
ในที่สุดก็ได้ไฮกิ้งและแค้มปิ้งกางเต็นท์นอนในป่าในเขาใน Lassen Volcanic National Park อเมริกา, ได้เห็นวิว Lassen Peak ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพนที่สวยอลังการสุดๆ ก่อนเดินกลับไป Summit Lake, ได้ลุยข้าม Kings Creek น้ำไหลเชี่ยวๆ แบบที่เดินไปแต่ละก้าวก็ไหลตามน้ำไป, ได้เล่นน้ำในทะเลสาบใสๆ เย็นๆ และยังได้นั่งทานขนมเพลินๆริม Echo Lake ด้วย, ได้ผจญภัยเก็บของหลีกเลี่ยงการพบปะกับคุณหมี (ไม่ได้เจอคุณหมีนะคะ) และความมันส์ พร้อมทั้งข้อควรรู้และการเตรียมตัว หากต้องการมา Camping และ Backcountry Camping ใน Lassen Volcanic National Park

โดยที่จะกล่าวถึงรายละเอียดในหัวข้อต่อไปนี้
- Lassen Volcanic National Park อยู่ที่ไหน, มีอะไร และไปทำไม (อ่านในตอน 1 ค่ะ)
- ไปเที่ยว Lassen Volcanic National Park ต้องเดินทางไปที่ไหน, เสียค่าใช้จ่ายไหม และ เสียเท่าไหร่ (อ่านในตอน 1 ค่ะ)
- ช่วงเวลาที่เหมาะ และกิจกรรม ของการไปแค้มปิ้งในLassen Volcanic National Park คืออะไร, มีอะไรให้ชม, มีอะไรให้ทำบ้าง และควรใช้เวลาอยู่ที่นี่นานแค่ไหน (อ่านในตอน 1 ค่ะ)
- เส้นทางไฮกิ้ง ในLassen Volcanic National Park มีเส้นไหนบ้าง, เดินยากหรือเปล่า, หนทางที่จะเจอเป็นเยี่ยงไร, ระยะทางไกลแค่ไหน, ใช้เวลาเดินนานขนาดไหน (อ่านในตอน 1 ค่ะ)
- สิ่งอำนวยความสะดวก ในLassen Volcanic National Park ไม่ว่าจะเป็นจุดกางเต็นท์, ที่พัก, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ, ร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านซักรีด, น้ำดื่ม, ไฟฟ้า หรือ สัญญาณโทรศัพท์ มีไหม (อ่านในตอน 1 ค่ะ)
- ถ้าปวดเข้าห้องน้ำ ระหว่างการไฮกิ้ง และ Backcountry Camping ในLassen Volcanic National Park จะทำอย่างไรละเนี่ย (อ่านในตอน 1 ค่ะ)
- เรื่องเล่าระหว่างการแค้มปิ้ง, Backcountry Camping และไฮกิ้งในLassen Volcanic National Park สนุกแค่ไหน, มันส์ยังไง, เดินแต่ละ trail ไกลแค่ไหน, เดินนานไหม และอะไรที่ประทับใจ
- สิ่งที่ต้องเตรียม, ข้อควรรู้, ข้อควรระวัง และ ข้อไม่ควรปฏิบัติ ในการไปแค้มปิ้ง, Backcountry Camping และไฮกิ้งใน Lassen Volcanic National Park รวมทั้งการเตรียมตัวและข้อต้องปฏิบัติเมื่อแค้มปิ้งในพื้นที่ที่มีคุณหมีอาศัยอยู่

นี่เป็นตอน 2 (ข้อ 7 และ 8) ของการผจญภัยใน Lassen Volcanic National Park นะคะ เพื่อนๆสามารถอ่านข้อมูลการเตรียมตัว ตอนที่ 1 (ข้อ 1 – 6) ได้ที่ลิ้งค์ตรงนี้เลยค่ะ พร้อมแล้วก็ไปฟังเรื่องเล่ามันส์ๆ และเที่ยวให้สนุกไปพร้อมกันเลยนะคะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
7. เรื่องเล่าระหว่างการแค้มปิ้ง, Backcountry Camping และไฮกิ้งใน Lassen Volcanic National Park สนุกแค่ไหน, มันส์ยังไง, เดินแต่ละ trail ไกลแค่ไหน, เดินนานไหม และอะไรที่ประทับใจ

-ครั้งแรก=ยากมาก vs ครั้งที่สอง=ง่ายขึ้น-
นี่เป็นการ Backcountry Camping ครั้งแรกของหยกจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษ เสมือนได้รับภาระกิจอันยิ่งใหญ่ให้เดินป่า แบกสัมภาระและเสบียง เพื่อไปตามล่าของมีค่าเป็นเวลา 3-4 วัน การผจญภัยได้เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางอุปสรรคเล็กๆน้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคตามร่างกาย คือกระเป๋าที่หนัก และตามธรรมชาติ เช่น การหาทางข้ามลำน้ำที่เชี่ยว และสูง ซึ่งใช้เวลาหาทางข้ามอยู่นานสองนอน หรือการเดินข้ามท่อนไม้กลมๆ ลื่นๆ ที่เบื้องล่างคือน้ำที่ไม่ทราบความลึก และไหลแรงสุดๆ แต่ปัญหาของการแก้ปัญหานี้ที่ยังงงๆอยู่ก็คือ ทำไมคนอื่นเค้าเดินบนท่อนไม้ซะพริ้วเชียว ที่สำคัญยังเห็นคุณแม่แบกเป้ที่มีลูกน้อยอยู่ด้านหลังเดินข้ามอย่างช้าๆ แต่มั่นคง ได้อย่างสบายๆ “อ่อ ก็เพราะนี่เป็นครั้งแรกของหยก(พร้อมทั้งแบกกระเป๋าหนักๆเอง)ไง ครั้งที่สองหยกคงเดินพริ้วขึ้นสินะ”
-ไม่ต้องเผื่อ-
การเตรียมตัว Backcountry Camping นี่ง่ายมากค่ะ เน้นแบกแค่ของกิน ครีมกันแดด และอุปกรณ์นอน ไม่ต้องเอาเสื้อผ้าไปเยอะ หยกเอาไปแค่สองชุดคือที่ใส่ไป ใส่ซ้ำไปเลยค่ะ 2-3 วัน อากาศสบาย ออกหนาวซะด้วยซ้ำในตอนเย็น ค่ำ และเช้า เหงื่อก็ออกนะคะตอนเดิน แต่อากาศที่นี่แห้ง ไม่ได้ชื้นเหมือนบ้านเรา อาการเหนียวตัวเลยไม่มี จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และที่สำคัญน้ำก็ไม่มีให้อาบค่ะ นอกจากจะเล่นน้ำในทะเลสาบ และค่อยเปลี่ยนอีกชุดใส่ตอนกลับ เน้นเอาของที่จะได้ใช้เท่านั้น เอาเสื้อผ้าน้ำหนักเบาๆ ไป ของที่เผื่อไม่ต้องเอาไปเลยค่ะ ไม่ได้ใช้แน่ๆ อยู่แล้ว มีแต่จะแบกหนักซะเปล่าๆ เพราะที่นี่ไม่มีลูกหาบคอยช่วยแบกของนะคะ
-วางแผน กับ ไม่วางแผน-
หยกวางแผนที่จะ Backcountry Camping 4 วัน 3 คืนค่ะ โดยจะเดินเป็นลูปใหญ่ วนจาก Summit Lake Trailhead ไปค้างที่ Horseshoe Lake, Snug Lake คืนสุดท้ายที่ Cluster Lake และวนกลับมาที่ Summit Lake Trailhead ซึ่งแผนมักไม่เป็นไปตามแผน แต่ก็ทำให้หยกเตรียมพร้อมได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องสิ่งใดระหว่างการแค้มปิ้งเลยค่ะ เนื่องจากอุปสรรคจากธรรมชาติ ต้องเดินข้ามลำน้ำที่เชี่ยว และสูง บริเวณ Kings Creek อยู่ 2 ครั้ง ซึ่งต้องเดินวนในแต่ละครั้งอยู่เป็นชั่วโมงค่ะ เพื่อหาทางที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดในการข้ามน้ำไป จึงทำให้ลูปที่วางแผนจะเดินนั่นเล็กลง (ซึ่งมาทราบทีหลังจากนักท่องเที่ยวท่านอื่นว่า ลูปใหญ่ที่หยกจะไปนั้น น้ำเยอะมาก บริเวณนั้นจึงแฉะไปด้วยโคลนตม หาจุดแห้งๆเพื่อกางเต็นท์แทบไม่ได้ เลยถือว่าโชคไม่ดีสินะ ไม่งั้นคงมีเรื่องเล่ามันส์ๆกว่านี้มาเล่าให้ฟังเป็นแน่ 555+)

-กระเป๋าแบ๊คแพ๊ค ช่วยทำของที่หนักให้เบา-
ขนาดว่าเอาแค่ของที่จำเป็นต้องใช้ไปแล้ว กระเป๋ายังหนักเลยค่ะ รวมๆแล้ว ตอนแบกน้ำดื่มไปด้วย น่าจะอยู่ระหว่าง 12-15 กิโลได้ (ซึ่งน้ำหนักก็ลดลงเรื่อยๆ เพราะดื่มตลอดทาง แล้วก็หนักขึ้นมาใหม่เมื่อเติมน้ำ) วันแรกนี่ลำบากเบาๆ เพราะเดินทั้งวันเลยค่ะ แต่วันถัดๆไปนี้สบาย ของที่หนักเป็นสิบกว่าโลก็ไม่รู้สึกหนักและไม่เจ็บบ่าเจ็บหลังเลย น่าจะเป็นเพราะกระเป๋าที่หยกใช้นั้นเหมาะสำหรับสรีระของหยก (ไม่ได้โฆษณา แต่เห็นประโยชน์จึงบอกต่อ คนชอบเที่ยวแนวเดียวกันจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องหลังและเข่า) ไม่เช่นนั้นคงจะแบกเดินได้ไม่ถึงชั่วโมงเป็นแน่ ถ้าเลือกกระเป๋าแบ๊คแพ๊คที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งสามารถเข้าไปอ่าน วิธีการเลือกซื้อกระเป๋าแบ๊คแพ๊คที่เหมาะกับแต่ละคน ได้ที่ลิ้งค์ตรงนี้เลยนะคะ จะได้เที่ยวแบ๊คแพ๊คได้สบายๆเนอะ

ก่อนเริ่มเดิน หยกก็จินตนาการไปไกลว่า Backcountry Camping คงเป็นการเดินตามป่ารกๆ ทางเดินงงๆ แต่ที่ไหนได้ เส้นทางเดินนี่ชัดเจนมาก เหมือนเส้นทางไฮกิ้งปกติธรรมดา เดินสบายเชียวค่ะ แค่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ เช่น ห้องน้ำ หรือ ร้านอาหาร แล้วก็ค่ำไหนก็กางเต็นท์นอนตรงนั้น ถ้าหิวก็ทำกับข้าวมันตรงนั้นเลยเหมือนกัน ดูลุยๆ สนุกดีนะคะ
-พื้นที่ที่อยู่อาศัยของคุณหมี-
การเดินป่าในพื้นที่ห่างไกลความเจริญแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ ออกจะง่ายๆ ชิวๆ ซะด้วยซ้ำ โดยมีแค่เรื่องเดียวที่ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ คือ คุณหมี ที่อยู่อาศัยในแถบนี้ จึงมีกฎเกณฑ์การปฏิบัติที่เคร่งครัด พร้อมเหตุผล และทำอย่างไรหากปะทะคุณหมี ซึ่งหยกจะกล่าวไว้ในข้อ 8 ด้านล่างนะคะ
โดยที่คุณหมีพวกนี้ไวต่อของทุกอย่างที่มีกลิ่น นอกจากของกิน อาหารทั้งหลายแล้ว ยังรวมถึงหมากฝรั่ง ลูกอม ช๊อคโกแลต ลิปมัน ยาสีฟัน ครีมและโลชั่นต่างๆ ครีมกันแดด ทิชชู่เปียกแบบมีกลิ่น หรือแม้กระทั่งขยะต่างๆ ที่ใช้แล้ว ก็ต้องนำใส่ไว้ใน Bear-Resistant Food Storage Container หรือที่รู้จักว่า Bear Canister หรือก็คือ ภาชนะเก็บอาหาร(รวมถึงของมีกลิ่นทุกชนิด)ที่ป้องกันการเข้าถึงด้วยวิธีต่างๆ ของคุณหมี ด้วยการออกแบบด้วยวัสดุแบบพิเศษและได้มีการทดสอบ คุณหมีจึงไม่สามารถทำลายภาชนะตัวนี้ได้ และไม่สามารถเข้าถึงสิ่งที่เก็บไว้ภายในได้ค่ะ แม้แต่กับคนอย่างเรา ยังต้องใช้เวลาในการทำความรู้จักและหัดเปิดไอ้เจ้าขวดนี้เลยค่ะ เปิดยากเปิดเย็นเเสียจริง ซึ่งแนะนำให้หัดเปิดจนชำนาญนะคะ เพราะเวลาหิวจะได้ไม่โมโหหิว จากการเสียเวลาเปิดไปหลายนาทีเลย 555+

ตอนกลางวันที่เดินป่าอยู่นั่นก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องของมีกลิ่นสักเท่าไหร่ เพราะเราเดิน พูดคุย ส่งเสียงดังซึ่งทำให้คุณหมีกลัว (แต่จริงๆแล้ว เค้าแนะนำให้เราเก็บของมีกลิ่นในภาชนะที่กำหนดตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ) แต่พอตกกลางคืนนี่สิ เราต้องนอน มันเลยเงียบ คุณหมีอาจจะมาหากได้กลิ่นสิ่งของต่างๆของมนุษย์ เลยต้องเอาของทุกอย่างที่มีกลิ่น ที่อยู่ทุกซอกทุกมุมในกระเป๋ามาเก็บใน Bear Canister ห้ามเก็บในเต็นท์เด็ดขาด และต้องเอาออกไปวางให้ไกลจากเต็นท์ เหมือนจะง่ายนะคะ แต่ปัญหามันอยู่ที่ไอ้เจ้า Bear Canister นี่เต็มไปด้วยอาหารแล้วน่ะสิคะ ไหนจะยังมีพวกครีมแดดหลอดใหญ่ๆ ยากันยุง ยาสีฟันและของเล็กๆน้อยๆ พวกยาดม ยาอม หมากฝรั่ง ลิปมันอีก ที่จะต้องยัดลงไปด้วยกัน ก่อนจะมืดจึงต้องรีบจัดแจงใหม่ ให้ใส่ของได้ทั้งหมด รื้อเข้ารื้อออก จัดระเบียบอยู่หลายรอบค่ะ สุดท้ายใส่ครีมกันแดดไม่ได้ เลยต้องขุดหลุมลึกๆ ฝังกลบครีมกันแดดที่ใส่ในถุงซิปล๊อคไว้หลายๆชั้น เพื่อหวังว่าจะปกปิดกกลิ่นได้ (จริงๆไม่ควรทำนะคะ เพราะคุณหมีสามารถขุดหลุมได้ แต่ตอนนั้นจนปัญญาจริงๆ อย่างเดียวที่คิดได้ คือขุดหลุมลึกๆ ฝังกลบแน่นๆ) โดยทั้ง Bear Canister และหลุมนี้ต้องอยู่ไกลๆจากเต็นท์ด้วยนะคะ หากคุณหมีมา คุณหมีจะได้อยู่ห่างไกลจากเต็นท์เรา
-Kings Creek น้ำเชี่ยว-

สิ่งที่ท่องไว้ก่อนมาคือ ต้องกางเต็นท์และกินข้าวให้เสร็จก่อนมืดเพราะเป็นพื้นที่ที่มีคุณหมี แต่ความเป็นจริง มักจะไม่เป็นไปตามแผนเลย เริ่มตั้งแต่วางแผนไว้ว่าจะกางเต็นท์นอนอีกที่ แต่ต้องลงเอยนอนอีกที่ เพราะทางเดินบางช่วงต้องข้ามร่องน้ำที่ Kings Creek ที่บังเอิญหิมะเริ่มละลาย ทำให้น้ำยังคงสูงอยู่ ทั้งยังเชี่ยวมาก จึงต้องเดินลัดเลาะหาบริเวณที่น่าจะปลอดภัยที่สุดในการข้าม โดยใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการเดินวกไปวนมา เพื่อหาจุดข้าม ทำให้ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตอนข้ามน้ำนั้นก็แอบหวาดเสียวเบาๆ น้ำใสมากๆ มองเห็นทะลุพื้นเลย และเย็นมากด้วย พอเหยียบลงไป คิดว่าน่าจะสูงประมาณหน้าแข้ง ที่ไหนได้ กลับสูงเกือบหัวเข่าเลยค่ะ แถมน้ำยังเชี่ยวมากอีกต่างหาก ขนาดมี trekking poles ช่วยค้ำยังเดินเบี้ยวๆไหลไปตามน้ำเลยค่ะ ถ้าไม่มีตัวช่วยค้ำคงได้ไหลไปตามน้ำแน่ๆ
-มืด-
เนื่องจากความล่าช้าในการหาทางข้ามร่องน้ำที่ Kings Creek ถึง 2 ช่วง ซึ่งใช้เวลาไปเกือบๆ 2 ชั่วโมง เลยต้องเปลี่ยนเส้นทางการเดินจากแผนเดิมที่วางไว้ การหาจุดกางเต็นท์คืนแรกนี้จึงค่อนข้างยาก เพราะไปไม่ถึงทะเลสาบ เลยต้องหาที่กางเต็นท์กลางป่า ที่มีแต่ต้นไม้ขึ้นถี่ๆเต็มไปหมด แทบจะไม่มีที่ราบเรียบเลย ด้วยกฎของที่นี่ คือต้องกางเต็นท์ไกลจาก เส้นทางเดินป่า (trail) ประมาณ 400 เมตร เลยต้องเดินออกจาก trail ขึ้นเนินลงเนิน เดินวนไปวนมา เพื่อหาทำเลเหมาะๆกางเต็นท์ จนในที่สุดผ่านไปเกือบ 20 นาที ก็เจอจุดเหมาะ วิวสวย สำหรับค่ำคืนนี้
-หิว เหนื่อย รีบ -ยิ่งรีบยิ่งช้า- และยุงชุม-
ด้วยความหิว ความเหนื่อย และรีบร้อนทำทุกสิ่งให้เสร็จ เพื่อจะได้เข้าเต็นท์ก่อนที่มืด (จะดึกมาก) แต่กว่าจะกางเต็นท์เสร็จก็ใกล้มืดเต็มทีแล้ว ยุงที่นี่ก็เยอะมากด้วย จึงรีบทำอาหาร โดยเดินออกไปทำอาหารให้ไกลพอควรจากเต็นท์ค่ะ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงสัตว์ต่างๆมาใกล้เต็นท์ จากเศษอาหารที่เราอาจทำหล่น ทำอาหารไป ปัดไล่ยุงไป กระโดดโลดเต้นไป ลมก็พัด หนาวก็หนาว แต่อากาศดี สบายปอด และสดชื่นมาก คือช่างเป็นการทำอาหารที่มีชีวิตชีวาซะจริงๆ ข้อดีของยุงที่นี่คือไม่นำโรคใดๆค่ะ แต่จะฉีดสเปรย์กันยุงก็ไม่กล้า เพราะเดี๋ยวจะเอากลิ่นติดตัวเข้าไปในเต็นท์ด้วย ก็แอบเกรงว่าคุณหมีจะมาทักทายเอา
-ตื่นเช้ามาด้วยความหวาดกลัวและตกใจ-
หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาจากการเดินที่ไกล ทั้งยังแบกกระเป๋าเอง ค่ำคืนนี้จึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลับรวดเดียว ตื่นมาก็เช้าเลย เมื่อเห็นแสงสว่างร่ำไรๆสาดเข้ามาในเต็นท์ ก็พลางได้ยินเหมือนมีตัวอะไรส่งเสียงดังอยู่รอบๆเต็นท์ เลยนิ่งเงียบ เงี่ยหูฟัง ว่าเสียงมันมาจากไหน ปรากฎว่าเหมือนจะมาจากทุกที่รอบๆเต็นท์เลย ก็ชักจะหวาดเสียวหน่อยๆแล้วสิ จึงนั่งนิ่งๆอยู่ในเต็นท์นั่นแหละ 5 นาทีผ่านไป ก็แลดูเหมือนสัตว์อะไรที่อยู่ข้างนอกนั่นก็ยังไม่ไปไหน ยังเสียงดังและเหมือนอยู่เยอะแยะรอบเต็นท์เหมือนเดิม แต่ไม่มีมาใกล้หรือกระแทกเต็นท์ และก็ไม่เห็นมีเงาของสัตว์เหล่านั้นพาดเข้ามาในเต็นท์เลย เลยเดาว่าคงเป็นสัตว์เล็กแน่ๆ จึงกลั้นใจค่อยๆรูดซิปเต็นท์ แล้วส่องดู ก็ไม่เห็นอะไรอยู่ดี และเสียงก็ค่อยลง จึงตัดสินใจออกมาจากเต็นท์…
วิวที่เห็นคือสวยมากๆ ฟ้าสีสด พื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยดอกไม้ต้นเล็กๆมากมาย หลากหลายสีสัน ที่แทรกมาในต้นไม้เล็กๆสีเขียวสดๆ สิ่งที่ประทับใจและไขความกลัวก็คือ นกฮัมมิ่งเบิร์ด ค่ะ เต็มไปหมดเลย ที่กำลังดื่มด่ำมีความสุขกับอาหารเช้าจากเกสรดอกไม้ สงเสียงดังลู่ลม บินกันขวักไขว่ จากดอกนี้ไปดอกนั้น โธ่เอ๊ย..เจ้านี้นี่เองที่ทำให้หวาดกลัวอยู่ในเต็นท์ตั้งนอนสองนาน ตัวแค่นี้ส่งเสียงซะดังเชียว จึงยืนหมุนรอบตัวเองเพลินๆ มองดูความสุขสดชื่นตรงหน้าอีกสักพักใหญ่ๆ

-ชิลลิ่งเดย์-
จากที่วางแผนไว้ว่าจะค้าง 3 คืน แต่เนื่องจากเมื่อวานที่ใช้เวลานานในการข้ามร่องน้ำที่ Kings Creek จึงทำให้ไปไม่ถึงจุดที่วางแผนไว้ว่าจะค้างคืน จึงต้องเปลี่ยนแผน ย้ายเส้นทางเดิน ตัดทริปให้สั้นลงเหลือ 2 คืน เส้นทางเดินจึงสั้นลงไปเยอะ วันนี้เลยชิวหน่อยค่ะ เลยเลือกกางเต็นท์นอนที่ Upper Twin Lake ซึ่งเดินเบาๆแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว จึงมีเวลาพักผ่อน เล่นน้ำในทะเลสาบชิวๆทั้งบ่ายเลยค่ะ แถมยังไม่ต้องรีบร้อนทำอาหารเย็นทานด้วย ซึ่งจุดกางเต็นท์ของคืนนี้ให้อีกบรรยากาศที่แตกต่างไปจากคืนก่อน และยังเห็นครอบครัวคุณกวางที่สวย ดูสุขภาพดี เดินเล่นรอบๆทะเลสาบอย่างสบายใจ

-อยู่ต่อเลยได้ไหม-
วันนี้ต้องร่ำลาผืนป่าแห่งนี้ซะแล้ว เสียดายจริงๆ หลายคนคงงงว่า อ้าว แล้วทำไมไม่อยู่ต่อ เหตุผลก็ง่ายๆเลยค่ะ คือถ้าอยู่ต่อก็ต้องเพิ่มเป็น 5 วัน 4 คืน เพราะเดินหลังตารางไปเยอะพอควร ดังนั้นอาหารที่เตรียมมาจะไม่พอ อีกอย่างที่สำคัญคือ หยกแจ้งขออนุญาตเดินกับทางอุทยานแห่งชาติไว้ 4 วัน 3 คืน ถ้าอยู่นานขึ้น เกรงว่าเค้าจะวุ่นวาย คงว่าหลงป่าเอาน่ะสิค่ะ
-วิวงามๆ Lassen Peak ความฟินทิ้งท้าย-

ทางเดินวันนี้มีวิวหลากหลายมาก เริ่มตั้งแต่เดินรอบๆทะเลสาบ 3 ทะเลสาบ การหยุดนั่งชิวๆ กินขนมเติมพลัง ที่ Echo Lake และรับลมเย็นๆริมทะเลสาบจึงเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ
ไหนจะเดินผ่านดงดอกไม้ป่าสีม่วงสดบ้าง สีขาวบ้าง ดงต้นสนสูงยาวพุ่มใหญ่ๆ ใบสีเขียวเข้มที่ปลายยอดและปลายกิ่งแตกยอดสีเขียวอ่อนๆ เต็มไปหมด ไหนจะมีกลุ่มต้นสนอีกประเภทที่มีกาฝากสีเหลืองเขียวนีออนเกาะตามลำต้นที่ยาวๆ สวยงามแปลกตาม ประกอบกับท้องฟ้าสีฟ้าแจ่มใส วิวเบื้องหน้าเลยสวยมากและอิ่มเอมมากๆ
และแล้วก็ถึงช่วงเดินขึ้นเขาที่ค่อนข้างชัน เล่นเอาหอบเบาๆ แต่พอใกล้ถึงเนินเขาที่จะเป็นทางเดินแนวราบ ความหอบก็หายไปเมื่อได้มองเห็นภูเขา Lassen หรือ Lassen Peak ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพน(ที่ยังละลายไม่หมด) ทั้งๆที่วิวรอบๆเป็นต้นไม้สีเขียวเต็มไปหมด คือสวยมากๆ จนต้องหยุดชมอยู่นาน ซึ่งเมื่อลงเนินตรงนี้ไปก็ถึงปลายทางแล้วค่ะ เลยกลายเป็นการปิดท้ายการเทรคกิ้งที่ฟินมากๆ

-อย่างนี้เรียกว่าโชคดีหรือเปล่า-
มาทราบตอนหลังจากนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆว่า เนื่องจากปีนี้หิมะละลายช้า จึงทำให้น้ำเยอะเป็นพิเศษ เลยไม่แปลกใจที่ทำให้การข้าม Kings Creek นั้นยากและใช้เวลานาน โดยเส้นทางตามแผนที่หยกจะไปกางเต็นท์นอน คือ Horseshoe Lake และ Snug Lake นั้น กลายเป็นโคลนไปเลยค่ะ เดินลำบาก และหาจุดกางเต็นท์ที่ไม่แฉะไม่มีเลย
8. สิ่งที่ต้องเตรียม, ข้อควรรู้, ข้อควรระวัง และ ข้อไม่ควรปฏิบัติ ในการไปแค้มปิ้ง, Backcountry Camping และไฮกิ้งใน Lassen Volcanic National Park รวมทั้งการเตรียมตัวและข้อต้องปฏิบัติเมื่อแค้มปิ้งในพื้นที่ที่มีคุณหมีอาศัยอยู่
8.1) สิ่งที่ต้องเตรียมไป Camping และ Backcountry Camping ใน Lassen Volcanic National Park

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
-สำหรับ Camping-
- เชื้อเพลิง firewood สำหรับก่อกองไฟ
- กรณีไม่ได้จองจุดกางเต็นท์ล่วงหน้า ให้เตรียมจำนวนเงินให้พอดีกับจำนวนคืนที่จะค้าง เพราะไม่มีการทอนเงินนะคะ
- สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ใกล้เคียงกัน ในลักษณะของการเตรียมตัวได้ใน Santa Cruz Island และ Joshua Tree National Park ได้ที่ลิ้งค์ตรงนี้เลยค่ะ
-สำหรับ Camping และ Backcountry Camping-
- อาหารให้ครบทุกมื้อ, อุปกรณ์ทำอาหาร, อุปกรณ์ทานอาหาร และอุปกรณ์ล้างทำความสะอาด ที่สำคัญอย่าลืมไฟแช๊กและแก๊สสำหรับทำอาหารนะจ๊ะ
- เต็นท์ แผ่นรองนอน ถุงนอน
- เสื้อกันหนาว และอุปกรณ์กันหนาวอื่นๆ (ตรวจสอบสภาพอากาศในแต่ละช่วงที่จะมาอีกทีนะคะ)
- trekking poles (ถ้ามี) ไม่จำเป็นต้องซื้อนะคะ หากใครที่ไม่มี เพราะทางเดินไม่ได้ยาก หรือ ชันอะไร เพียงแต่หากใครเคยใช้ trekking poles แล้ว จะทราบว่ามันช่วยผ่อนแรงได้เยอะมากขนาดไหน หยกนี้ถึงขั้นติดเลยแหละค่ะ
- ครีมกันแดด หมวก แว่นกันแดด
- สเปรย์กันยุง
- ทิชชู่เปียก ไว้ซักแห้งเช้า-เย็น, ยาสีฟัน และ แปรงสีฟัน
- ไฟฉาย หรือ ไฟฉายคาดศีรษะ
- Bear Resistant Food Storage Containers ที่ได้รับมาตรฐาน โดยสามารถดูยี่ห้อ และรุ่นที่มีการยอมรับให้ใช้ใน Lassen Volcanic National Park ได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ
- พกถุงซิปล๊อคเปล่าๆไปด้วย เพื่อใส่ขยะ ซิปล๊อคเพื่อปิดกลิ่น แล้วนำขยะเอากลับออกมา
8.2) ข้อปฏิบัติเมื่อทำการแค้มปิ้งในพื้นที่ที่มีคุณหมี, Camping และ Backcountry Camping ใน Lassen Volcanic National Park
- ทำการขอใบอนุญาต Backcountry Camping (Backcountry Camping Permit) ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวทุกศูนย์ที่กล่าวไปแล้วใน ตอนที่ 1 ด้วยตัวเอง หรือ กับเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือ ลงทะเบียนเพื่อขอใบอนุญาตล่วงหน้าทางอีเมล์ โดยกรอกรายละเอียดในเอกสารตามลิ้งค์นี้
- ต้องมี Bear Resistant Food Storage Containers (ภาชนะใส่อาหารและของมีกลิ่นต่างๆเพื่อป้องกันคุณหมีเข้าถึงของเหล่านั้น) ที่ได้รับการอนุมัติจากอุทยานแห่งชาติแล้วว่าได้ทำการทดสอบแล้ว สามารถป้องกันคุณหมีทำลายภาชนะนี้ได้จริง โดยหากไม่มีก็ไม่จำเป็นต้องซื้อค่ะ สามารถขอเช่าได้จากอุทยานแห่งชาติ ในราคา $10 ต่อ 7 วัน โดยมีค่ามัดจำ $95 ค่ะ
- ส่วนการทำการ Camping แบบธรรมดาในลานกางเต็นท์ที่กำหนดให้ใน Lassen Volcanic National Park จะมีตู้ใส่อาหารไว้ให้บริการในแต่ละจุดกางเต็นท์ ก็ให้นำอาหาร ถ้วยจาน สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ขยะ และของมีกลิ่นทุกอย่างใส่ไว้ในนั้นเช่นกันค่ะ ห้ามนำไว้ในเต็นท์ และในรถเด็ดขาดนะคะ
- สามารถก่อกองไฟในบริเวณที่กำหนดในแต่ละจุดกางเต็นท์ได้ (แต่ห้ามก่อกองไฟใน Backcountry Camping)

8.3) เหตุผลที่ต้องเอาของมีกลิ่นทั้งหลายใส่ไว้ใน Bear Resistant Food Storage Containers เพื่อหลีกเลี่ยงคุณหมีเข้าถึงของเหล่านี้
เนื่องจากหมีเป็นสัตว์ป่า หากสัตว์ป่าที่เคยหาอาหารตามธรรมชาติทานเองมาตลอดชีวิต แล้วอยู่ดีๆวันหนึ่ง ได้ลิ้มรสอาหารหรือเครื่องสำอางของคน สัตว์ป่าเหล่านั้นก็คงจะติดใจ ซึ่งจะทำให้สัตว์ป่านั้นโหดร้ายยิ่งขึ้น เนื่องจากมันก็จะเสาะหาสิ่งที่มันเคยลิ้มรสเพื่อทานอีก และก็จะทำให้มันอายุสั้นลง เนื่องจากทานของแปลกปลอมเข้าไป หรือ อาจถูกฆ่าได้ หากมีเหตุการณ์ที่มันกำลังจะเข้าทำร้ายคน เพื่อแย่งของกินจากคน โดยเราจะมีศัพท์ที่เรียกคุณหมีที่เคยลิ้มรสของจากคนว่า active bear นะคะ
Bear Resistant Food Storage Containers ได้รับการทดสอบมาแล้วว่า คุณหมีไม่สามารถทำลายภาชนะนี้ได้ จึงไม่มีโอกาสลิ้มรสของที่ถูกเก็บไว้ภายใน ดังนั้น เราในฐานะนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวในเขตที่มีคุณหมีอาศัยอยู่ ก็ต้องช่วยกันเก็บของมีกลิ่นทั้งหลายไว้ในที่ๆคุณหมีจะเข้าถึงไม่ได้นะคะ
ด้วยสัญชาตญาณของคุณหมี จะไม่มารบกวนคนอยู่แล้วค่ะ และพวกมันยังเกรงกลัวเสียงดัง หากเราไปเที่ยวกันแล้วพูดคุยกันเสียงดัง ทำอาหารอยู่ หมีที่ยังไม่เคยลิ้มรสของกินของคนก็จะไม่เข้าไปรบกวนเราเลยค่ะ แต่หากเป็น active bear แล้วล่ะก็ จะอันตรายมากๆนะคะ
8.4) หากเจอคุณหมี ต้องทำตัวอย่างไร
มีหลักให้จำง่ายๆคือ อย่าตื่นตูม ตั้งสติ ห้ามวิ่ง ทำตัวใหญ่ๆ จ้องตาหมี ส่งเสียงให้ดังที่สุด และค่อยๆเดินถอยหลัง(ในทิศทางตรงข้ามกับหมี)
หากอยู่กันเป็นกลุ่ม ให้มารวมตัวกันเพื่อที่จะได้ดูใหญ่ๆ การทำตัวให้ใหญ่, จ้องตาหมี และส่งเสียงดัง จะทำให้หมีกลัว และจากเราไปในที่สุด

8.5) ข้อไม่ควรปฏิบัติ และข้อห้ามเมื่อทำการแค้มปิ้งในพื้นที่ที่มีคุณหมี ทั้ง Camping และ Backcountry Camping ใน Lassen Volcanic National Park
- พกของมีกลิ่นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์(แต่เอาไปเผื่อ)ไปด้วย เช่น แชมพู น้ำหอม หรือ เครื่องสำอาง เป็นต้น
- ห้ามทำการก่อกองไฟนะคะ อนุญาตให้ใช้เฉพาะกระป๋องแก๊สในการทำอาหารเท่านั้น
- ห้ามปั่นจักรยาน, นำสัตว์เลี้ยง และอาวุธ เข้าในเขต Backcountry
- ห้ามทำการ Backcountry Camping มากกว่า 10 คน ใน 1 กลุ่ม
- ห้ามทิ้งหรือฝังขยะใดๆ ในเขต Backcountry รวมทั้งกระดาษชำระ โดยให้พกนำกลับไปทิ้งเมื่อสิ้นสุด Backcountry Camping
- ห้ามทำการกางเต็นท์ใกล้ถนนใดๆ หรือ ลานกางเต็นท์ (campground) ต่างๆที่กำหนดโดยอุทยานแห่งชาติ เกิน 0.5 ไมล์ หรือ ประมาณ 800 เมตร
- ห้ามทำการกางเต็นท์ใกล้ทางเดินป่า (trail), จุดเริ่มเดิน (trailhead) หรือ บ้านพัก (cabin) เกิน 0.25 ไมล์ หรือ ประมาณ 400 เมตร
- ห้ามทำการกางเต็นท์ใกล้ Hydrothermal Areas เกิน 0.25 ไมล์ หรือ ประมาณ 400 เมตร
- ห้ามทำการกางเต็นท์ใกล้แหล่งน้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร่องน้ำ, ลำธาร, น้ำตก หรือ ทะเลสาบ เกิน 100 ฟุต หรือ ประมาณ 30 เมตร
8.6) การทำธุระหนักและเบาในป่า เมื่ออยู่ใน Backcountry และบริเวณที่ไม่มีห้องน้ำ
การทำธุระเบา และธุระหนัก ก็ง่ายนิดเดียวค่ะ บริเวณไหนก็ได้ที่หลบๆหน่อย แค่จะต้องห่างไกลจากแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ มากกว่า 100 ฟุต หรือ 30 เมตรค่ะ ก็เพื่อป้องกันการไหลสู่แหล่งน้ำดื่มของเรานี่แหละค่ะ
แต่ธุระหนัก จะพิเศษกว่านิดนึง คือ ต้องทำการขุดหลุมลึกสักหน่อยก่อนทำธุระหนักลงไป และเมื่อเสร็จธุระแล้วก็ให้กลบดินลงไปให้แน่นๆ โดยห้ามทิ้งกระดาษชำระลงไปเพื่อฝังกลบด้วยนะคะ ให้เก็บกลับออกมาทิ้งเมื่อสิ้นสุดการแค้มปิ้ง
8.7) การดื่มน้ำตามธรรมชาติ

น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติมีมากมาย และมีเกือบจะตลอดทางเลยค่ะ ซึ่งเราจะดื่มสดๆตรงนั้นเลยไม่ได้นะคะ จะต้องทำการกรองเสียก่อนค่ะ โดยสามารถนำน้ำทั้งจากทะเลสาบ ลำธาร และแหล่งน้ำตามธรรมชาติต่างๆที่พบเห็น มากรองเพื่อดื่มได้หมดเลยค่ะ ซึ่งเป็นน้ำดื่มที่เย็นชื่นใจ อร่อยมากๆ คล้ายกับดื่มน้ำแร่แพงๆ ยังไงยังงั้นเลยค่ะ ติดใจ จนอยากจะหอบหิ้วกลับออกไปดื่มด้วยเลย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อยากไป Backcountry Camping ที่ Lassen Volcanic National Park แล้วใช่ไหมเอ่ย หากกำลังจะมองหาตั๋วเครื่องบินล่ะก็ นี่เป็นเว็บที่หยกใช้หาตั๋วเครื่องถูกๆ คอมเม้นต์สอบถามเข้ามาได้เลยนะคะ เอ…หรือว่าเพื่อนๆเคยไปกันมาแล้ว สนุกไหม เจออะไรบ้าง หรือมีเรื่องราวมันส์ๆ เล่าให้ฟังก็คอมเม้นต์มาได้เลยนะคะ
มีข้อสงสัย คำถาม หรือ อยากแชร์เรื่องเที่ยว คอมเม้นต์ที่ช่องนี้ได้เลยค่ะ