
ตอนนี้การเดินป่า หรือที่เค้าเรียกกันว่า ไฮกิ้ง หรือ เทรคกิ้ง นั้น กำลังเป็นที่นิยม โดยคนไทยเราเริ่มแบกเป้เที่ยวกันมากขึ้น เริ่มลุยกันมากขึ้น เลือกที่จะนอนเต็นท์มากกว่าการนอนในห้องสี่เหลี่ยม เริ่มไปในที่ๆ เป็นธรรมชาติมากขึ้น อาจเป็นเพราะว่า ต้องการหลีกหนีจากโลกการเรียน การทำงาน ที่มันวุ่นวาย ความเครียด และอากาศที่ร้อนมากขึ้น ๆ บวกกับมลพิษที่แย่ ลองสังเกตดูสิคะว่า หากไม่ได้ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์เลย อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกหดหู่ หงุดหงิด อารมณ์เสียง่าย อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เป็นกันใช่ไหมละคะ หยกเป็นบ่อยเชียวค่ะ อาการแบบนี้ที่เรียกว่า “กระหายธรรมชาติ”
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก ทำไมจึงควร ไฮกิ้ง หรือ เทรคกิ้ง สักครั้งหนึ่ง?
หากอยากรู้ว่า ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง เป็นอย่างไร ได้เห็นอะไรบ้าง วิวที่เห็นจะเป็นประมาณไหน คลิ๊กอ่านได้ที่ตัวหนังสือสีส้มตรงนี้เลยค่ะ
หรือหากใครอยากจะรู้ว่า ไฮกิ้งคืออะไร? ต่างจากเทรคกิ้งยังไง? พร้อมเคล็ดลับการกำจัดความกลัวระหว่างการไฮกิ้ง ก็คลิ๊กอ่านได้ที่ตัวหนังสือสีส้มตรงนี้เลยค่ะ
หยกยังมีบทความแนะนำ วิธีการเลือกซื้อกระเป๋าแบ็คแพ็ค โดยสามารถอ่านได้ที่ลิ้งค์ตัวหนังสือส้มๆตรงนี้เลยนะคะ ซึ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ชอบเที่ยวลุยๆ จะได้เลือกกระเป๋าแบ็คแพ็คที่เหมาะกับคุณได้ หรือจะเป็น การเลือกรองเท้าเดินป่า (hiking shoes) ให้เหมาะกับกิจกรรมที่จะทำ รวมทั้งชนิดของรองเท้าเดินป่า และวิธีการดูแลรักษารองเท้า
การท่องเที่ยวในธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งที่คนขวนขวาย และที่สำคัญก็คือ หากเป็นธรรมชาติแบบที่ยังคงสมบูรณ์อยู่ คือที่ๆ สิ่งอำนวยความสะดวกสบายยังไปไม่ถึง ข้อดีอีกอย่างก็คือ “ถูก” โดนใจคนชอบเที่ยวที่มีงบน้อย ให้ไปได้บ่อยขึ้น ได้หลายที่ขึ้นอีกต่างหาก
งั้นถึงเวลาแล้วสินะ ที่จะแบกเป้ แล้วออกเดินทางไปเทรคกิ้งกัน
เหตุผลที่ควร ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง สักครั้งหนึ่งในชีวิตนี้
16. จมูกโล่ง ปอดสะอาด
“อากาศที่บริสุทธิ์ คือ อีกหนึ่งขุมทรัพย์ที่ใครๆ ก็ตามล่า”
แน่นอนค่ะ หากใครเคย ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง แล้ว จะเสพติดโดยไม่รู้ตัว จะมีอาการโหยหาอากาศที่สะอาด บริสุทธิ์ ไร้มลพิษ ตามป่าเขาลำเนาไพรแบบนี้ ที่ชีวิตคนเมือง มนุษย์เงินเดือน ไม่เคยจะได้สัมผัส เช่น การขึ้น สันหนอกวัว ชมทะเลหมอกท่ามกลางภูเขามากมายที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม หรือ สูดอากาศบริสุทธิ์ที่ เกาะตะรุเตา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา

15. ตื่นเต้น ตกใจ โลกนี้ยังมีแบบนี้อยู่อีกเหรอ
“ธรรมชาติสร้างสรรค์สิ่งที่สวยงามเสมอ”
หากใครชอบการเซอร์ไพร์ส ต้องอยู่กับธรรมชาติค่ะ เพราะสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์นั้น ย่อมสวยงาม แปลกตา และ ประหลาดใจเราอยู่เสมอ ๆ เช่น ผาช่อ ที่อุทยานแห่งชาติแม่วาง สิ่งที่เห็นนั้น ธรรมชาติสร้างด้วยดิน หรือ ทะเลเดดซี เฮ้ยมันน่าทึ่งมาก ที่น้ำทำให้คนลอยได้ หรือ กิ้งก่า ที่เปลี่ยนสีเป็นสีฟ้าสดๆ ได้ หรือ ความสวยงามของถ้ำ ไม่ว่าจะเป็น ถ้ำลอด ที่ จ.แม่ฮ่องสอน หรือ ถ้ำธารลอด ที่ จ.กาญจนบุรี ที่ธรรมชาติบันดาลให้มา ที่ๆ เคยมีมนุษย์(ถ้ำ)อาศัยอยู่
ธรรมชาตินั้นสวยงาม และประทับใจเสมอ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ
14. แข็งแรง
“สุขภาพ หาซื้อไม่ได้ อยากได้ต้องทำเอา”
ก่อนการไป ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง ทุกครั้ง หยกจะต้องไปออกกำลังกาย เพื่อวอร์มร่างกายก่อน ก็เพื่อที่ จะได้ไม่ปวดกล้ามเนื้อ เดินแล้วไม่เหนื่อยง่าย ไม่ทรมานระหว่างเดิน คือเดินได้อึดมากขึ้นนั่นเอง แต่ก็นะ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง แบกเป้เองแบบนี้ แถมต้องเดินเป็นกิโล ๆ อีก ไม่แข็งแรงก็ให้มันรู้ไปสิคะ ลองหาโอกาสไปดูนะคะ ที่ Poon Hill ประเทศเนปาล เดินไม่ยาก แต่วิวสวยมาก

13. อารมณ์ดี หน้าเด็ก
“ธรรมชาติไม่เคยทำให้คนดูแก่”
คงไม่มีใครที่ไม่ชอบธรรมชาติ ซึ่งวิวที่คุณได้สัมผัสตลอดสองข้างทาง ของการ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง นั้น ส่วนใหญ่แล้วก็คือธรรมชาติ ซึ่งใคร ๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าต้องสวยงาม สบายหู สบายตา สิ่งเหล่านี้ช่วยบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง ให้หายไปอย่างช้า ๆ ทำให้คุณอารมณ์ดีมากขึ้น ๆ ไร้ความเครียด และ ความกังวล หน้าผากไม่ย่น คิ้วไม่ขมวด ช่วยให้คิดบวก พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ ประมาณว่า ชีวิตนี้มันดี มันสุดยอดจริง ๆ จะหวังอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ริ้วรอยก็ไม่ถามหา แล้วไงค่ะ ก็หน้าเด็กแบบไม่รู้ตัว แค่นั้นเอง
ไปดูความหน้าเด็กของคุณตาวัย 80 ที่ยังแข็งแรงสุด ๆ ด้วยการขึ้น Adam’s Peak ประเทศศรีลังกา เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาท ถึง 69 ครั้ง
12. ประหยัด
“เที่ยวประหยัด ก็มีทริปมากขึ้น”
อย่างงกันค่ะ ประหยัดจริง ๆ เพราะไม่ได้มีร้านกาแฟ ร้านเค้ก หรือร้านอาหารไฮโซใดๆ แต่กลับเป็นร้านค้า ร้านอาหารพื้นเมือง ที่ถูกมาก แต่อร่อยมากด้วยเช่นกัน

11. พบเพื่อนใหม่ รู้จักการสร้างมิตร
“คนคอเดียวกัน เค้าว่าจูนกันง่าย”
ระหว่างการ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง หรือ ที่จุดพัก นั้น คุณจะได้พบกับนักเดินทางท่องเที่ยว หรือ ชาวบ้าน หากคุณไปคนเดียว ก็แน่นอนค่ะ ว่าคุณจะต้องการใครสักคนคุยด้วย พวกเค้าอาจจะทักคุณก่อน จงสานต่อบทสนทนาเหล่านั้นค่ะ หากไม่ คุณก็ทักเค้าก่อน จะเป็นไรไป คุณอาจได้เพื่อนร่วมทาง หรือ เพื่อนร่วมทริปถัดไป ก็เป็นได้ จริงไหมคะ
10. มีความกล้า และมั่นใจมากขึ้น
“ความกล้าและความมั่นใจ มีกันอยู่แล้วในตัว ดึงมันออกมากันเถอะ”
การเดินเข้าไปลุยในป่านั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับมือใหม่ หากคุณมีความกล้า และมั่นใจพอ ที่จะลองทำแล้วละก็ คุณสามารถทำ และลุยได้สบายๆ เพราะทุกคนมีสิ่งเหล่านี้อยู่แล้วในตัว เพียงแค่ต้องการตัวกระตุ้น ดึงมันออกมาเท่านั้นเองค่ะ เมื่อความกล้าและความมั่นใจถูกดึงออกมาแล้ว มันก็จะถูกใช้ได้อย่างง่ายดาย และ ใช้อยู่เรื่อย ๆ ความไม่กล้า และไม่มั่นใจก็จะค่อย ๆ จางหายไป โดยที่คุณไม่รู้ตัว
“เฮ้ย เราทำได้แล้วโว้ยยย”
หากคุณ ไฮ หรือ เทรค สำเร็จแล้ว ที่แน่ ๆ ความรู้สึกแรกที่แว๊บเข้ามา คือ ความดีใจ “เฮ้ย เราทำได้แล้วโว้ยยย” ทั้ง ๆ ที่ตอนแรก คุณอาจจะท้อ จนเกือบจะถอย และไม่แน่ใจว่าคุณจะสามารถทำได้ก็ตาม ความสำเร็จเล็กๆ นี้เองแหละค่ะ ที่จะเพิ่มความมั่นใจในตัวคุณ
9. ฝึกภาษา
“ขอแค่มีความกล้า ภาษาก็ไม่ใช่เรื่องยาก”
นอกจากจะเป็นการสร้างเพื่อนใหม่แล้ว เพื่อนใหม่ที่คุณได้พบเจอนั้น แน่นอนค่ะ เป็นชาวต่างชาติแน่นอน มีทั้งชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และเป็นภาษารอง ดังนั้นไม่ได้หมายความว่า ชาวต่างชาติทุกคนที่เราเจอนั้น จะพูดภาษาอังกฤษได้ ซึ่งก็ไม่ต่างกับเราที่เป็นคนไทยใช่ไหมคะ ที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ และภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ภาษาหลักของเรา ขอแค่กล้าพูด ผิดถูกไม่ต้องสนใจ กล้าสร้างมิตร นอกจากจะไม่เหงาแล้ว ยังเป็นการฝึกภาษาไปด้วย มีแต่ได้กับได้ อย่างนี้ใครจะไม่ลองดูละคะ
8. ใจเย็นมากขึ้น อดทนเป็น
“ชิว”
ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวสไตล์ใด ๆ ย่อมต้องมีเวลาตื่น เวลากิน เวลานอน ที่ไม่เป็นเวลา ง่วงก็อาจจะยังนอนไม่ได้ หิวก็อาจยังไม่ได้กิน โดยเฉพาะการ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง ที่คุณต้องเดินตามป่า ตามเขา ต้องทำเวลาแข่งกับแผนการที่คุณวางไว้ บางครั้งอาจจะต้องตื่นตั้งแต่ตีหนึ่ง เพื่อเตรียมตัวเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือ อาจต้องกินข้าวเที่ยงตอนบ่ายสี่ สิ่งเหล่านี้จะฝึกให้เราเป็นคนใจเย็น และอดทน
7. ได้กำไรชีวิต
“ประสบการณ์ไม่มีขาย อยากได้ก็ต้องทำเอา”
แน่นอนว่าสิ่งที่คุณจะได้พบเห็นระหว่างทางนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ยิ่งการ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง ของคุณที่มากขึ้น ประสบการณ์ก็จะมากขึ้น แต่คุณก็จะยังได้รับการเซอร์ไพร์สจากธรรมชาติอยู่อย่างไม่จบสิ้น เพราะอะไรน่ะเหรอคะ ก็ด้วยสภาพป่า ช่วงเวลา ภูมิอากาศ และ ภูมิประเทศที่แตกต่างกันไปในแต่ละที่ ๆ คุณไปเยือนนั่นไงละคะ
ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณได้เทรคผ่านหมู่บ้าน คุณก็จะได้เห็นความเป็นอยู่ของคนพื้นเมือง วิธีการหาเลี้ยงชีพ การปลูกพืชผักที่เขียวสวย สมบูรณ์ และ น่ากิน หรือ การเลี้ยงสัตว์ที่ดูแข็งแรง สุขภาพดี และตัวโตมาก ที่จะทำให้คุณต้องหยุด เพื่อดู และ พูดคุยกับคนพื้นเมืองเหล่านั้น ทั้งยังได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น การทานอาหารประจำชาตินั้น ๆ การเห็นประเพณีและวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆ กำไรชีวิตดี ๆ นี่เอง

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
6. มีสติ เอาตัวรอดเป็น ไม่โดนหลอกง่าย
“รู้รักษาตัวรอด เป็นยอดดี”
เมื่อเราหลงทาง แล้วเจอคนแปลกหน้าที่เข้ามาถามเราว่าหลงทางเหรอ หากเราไม่มีสติ เพราะตกใจกลัวที่หลงทาง ด้วยสัญชาตญาณของคนเรา ก็จะตอบไปทันทีว่า ใช่ค่ะ เพื่อต้องการความช่วยเหลือ
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เค้าคนนั้นมาดีหรือไม่ จากประสบการณ์ของหยกแล้ว ด้วยสติที่มี จนพอจะมราบได้ว่าใครมาดี หรือ มาร้าย ถ้าเห็นแววไม่สู้ดี ความมั่นใจก็จะเสแสร้งขึ้นมาก่อนเลยค่ะ ตอบออกไปทันที “ไม่ค่ะ แค่เดินมาเล่นชมวิวเท่านั้น มันสวยดี แล้วคุณละ?” เราจะให้เค้ารู้ไม่ได้ว่าเราหลงทาง จนกว่าเราจะแน่ใจว่า เค้ามาดี

5. มองคนออก แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
“สายตาคือหน้าต่างของหัวใจ”
ดูคนออก ไม่หลงกลคนง่าย ๆ ส่วนใหญ่เราสามารถดูคนได้ง่าย ๆ คร่าว ๆ ด้วยสายตา นอกจากนั้น คุณจะเรียนรู้จากประสบการณ์ จากตัวคุณเอง จากเพื่อนใหม่ที่ได้เจอ อ่านคนออก และมองเห็นทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหล่านั้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เร็วขึ้น และ ดีขึ้น
ง่าย ๆ ขอยกตัวอย่างเรื่องหลงทางอีก หากเราหลงทางอยู่กลางป่า คือเพลินกับวิวมากไปหน่อย จนเดินหลงเข้าไปในหมู่บ้าน แล้วมีคนในหมู่บ้านนั้นเสนอตัวที่จะช่วยเหลือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเค้าคนนั้น จริงใจ หรือ ต้องการเงิน หรือ จะหลอกเราไปขาย (สงสัยจะดูละครมากไป 555+) หรือ อื่น ๆ
หากจนตรอกจริง ๆ แบบว่าหลงทางแน่ ๆ แล้ว สิ่งที่หยกจะดู คือหยกจะสังเกตจากสายตาว่า หลุกหลิก เจ้าเล่ห์ หรือ นิ่ง ๆ จริงใจ หยกจะชวนคุยเรื่องทั่ว ๆ ไป แล้วสังเกตจากบทสนทนา สิ่งที่เค้าพูดมา วกไปวนมาไหม ดูล่อกแล่กหรือเปล่า มีเหตุผลพอจะเป็นไปได้ไหม หากยังไม่มั่นใจการเข้ามาช่วยเหลือ ก็บอกเค้าไปเลยว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก รู้สึกเกรงใจจริง ๆ ค่ะ เราพอจะจำทางได้บ้าง (ทั้ง ๆ ที่ จริง ๆ จำไม่ได้เลยก็ตาม) เดี๋ยวไปเองดีกว่า สบายใจกว่า รบกวนบอกทางมาแค่นั้นก็พอค่ะ” พร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นมิตรและแสดงถึงความมั่นใจ เราจะให้เค้าจับเจอความกังวล ความกลัว ของเราไม่ได้เลยนะคะ

4. รู้จักการประนีประนอม
“เธอจะทำแบบนั้น แต่ฉันอยากจะทำแบบนี้ งั้นเราลองทำแบบโน้นดีไหม”
หากเราไปกันมากกว่าหนึ่งคน แน่นอนค่ะ ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันย่อมเกิดขึ้น อาจรุนแรงขึ้นจนกลายเป็น การโต้แย้ง และก่อให้เกิดความอึดอัดใจตลอดเส้นทางการเดินทาง และเมื่อจบทริป ความสัมพันธ์อาจจบลงด้วย ซึ่งแบบนี้ก็มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ
แต่หากเรารู้จักการประนีประนอม เพื่อให้ทริปดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น และทั้งสองฝ่ายยังคงมีความสุขกันอยู่ ความสัมพันธ์ที่ดีก็ยังคงอยู่ มันคงจะดีกว่าไม่ใช่เหรอคะ ลองเจรจากันดี ๆ ตกลงกันดู เพื่อหาทางออกที่ทั้งสองฝ่ายพอใจดูสิคะ
3. วางแผน และ จัดสรรเวลาเป็น
“วางแผนเป็นระบบขึ้น ก็มีเวลามากขึ้น”
การ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง แต่ละครั้ง จะต้องมีการวางแผนให้ดี รู้ระยะทางคร่าว ๆ กะเวลาคร่าว ๆ ว่าเราจะถึงตอนไหน ชมวิวนานแค่ไหน พักกินข้าวจุดไหน เพื่อที่จะต้องกลับให้ทันตะวันตกดิน หรือ ก่อนมืดนั่นเอง โดยเฉพาะการ เทรคกิ้ง ที่ต้องจัดสรรเวลาให้ดี ต้องออกเดินกี่โมง เย็นนี้จะต้องถึงที่แล้วพักที่ไหน เสบียงพอไหม พรุ่งนี้ไปไหน คือต้องวางแผนว่าเส้นทางที่เราเลือกเดินนั้น เราจะทำได้ตามเวลาที่เราตั้งไว้หรือเปล่า

2. นำไปประยุกต์ใช้ได้
“เที่ยวสนุก ทั้งชีวิตประจำวัน และชีวิตการงานก็จะเริ่ดตาม”
นอกจากความสนุก เพลิดเพลิน จากการ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง แล้ว การ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง นี้ ยังเป็นการฝึกตัวเองทางอ้อม ในสิ่งที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นอีกด้วย โดยประสบการณ์ที่ได้จากการ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง ยังสอนอะไรเราหลาย ๆ อย่าง แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ กับชีวิตจริง ชีวิตการงาน และ สังคมรอบข้างได้ เช่น หากเรามีปัญหากับเพื่อนในห้อง หรือเพื่อนร่วมงาน การประนีประนอมก็ต้องมา, ต้องพรีเซนต์งานหรือโปรเจค ความกล้า ความมั่นใจก็ต้องถูกใช้, ต้องส่งงานลูกค้า แต่มีเหตุให้ของส่งไม่ทันกำหนด หรือ ไปไม่ทันนัดสำคัญ เราก็จะต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านั้นให้ได้, มีงานเยอะมาก เราก็ต้องจัดสรรเวลา และ วางแผนให้เป็น เพื่อทำงานได้อย่างมีระบบ และ เสร็จทันเวลา เป็นต้น
1. ท้าทาย และ รู้จักตัวเองมากขึ้น
“เรียนรู้ที่จะรู้จักตัวเอง จากสิ่งที่ท้าทาย”
จุดมุ่งหมายของการ ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง ส่วนใหญ่ก็คือจุดชมวิวที่อยู่สูงขึ้นไป อาจใช้เวลาเป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือเป็นเดือน ในการขึ้นไปถึงที่จุด ๆ นั้น จึงเป็นการท้าทายตัวเองอย่างหนึ่ง คุณจะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วน่ะ คุณมีความสามารถมากกว่าที่คุณคิด
อีกทั้งการที่คุณได้ออกไปปล่อยกายปล่อยใจ ให้ล่องลอยในแต่ละเส้นทางเดินของธรรมชาตินั้น ทำให้คุณได้เห็นอะไรที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณได้ เทรคกิ้ง เป็นระยะเวลาหลาย ๆ วัน ในที่ ๆ ไม่มีความรื่นเริงบันเทิงใจใด ๆ ไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีอินเตอร์เน็ต มีแต่ธรรมชาติกับอากาศที่บริสุทธิ์ปลอดโปร่ง ความเงียบสงบ และ ชาวบ้านที่อาศัยละแวกนั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้นี่เอง ที่จะทำให้คุณ ได้อยู่กับตัวคุณเองแบบจริง ๆ จัง ๆ ทำให้คุณจะได้เริ่มคุยกับตัวเอง และคุยมากขึ้น อาจทำให้คุณค้นพบอะไรบางอย่าง จากก้นบึ้งในหัวใจที่คุณไม่เคยรู้ก็ได้ค่ะ
นี่คือแค่บางส่วนของเหตุผลที่คุณควร ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง ดูสักครั้งในชีวิตนี้ ซึ่งจริงๆ แล้ว มันมีเหตุผลเป็นล้านแปดเลยแหละค่ะ พูดกันได้ทั้งวันทั้งคืน ไม่จบไม่สิ้นเลยทีเดียว แต่มันยาก ยากที่จะทำให้คนที่ไม่เคย ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง นั้น เข้าใจและมองเห็นภาพได้ ของดีแบบนี้ต้องบอกว่าค่ะ ตัดสินใจแล้วลองทำดูนะคะ แล้วคุณจะได้รู้ว่า คุณควรจะได้ลองทำมานานแล้ว ไม่เพียงเท่านั้นคุณจะยังเข้าใจสิ่งที่หยกพยายามจะอธิบายมากขึ้น
หากใครมีข้อข้องใจ ข้อสงสัย อยากได้ความคิดเห็นเพิ่มเติม อยากแชร์ประสบการณ์ หรืออยากเพิ่มเหตุผลที่ควร ไฮกิ้ง เทรคกิ้ง ก็คอมเม้นต์ที่ด้านล่างนี้เลยนะคะ
Great photos! 🙂
Thanks! ?