
ไปไฮกิ้งอีกแล้วค่ะ ที่เมือง Ella ประเทศศรีลังกา (Sri Lanka) เมืองเล็กๆที่รอบล้อมไปด้วยภูเขาเขียวๆมากมาย ไร่นา และน้ำตก ที่ๆหยกไปไฮกิ้งคราวนี้เรียกว่า “Ella Rock”
ใครมาเที่ยวศรีลังกา ก็ต้องไม่พลาดการนั่งรถไฟเที่ยวตามเมืองขุนเขา เมืองไร่ชา ลองนั่งรถไฟจาก Nuwara Eliya ไป Ella สิคะ จะเห็นวิวสวยงามสุดๆ และบรรยากาศการนั่งเพลินมากๆ แต่การไปซื้อตั๋วรถไฟเอาที่นู้น บางทีก็เสี่ยงไม่มีที่นั่ง ต้องได้ยืนเบียดๆ กัน หยกแนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าผ่านลิ้งค์ด้านบนนะคะ ซึ่งตั๋วรถไฟนั้นจำเป็นต้องจองล่วงหน้าก่อน 37 วัน ก่อนวันเดินทางเท่านั้นค่ะ ซึ่งเว็บนี้ยังสามารถจองตั๋วรถสามธารณะอื่นๆ เดินทางทั่วศรีลังกาเลย แพลนดีๆ เตรียมตัวล่วงหน้า จะได้เที่ยวอย่างสบายใจค่ะ

ซึ่งระหว่างทางก็ได้เห็นนกอะไรก็ไม่รู้ ตัวเล็กๆ ขนสีแดงแปร๊ด กำลังจิ๊กๆๆปลีกล้วยอยู่ ซึ่งแย่งกันกินกับเจ้ากระรอก จริงๆค่ะไม่ได้พูดเล่น ซึ่งเจ้ากระรอกน้อยนั้นวิ่งมาแทะๆแล้วก็วิ่งหนีไป แล้วก็วิ่งกลับมาแทะใหม่ เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบเชียวค่ะ ส่วนเจ้านกก็เกาะอยู่ที่เดิม หยุดจิ๊กและเหลือบมองเจ้ากระรอกเป็นพักๆ หยกยืนดูอยู่นาน ถ้าไม่ติดว่าต้องไปไฮกิ้งคงยืนดูจนพวกมันอิ่มกันเลยแหละค่ะ

ไฮกิ้งครั้งนี้จิ๊บๆค่ะ ไม่ใช่เขาหัวโล้น 55+ และก็ไม่สูงมาก อากาศร้อนๆชื้นๆนิดหน่อย ทางเดินของการไฮกิ้ง หรือที่เค้าเรียกว่า Trail ของ Ella Rock หลักๆแล้วอยู่ในป่า มีต้นไม้เล็กใหญ่มากมาย ผ่านลำธารน้อยใหญ่ มีเสียงน้ำตกอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งเสียงของนกและจิ้งหรีด ช่างไพเราะจับใจนัก เห็นธรรมชาติที่สมบูรณ์แล้วสบายใจ๊สบายใจ

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์คนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? สโลเวเนีย? ศรีลังกา? หยกจัดทริปค่ะ
สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!

แต่เอาเข้าจริง ก็เหนื่อยเอาการและรู้สึกว่าไกลเหมือนกัน เดินยังไงก็ไม่ถึงซะที เขาที่เห็นเหมือนจะสูงไม่มาก เพียงแต่การเดินขึ้นเขานี่สิเป็นแบบเดินวนๆรอบๆเขาขึ้นไปเรื่อยๆ เลยเดินนานเชียว (หรือว่าหลงทางแหะ ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้ว) และถึงแม้ทางเดินจะค่อนข้างชัดเจน แต่เนื่องจากมีบ้านคนอยู่บนเขานี้ด้วย จึงมีเส้นทางหลายเส้น คงเพราะอย่างนั้นจึงทำให้หยกเดินหลงทาง เดินเข้าไปในถิ่นพักอาศัยของคนพื้นเมือง แล้วก็หาทางออกไม่ถูกอีก เฮ้ยย
จนเดินไปเจอคุณลุงท่านนึงกำลังตัดต้นไม้อยู่ โดยมีลูกสาว(คิดเอาเองว่าน่าจะเป็นลูกสาว)ยืนให้กำลังใจอยู่ห่างๆ น้องดูเขินๆ เงียบไปเลยหลังจากเห็นหยก ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังคุยเสียงดังเจี้ยวจ้าวอยู่เลย แถมเอามือแกะเปลือกต้นไม้จนจะลอกคราบหมดทั้งต้นอยู่แล้วเนี่ย


เมื่อคุณลุงพอจะเดาได้ว่าหยกหลงทางมา แกเลยอาสานำทางให้ โดยคุยกันภาษามือ (คุณลุงพูดภาษาอังกฤษไม่ได้) และสังเกตจากการที่แกวางขวานลง ถลกโสร่งขึ้น กวักมือเรียกแล้วเดินนำ ใจจริงๆตอนนั้นกลัวนะคะ ทางก็ไปไม่ถูก เกิดไปกับแกแล้วแกพาไปทิ้งไว้สักที่แล้วขโมยของหรือหลอกเอาเงินหรือพาไปทำมิดีมิร้ายล่ะ จะทำยังไง ความคิดในแง่ลบฝุดขึ้นมาเต็มสมอง จึงปฏิเสธแกไป
คุณลุงเลยพยายามจะบอกทางแทน แต่ด้วยการที่พูดกันคนละภาษาบวกกับทางเดินที่วกวนมาก ภาษามือจึงไม่สัมฤทธิ์ผล
ลุงแกเลยถลกโสร่งขึ้นอีกครั้งพร้อมกับกวักมือเรียกและพยักหน้า เหมือนกับพยายามจะบอกว่า
“เชื่อใจลุงนะ ให้ลุงพาไปเหอะ” ด้วยสายตาที่จริงใจบนใบหน้าที่เป็นมิตร แลดูไม่มีพิษมีภัย
เอาไงเอากัน ไปก็ไป
เลยพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มให้และเดินตรงไปที่คุณลุง แกยิ้มกว้างจนเห็นฟันแดงๆจากการเคี้ยวหมากเลยค่ะ
การเดินทางโดยไกด์จึงเริ่มขึ้น ซึ่งก็จริงๆค่ะทางมันวกไปวนมามากๆ แกพยายามชี้ไม้ชี้มือว่าเป็นเพราะเดินหลงตั้งแต่แรกเลยต้องเดินออกจากหมู่บ้าน เมื่อถึงจุดๆหนึ่งแกก็ชี้ประมาณว่าถ้าไม่หลงก็จะเดินตรงมาจากตรงนี้ก็ผ่านทางเข้าหมู่บ้านไป นี่ก็เดาจากภาษามือล้วนๆ
เดินไปสักพัก อากาศชื้นขึ้นเรื่อยๆ ต้นไม้เตี้ยๆ ก็เยอะขึ้น และก็รู้สึกเย็นๆที่เท้า แบบหืม..อากาศร้อนจนเหงื่อแตกทำไมเท้าเย็นๆ สงสัยเหงื่อมันเย็น เดินไปได้อีก 2-3 ก้าว อืม..มันไม่ใช่ล่ะ เลยหยุดพร้อมกับถกขากางเกงขึ้น กระโดดโลดเต้นพร้อมกับกรี๊ดลั่นป่าเลยค่ะทีนี้ ปลิงตัวอ้วนๆเกาะที่เท้าหยกนั่นเอง คุณลุงหัวเราะใหญ่เลย มันไม่ขำเลยนะคะตอนนั้น แล้วแกก็หยิบมันออกไปให้ ดีนะที่ยังไม่ได้ดูดเลือดหยก ไม่งั้นเลือดกระจายแน่
แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ โดยมีคุณลุงเป็นผู้นำทาง แกเดินเร็วและชำนาญทางมาก นำลิ่วๆแล้วก็หยุดยืนรอเป็นเช่นนี้ไปตลอดทาง
อีกแล้วคะ เย็นที่เท้าอีกแล้ว ยืนนิ่งคะที่นี้ หลับตาปี๋ เอายังไงดี คุณลุงแกก็ยืนรออยู่ไกลๆนู้น แกคงเห็นว่าหยกยืนนิ่งๆตัวเกร็งๆอีกแล้ว แกเลยรีบวิ่งมา พร้อมกับหยกที่ชี้ไปที่เท้า ปลิงอีกแล้วค่ะ แกเลยหยิบออกให้แล้วหัวเราะพร้อมส่ายหัว
ก็คนมันกลัวนี่นา…

นี่ขนาดหยกใส่กางเกงขายาวนะเนี่ย แค่กับรองเท้าแตะเท่านั้นเอง 555+ เตรียมตัวพร๊อมพร้อมเนอะ
จากนั้นแกก็เดินช้าลง แล้ววงจรชีวิตการไฮกิ้งของหยกก็เป็นแบบนี้อยู่หลายที ทำไมมันไม่กัดลุงแกมั้งนะ กลัวมากจนอยากกจะกลับ แต่ก็ใกล้จะถึงยอดแล้ว จะเดินกลับก็ต้องเจอปลิงอีกอยู่ดี

และแล้วก็นึกได้ว่าหยกมีสเปรย์กันยุงตะไคร้หอมนี่นา นึกได้ปุ๊บ ก็รู้สึกเย็นๆที่เท้าปั๊บ จึงรีบถกขากางเกงแล้วระดมฉีดมันเข้าไปทันที ปลิงกลิ้งหล่นลงพื้นเลยค่ะ
…ปลิงจ๋า ขอโทษนะ เค้าไม่ได้ตั้งใจ ก็เค้ากลัวนี่นา…
ปลิงที่นี่ตัวอ้วนๆยาวประมาณ 2 เซนติเมตร แต่สามารถยืดได้กลายตัวผอมๆยาวเป็นนิ้วเลย ตัวสีน้ำตาลอ่อนๆมีลายดำๆ ดูเมือกๆ ลื่นๆ เวลาโดนตัวเรานี่เย็นเชียวค่ะ รู้ได้ง่ายๆเลย

ความระแวงมีมากขึ้น เดินย่องๆไป เหนื่อยมากบอกเลย ปลิงมันชอบหยกจริงจัง เกาะอยุ่นั่นแหละเป็นสิบยี่สิบตัว กว่าจะคิดได้ว่าทำไมไม่สเปรย์เท้าตัวเองไว้ มันจะได้เหม็น(หรือเปล่า)แล้วไม่เกาะ เอาค่ะ สเปรย์จนเปียก กลิ่นตะไคร้หอมนี่ฉุนทั่วป่าเลย คุณลุงจามไปหลายทีเลยค่ะ จากนั้นก็พ้นสภาพการเป็นเหยื่อของปลิงซะที
แล้วก็ถึงจุดยอดของ Ella Rock ค่ะ คุณลุงก็นั่งรออยู่ห่างๆให้หยกนั่งเพลินปล่อยใจไปกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า


ใครเลือดหวานบ้างคะ? หรือใครเคยมีประสบการณ์ถูกปลิงดูดเลือดบ้าง?
เล่าให้หยกกับ SanookTiew ฟังด้วยนะคะ
มีข้อสงสัย คำถาม หรือ อยากแชร์เรื่องเที่ยว คอมเม้นต์ที่ช่องนี้ได้เลยค่ะ