วันนี้หยกต้องเดินทางไปอีกเมือง เลยอุตส่าห์ตื่นแต่เช้า แต่ไหงเมื่อมาถึงแล้ว ปรากฎว่าไม่มีรถออกช่วงเช้าเลย หยกมาถึงสถานีขนส่ง ก่อนแปดโมงค่ะ เพราะตั้งใจว่าจะไปให้ถึง เมืองดินาจปูร์ (Dinajur) ประเทศบังกลาเทศ เร็วหน่อย เพราะใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
โดยมาขึ้นรถที่ สถานีรถทัวร์ที่ เมืองโบกรา (Bogra) ซึ่งเป็นสถานีรถทัวร์ที่ค่อนข้างใหญ่ แล้วจะหารถไปเมืองดินาจปูร์ เจอไหมเนี่ย
แต่เอาเข้าจริง หายห่วงค่ะ เพราะแค่ย่างก้าวลงจากสามล้อ ก็มีกลุ่มคนมากมายกรูเข้ามาพร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยมีกลุ่มคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ประมาณ 6 – 7 คน เข้ามา ถามว่าจะไปไหน พอทราบว่าจุดหมายปลายทางที่หยกจะไป ก็พากันเดินนำลิ่วๆ เลย พร้อมกับกวักมือให้เดินตาม และเมื่อมาถึง ก็ชี้ๆ ตำแหน่งที่ควรจะมีรถจอด แล้วก็ยืนเป็นเพื่อนหยกทั้งกลุ่มแบบนั้น พอหยกจะเดินไปที่อื่นก็ไม่ยอมให้ไป
หยกเลยยืนงงๆ เคว้งๆ ได้สักพัก โชคดีที่มีคนพูดภาษาอังกฤษได้เดินเข้ามา จึงได้ทราบว่า รถรอบแรกออกเวลา 10.30 น. ถึงบางอ้อก็ตรงนี้.. เสียใจ อุตส่าห์ตื่นเช้า
แต่ก็ทำให้ได้ประสบการณ์ในแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลยนะคะ
ทั้งนี้ เค้ายังแนะนำให้ไปรอโบกรถที่ไม่จอดที่นี่ แต่จะไปดินาจปูร์ที่ตรงถนนใหญ่

การผจญภัยเล็กๆ จึงเกิดขึ้น เมื่อมาถึงถนนใหญ่ กลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลือได้ขยายวงกว้าง เป็นเกือบ 15 คน เบงกาลีมุงจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง การพูดคุยทักทายมีอยู่เรื่อยๆ เมื่อมีรถประจำทางผ่าน หลายๆคนช่วยกันตะโกนเพื่อถามว่ารถผ่านดินาจปูร์ไหม แต่..ก็ยังไม่มี
รอและพูดคุยกับคนท้องถิ่นต่อไป..
สักพักมีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก เดินลงมาจากรถประจำทางที่พึ่งเข้ามาจอด แล้วก็เดินเข้ามาหาหยก และถามหยกว่าขอคุยด้วยได้ไหม จากนั้น ก็แนะนำตัวเองด้วยเสียงที่ทั้งสั่น ทั้งรัว และเร็ว แต่ปนไปด้วยความดีใจ ด้วยสำเนียงที่ไม่คุ้นชิน ผสมกับเสียงที่สั่นรัว และเร็วของน้อง หยกจึงจับใจความสั้นๆได้ว่า น้องเค้าเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเอกภาษาอังกฤษ เมื่อเจอชาวต่างชาติจึงอยากมาฝึกภาษา (คิดในใจ น้องคิดผิดแล้วล่ะคะ ภาษาอังกฤษพี่ก็คงไม่ต่างจากน้องสักเท่าไหร่)
บทสนทนาดำเนินไปได้สัก 2 – 3 นาที น้องก็ขอตัวลาพร้อมกับวิ่งขึ้นรถคันเดิม แล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไปพร้อมกับน้องที่ยื่นหน้าออกมาทางหน้าต่างและโบกมือเพื่อบอกลาอีกครั้ง
ช่างประทับใจจริงๆ

เวลาขณะนี้ก็ 10.20 น.แล้ว จึงตัดสินใจเดินกลับไปที่เดิม ที่ๆ รถรอบแรกจะมา พร้อมกับขบวนผู้ให้ความช่วยเหลือ สักพัก ก็มีรถเข้ามาเทียบ เป็นอันว่าการมาเร็ว และต้องรอรถนานเป็นชั่วโมงๆครั้งนี้ ไม่สูญเปล่า นอกจากจะรู้ว่าเวลาอันน้อยนิดสามารถทำให้มีค่าขึ้นมาได้แล้ว ยังได้ตอกย้ำถึงความมีน้ำใจและมิตรภาพดีๆจากคนท้องถิ่นอีกด้วย
เพียงแค่ช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงทำให้หยกได้ข้อคิดดีๆ ดังต่อไปนี้
ข้อได้เปรียบที่ไม่คาดคิดจากการเดินทาง
1. ควรหาข้อมูลการท่องเที่ยวที่อัพเดท และเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
ความพร้อมของตัวเรา และของข้อมูลสำหรับท่องเที่ยวนั้น นอกจากจะช่วยให้เราสบายใจ มั่นใจขึ้นแล้ว ยังจะช่วยให้ทริปนั้นๆ มีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
2. เวลาเพียงเล็กน้อยแค่ 2 – 3 นาที ก็สามารถทำให้มีค่าขึ้นมาได้ หากเรา รู้จักที่จะใช้มัน

เห็นไหมคะ หากเรารู้จักที่จะใช้เวลาแล้วละก็ เวลา 24 ชั่วโมงที่เรามีเท่าๆ กับคนอื่นๆ นั้น ก็จะคุ้มค่าขึ้นมาทันที
3. กล้าที่จะตัดสินใจ และลงมือทำ
เวลาไม่เคยคอยใคร แถมผ่านไปเร็วอีกต่างหาก แก้ไขอดีต และเรียกกลับมาก็ไม่ได้นะคะ แต่หากสิ่งที่เราตัดสินใจไปเกิดผิดพลาด (ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน) ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ แน่นอนว่าเราได้การเรียนรู้จากประสบการณ์ และจะไม่มีการผิดพลาดครั้งที่สอง
4. เปิดโลกให้กว้างขึ้น และ เกื้อหนุนกัน
การท่องเที่ยว นอกจากจะเป็นการ เปิดโลกให้กว้างขึ้น เพื่อเห็นมุมมองของการดำรงชีวิต และการเกื้อหนุน ที่แตกต่างกันไปแล้ว ยังเพิ่มศักยภาพในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

5. ความมีน้ำใจและความช่วยเหลือของคนเราไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ๆแตกต่าง ทั้งภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม ซึ่งมีสิ่งเดียวที่เหมือนกันก็คือ “ความเป็นมนุษยชน” ไม่ว่าจะไปที่แห่งไหน ไม่มีคำว่าเหงาแน่นอนค่ะ
6. หากเรารู้จักเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส
เปลี่ยนอารมณ์ที่หงุดหงิดและขุ่นมัวให้สดใส ไม่เพียงแค่โอกาสดีๆ ที่เราจะได้ แต่ยังมีมิตรภาพและเพื่อนใหม่ (ถึงแม้จะผ่านเข้ามาและก็ผ่านไป) ไว้ในความทรงจำ และกลายเป็นเรื่องเล่าอย่างไม่มีวันลืม

ใครมีเรื่องดีๆ อยากแชร์ ที่เกิดขึ้น กับสิ่งที่ไม่คาดคิด ภายในเวลาอันสั้นๆ แต่ประทับใจไม่รู้ลืม ก็คอมเม้นท์ที่ด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ
มีข้อสงสัย คำถาม หรือ อยากแชร์เรื่องเที่ยว คอมเม้นต์ที่ช่องนี้ได้เลยค่ะ