่ายขึ้นนะคะ โดยตัด เลข 0 สามตัวท้าย ทิ้งไป เช่น 158,000 VND ก็จะเป็น 158 VND แทนค่ะ หรือบางที่จะระบุ 158K VND โดยที่ K แทน 1,000 ค่ะ
ในส่วนของการดูแบงค์นั้น ใบใหญ่สุด คือ 500,000 VND และใบเล็กสุด คือ 500 VND ค่ะ โดยจะมีแบงค์ของ เลข 5, 2 และ 1 คือ ห้าแสน, สองแสน, หนึ่งแสน, ห้าหมื่น, สองหมื่น, หนึ่งหมื่น, ห้าพัน, สองพัน, หนึ่งพัน และ ห้าร้อย ค่ะ จริงๆ ที่เวียดนามมีแบงค์ สองร้อย และ หนึ่งร้อย และยังมีเหรียญด้วย แต่ปัจจุบันไม่มีการใช้งานแล้วค่ะ
ด้วยตัวเลขสกุลเงินที่มีเยอะมากๆ แบบนี้แล้ว โปรดมีสติตอนจ่ายเงินและรับเงินทอนนะคะ ไม่ต้องรีบร้อน นับเงินให้ดีๆ ก่อนออกจากร้าน และก่อนเก็บลงกระเป๋าเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงจ่ายจ่ายเกินจริงและการรับเงินทอนผิดนะคะ
D. เอา เงินไทยบาท ไปแลกได้ไหม?
ไม่ได้ค่ะ หาที่รับเงินไทยเรายากมากๆ เลยค่ะ (จริงๆ คือหาไม่ได้เลย ไม่มีที่ไหนรับเงินไทยเลยค่ะ) เค้าจะรับเงิน USD และ EUR ค่ะ ดังนั้นแล้ว เตรียมเงินสกุลใดสกุลหนึ่งในสองสกุลนี้ แลกจากไทยไปให้พร้อม ให้เกินพอใช้นะคะ
E. แลกเงินที่ไหน?
ไม่ต้องตกใจไปค่ะ หากหยกจะบอกว่าให้ไปแลกเงินที่ ร้านขายเครื่องประดับ ร้านที่ขายเพชร ขายพลอยค่ะ ใช่ค่ะ ไม่ได้พูดเล่น เพราะร้านเหล่านี้ให้เรทดีและหาง่ายกว่าธนาคารค่ะ (ในเมืองเล็กๆ อื่นๆ ที่ไม่ใช่ ฮานอย หรือ โฮจิมินห์) แถมร้านแลกเงิน(ร้านขายเครื่องประดับ)เหล่านี้ ยังเปิด 24 ชั่วโมงอีกด้วยนะคะ





1.4) การแต่งกาย ชุดประจำชาติและหมวก ของ ประเทศเวียดนาม
ชุดประจำชาติของ เวียดนาม áo dài อ่านว่า อ๊าวส่าย เป็นสำเนียงเวียดนามเหนือ อ่าวหญ่าย หรือ อ๊าวหย่าย เป็นสำเนียงของเวียดนามใต้ ประกอบไปด้วยชุดผ้าไหมที่พอดีตัว สวมทับกางเกงขายาวซึ่งเป็นชุดที่มักสวมใส่ในงานแต่งงาน และพิธีการสำคัญของประเทศ ชุดผู้หญิงคล้ายชุดกี่เพ้าของจีน ในปัจจุบันเป็นชุดที่ได้รับความนิยมมากจากผู้หญิงเวียดนามทั่วทั้งประเทศ ส่วนผู้ชายจะสวมใส่ชุดอ๊าวส่ายในพิธีแต่งงานหรือพิธีศพ
หมวกเวียดนาม nón lá อ่านว่า หนอนหลา คือหมวกงอบรูปทรงกรวย ทำจากใบจาก มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนชนชาติอื่น ทั้งยังเป็นการเพิ่มเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ให้กับสาวเวียดนามอย่างยิ่ง
ยิ่งหากได้ใส่หมวกคู่กับชุดประจำชาติเวียดนามแล้ว ยิ่งดูเข้ากันดีสุดๆ จนเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ใส่เป็นพร๊อพเก๋ๆ ทั้งสวยลงตัว มีเอกลักษณ์ ที่ใครๆ ก็รู้จัก แบบที่ไม่ต้องบอกเลยว่ากำลังท่องเที่ยวอยู่ที่ไหน
1.5) ปลั๊กไฟ ไป เที่ยวเวียดนาม ต้องเตรียมปลั๊กแบบไหนไปน้า?
Vietnam ใช้ปลั๊กเหมือนไทยเราเลยค่ะ คือมีทั้งแบบขาสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ 2 ขา และ แบบขากลม 2 ขา
1.6) เวลาที่เวียดนาม ต่างจากไทยเท่าไหร่?
เที่ยวเวียดนาม ไม่ต้องงง และสับสนเรื่องเวลาค่ะ เพราะเวลาที่ เวียดนาม เท่าเวลาที่ไทยเราเลยค่ะ
1.7) ซื้อซิมการ์ดใช้ในเวียดนามได้ที่ไหน? ของอะไรดี?
เครือข่ายผู้ให้บริการ ใน Vietnam มี 4 เจ้า คือ Viettel, Mobifone, Vinaphone และ Vietnamobile ค่ะ ที่ฮิตฮอต และนิยมใช้กันก็คือ Viettel ค่ะ
แนะนำให้ซื้อซิมการ์ดที่สำนักงานของเครือข่ายผู้ให้บริการนั้นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการได้เบอร์เก่า ที่จะมีคนโทรเข้ามาบ่อยๆ ให้หงุดหงิดและรำคาญใจ, การได้เบอร์ที่มีการใช้งานแล้ว คือมีการลงทะเบียนไว้แล้ว อาจทำให้สูญเสียจำนวนวันจริงที่ควรจะได้ เช่น ใช้งานได้ 30 วัน แต่เบอร์นี้ถูกลงทะเบียนไว้แล้ว (เพื่อให้เร็วในการขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือ มีการนำขายซ้ำ เพราะเบอร์วางแต่ไม่มีคนใช้งาน เป็นต้น) เมื่ออาทิตย์ก่อน เป็นต้น
ซึ่งกรณีที่กล่าวมานี้ สามารถเจอได้ หากซื้อซิมการ์ดที่สนามบิน หรือตามร้านค้าทั่วไปในท้องถนน แต่หากเพื่อนๆ ไม่ซีเรียส มาเที่ยวไม่กี่วัน และไม่อยากเสียเวลาไปซื้อซิมการ์ดที่สำนักงานของเครือข่ายนั้นๆ (ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการลงทะเบียนผู้ใช้ใหม่ ประมาณ 5 – 10 นาทีค่ะ ไม่รวมเวลาเดินทางและรอ กรณีมีคิว)
ส่วนตัวหยกนั้น วางแผนเที่ยว เวียดนาม 30 วัน จึงอยากตัดปัญหา และหลีกเลี่ยงสิ่งไม่พึงประสงค์ที่สามารถก่อความรำคาญ โดยไปซื้อซิมการ์ดใหม่ ที่ลงทะเบียนเพื่อหยกโดยเฉพาะ
ราคาซิมการ์ดที่สนามบินนานาชาติดานัง
แพ็คเกจซิมการ์ด ราคาไม่แพงค่ะ มีให้เลือกตั้งแต่ 7 วัน, 15 วัน และ 30 วัน ราคาประมาณ 150 – 350 บาท ขึ้นกับประเภทแพ็คเกจที่เลือกค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
2. คนไทยไป เที่ยวเวียดนาม ต้องขอวีซ่าไหมน้า?
คนไทยไป เที่ยวเวียดนาม ได้อย่างสบายใจ อยู่ได้สบายๆ 30 วันเต็มเลยค่ะ ไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องมีเอกสารใดๆ ไม่ต้องใช้รูปถ่าย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม พกไปแค่หนังสือเดินทาง (ที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดือนทาง และมีหน้าว่างเหลืออย่างน้อย 2 หน้านะคะ)
3. เวียดนาม มีกี่ฤดู? แล้ว เที่ยวเวียดนาม ช่วงไหนดีที่สุด?
เป็นคำถามที่ตอบง่ายมากเลยค่ะ เพราะเราสามารถมา เที่ยวเวียดนาม ได้ตลอดปี ในสภาพอากาศที่ดี ไม่เลวร้ายตลอดปีเลยค่ะ ทั้งนี้ หากจะถามว่า แล้วช่วงไหนละถือว่าดีที่สุดในรอบปี ก็ขึ้นกับสถานที่ที่เพื่อนๆ จะไปกันค่ะ ว่าอยู่ส่วนไหนของ เวียดนาม เวียดนามเหนือ กลาง หรือ ใต้ โดยทั่วไป เวียดนาม มี 4 ฤดู
3.1) Spring ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
มีอากาศเย็นสบาย แต่อากาศค่อนข้างชื้น เนื่องจากช่วงนี้สามารถมีฝนตกเล็กๆ น้อยๆ ได้ โดยมักจะเริ่มตกในช่วงปลายเมษายน – พฤษภาคม ช่วงนี้จึงเหมาะกับการเที่ยวเวียดนามเหนือ เช่น ฮานอย และ ซาปา เป็นต้น เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นสบาย และมีความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า
3.2) Summer ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
ช่วงฤดูร้อน เป็นช่วงที่มีฝนตกบ่อยที่สุด จึงจะมีสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวที่สุดอีกด้วย ช่วงนี้ที่ภาคใต้จะร้อนมากหน่อย และสามารถมีฝนตกหนักร่วมได้ ดังนั้น ช่วงนี้ไม่เหมาะไปฮอยอัน, ดานัง, เว้ หรือ ดาลัด เป็นต้น





3.3) Fall ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
เป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส และมีฝนตกน้อยกว่าฤดูใบไม้ผลิ จึงน่าเที่ยวมากที่สุด เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งเป็นอย่างมาก เช่น ซาปา เป็นต้น แต่หากมาเที่ยวทะเล แถบเวียดนามกลาง มักจะมีพายุเข้าริมชายฝั่งในช่วงตุลาคม – พฤศจิกายนนะคะ
3.4) Winter ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
เป็นช่วงที่มีอากาศเย็นที่สุด และแห้งที่สุด จึงเหมาะที่จะเที่ยวในเวียดนามเหนือ เช่น ฮานอย และ ซาปา เป็นต้น ซึ่งบนที่สูงบางแห่งสามารถเย็นถึง 0 องศา และมีหิมะตกได้ด้วยค่ะ ทั้งยังเหมาะกับเที่ยวริมทะเล เช่น ดานัง, ฮอยอัน, เว้ และ ดาลัด เป็นต้น เพราะอากาศที่เย็นสบาย
4. ข้อควรรู้เมื่อท่องเที่ยวใน เวียดนาม
- แลกเงินที่ร้านขายเครื่องประดับ พวกร้านขายเพชรพลอยหรือหินสวยงามต่างๆ ไม่ได้พูดเล่นค่ะ ร้านเครื่องประดับเหล่านี้ให้เรทดีกว่าธนาคาร ทั้งยังหาง่ายกว่า มีอยู่ทุกเมือง และที่สำคัญคือส่วนใหญ่จะเปิด 24 ชั่วโมงอีกด้วยนะคะ
- อินเทอร์เน็ต (ไวไฟ) มีให้บริการฟรีแทบจะทุกที่ ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ทั้งร้านกาแฟแบบห้องแอร์และแบบพื้นเมือง (โต๊ะเก้าอี้เล็กๆ นั่งยองๆ) และแม้กระทั่งบนรถทัวร์เลยค่ะ แบบที่ไม่ต้องถามหารหัสเข้าเลย คือเค้าจะแปะติดให้เห็นตัวโตๆ ที่ผนัง หรือ บนโต๊ะอาหารเลยค่ะ
- มีปลั๊กไฟให้บริการแทบจะทุกที่ ทั้งในร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่มีแทบจะทุกโต๊ะเลยค่ะ และใช่ค่ะ แม้กระทั่งบนรถไฟ และบนรถทัวร์บางประเภทก็มีให้บริการเช่นกัน
- กาแฟไข่ และ กาแฟกะทิ หาได้ค่อนข้างง่ายในร้านกาแฟหลายๆ ร้าน หรือแม้กระทั่งในร้านอาหาร แต่กาแฟโยเกิร์ตนั้น จะหาค่อนข้างยากค่ะ ไม่ได้มีขายทั่วไป ดังนั้น หากเจอร้านไหนขาย อย่าลังเลนะคะ แนะนำให้สั่งทันทีเลยค่ะ
- แนะนำให้ลอง “กาแฟไข่ ร้านดั้งเดิม ร้านคนต้นคิดสูตร ที่ ฮานอย ชื่อร้าน “Giang Cafe” ที่อร่อยลงตัว ครีมกาแฟไข่เนียนนุ่มสุดๆ ทั้งราคายังคงราคาพื้นเมืองของจริง คือ 30,000 VND (ไม่ใช่ราคาสำหรับนักท่องเที่ยว คือ 60,000 VND หรือแพงกว่า) อีกด้วยค่ะ”





- ซื้อของ ให้ต่อราคาแบบครึ่งๆ แต่ให้มั่นใจว่าถ้าเค้าให้แล้ว เราจะซื้อด้วยนะคะ ไม่ใช่แค่ต่อราคาเล่นๆ
- “กาแฟขี้ชะมดของจริง” หายากมากๆ กาแฟขี้ชะมดที่เจอตามท้องถนนที่ดูมันเยิ้มๆ นั่นไม่ใช่กาแฟขี้ชะมดของจริง แต่คือกาแฟคั่วกลิ่นคาราเมล
- ตั๋วรถทัวร์ จะได้ราคาจริง (ราคาถูก) ต่อเมื่อซื้อกับบริษัทรถทัวร์โดยตรง หรือ ซื้อผ่านเว็บไซต์ กรณีซื้อกับโรงแรมหรือบริษัทท่องเที่ยว จะได้ราคาที่แพงกว่า
- เข้าห้องน้ำทุกที่ เสียตังค์หมดทุกที่ ตั้งแต่ 1,000 – 5,000 VND แม้แต่ที่ที่มีป้ายเขียนว่า ห้องน้ำสาธารณะฟรี ก็ตาม แต่หากจะเดินเข้าไปเลย และออกมาเลย โดยไม่จ่ายก็ได้ ทำหูทวนลมไป ห้องน้ำสาธารณะจริงๆ ส่วนใหญ่เค้าไม่ตามค่ะ ก็จะปล่อยเราผ่านไป
5. การเดินทางท่องเที่ยวภายใน เวียดนาม
5.1) รถสาธารณะ: รถบัส รถทัวร์ รถตู้ รถไฟ
เที่ยวเวียดนาม เดินทางสบายค่ะ มีรถทัวร์ รถประจำทาง รถไฟ ให้บริการมากมาย จากเหนือจรดใต้ ทั้งจาก เวียดนาม ไปประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาว และ กัมพูชา มีรถให้บริการทั้งจากและเอกชนหลายเจ้า แข่งขันกันเพียบ จนเลือกเดินทางไม่ถูกเลยค่ะ ทั้งยังมีรถออกตั้งแต่เช้ามืดไปจนถึงดึกดื่นเที่ยงคืน คือมีตลอดวันตลอดคืน ขึ้นกับจุดหมายปลายทางที่เราเลือกจะไป
ส่วนราคา ก็หลากหลายเช่นกันค่ะ 55+ การต่อรองราคารถโดยสารพวกนี้เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่หากเพื่อนๆ เลือกซื้อตั๋วโดยตรงกับบริษัทเดินรถ หรือ ซื้อออนไลน์ ก็จะได้ราคาถูกกว่าซื้อผ่านบริษัทท่องเที่ยว หรือ ตามโรงแรม นะคะ
Sleeper bus คืออะไร?
รถทัวร์นอน ที่เรียกว่า sleeper bus อย่าคิดว่าจะเป็นแค่ชื่อรถ หรือ จะเป็นรถทัวร์ประเภทเอนเบาะนอนได้แบบธรรมดาทั่วไปนะคะ เพราะรถทัวร์ประเภทนี้ คือ รถทัวร์นอนจริงๆ ค่ะ กับเตียง 2 ชั้น 3 แถว ที่ปรับเบาะเพื่อมานั่งไม่ได้ เตียงยาวที่มีหมอนรอคอ รอให้ท่านผู้โดยสารขึ้นไปเอนกายสบายใจบนรถ พร้อมผ้าห่ม (และหมอน ในบางคัน) ที่มีให้เลือกทั้งแบบมีห้องน้ำบนรถและแบบไม่มีนะคะ ซึ่งการขึ้นรถนอนแบบนี้ ก็จะมีกฎเล็กน้อย คือห้ามใส่รองเท้า โดยที่พนักงานรถจะแจกถุงพลาสติกให้เพื่อใส่รองเท้าก่อนขึ้นรถค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
ข้อควรรู้ของการใช้บริการ sleeper bus
- ห้ามใส่รองเท้า โดยที่พนักงานรถจะแจกถุงพลาสติกให้เพื่อใส่รองเท้าก่อนขึ้นรถ
- มีทั้งคันที่มีห้องน้ำและไม่มีห้องน้ำ
- มีการหยุดรถค่อนข้างบ่อย ทุก 1.5 – 2 ชั่วโมง เพื่อให้เข้าห้องน้ำ (ถึงแม้จะเป็นรถที่มีห้องน้ำก็ตาม)
- มีการหยุดรถเพื่อให้ทานอาหาร ซึ่งในกรณีนี้ จะหยุดนาน 15 – 20 นาที และจะมีรองเท้าแตะให้ใส่ (มีวางไว้ที่ทางลงรถ เป็นลังใหญ่ๆ เลยค่ะ) โดยที่เราไม่ต้องถือถุงรองเท้าของเราลงมา
- ส่วนใหญ่รถที่เดินทางตอนกลางคืนมักจะมีหมายเลขที่นั่งมาในตั๋ว ส่วนรถที่เดินทางสั้นๆ และเดินทางในช่วงกลางวัน มักจะไม่มีการระบุที่นั่งค่ะ เลือกที่นั่งที่ว่างได้ตามสะดวกเลย
5.2) เช่ารถจักรยานยนต์
การเดินทางด้วยการเช่ารถจักรยานยนต์ และท่องเที่ยวใน ประเทศเวียดนาม นั้นฮิตมากๆ เช่นกันค่ะ ค่าเช่ารายวัน เริ่มตั้งแต่ 100,000 VND ขึ้นกับประเภทรถ และ ระยะเวลาที่เช่ารถ นะคะ
6. เที่ยวเวียดนาม ไปไหนดี? แต่ละที่มีอะไร?
เวียดนาม เป็นประเทศที่เหมาะกับการเที่ยวแบบแบ็คแพ็ค และ เช่ามอเตอร์ไซค์ขับเที่ยวนอกเมืองและเที่ยวระหว่างเมือง (ยกเว้นในเมืองใหญ่ๆ เช่น ฮานอย หรือ โฮจิมินห์)
ที่ เที่ยวเวียดนาม มีเยอะมากมายเลยค่ะ หยกขอแนะนำสถานที่ อิงประสบการณ์กับสถานที่ที่หยกไปมานะคะ โดยที่เพื่อนๆ สามารถคลิ๊กลิ้งค์ที่หัวข้อเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เรื่องการท่องเที่ยวของสถานที่นั้นๆ ได้เลยค่ะ





6.1) Hanoi ฮานอย
เมืองหลวงของ เวียดนาม ความสวยงาม และ มีเอกลักษณ์ใน เขตเมืองเก่า (The Old Quarter) ของตึกรามบ้านช่องสไตล์โคโลเนียล ที่ได้รับอิทธิพลมากจากฝรั่งเศส ที่แน่นขนัด ครึกครื้น และ วุ่นวายไปด้วยความมีเสน่ห์ กับการดำเนินชีวิตประจำวันของคนเมือง ที่ซ้อนเร้นไปด้วยวัฒนธรรม และ ประวัติศาสตร์อันยาวนานที่น่าค้นหา
จาก ฮานอย หยกเดินทางไปเที่ยวต่อ ซาปา ค่ะ โดยเดินทางด้วยรถนอน จาก ฮานอย – ซาปา รถออกเช้านะคะ มีให้เลือก 6.45, 7.00, 7.15 และ 9.30 น ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 5.5 ชั่วโมง รวมเวลาพักเบรค แนะนำรอบ 7.15 น. นะคะ เป็นรถเตียงนอน sleeper bus ไปถึงบ่ายโมงนิดๆ ถึงที่พักก็ได้เวลาเช็คอินพอดีค่ะ มีเวลาช่วงบ่ายให้ได้เดินเที่ยวซาปาด้วย
6.2) Sapa ซาปา และ ขึ้น Fansipan ฟานซีปัน
เมืองซาปา เป็นชุมชนชาวเขาในม่านหมอก ที่โรแมนติก อยู่ที่ระดับความสูงเฉลี่ย 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่ยังเป็นที่ที่มียอดเขาที่สูงที่สุดในเวียดนาม นั่นก็คือ ฟานซีปัน (สูง 3,143 เมตร) ยอดเขาที่ได้รับฉายาว่า “หลังคาแห่งอินโดจีน (Roof of Indochina)” เพราะมีความสูงที่สุดในอินโดจีน (ลาว เวียดนาม และ กัมพูชา) นั่นเองค่ะ
ใครๆ ก็สามารถขึ้นถึง ยอดเขาฟานซีปัน ได้ง่ายๆ โดยการนั่งกระเช้า Fansipan ค่ะ หรือใครที่สนใจ เดินขึ้นฟานซีปัน ก็ได้นะคะ แนะนำแบบค้างแรมด้วย คือ 2 วัน 1 คืน ค่ะ หากเดินไปกลับภายในวันเดียวนั้นจะต้องฟิตมากๆ ค่ะ
นอกจากนี้ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจเทรคกิ้งเนปาล หยกยังมีข้อมูลเทรคกิ้งที่น่าสนใจ สำหรับการเตรียมตัวก่อนไปเทรคกิ้ง ไม่ว่าจะเป็น ประกันการเดินทางที่ครอบคลุมเทรคกิ้ง, เรื่องน่ารู้และการเตรียมตัวเพื่อป้องกัน AMS และ เส้นทางเทรคกิ้งในเนปาล มาแนะนำด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น Poon Hill, Langtang, Manaslu & Tsum หรือจะเป็นเส้นทางน้องใหม่ใกล้ๆ Poon Hill ที่ชื่อ Mohare & Khopra เผื่อจะได้เส้นทางใหม่ๆ และข้อน่ารู้ใหม่ๆ ติดไม้ติดมือไปด้วยค่ะ





6.3) Hoi An ฮอยอัน
ฮอยอัน เมืองมรดกโลก ทางวัฒนธรรม จาก UNESCO กับตึกรามบ้านช่องที่มีเสน่ห์เหลือล้น เดินทางไปได้ง่ายๆ จาก ดานัง ด้วยรถไฟ ที่นอกจากจะสามารถซื้อตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ง่ายและสะดวกแล้ว ยังสามารถรู้เวลารถออก เพื่อวางแผนการเดินทางเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยค่ะ
โดยสิ่งที่เด่นชัดของ ฮอยอัน ก็คือ ตึกสไตล์ชิโนโปรตุกีสผสมผสานโคโลเนียล ในสีเหลืองสด ไหนจะเทศกาลโคมไฟที่จัดขึ้นทุกวันพระจันทร์เต็มด้วย ที่พร้อมใจปิดไฟกันทั้งเมือง แต่กลับสว่างสดใส อย่างมีสีสันกันทั่วเมืองจากโคมไฟหลากสี ผสามผสานไปกับความสว่างของพระจันทร์ที่เต็มดวง
6.4) Danang ดานัง
เมืองชายทะเล ที่ฮิต เดินทางไปง่าย เพราะมีสนามบินนานาชาติ ทั้งยังมี บานาน่าฮิลล์ ที่ท่องเที่ยวสุดฮิตสไตล์ยุโรป ที่ใครๆ ก็รู้จัก แต่หยกยังไม่มีโอกาสได้ไปค่ะ 555+ ซึ่งที่นี่ก็มีที่เที่ยวฮิต นั่นก็คือ บาน่าฮิลล์ ค่ะ
6.5) Hue เว้
เว้ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่เดินทางไปได้ง่ายๆ เช่นกัน จาก ดานัง ด้วยรถไฟ ที่นอกจากจะสามารถซื้อตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ง่ายและสะดวกแล้ว ยังสามารถรู้เวลารถออก เพื่อวางแผนการเดินทางเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยค่ะ
เว้มีโบราณสถาน ที่มีมนต์เสน่ห์หลายแห่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมเยือน หากใครที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์ และชอบชมโบราณสถาน ต้องหลงรัก เมืองเว้ อย่างแน่นอนเลยค่ะ เพราะได้ตะลอนๆ ไปตามสถานที่ต่างๆ ได้ทั้งวัน
6.6) Phong Nha ฟองญา
อุทยานแห่งชาติของประเทศ เวียดนามที่ ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านธรณีวิทยา มีชื่อเสียงในความสวยงามของถ้ำที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำธารใต้ดินขนาดใหญ่ โดย ถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดในเขตนี้





7. ราคา กาแฟ และ อาหาร ที่ควรจะจ่าย ใน เวียดนาม
ค่ากาแฟ ค่าอาหาร ในร้านพื้นเมืองของจริง และร้านสำหรับนักท่องเที่ยว ควรมีราคาประมาณเท่าไหร่ แน่นอนค่ะว่าร้านสำหรับนักท่องเที่ยว จะมีราคาแพงกว่าหลายเท่า ทั้งบางร้านยังมีเมนู 2 แบบ 2 ราคา สำหรับคนพื้นเมือง และนักท่องเที่ยวด้วยนะคะ โดยอันนึงจะเป็นเมนูภาษาเวียดนาม ทั้งภาษาและตัวเลข (ซึ่งแน่นอนว่าเราอ่านไม่รู้เรื่อง) และอีกเมนูเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว หากหยกเจอร้านกาแฟและร้านอาหารที่ใช้ราคานักท่องเที่ยว หยกมักจะเดินออกค่ะ ไม่ทานแน่นอน ก็แบ็คแพ็คนี่ค่ะ และเน้นเที่ยวประหยัดค่ะ 55+
อีกอย่างคือ อาหารและกาแฟที่มีราคาแพงนั้น ไม่ได้การันตีว่าจะอร่อยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จริงค่ะ นอกจากจะจ่ายแพงแล้ว ยังผิดหวังกับรสชาติที่ได้รับด้วยค่ะ (ราคาอัพเดทจากช่วงที่หยกไป เที่ยวเวียดนาม มกราคม 2563 ค่ะ)
- กาแฟดำ เวียดนาม ร้อน,เย็น 10,000 VND ในฮานอยและซาปาจะหาราคานี้ไม่ได้ จะเจอราคา 25,000 VND
- กาแฟนม เวียดนาม ร้อน, เย็น 12,000 VND ในฮานอยและซาปาจะหาราคานี้ไม่ได้ จะเจอราคา 25,000 VND
- กาแฟโยเกิร์ต 20,000 VND ในฮานอยและซาปาจะหาราคานี้ไม่ได้ จะเจอราคา 45,000 VND
- กาแฟไข่ 30,000 VND ในร้านคนต้นคิดสูตรค่ะ ปกติหยกจะเจออยู่ที่ราคา 45,000 VND
- กาแฟกะทิ 45,000 VND
- เฝอเนื้อ และ อาหารประเภทเส้นต่างๆ 25,000 – 35,000 VND ขึ้นกับประเภทของอาหารเส้นนั้นๆ ในฮานอยจะหาราคานี้ไม่ได้ จะเจอราคา 45,000 – 55,000 VND
- ขนมเบื้องญวน ชิ้นละ 20,000 – 25,000 VND
- แหนมเนือง ไม้ละ 20,000 VND
- ปอเปี๊ยะทอด ชิ้นละ 20,000 – 25,000 VND
- ขนมหวาน พวกกะทิต่างๆ 20,000 VND
หากใครไป เที่ยวเวียดนาม แล้วจ่ายเกินกว่านี้ ก็แสดงว่าจ่ายราคานักท่องเที่ยวนะคะ แต่ก็แน่นอนค่ะว่าหากเราเข้าร้านที่เค้ามีเมนู 2 ราคา เค้าก็จะไม่เอาเมนูของคนพื้นเมืองมาให้เราอยู่แล้วค่ะ หรือถึงเอามาให้ เราก็อ่านไม่ออกค่ะ





เป็นยังไงบ้างคะ เวียดนาม ดูเที่ยวง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะ แต่หากเพื่อนๆ ท่านไหนขี้เกียจวางแผน และอยากให้มี คนพาเที่ยวพาลุยแบบสนุกสุดๆ ติดต่อหยกมาให้ จัดทริปพาเที่ยว แบบส่วนตั๊วส่วนตัวได้เลยนะคะ หรือ หากใครมีคำถาม ข้อสงสัย ก็คอมเม้นต์ที่ช่องคอมเม้นต์ข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ
ไปเที่ยวเวียดนามเเบบครบทุกเมือง ต้องเตรียมเงินไปเท่าไหร่คะ ?
สวัสดีค่ะ คุณ Pratipha
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 คิดถึงเวียดนามเลยค่ะ แพลนจะไป เที่ยวเวียดนาม ช่วงไหนคะ?
หยกมีเขียนข้อมูลเรื่องค่าอาหารเวียดนาม ค่ากาแฟ คร่าวๆ (จากช่วงที่หยกไปเที่ยวมาค่ะ) ไว้ในข้อ 7 ค่ะ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่เวียดนามไม่แพงมากค่ะ คล้ายๆ กรุงเทพบ้านเรา ขึ้นกับว่าจะเลือกเข้าร้านอาหารแบบไหน ซึ่งมีตัวเลือกที่หลากราคาเยอะแยะเลยค่ะ หากเลือกเข้าร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว ก็จะราคาสูงหน่อย
ทัั้งนี้ หยกสามารถให้คำแนะนำได้คร่าวๆ ให้คุณ Pratipha ลองคำนวณดูนะคะ เช่น แพลนไปเที่ยวกี่วัน, งบค่าที่พักที่มี เฉลี่ยคืนละเท่าไหร่, ค่าเดินทางไปแต่ละเมือง (ตรวจสอบราคาตั๋วประเภทต่างๆ ได้ที่นี่ค่ะ อันนี้ตัวอย่าง ตั๋วรถไฟจาก ดานัง ไป ฮฮยอัน นะคะ ซึ่งก็ไม่แพงเลยค่ะ), มีเข้าแหล่งท่องเที่ยวใดๆ ไหม (ค่าเข้าเท่าไหร่) และค่าช้อปปิ้งและซื้อของฝาก เป็นต้น
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ รักษาสุขภาพค่ะ