
Adam’s Peak หรือ Sri Pada หรือ ศรีปาทะ หรือ ศรีบาทา อยู่ในเขตภาคกลางตอนล่างของประเทศศรีลังกา เป็นภูเขาสูง 2,243 เมตร ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นที่ๆ ขึ้นชื่อในการชมพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางทะเลหมอกสีขาวโพน ที่จะทำให้ท้องฟ้าทั้งฟ้ากลายเป็นสีส้ม (หากโชคดี) ท่ามกลางภูเขาเขียวๆ หลายสิบลูก อีกทั้ง Adam’s Peak ยังเหมาะสำหรับผู้แสวงบุญ เพื่อทำบุญ และ สักการะรอยพระพุทธบาท และ ยังเป็นที่แนะนำที่ห้ามพลาด ของผู้ชอบทำกิจกรรมลุยๆ ที่มาเที่ยวที่ศรีลังกา เพื่อไปพิชิตยอดเขาแห่งอดัมนี้
บทความนี้ จะมีข้อมูลดังต่อไปนี้ เพื่อนๆ ชาวสนุกเที่ยว สามารถเลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้ตามสะดวกเลยนะคะ
- Adam’s Peak อยู่ที่ไหน แล้วไปทำไม
- เสียค่าเข้าไหม แล้วเปิด ปิด ให้ขึ้นช่วงใด
- จะไปขึ้น Adam’s Peak ต้องเดินทางไปที่เมืองไหน ยังไง ราคาเท่าไหร่
- เดินยากหรือเปล่าเนี่ย หนทางที่จะเจอเป็นเยี่ยงไร ระยะทางไกลแค่ไหน
- ควรเริ่มเดินขึ้นกี่โมงดีน้า
- ถ้าปวดเข้าห้องน้ำ ระหว่างเดินขึ้น Adam’s Peak จะทำอย่างไรละเนี่ย
- เรื่องเล่าระหว่างการเดินขึ้น – ลง จุดไหนยาก อะไรที่ต้องระวัง อะไรที่ไม่ควรทำ และอะไรที่ประทับใจ
- ห้องน้ำบนยอด Adam’s Peak
- ทริคในการเดินขึ้น-ลง เพื่อไม่ให้เจ็บกล้ามเนื้อในวันถัดๆไป และถนอมหัวเข่า
- สิ่งที่ต้องเตรียม หากต้องการขึ้น Adam’s Peak และ การแต่งกายรับลมหนาว
- แนะนำที่พัก ใกล้ทางเดินขึ้น Adam’s Peak
แต่ก่อนจะไปเตรียมตัวขึ้น Adam’s Peak มาดูที่เที่ยวอื่นๆใน ศรีลังกา กันก่อนดีกว่าค่ะ โดยสามารถคลิ๊กอ่านได้ที่ตัวหนังสือสีส้มๆเลยนะคะ ขอเริ่มที่ ข้อมูลท่องเที่ยวศรีลังกา ที่มีรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อการเดินทางท่องเที่ยวเองในศรีลังกามาฝากค่ะ และสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายที่ ที่ห้ามพลาดในศรีลังกา มาแนะนำด้วยนะคะ Anuradhapura (อนุราธปุระ) เมืองมรดกโลก เมืองเก่า เมืองโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ และไปสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์, เยี่ยมชมพระราชวังลอยฟ้า Sigiriya (สิกิริยา) เมืองมรดกโลกอีกเมือง ที่เป็นปราสาทหินเก่า และป้อมปราการ ที่มีวิวด้านบนรอบทิศ สวยมากๆ ระยะทางเดินขึ้นก็สั้นๆ เองค่ะ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ, ที่พลาดไม่ได้ก็คือ เมือง Kandy (แคนดี้) นี่ก็มรดกโลกอีกแล้ว เมืองท่องเที่ยวที่ครึกครื้น ไม่หลับใหล สะดวกสบาย มีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเมือง มีสมบัติล้ำค่าคู่บ้านคู่เมือง และยังมีสวนพฤกษชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดในเอเชียใต้อีกด้วย และเมือง Galle อีกเมืองเก่า เมืองประวัติศาสตร์โรแมนติก เมืองมรดกโลกในศรีลังกา จากนั้นก็แวะไปลุย ขึ้น Sri Pada หรือ ยอดเขาอดัม เพื่อชมแสงอาทิตย์แรกของวัน ท่ามกลางทะเลหมอก ที่ยอดเขาสูง 2,243 เมตรเลยเชียว นี่ก็มรดกโลกนะเออ และหากยังมีเวลา หยกแนะนำให้ขึ้นเหนือค่ะ ไปเที่ยวเมือง Jaffna (จาฟฟ์น่า) กันค่ะ เมืองท่องเที่ยวที่พึ่งเปิดใหม่ หลังสงครามที่ยาวนานเกือบ 26 ปี เมืองนี้จึงสดใหม่ น่าเที่ยวมาก ใครที่ชอบทะเล ชอบปั่นจักรยาน ไม่ควรพลาดเลยค่ะ
ทีนี้ก็ไปเตรียมตัวให้พร้อมลุย รับแสงแรกของวันได้เลยค่ะ

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
1. Adam’s Peak อยู่ที่ไหน แล้วไปทำไม
Adam’s Peak อยู่ในเขตเมือง Sabaragamuwa (ซาบารากามูวา) โดยบนยอดนั้นมี “ศรีบาทา” หินขนาด 1.80 เมตร ที่คนนับถือเกือบทุกศาสนา สามารถมาที่นี่ เพื่อแสวงบุญ โดยศาสนาพุทธ ถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทข้างซ้ายของพระโคตมพุทธเจ้า, ศาสนาฮินดู ถือว่าเป็นรอยเท้าของพระศิวะ, ส่วนศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม ถือว่าเป็นรอยเท้าของอดัม
เอกลักษณ์ของยอดเขาที่มองไกลๆ ก็รู้ว่านี่คือ Adam’s Peak คือ เป็นยอดเขารูปโคน หรือ สามเหลี่ยมพิรามิด โดยที่มีหลายชื่อมากเลยแหละค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ยอดเขาแห่งอดัม, ศรีบาทา, Sri Padaya, Sri Padaaya, Butterfly Mountain, ภูเขาผีเสื้อ และคนท้องถิ่นจะรู้จักในชื่อ Sri Pada หรือ ศรีปาทะ

2. เสียค่าเข้าไหม แล้วเปิด ปิด ให้ขึ้นช่วงใด
การขึ้น Adam’s Peak ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะคะ และเปิดให้ขึ้นตลอดปีค่ะ แต่ช่วงที่ชาวศรีลังกา จะเดินทางขึ้น Adam’s Peak เพื่อไปแสวงบุญ และ สักการะรอยพระพุทธบาท จะเป็นช่วงเดือนธันวาคม ถึง เดือนพฤษภาคม ดังนั้น ในช่วงนี้ เส้นทางขึ้นจะค่อนข้างครึกครื้น มีแสงไฟ ร้านรวงเปิดขายของตลอดทาง ตลอดคืน แต่หากจะมาขึ้นนอกช่วงแสวงบุญก็ทำได้ค่ะ แต่ต้องเตรียมไฟฉาย น้ำดื่ม และเสบียงมาเองค่ะเพราะเค้าจะไม่เปิดไฟตลอดทาง และ ร้านค้าอาจมีน้อย หรือไม่มีเลยก็ได้ค่ะ
หลีกเลี่ยงการขึ้น Adam’s Peak ในช่วงพระจันทร์เต็มดวง หรือ ช่วงปีใหม่ของชาวศรีลังกา (สัปดาห์กลางเดือนเมษายน เหมือนช่วงสงกรานต์บ้านเราค่ะ) หรือ ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ เพราะคนจะเยอะมากๆ เยอะจนอาจจะไม่สามารถเดินขึ้นไปถึงจุดบนสุดได้เลยค่ะ
3. จะไปขึ้น Adam’s Peak ต้องเดินทางไปที่เมืองไหน ยังไง ราคาเท่าไหร่
เส้นทางเดินขึ้น ศรีปาทะ หรือ Adam’s Peak นั้น มีอยู่ 5 – 6 เส้นทางเลยทีเดียวค่ะ แต่ทางที่นิยมมากๆ คือ เริ่มเดินจาก หมู่บ้าน Dalhousie (ดาลเฮาซี่) และ อีกทาง คือ จากเมือง Ratanapura (รัตนปุระ)
แต่ส่วนใหญ่แล้ว นักท่องเที่ยว หรือ แม้แต่ชาวศรีลังกาเอง จะเลือกพักที่หมู่บ้าน Dalhousie เมือง Nallathanniya (นาลลาทันนิยา) และ เริ่มเดินจากที่นี่ค่ะ เพราะระยะทางเดินสั้นกว่า

การเดินทางไปหมู่บ้าน Dalhousie นั้น สามารถทำได้โดย
1). การนั่งรถไฟ หรือ รถทัวร์ ไปลงที่ เมือง Hatton (แฮตตัน) ค่ะ จากนั้น ก็นั่งรถเมล์จาก Hatton ไปลงที่ หมู่บ้าน Dalhousie ที่เมือง Nallathanniya (ราคา 70 RS หรือ ประมาณ 17.5 บาท ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ)
2). หรือ นั่งรถจาก Hatton ไป Maskeliya (มัสเกลิยา) (ราคา 43 RS ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) แล้วต่อรถจาก Maskeliya ไป Dalhousie ในเมือง Nallathanniya (ราคา 40 RS หรือ ประมาณ 10 บาท ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)
ทั้งนี้ก็ขึ้นกับว่า ช่วงที่คุณไปถึง Hatton นั้น รถคันที่ไป Maskeliya หรือ Nallthanniya จะออกก่อน ก็ขึ้นคันนั้นได้เลยค่ะ
4. เดินยากหรือเปล่าเนี่ย หนทางที่จะเจอเป็นเยี่ยงไร ระยะทางไกลแค่ไหน
ระยะทางเดินขึ้นนั้น 7 กิโลเมตรค่ะ ดังนั้น รวมขึ้นและลง ก็ 14 กิโลเมตร โดยที่ทางเดินจะเป็นขั้นบันได ประมาณ 5,200 ขั้น ซึ่งจะมีหลายช่วงที่สูง ชัน แต่ช่วงไหนที่สูงๆ ชันๆ ก็มักจะมีราวเหล็กไว้ให้จับนะคะ
ช่วงแรกจะเดินทางลาด ผ่านร้านขายของฝาก ของที่ระลึก ขายขนม และ ผ่านไร่ชา (ซึ่งตอนขึ้นนั้น มองไม่เห็นหรอกค่ะ เพราะมันมืดไปหมด แต่จะเห็นตอนขาลง) แล้วสลับเป็นบันไดขั้นกว้างๆ ประมาณว่าต้องก้าว 2 ก้าวต่อ 1 ขั้นบันได จากนั้นก็เริ่มขึ้นบันไดชันขึ้นๆ สูงขึ้นๆ

ขาขึ้นไม่ค่อยยากเท่าไหร่ค่ะ แค่จะเหนื่อยหอบเป็นธรรมดา ส่วนขาลงนี่สิ สงสารหัวเข่าจับใจ แต่มันไม่ยากเลย หากรู้เทคนิคการเดินลงที่ถูก โดยที่จะไม่มีอาการปวดกล้ามเนื้อขาเลยในวันถัดๆ ไป ซึ่งหยกจะได้กล่าวที่ด้านล่างนะคะ
5. ควรเริ่มเดินขึ้นกี่โมงดีน้า
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะพักค้างคืนที่เมือง Dalhousie เพื่อเริ่มเดินขึ้นไปที่ Adam’s Peak โดยมีจุดประสงค์เดียวกัน คือ การไปชมพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ จึงมักจะเริ่มเดินตั้งแต่เที่ยงคืน แต่ไม่เกินตี 2 ครึ่ง โดยใช้เวลาเดิน 3 – 6 ชั่วโมง ขึ้นกับสภาพความแข็งแรง และ ความพร้อมของร่างกาย

ตัวหยกเอง ไป Adam’s Peak 2 ครั้งแล้วค่ะ ห่างกัน 5 ปี โดยครั้งแรก (ประสบการณ์ลุยยังน้อยอยู่ 55+) หยกเริ่มเดิน (จากโรงแรม) ตั้งแต่ ตี 1 ครึ่ง ถึงร้านชาร้านสุดท้าย ก่อนบนสุด ซึ่งจะมีป้ายบอกว่า “Last Tea Shop” ตอน ตี 5 ครึ่ง และ จากร้านชาร้านสุดท้าย จะใช้เวลาเดินประมาณ 5 – 15 นาที จะถึงด้านบนสุดค่ะ
ส่วนครั้งนี้ หยกเริ่มเดิน (จากโรงแรม) ตั้งแต่ ตี 2 ครึ่ง และถึงร้านชาร้านสุดท้าย ตอน ตี 5 นิดๆ ซึ่งหยกแนะนำว่า ควรไปถึงสักประมาณตี 5 ครึ่ง เพื่อให้มีเวลาพัก จิบชาร้อนๆ ทานอะไรเติมพลังงานก่อน และมีเวลาไปจองที่ชมพระอาทิตย์ขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณไปช่วงเทศกาล เช่น ปีใหม่ หรือ วันเสาร์ – อาทิตย์ ที่คนอาจจะเยอะเป็นพิเศษ จนแทบไม่มีทางเดินขึ้นไปถึงยอดได้เลย

6. ถ้าปวดเข้าห้องน้ำ ระหว่างเดินขึ้น Adam’s Peak จะทำอย่างไรละเนี่ย
มีห้องน้ำให้บริการตลอดเส้นทางเลยค่ะ โดยเสียค่าบริการ ครั้งละ 20 RS หรือ ประมาณ 5 บาท
7. เรื่องเล่าระหว่างการเดินขึ้น – ลง จุดไหนยาก อะไรที่ต้องระวัง อะไรที่ไม่ควรทำ และอะไรที่ประทับใจ
7.1 เตรียมพร้อมก่อนลุย
คืนก่อนขึ้น Adam’s Peak หยกเตรียมเสบียง น้ำดื่ม ของใช้อื่นๆ ใส่กระเป๋าไว้พร้อม ส่วนไฟฉายคาดศีรษะ และพวกอุปกรณ์กันหนาวก็วางไว้บนกระเป๋าเตรียมใส่ก่อนออกเดินตอนตี 2 ครึ่ง คือตอนตี 2 นิดๆ เนี่ยมันหนาวมากเลย เลยใส่ทุกอย่างแบบจัดเต็ม แถมเอาเสื้อเข้าในเลคกิ้งฮีทเทค เอาเลคกิ้งฮีทเทคใส่ในถุงเท้า แถมแขนเสื้อหนาวก็เป็นแบบจั๊ม ประมาณว่า เจ้าลมหนาวเอ๋ย อย่าหวังว่าจะเล็ดลอดเข้าไปภายในเสื้อผ้าข้าพเจ้าได้เลย

7.2 ความพร้อมที่ล้มเหลว 55+
ตอนออกมานี่หนาวจริงๆ ค่ะ มือเย็น หน้าสั่น หน้าชาเชียว แต่พอเริ่มเดินได้สัก 10 – 20 นาทีนี่สิ รู้สึกอึดอัดมากๆ เหมือนร่างกายขาดอากาศ ถอดเสื้อ, เอาเสื้อออกนอกกางเกง, เอากางเกงออกนอกถุงเท้า และถกเลคกิ้งขึ้นมาถึงหัวเข่าแทบไม่ทันเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็เดินสบายขึ้นค่ะ ถึงแม้ในใจจะอยากถอดเสื้อหนาวผ้าวูล และ เลคกิ้งฮีทเทคออกก็ตาม แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ หยกก็ยังคงเปิด ไฟฉายคาดศีรษะ ที่ถูกห้อยไว้ที่คออยู่ตลอดทางค่ะ ถึงแม้ว่าระหว่างทางเดินจะมีไฟเป็นช่วงๆ ก็ตาม โดยทางเดินช่วงแรกๆ ยังคงง่ายอยู่ ไม่ได้ชันอะไร แต่การเดินขึ้นบันได ก็ทำให้เหนื่อยหอบ และเมื่อยขาอยู่เบาๆ
ระหว่างที่เดินขึ้น ก็มีชาวศรีลังกาจำนวนมากที่ทะยอยเดินลงค่ะ คนกลุ่มนี้ได้เดินขึ้นตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ น่าจะตั้งใจขึ้นไปทำบุญ สวดมนต์ข้ามคืน และสักการะ ศรีปาทา Sri Pada หรือ รอยพระพุทธบาท แล้วก็กลับ

เมื่อถึงช่วงที่เป็นบันไดชันๆ ก็เดินไปหอบไปสิคะ โดยขาขึ้นยังคงเดินสบายอยู่ แต่ขาลงนี่สิ ไม่อยากจะคิด คงจะอ่วมน่าดู
7.3 ยิ่งสูง ยิ่งหนาว ยิ่งชัน
แต่ยิ่งเดินสูงขึ้นๆ ก็รู้สึกดีใจที่ไม่ได้ถอดวูลและฮีทเทคออก ก็ไอ้ตอนที่ยืนพักอยู่เฉยๆ นี่สิ หนาวเชียวค่ะ แต่ตอนที่พักจิบชาในร้านชานี่สิ ตัวนี่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเลยค่ะ จนต้องซับเหงื่อเลยแหละค่ะ ร่างกายคงงงว่านี่ตูจะปรับตัวให้ร้อนหรือหนาวดี แต่พอได้ซับเหงื่อแล้ว ก็พร้อมเดินต่อค่ะ

7.4 ความประทับใจ และ แรงบันดาลใจในการเดินต่อ
การที่ได้เห็นชาวศรีลังกา มาที่ Adam’s Peak ด้วยความตั้งใจจริง มากันทั้งครอบครัว บ้างอุ้มลูกเล็ก จูงลูกโต ผู้สูงอายุแบบ 70 – 90 ปี ก็มากันเยอะ พยุงไม้เท้าเดินก็มี มาด้วยใจที่บริสุทธิ์ เพื่อไปสวดมนต์ ไปสักการะศรีปาทา หลายๆ คนยังหอบหิ้วข้าวของขึ้นไปเพื่อบูชา เพื่อใส่บาตรให้พระในยามเช้า ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ อาหารคาวหวาน หรือผลไม้

ชาวศรีลังกาส่วนใหญ่จะแต่งกายสีขาว และเดินเท้าเปล่า จากพื้นล่างขึ้นไปจนถึงยอดเลยค่ะ คือเห็นแบบนี้แล้ว หยกมีกำลังใจในการเดินมากๆ รู้สึกว่าเราจะเหนื่อย จะท้อ จะไม่ไหวได้ยังไง ทั้งๆที่เราเตรียมตัวมาอย่างดี ขณะที่คุณตาคุณยาย คุณแม่ที่อุ้มลูกน้อยที่อายุไม่ถึงขวบ หรือแม้กระทั่งเด็กๆที่อายุไม่กี่ขวบ แถมยังเดินเท้าเปล่า ยังสู้ ยังไหว ยังเดินไปเรื่อยๆ ด้วยใจ เดินแบบไม่รีบร้อน เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยก็เดินต่อ
7.5 ขึ้น Adam’s Peak ครั้งที่ 69

หลายๆ คนขึ้น Adam’s Peak มากกว่า 1 ครั้ง และตั้งใจจะมาทุกๆ ปี หยกเจอคุณตาท่านนึง อายุ 80 ปี ดูแข็งแรง และ มีสุขภาพดีมากเลยค่ะ ท่านมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 69 แล้ว ใช่ค่ะ 69 ครั้ง เยอะมาก เยอะจนหยกคิดไม่ออกว่าทำไมคนๆ นึงถึงต้องมาที่เดิมๆ ที่ๆ ไม่ได้มาง่ายๆ ถึง 69 ครั้ง
7.6 Last Tea Shop
เมื่อถึงร้านชาร้านสุดท้าย ซึ่งมีป้ายร้านว่า Last Tea Shop ก็คือสบายใจได้ นั่งจิบชาร้อนๆ หาอะไรกินรองท้อง และที่สำคัญคือต้องซับเหงื่อค่ะ และเตรียมพร้อมสำหรับการไปจับจองมุมดีๆ สำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้น

7.7 แสงแรกของวัน กับ อากาศที่หนาวยะเยือก

ประจวบ(ไม่)เหมาะ ว่าช่วงที่หยกมา อากาศไม่ค่อยเป็นใจ ฝนตกอยู่ปรอยๆ ทั้งอาทิตย์ ดังนั้นเมฆจึงเยอะเป็นพิเศษ แสงอาทิตย์สีส้มแดงทั่วท้องฟ้า เหนือทะเลหมอก ที่คาดว่าจะเห็น ดั่งเช่นการมาที่ Adam’s Peak ในครั้งแรก จึงล้มเหลว กลับเห็นเพียงแสงอาทิตย์เหลืองส้มสลัวๆ เหนือภูเขาเขียวๆ หลายสิบลูกไกลโพ้นสุดลูกหูลูกตา ที่ดูไปดูมา ก็สวยเรียบๆ น่าค้นหาไปอีกแบบ

7.8 สักการะ ศรีบาทา ศรีปาทะ หรือ รอยพระพุทธบาท

ความศักดิ์สิทธิ์ของการมาถึง ยอดเขาแห่งอดัม นี้ คือการได้เข้าสักการะรอยพระพุทธบาท หรือ ศรีบาทา หรือ ศรีปาทะ ได้ต่อแถวที่ยาวเหยียด ที่ๆ ห้ามถ่ายรูป แต่คุ้มค่าต่อจิตใจ ในเขตด้านบนสุดนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จึงต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าค่ะ ยังมีการสวดมนต์ และนำของที่หอบหิ้วขึ้นบันไดมา กว่า 5,200 ขั้น เพื่อบูชา ทุกคนมีใบหน้าอิ่มเอม ยิ้มแย้มแจ่มใส ยังกับขับรถมา ไม่หลงเหลือร่องรอยของความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินมาเป็นระยะเวลา 3 – 6 ชั่วโมงเลยค่ะ
7.9 วิว 360 บนยอด Adam’s Peak

นอกจากรอยพระพุทธบาทแล้ว การเดินรอบๆ ด้านบนนั้น ทำให้มองเห็นวิวได้รอบทิศ 360 เลยนะคะ หมอกขาวๆ ที่แทรกระหว่างภูเขาเขียวๆ ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า กับอากาศที่บริสุทธิ์ ผสานกับเสียงสวดมนต์เป็นครั้งคราว เสียงระฆัง ก็ทำให้สบายใจหายเหนื่อยเลยค่ะ ยิ่งได้เห็นชาวศรีลังกา ประดิษประดอย ปลอกผลไม้ และตกแต่งอย่างสวยงาม แถมสะอาดอีกด้วยแล้ว ก็ทำให้ยิ่งเบิกบานใจ เหมือนได้บุญไปด้วยเลย

ซึ่งบนนี้ ยังมีห้องโถงกว้างๆ 2 ห้อง สองฝั่ง ไว้สำหรับให้ค้างคืน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีแต่ชาวศรีลังกาค่ะ
7.10 ขาลงที่ระรื่นระเริงใจ วิวสวยที่กว้างไกล กับ หมอกขาวที่ลอยไปมา

การเดินลงบันไดชันๆ นั้นไม่ง่ายเลย แต่จากมุมที่สูง ทำให้สิ่งที่มองเห็นเบื้องล่างนั้นสวยงามระรานตามาก และ ยิ่งได้เห็นบันไดที่เราได้เดินขึ้นมาอย่างชัดเจน ยิ่งทำให้ชื่นชม และประทับใจในตัวเองอย่างล้นหลาม 555+
7.11 เดินลงแบบปู

หยกจะเดินลงด้วยด้านข้าง คล้ายๆ ปูเดิน และเดินทะแยงค่ะ ทะแยงขวาไปซ้าย แล้วซ้ายไปขวา เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เดินง่ายดี และยังช่วยถนอมน้องเข่ากว่าเดินลงบันไดแบบหน้าตรงด้วยนะคะ แต่หยกเดินลงค่อนข้างสายหน่อย คือประมาณ 8.30 น. มัวเพลิดเพลินอยู่ด้านบนซะนานเลย ข้อดีของการออกสายหน่อยก็คือ คนน้อย เดินทะแยงได้เกือบตลอดทางเลยค่ะ
7.12 หิวโซ เหนื่อย แต่ไม่เมื่อย
หยกใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง ก็ลงมาถึงด้านล่างค่ะ โดยหลายๆช่วง เดินชิวๆ พูดคุยกับชาวศรีลังกาที่ร่วมทางเดินเดียวกันลงมา หรือหยุดอยู่เฉยๆ ยืดเส้นยืดสาย พร้อมทั้งสังเกตพฤติกรรมผู้ร่วมทาง ดื่มด่ำกับวิว ดูนกเล็กๆ บินไปมา และ ฟังเสียงนกร้องเพลง สนุกดีค่ะ
หลังจากเดินตลอดคืน และ ไม่ได้มีอาหารตกถึงท้อง นอกจากชา และ ขนมหวาน คือหิวมากกก จึงรีบเอาของไปไว้ที่ห้องพัก เก็บเสื้อกันหนาว แล้วดิ่งไปที่ร้านอาหารทันที ความเหนื่อยหายไป แค่รู้สึกเมื่อยล้าเบาๆ คงเป็นเพราะเทคนิคการเดินลงที่ถนอมหัวเข่า และ ยืดเส้นอยู่ตลอด จึงทำให้วันถัดๆ มา ไม่ได้ปวดเมื่อย ปวดล้ากล้ามเนื้อมากมายนัก แค่เมื่อยน่องเบาๆ เท่านั้นเองค่ะ
7.13 หลับสบาย
หลังจากหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน ความเมื่อยล้าจากการเดินตั้งแต่ตี 2 ครึ่ง บวกกับนอนน้อย จึงทำให้หลับสบาย ดีนะที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ไม่เช่นนั้น คงตื่นมาอีกทีเช้าเลย
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
8. ห้องน้ำบนยอด Adam’s Peak

อยู่ด้านหลังสุดเลยค่ะ เข้าฟรี โดยต้องเดินผ่านห้องโถงที่ให้นอนพัก ทะลุไปด้านหลัง หรือ เดินขึ้นไปทางที่สักการะรอยพระพุทธบาท แล้วเดินทะลุออกประตูไปด้านหลัง
9. ทริคในการเดินขึ้น – ลง เพื่อไม่ให้เจ็บกล้ามเนื้อในวันถัดๆไป และถนอมหัวเข่า
1) ไม้ค้ำ
ไม้ค้ำเป็นตัวช่วยที่ดี ในการเดินขึ้น – ลงบันไดชันๆ กว่า 5,000 ขั้น ถ้ามี ก็พกไปก็ดีค่ะ หรือไม่เช่นนั้น ก็หากิ่งไม้ใหญ่ๆ ยาวๆ ขนาดพอเหมาะแถวๆ นั้นก็ได้ค่ะ
2) ยืดเส้น
ควรทำการยืดแข้งยืดขา ยืดเส้นยืดสายด้วย เพื่อลดอาการบาดเจ็บ และการปวดกล้ามเนื้อในอีก 2 – 3 วันข้างหน้า ในช่วงที่คุณหยุดพักด้วยนะคะ
3) ผูกเชือกรองเท้าให้แน่นๆ
เพื่อป้องกันเท้าไหล(ในรองเท้า)ขณะเดินลง ซึ่งอาจก่อให้เกิดการเล็บม่วง และเจ็บปลายนิ้วเท้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดการทรมานมากยิ่งขึ้นขณะเดินลง
4) ทริคการเดินขึ้น เพื่อลดการบาดเจ็บที่หัวเข่า
หยกเน้นการเดินหลังตรง กระชับเดย์แพ๊คให้รัดติดแน่น ให้เป็นส่วนเดียวกันกับแผ่นหลัง และเดินโดยไม่โน้มตัวไปข้างหน้า คือพยายามจะรักษาสมดุล ไม่ให้หัวเข่าเลยปลายนิ้วเท้า เพื่อถนอมหัวเข่า และช่วยให้เหนื่อยน้อยลง เพราะลงน้ำหนักไปทั้งร่างกาย ไม่ได้ลงแค่ที่เท้า
5) ทริคการเดินลง ที่ลดการบาดเจ็บที่หัวเข่า และเดินง่ายขึ้น
ทริคหยกเองคือ เดินลงด้วยด้านข้าง คล้ายๆปูเดิน และเดินทะแยงค่ะ ทะแยงขวาไปซ้าย แล้วซ้ายไปขวา เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ง่ายและถนอมน้องเข่ากว่าเดินลงบันไดตรงๆ มากเลยค่ะ
6) ข้อควรระวัง ของอากาศที่หนาว ในการเดินขึ้น
การเดินในอากาศหนาวๆ เราจะเสียเหงื่อโดยไม่รู้ตัว ซึ่งการที่เราหยุดพัก คือถึงแม้อากาศจะหนาวมาก แต่การทำกิจกรรมไฮกิ้ง และการแอ๊คทีฟตลอดเวลาแบบนี้ จะทำให้เราร้อนกว่าอากาศที่เป็นอยู่ ทำให้เหงื่อออกเยอะมาก จนเสื้อตัวในเปียกเลยแหละค่ะ ซึ่งการที่เดินต่อ จะทำให้รู้สึกหนาวในมากยิ่งขึ้น อาจจะต้องเตรียมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ ไว้ซับเหงื่อไปด้วยนะคะ
7) การหายใจเมื่อเกิดอาการเหนื่อยจนหอบ
ขณะเดินแล้วเกิดอากาศเหนื่อยหอบ อย่าหายใจด้วยปากนะคะ ให้พยายามหายใจด้วยจมูก โดยสูดลมหายใจเข้าช้าๆ ยาวๆ และ หายใจออกช้าๆ ยาวๆ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ อาการหอบจะลดลงค่ะ

10. สิ่งที่ต้องเตรียม หากต้องการขึ้น Adam’s Peak และการแต่งกายรับลมหนาว
1). ควรเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ถุงเท้าหนาๆ และถุงมือ สำหรับกันหนาว เพราะด้านบนสุดนั่นอากาศจะหนาวเย็น และ หากมีลมพัดแรง จะยิ่งทำให้หนาวมากยิ่งขึ้น (ถึงแม้จะร้อนระหว่างการเดินขึ้น และ ร้อนจากแสงแดดเวลาเดินลงก็ตาม) หยกใส่เสื้อ 3 ชั้นหลักๆ ค่ะ ขั้นในสุดเป็น เสื้อยืดแขนยาวผ้าวูล (แอบทับด้วยเสื้อยืดธรรมดา), ชั้นที่สองเป็น ดาวน์แจ๊คเก็ต (down jacket) ซึ่งก็คือ เสื้อขนเป็ด หรือที่รู้จักกันว่าเสื้อหนาวพองๆ ที่เป็นปล้องๆนั่นแหลค่ะ แล้วชั้นสุดท้าย ใส่ ฟลีซแจ๊คเก๊ต (fleece jacket) ส่วนล่าง ก็สวมเลคกื้งฮีทเทค แล้วก็ทับด้วยกางเกงไฮกิ้งค่ะ
2). น้ำดื่ม และ ขนม (ถึงแม้จะมีร้านขายของระหว่างทาง แต่การเตรียมของไปเอง ก็ช่วยให้เรา ประหยัด ซึ่งของอาจราคาแพงขึ้นถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
3). ไฟฉายคาดศีรษะ หรือ ไฟฉายธรรมดา ขณะใช้ ระมัดระวังการส่องขึ้นสูงระดับสายตา(ส่องใส่ตา)คนเดินผ่านนะคะ
4). ทิชชู่ กรณีเข้าห้องน้ำ ซับเหงื่อ ซับน้ำมูก เช็ดหน้า เช็ดมือ เป็นต้น
5). ไม้ค้ำ เอาไว้ช่วยทรงตัวตอนขึ้นหรือลงบันไดในช่วงที่ชันๆ
6). หมวก แว่นตากันแดด และครีมกันแดด ไว้ใช้ในขณะเดินลง เพราะแสงแดดที่แรงขึ้นๆ
7). ที่ขาดไม่ได้ ก็คือ กล้อง แบตเตอร์รี่สำรอง พาวเวอร์แบง และสาย USB สำหรับชาร์จมือถือ
11. แนะนำที่พัก ใกล้ทางเดินขึ้น Adam’s Peak
ที่พักที่หยกจะแนะนำต่อไปนี้ อยู่ในเมือง Nallthaniya (นัลลาธานนิยา) และใกล้จุดเริ่มเดินขึ้นค่ะ คือทำเลดีนั่นเอง ซึ่งที่พักเหล่านี้หยกหามาแนะนำเอง ไม่ได้มีการสปอนเซอร์หรือว่าจ้างใดๆ ให้เอามาลงนะคะ
A). PMD Hotel (ถูก)
ที่พักราคาถูก สะอาด ห้องกว้างพอควร ตกแต่งเรียบง่าย สะดวกสบายเพราะมีห้องน้ำในตัว คุ้มค่าสุดๆ ในราคาเริ่มต้นคืนละ 550 บาท คือหาราคานี้ยากมากๆ แล้วนะคะ ในเมืองนี้ ก็อย่ารีรอ มีแพลนแล้วก็รีบจองเลยค่ะ
B). Vegetable Garden (ถูก)
ตามชื่อเลยค่ะ ที่พักที่เสมือนอยู่บ้าน มีอาหารสดๆ ผักสดๆ สวยๆ เด็ดใหม่ๆ จากสวนสวยหลังบ้าน แล้วทำทานกันตอนนั้นเลย ใครได้พักที่นี่ ไม่ต้องกังวลเรื่องต้องหาอาหารทานเลยค่ะ เพราะทานในที่พักอร่อยสุด ทั้งทำสดๆ ใหม่ๆ เลยด้วยค่ะ ส่วนห้องพักก็สะอาด ดูใหม่ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ราคาเริ่มต้นคืนละ 640 บาท รวมอาหารเช้าด้วยค่ะ
C). Queensark (ถูก)
ที่พักสะอาด ห้องกว้าง ตกแต่งเรียบง่าย มีระเบียงพร้อมโต๊ะเก้าอี้ให้ได้นั่งชมวิวธรรมชาติสวยๆ หากต้องการทานอาหาร ที่นี่ก็มีอาหารให้บริการค่ะ สไตล์ทานอาหารกับที่บ้าน อาหารรสดี เจ้าของก็น่ารัก อยู่แล้วสบายใจค่ะ ราคาเริ่มต้นคืนละ 800 บาท
D). Tea Breeze Motel (กลางๆ)
ที่พักน้องใหม่ ตัวตึกสวยงาม ดูน่าอยู่ ห้องพักสะอาด ตกแต่งแบบเรียบง่าย ส่วนเจ้าของนั้นเป็นมิตรและใจดีมากค่ะ ที่ด้านหน้าห้องพักยังมีเก้าอี้ไม้สวยๆ ให้ได้นั่งชิวๆ กินบรรยากาศเพลินๆ อีกด้วยค่ะ ที่พักราคาเริ่มต้น 1,300 บาทรวมอาหารเช้าแล้วนะคะ
หมายเหตุ
ราคาที่พักอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลานะคะ ไม่ว่าจะเป็นตามกาลเวลา อัตราค่าแลกเปลี่ยน และ/หรือ อาจมีราคาที่สูงขึ้นในฤดูท่องเที่ยว ดังนั้นแล้ว ให้ดูราคาที่หยกลงไว้เพื่ออ้างอิงเท่านั้นนะคะ

หากใครมีโอกาสได้มาเที่ยวที่ศรีลังกา ไม่ควรพลาดการมา Adam’s Peak นะคะ ทางเดินไม่ยากเลย ไม่ลื่น ไม่ใช่ทางลาดชัน ไม่ได้เดินตามป่าเขา แต่มีทางเดินชัดเจน ที่เป็นบันไดเท่านั้นเอง แล้วคุณจะได้ประสบการณ์ที่แตกต่าง ได้ความประทับใจ และอิ่มบุญ
หวังว่าข้อมูล และ ทริคต่างๆ เหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ และเชื้อเชิญ ให้เพื่อนๆ ชาวสนุกเที่ยว อยากลองไปเที่ยวศรีลังกา ไปลองขึ้นยอดเขาแห่งอดัม นี้ ดูนะคะ ทั้งนี้ยังสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลสถานที่เที่ยวในศรีลังกาอีกมากมายได้ที่ลิ้งค์ตรงนี้
เพื่อนๆ ชาวสนุกเที่ยว ท่านใดที่เคยขึ้นหรือ อยากจะขึ้น ก็คอมเม้นต์แชร์ประสบการณ์ ติชม แนะนำ หรือ สอบถามมาได้ ที่ด้านล่างนี้เลยนะคะ หยกยินดีรับฟัง และ ตอบทุกคอมเม้นต์เลยค่ะ
ขอบคุณมาๆเลยค่ะคุณหยก ข้อมูลดีละเอียดและเป็นประโยชน์มาก ๆ ค่ะ เหมาะสำหรับแบ๊คแพ็คเลย กำลังจะตามรอยเที่ยวทั่วเกาะศรีลังกาเร็วๆนี้ค่ะ 🙂
สวัสดีค่ะ คุณ Birdy
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 เตรียมตัวดีๆ วางแผนเที่ยวดีๆ เที่ยวให้ครบ เก็บให้หมด ศรีลังกามีที่เที่ยวเยอะมากๆ ค่ะ ยิ่งเที่ยวแบบแบ็คแพ็คยิ่งสนุกสุดๆ เดินทางปลอดภัย และเที่ยวให้สนุกค่ะ กลับมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ 🙂
ไปช่วงปลายเมษาคนจะเยอะอยู่รึเปล่าคะ
สวัสดีค่ะ คุณ อ.หนอยแน่
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂 ถ้าไม่ได้ไปในวันสำคัญ หรือเทศกาลของชาวศรีลังกา วันเสาร์อาทิตย์หรือช่วงใกล้วันพระจันทร์เต็มดวง คนก็จะไม่เยอะนะคะ ลองตรวจสอบวันที่จะไปอีกทีนะคะ ว่าเป็นวันสำคัญอะไรไหม
เดินทางปลอดภัย ตรวจสอบสภาพอากาศด้วยนะคะ จะได้เตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปครบค่ะ
สุดยอดค่ะคุณหยก พี่จะไปมกราคมอากาศน่าจะหนาวมากอยู่นะคะ มีคำแนะนำเพิ่มเติมมั้ยคะ
ขอคำแนะนำเรื่องรองเท้า hiking boots หน่อยสิคะ ว่าจำเป็นต้องใช้มั้ยหรือว่าผ้าใบที่ใส่เดินดีๆ พอคะ
ยังไงถ้าไปจะถ่ายภาพให้ชมนะคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณแหม่ม
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
ช่วงมกราคมอากาศด้านบน Adam’s Peak โดยเฉพาะในช่วงค่ำในตอนที่เริ่มเดิน (เดินๆ ไปก็จะเริ่มอุ่นขึ้นค่ะ) และช่วงที่ใกล้ถึงยอดตอนเช้ามืดนั้นสามารถมีลมแรงได้นะคะ ยิ่งไม่มีจุดบังลมด้วย เลยทำให้อากาศที่หนาวเย็นนั้น หนาวเย็นขึ้นไปอีก แนะนำให้เตรียมเสีื้อกันหนาวกันลม ถุงมือ ผ้าพันคอ และหมวกไหมพรมไปให้พร้อมเลยค่ะ ทั้งถุงเท้าก็แนะนำให้ใส่แบบหนาๆ สักหน่อย เท้าอุ่นก็ช่วยได้เยอะค่ะ แต่จะหนาวเย็นได้ไม่นาน พอพระอาทิตย์สาดแสงมา ก็จะถอดเสื้อออกแทบไม่ทันเลยค่ะ
ส่วนเรื่องของรองเท้านั้น ทางเดินขึ้น Adam’s Peak เป็นทางเดินบันไดซีเมนต์ซะส่วนใหญ่ค่ะ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้าเดินป่า ขอแค่รองเท้าผ้าใบคู่ใจที่สบายๆ ก็เพียงพอแล้วค่ะ อย่าลืมพกเสบียงและน้ำดื่มไปด้วยนะคะ
รอชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นงามๆ นะคะ เที่ยวให้สนุก เดินทางปลอดภัยค่ะ
รองเท้าต้องเป็นผ้าใบมัยถึงจะดีจะไป อาทิตยนี้ละจัา
สวัสดีค่ะ คุณ Boonmee
โอ๊ยยยย คิดถึงศรีลังกามากๆ ขอให้ได้เจอพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ทะเลหมอกเยอะๆนะคะ เอาจริงๆ คือชาวศรีลังกาเค้าเดินกันเท้าเปล่าเลยนะคะ 55+ แต่อย่างเราแล้ว.. อุปกรณ์จัดเต็มค่ะ 55+ ผ้าใบดีกว่าค่ะ จะได้เดินสบาย ไม่เจ็บข้อเท้า ออกกำลังกายกล้ามเนื้อขารอด้วยนะคะ แล้วก็อย่าลืมยืดเส้นระหว่างพักเดินด้วยค่ะ เดินเสร็จจะได้ไม้เมื่อย
เดินทางปลอดภัย เที่ยวเผื่อด้วยนะคะ 🙂
รบกวนสอบถามคะ ไม่ทราบว่าที่คุณหยกบอกว่าเริ่มเดินขึ้นตอนตี 2 คือการเดินทางก่อนหน้านี้คุณหยกพักที่เมืองแฮตตันหรอคะ แล้วนั่งรถมาที่ Dalhousie เพื่อเริ่มเดินขึ้นเขา คือเข้าใจถูกใช่มั้ยคะ แฮร่ๆกำลังศึกษาว่าจะไปศรีลังกาอาทิตหน้า
พอดีอยากเอาของไว้ที่โรงแรมก่อนเดินขึ้นอ่ะคะ รบกวนขอคำแนะนำคะ และถ้าเทียบกับเดินขึ้นภูกระดึงอันไหนยากกว่าคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ Nuchii หยกค้างที่ Dalhousie และเอาของเก็บไว้ที่นี่ค่ะ จะได้เดินขึ้น Adam’s Peak ที่จุดเริ่มเดินในเมืองนี้แบบตัวปลิว แบกแต่ขนมขบเคี้ยว น้ำดื่ม และเสื้อหนาวค่ะ โดยหยกต่อรถที่เมือง Hatton มาที่ Dalhousie เพื่อค้างคืนและเริ่มเดินค่ะ
จะบอกว่าหยกนั้นเชยมากๆ ยังไม่เคยขึ้นภูกระดึงเลยค่ะ เลยเปรียบเทียบให้ไม่ได้ ต้องขอโทษจริงๆ แต่การขึ้น Adam’s Peak นั้นเป็นการเดินขึ้นบันไดล้วนๆ เป็นพันๆขั้น จะทรหดก็ที่หัวเข่านี่แหละค่ะ ขาล้าเบาๆ แนะนำให้หยุดพักเหนื่อยบ่อยๆ และยืดแข้งยืดขาทุกครั้งที่พัก หยกขึ้น Adam’s Peak สองที ครั้งแรกหยกไม่ได้ยืดเส้นระหว่างเดิน ขานี้เดี้ยงไปหลายวันเลยค่ะ เดินเสร็จนี่ต้องคลานกลับที่พักเลยค่ะ 55+ แต่ครั้งที่สอง หยกยืดเส้นตลอด บ่อยๆด้วย ประกอบกับก่อนหน้านั้นไฮกิ้ง และออกกำลังกายที่อื่นมาก่อนด้วย กล้ามเนื้อเลยแฮปปี้ ไม่เจ็บไม่ปวด แค่เมื่อยเบาๆเท่านั้นเองค่ะ เดินเสร็จยังลั้นล้าไปทานข้าว จิบชาชิวๆได้อีกค่ะ
เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุกนะคะ ทานอาหารศรีลังกาและดื่มชาเผื่อหยกด้วย
สวัสดีค่ะคุณหยก
น้าโจ้ค่ะ ที่เคยเขียนเข้ามาก่อนหน้านั้นว่าจะไปศรีลังกามี.ค59กับพี่สาว (2คนก็120กว่าปี) , ได้ขึ้นสักการะศรีปาทะ
แต่ไม่ได้รอชมพระอาทิตย์ขึ้น เพราะกลัวคนเยอะช่วงลง ยังเสียดายเลยค่ะ เมื่อยขามาก ขาแข็งเป็นอาทิตย์เลย แต่คุ้มมากๆๆ
เป็นทริปที่ตั้งใจต้องขึ้นให้ได้ เป็นการเที่ยวแบบมีไกด์ในตัวคือคนขับรถไปด้วยกันตลอดทริป
ถามว่าจะไปอีกมั้ย อยากมากค่ะ ทำไมไม่รู้ ชาติก่อนคงเกิดเป็นชาวศรีลังกาแน่ๆเลย(พี่สาวบอก) มีอีกหลายที่ที่อยากไปเช่น จาฟฟ์นา ,happutale เห็นคุณหยกโพสต์เรื่องจาฟฟ์นาพอดี เกิดอาการตุ้บๆๆอีกแล้วค่ะ ขอบคุณข้อมูล ภาพสวยๆค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณน้าโจ้ จำได้ค่ะจำได้ นี่ไอด้อลหยกเลยนะคะเนี่ย สุดยอดจริงๆค่ะ ขนาดเพื่อนหยกหลายๆคน แค่ได้ยินหยกเล่าเรื่องขึ้นศรีปาทะให้ฟัง ยังเบือนหน้าหนีเลยค่ะ หยกนะอยากจะฟิต อยากจะแข็งแรง เที่ยวยาวไปๆ เอาแบบให้ยังขึ้นศรีปาทะได้แบบคุณน้าโจ้กับพี่สาวเลยค่ะ คงต้องขอเคล็ดลับบ้างแล้วนะคะเนี่ย
รู้สึกเสียดายแทนที่อดชมพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ แต่จะว่าไปแล้ว แค่นี้ก็คุ้มมากๆอย่างที่คุณน้าโจ้ว่าแล้วล่ะค่ะ ส่วนหยกนี่สิค่ะ ยังไม่ได้สักการะรอยพระพุทธบาทเลย หยกไปตอนวันปีใหม่ แถวเลยยาวมากกก สงสัยเราสองนี้ คงต้องได้ไปอีกแน่ๆเลยค่ะ
ส่วนจาฟฟ์นานั้นสวยสมบูรณ์แบบ ธรรมชาติยังสดมากๆ ค่ะ กว้างใหญ่ นักท่องเที่ยวยังน้อยอยู่ ให้ความรู้สึกแตกต่างจากการเที่ยวส่วนอื่นๆ ในศรีลังกาอย่างมาก หากมีโอกาส หยกกลับไปเยือนอีกเป็นแน่ ส่วน Haputale นั้น หยกก็ไปมาแล้วค่ะ (แต่ในส่วนของบทความนั้น ยังเป็นดราฟท์อยู่เลยค่ะ) ชอบมากๆๆ จน Nuwara Eliya นี้ตกกระป๋องไปเลยค่ะ อากาศดี วิวสวย เมืองน่ารัก ชิวๆ สบายๆ ยิ่งไร่ชานะ ยิ่งสวยไปใหญ่ หากมีโอกาส หยกกลับไปเยือนอีกแน่นอนค่ะ
ขอขอบคุณมากๆ สำหรับคอมเม้นต์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้หยก และคนหนุ่มสาว หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น เพื่อที่จะได้มีสุขภาพดี แข็งแรงๆ เที่ยวแบบลุยๆ อย่างที่ชอบได้นานๆ นะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ ขอให้แข็งแรงๆยิ่งขึ้นๆนะคะ
เห็นรีวิวแล้วอยากเที่ยวตามเลยค่ะ ^^
ภาพสวยมากค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ NuBe ขอบคุณที่ติดตามนะคะ 🙂 ขึ้น Adam’s Peak นั้น สนุกจริงๆ ขนาดขึ้นมาแล้วสองครั้ง ยังประทับใจอะไรๆเพิ่มอีกตั้งหลายอย่างแหน่ะค่ะ จะบอกว่าภาพบรรยากาศของจริงสวยงามและฟินกว่าในรูปหลายเท่าเลยแหละค่ะ หากไม่ทราบว่าจะไปเที่ยวไหนดี ลองพิจารณา ไปเที่ยวศรีลังกา ดูนะคะ แล้วอย่าลืมไปขึ้น Adam’s Peak นะ ^^