

นี่เป็นตอนที่ 2 ของการแค้มปิ้งบนทะเลทรายใน อุทยานแห่งชาติโจชัวทรี ค่ะ การท่องเที่ยวสอน และให้บทเรียนอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งการแค้มปิ้งทริปนี้ หยกก็ได้เช่นกัน ไปร่วมสนุกฟังเรื่องราวจากการแค้มปิ้งในลานกางเต็นท์ที่ชื่อ Hidden Valley กันค่ะ ทำไมหยกถึงเลือกกางเต็นท์ที่นี่ รวมทั้ง มีลิสต์ของสิ่งที่ต้องเตรียม, ข้อควรรู้, ข้อควรระวัง และ ข้อไม่ควรปฏิบัติ ในการมาแค้มปิ้งในทะเลทรายแห่งนี้ และการไฮกิ้งเพื่อไปชมวิว 360 ของ Joshua Tree National Park บน Ryan Mountain โดยสามารถอ่าน ตอนที่ 1 ซึ่งมีข้อมูลที่ครบถ้วน รายละเอียด และกิจกรรมใน อุทยานแห่งชาติโจชัวทรี ได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ

- Joshua Tree National Park อยู่ที่ไหน, มีอะไร และไปทำไม
- จะไปแค้มป์ปิ้ง ไฮกิ้ง และปีนป่ายก้อนหิน ใน Joshua Tree National Park ต้องเดินทางไปที่ไหน, เสียค่าใช้จ่ายไหม, เสียเท่าไหร่ และมีทางเข้ากี่ทาง
- ช่วงเวลาที่เหมาะ และกิจกรรม ของการไปแค้มป์ปิ้งใน Joshua Tree National Park คืออะไร, มีอะไรให้ชม, มีอะไรให้ทำบ้าง และควรใช้เวลาอยู่ที่นี่นานแค่ไหน
- ไฮกิ้ง และปีนป่ายก้อนหิน ใน Joshua Tree National Park ยากหรือเปล่าเนี่ย, ปีนลำบากไหม, หนทางที่จะเจอเป็นเยี่ยงไร, ระยะทางไกลแค่ไหน และ ใช้เวลาเดินนานขนาดไหน
- สิ่งอำนวยความสะดวก ใน Joshua Tree National Park ไม่ว่าจะเป็นจุดกางเต็นท์, ที่พัก, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ, ร้านค้า, ร้านอาหาร, น้ำดื่ม, ไฟฟ้า หรือ สัญญาณโทรศัพท์ มีไหม
- ถ้าปวดเข้าห้องน้ำ ระหว่างการไฮกิ้งใน Joshua Tree National Park จะทำอย่างไรละเนี่ย
- เรื่องเล่าระหว่างการแค้มป์ปิ้ง, ไฮกิ้ง ไป Ryan Mountain และปีนป่ายก้อนหิน ใน Joshua Tree National Park สนุกแค่ไหน, มันส์ยังไง และมีอะไรที่น่าประทับใจ
- สิ่งที่ต้องเตรียม, ข้อควรรู้, ข้อควรระวัง และ ข้อไม่ควรปฏิบัติ ในการไปแค้มป์ปิ้ง, ไฮกิ้ง และปีนป่ายก้อนหิน ใน Joshua Tree National Park
แต่ก่อนอื่น หยกขอแนะนำอีกอุทยานแห่งชาติในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ให้การแค้มปิ้งในอีกอารมณ์ อารมณ์ของการแค้มปิ้งบนเกาะ ที่ล้อมรอบไปด้วยทะเล และภูเขา ที่ Santa Cruz Island (ตอน 1) ใน Channel Islands National Park (ตอน 2) ค่ะ ซึ่งมี 2 ตอนเช่นกัน หยกชอบที่นี่มาก เสียดายที่เสบียงที่ตุนไปหมด ไม่งั้นหยกคงอยู่นานขึ้นแน่นอนค่ะ ทำไมเสบียงหมด เอ๊ะ การแค้มปิ้งที่นี่เป็นแบบไหน คลิ๊กเข้าไปอ่าน ไปผจญภัยไปด้วยกันในลิ้งค์ตัวหนังสือสีส้มๆ ได้เลยค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!

7. เรื่องเล่าระหว่างการแค้มป์ปิ้ง, ไฮกิ้งไป Ryan Mountain และปีนป่ายก้อนหิน ใน Joshua Tree National Park สนุกแค่ไหน, มันส์ยังไง และมีอะไรที่น่าประทับใจ
-แผนที่ไม่เป็นไปตามแผน-

หยกวางแผนที่จะไปแค้มปิ้งที่ อุทยานแห่งชาติโจชัวทรี ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมค่ะ เนื่องจากอากาศกำลังดี สบายๆ ไม่ร้อนมาก และตรวจสอบพยากรณ์อากาศแล้ว ก็เป็นเช่นนั้นจริง แค่ผิดแผนนิดหน่อย เลยได้มาแค้มปิ้งที่นี่ ช่วงวันที่ยี่สิบกว่าๆ ของเดือนพฤษภาคม มันก็เลยต้องเลยตามเลยค่ะ อีกอย่างเค้าว่าตุลาคม ถึง พฤษภาคม คือฤดูท่องเที่ยวของที่นี่ แสดงว่าน่าจะยังโอเคอยู่
-จุดกางเต็นท์จุดสุดท้าย-

วันที่หยกมาถึงเป็นวันศุกร์ ซึ่งหยกรู้อยู่แล้วว่าไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน หากอยากจะหลีกเลี่ยงคนเยอะๆ ไม่ควรไปวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ หยกจึงอยากจะไปถามข้อมูลที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนว่ายังมีจุดกางเต็นท์ว่างไหม และจะได้จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติด้วยเลย แต่เมื่อไปถึงที่ Joshua Tree Visitor Center ค่ะ ซึ่งตกใจเพราะคนเยอะมากๆ จึงแอบกังวลเล็กๆ และบ่นกับตัวเองว่า ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ควรมาช่วงสามวันนี้ ซึ่งหยกต้องการที่จะไปกางเต็นท์ ในบริเวณลานกางเต็นท์ที่ชื่อ Hidden Valley Campground โดยเจ้าหน้าที่ ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ก็ให้คำตอบไม่ได้ บอกได้แค่ว่าช่วงนี้คนเยอะมาก เพราะเป็นฤดูท่องเที่ยว ช่วงโรงเรียนปิด และวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วย แต่ก็ปลอบใจว่า ที่ Joshua Tree National Park มีลานกางเต็นท์อยู่หลายที่ และมีจุดกางเต็นท์อยู่ค่อนข้างเยอะ ยังไงก็มีที่นอนแน่

เมื่อไปถึง Hidden Valley Campground ปรากฏว่าเหลือจุดกางเต็นท์อยู่จุดสุดท้าย คือโชคดีมากๆ ถึงแม้ทำเลจะไม่ดีก็ตาม เพราะอยู่ใกล้กับห้องน้ำ, ลานจอดรถ, จุดเริ่มเดิน trail และ หินก้อนที่ใครๆ ก็มาปีน คนจึงพลุ่กพล่านมากๆ แต่ก็นะ อย่างน้อยก็มีที่ว่างเนอะ ค่อยเปลี่ยนที่ตอนที่มีที่ว่างเอาละกัน
ย้ำกับตัวเองเลยค่ะทีนี้ ว่าครั้งหน้าจะไม่ไปในวันหยุดสุดสัปดาห์อีกแล้ว
-ทำไมต้อง Hidden Valley-

นอกจาก ต้นโจชัว ที่ขึ้นชื่อของการมาเที่ยวที่ อุทยานแห่งชาติโจชัวทรี แล้ว Rock Formation ก็เป็นที่รู้จักและน่าสนใจมากเช่นกัน ซึ่งที่ Hidden Valley นั้น มีพวกก้อนหินที่ก่อตัวเรียงกันเป็นภูเขาในรูปร่างต่างๆ กันมากมาย และยังเป็นที่นิยมของนักปีนป่ายทั้งหลาย ไม่เพียงเท่านั้น ที่ Hidden Valley ยังเป็นสนามเด็กเล่นที่เพลินมากๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กก็สามารถเดินปีนป่ายไต่พวกก้อนเหล่านั้นได้ อย่างง่ายๆ เลยค่ะ หยกก็อีกคนที่ยังเป็นเด็กอยู่ 55+ เลยอยากจะมากระโดดโลดเต้น ปีนป่ายเล่นบ้าง
-พลาด-


อุทยานแห่งชาติโจชัวทรี มันคือทะเลทราย คำว่า “ทะเลทราย” กับ พื้นที่ที่เป็นทราย ว่างเปล่า และร้อนมาก นั่นคือสิ่งที่เข้าใจมาตลอด แต่ผิดค่ะ เพราะกลางวันจะอากาศร้อน แต่กลางคืนนี่สิ หนาวมาก ทุกจุดกางเต็นท์ใน Hidden Valley และลานกางเต็นท์ที่อื่น จะมีที่ให้ทำการก่อกองไฟ (campfire) ในบริเวณที่กำหนดที่เรียกว่า “fire pit หรือ fire ring” ซึ่งหยกไม่ได้เตรียมอุปกรณ์มาก่อกองไฟไง ดีที่ลมไม่แรง จึงพอได้เพลิดเพลินกับการทำกับข้าว และดวงดาวบนฟ้าแทน
-เสน่ห์ของทะเลทราย-


แล้วภาระกิจไฮกิ้งก็เริ่มขึ้นในช่วงสายๆ ของวันถัดไป ด้วยเสน่ห์ของทะเลทรายแห่งนี้มันช่างทำให้การไฮกิ้งในครั้งนี้ เป็นอะไรที่ชิวและเพลิดมากๆ และเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า จนนึกว่าตัวเองเป็น เต่าทะเลทราย (desert turtle) ซะอีก ก็ดอกไม้นานาชนิด (มากกว่า 50 ชนิด เห็นจะได้) สีสันสดใส บานสะพรั่ง น่าสนใจ อยู่เต็มพื้นที่ ทุกย่างก้าวเลยน่ะสิ ไหนจะต้นกระบองเพชรขนาดอ้วนใหญ่ ที่ออกดอกเต็มต้นหลากสีอีก จนทำให้เดินเป็นชั่วโมงแล้ว ก็ยังเดินไปไม่ถึงไหนเลยค่ะ


แต่ซิกเนเจอร์ของความที่เป็นทะเลทราย โดยเฉพาะในช่วงใกล้ซัมเมอร์ ตอนกลางวันจึงร้อนมาก เกือบ 40 องศาเซลเซียส เห็นจะได้ หลังจากใช้เวลา 2 – 3 ชั่วโมง ชื่นชมสีสันของทะเลทรายแห่งนี้ ก็ทนกับความร้อนไม่ไหวแล้ว จึงเดินกลับ แต่การเดินกลับก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน ก็ไอ้เจ้าดอกไม้ทั้งหลายนี่แหละ มันจะสวยน่าหยุดมองอะไรขนาดนั้น

>-แล้วโชคก็มา-

แค้มป์ใกล้ๆ เค้ากลับกันหมดแล้ว แต่สิ่งที่เค้าไม่ได้ถือกลับด้วย ก็คือ firewood คืนนี้หยกจึงไม่หนาว จึงมีกองไฟเป็นของตัวเอง แต่สำลักควันแทน 55+
-หลบแดด-

ปกติแล้วหยกเป็นคนที่ลุย ไม่กลัวแดด แต่แดดของ อุทยานแห่งชาติโจชัวทรี นี้ ขอลาค่ะ แสบ ร้อน จนปวดหัวเลย ถึงว่าเค้าแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตรต่อวัน และ 6 ลิตรต่อวัน หากทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ จึงได้แต่หาซอกหินร่มๆ หลบแดดเพลิดๆ ใน Hidden Valley ค่ะ ซึ่งที่นี่มีหินเยอะมากๆ แล้วค่อยออกไปทำกิจกรรมช่วงเย็นๆ แทน
-เตรียมพร้อมกับการซักแห้งอาทิตย์นึง-
อย่างที่บอกไปว่าที่ อุทยานแห่งชาติโจชัวทรี นี้ ไม่มีห้องอาบน้ำค่ะ แต่มีห้องน้ำ ซึ่งใน Hidden Valley Campground มีห้องน้ำแบบแห้ง ไม่ใช่แบบชักโครก แต่สะอาด และไม่มีกลิ่นเลยค่ะ น่าประหลาดใจก็ตรงนี้ ซึ่งทำให้หยกต้องทำการซักแห้งเป็นเวลาเกือบ 7 วันเลยทีเดียว แต่ได้ทำการล้างหน้า และแปรงฟันนะคะ ส่วนอวัยวะลับๆ และเท้านั้น ทิชชู่เปียกช่วยได้เสมอค่ะ เลยได้อาบน้ำ(ด้วยทิชชู่เปียก)ทั้งเช้า และเย็นเลยค่ะ โชคดีที่อากาศตอนกลางคืนค่อนข้างเย็น เลยไม่มีเหงื่อ ส่วนตอนกลางวันนั้น ถ้าไม่ได้ยืนกลางแดด และทำกิจกรรมใดๆ อากาศก็ค่อนข้างเย็นค่ะ ขนาดที่ว่าหากยืนกลางแดด และก้าวสองก้าวเพื่อเข้าไปยืนใต้เงาของก้อนหิน อากาศก็แตกต่างทันทีเลยค่ะ ก็เลยไม่มีเหงื่ออยู่ดี
แต่ปัญหาคือ หลังจากจบทริปแค้มปิ้งที่แล้ว ตอนได้อาบน้ำสระผมนี่สิ หัวแข็ง ผมกระเซิง เหนียวแน่น กว่าจะสระเสร็จ ผมนี่ร่วงติดมือมาจนตกใจ คือถ้าไปแค้มปิ้ง 10 ทริป คงหัวล้านแน่ หยกเลยจบปัญหาด้วยกันถักเปีย(ดังรูป)ไว้ค่ะ สบายเลยทีนี้ แล้วก็ซักแห้งผมด้วยการโรยแป้งลงไป 55+

-ลังเล หรือ ขี้เกียจ-
เมื่อจุดกางเต็นท์เริ่มว่าง จึงเกิดการต่อสู้ภายในจิตใจขึ้นว่า นี่ตูควรจะเก็บข้าวของ เก็บเต็นท์ เพื่อย้ายที่ และทำการกางเต็นท์ และจัดของใหม่ดีไหมหน้อ แต่ในที่สุด เมื่อเจอจุดกางเต็นท์เริ่ดๆ ว่างอยู่ แล้วจะรีรอะไร ก็จัดการเขียนจอง และจ่ายเงินทันทีน่ะสิคะ
-พระอาทิตย์สีรุ้ง-

พอตกเย็น ความร้อนเริ่มมลาย ความลุยจึงบังเกิด แต่จะให้ไปเดินไฮกิ้ง ก็จะกลับไม่ทันมืดเอา ที่สำคัญใน Hidden Valley นั้น เป็นบริเวณที่มีชื่อเสียงของการปีนป่าย ของ Rock Formation ที่สวยงาม หยกจึงกลายเป็นเด็กซนๆ อีกครั้ง ด้วยการเริ่มการปีนป้ายก้อนหิน หรือที่เรียกว่า scrambling นั่นเองค่ะ ซึ่งทั้งสนุกทั้งกลัว ดีที่หินไม่ลื่นเลย มีลักษณะขรุขระๆ ประมาณกระดาษทรายหยาบๆ จึงเกาะกับรองเท้าดีนัก แต่ไม่เกาะมือและก้นเลย



ซึ่ง ณ เวลานี้ จะเห็นหลายๆ คน กำลังปีนป่าย และหลายคนนั่งชิวๆ บนก้อนหินสูงๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มออกโทนสีส้มแดง แน่ล่ะ ทุกคนคงมารอชมพระอาทิตย์ตกดินกันสินะ หยกเองก็ตื่นเต้นไม่เบาค่ะ เคยชมพระอาทิตย์ตกดินที่ทะเล ภูเขา และในเมือง แต่ยังไม่เคยชมในทะเลทราย บนภูเขาก้อนหินสูงๆ แบบนี้เลย หลังจากรู้ตัวว่าไปสูงกว่านี้ไม่ได้แล้ว จึงนั่งลง รอคอยการแสดงของคุณพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุด เท่าที่หยกเคยเห็นเลยค่ะ แสงหลากสีที่ผสมผสานจากแสงของพระอาทิตย์ ปนกับท้องฟ้าสีฟ้า ผ่านลอดก้อนเมฆสีขาวๆ ก่อให้เกิด ท้องฟ้าหลากสี ตั้งแต่ ฟ้า ม่วง ชมพู ส้ม และ แดง กว้างไกลเต็มท้องฟ้า อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก และเมื่อท้ายสุดก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไป ก็ร่ำลาด้วยแสงสีส้มๆแดงๆสดๆ พร้อมกับก้อนกลมๆโตๆสีแดงฉ่ำของพระอาทิตย์ เสมือนใครเอาระเบิดมาโยนเลยค่ะ
-ทางออก ไม่ใช่เลือกที่จะกลับบ้าน-


ในเมื่อกลางวันมันร้อนมากจนทำอะไรไม่ได้เลย และโชคดีที่พระอาทิตย์ขึ้นเร็ว คือ ก่อนตีห้า ก็เริ่มสว่างแล้ว และแน่นอนที่มืดช้า คือ สองทุ่มกว่าๆ ช่วงเวลาที่จะทำกิจกรรมกลางแจ้ง (สำหรับหยก) ได้ คือช่วงเช้าๆ และช่วงเย็นๆ เท่านั้น เช้าวันถัดมา จึงเลือกที่จะไฮกิ้งไปชมวิวพาโนรามาแบบ 360 ของ Joshua Tree National Park บน Ryan Mountain ที่ไม่ห่างจาก Hidden Valley มากนัก โดยเริ่มออกเดินตอนเช้ามืด เดินไปพร้อมกับแสงสีชมพูอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตื่น



ทางเดินขึ้นเขา เดินง่าย ทางเดินชัดเจน มีหินเป็นขั้นๆบันไดค่ะ มีวิวภูเขาไกลๆ ต้นไม้ ดอกไม้มากมายให้ชมตลอดทางค่ะ ด้านบนวิวก็สวยมากด้วย ได้เห็นวิวรอบทิศ 360 องศาเลยค่ะ ประกอบกับความงามของแสงยามเช้าที่กระทบกับก้อนหิน กับต้นไม้ และความอุ่น ทำให้หักลบกับลมเย็นๆ ที่พัดมากระทบกับผิว กลายเป็นอากาศที่เย็นสบาย และบริสุทธิ์สุดๆ


โดยหยกใช้เวลาเดินขึ้นจากจุดเริ่มเดิน ถึง ด้านบน Ryan Mountain ประมาณ 1 ชั่วโมง อยู่ชมวิว และทานอาหารเช้าชิวๆ เพลินๆ ด้านบนอีกประมาณ 1 ชั่วโมง และเดินลงประมาณ 40 นาทีค่ะ




-ห้อยต่องแต่ง-
ถึงแม้ตอนกลางวันจะร้อนมากๆ แต่นักท่องเที่ยวทั้งหลายก็ยังคงทำกิจกรรมกลางแจ้งกันมากมาย โดยเฉพาะใน Hidden Valley บ้างก็ออกไฮกิ้ง บ้างก็ปีนป่ายก้อนหิน ส่วนหยกนั้นก็นั่งหลบแดด ด้วยร่มเงาของก้อนหิน อย่างเพลิดเพลิน และตะลึงกับการดูผู้คนห้อยต่องแต่งบนเชือก เพื่อปีนป่ายก้อนหินขึ้นไปบนยอดสูงสุดของภูเขาหินนั้นๆ ดูไปก็ลุ้นไป ตื่นเต้นดีจริงๆ คือมันสูงมากๆ สูงแบบที่เห็นคนบนยอดเขาเหล่านั้น ตัวเล็กกระจิ๊ดเท่ามด ถ้าหยกคลั่งไคล้การปีนป่ายหินอย่างพวกเขา ตอนนี้หยกคงกำลังห้อยต่องแต่งอยู่บนภูเขาหินสักก้อนอยู่เป็นแน่
-จินตนาการ-


ช่วงเย็นๆ หยกเลยเดินเล่นชมภูเขาก้อนหินทั้งหลายแหล่ในบริเวณ Hidden Valley ค่ะ ที่ก่อให้เกิดการจินตนาการที่กว้างไกล มองหินก้อนนั้นเป็นโดนัทบ้าง มองก้อนนี้เป็นลูกขี่หลังพ่อบ้าง ซึ่งสนุก บริหารสมอง และเพลินดีค่ะ
-แสงสีทองยามเย็น-

เสน่ห์ของทะเลทรายแห่งนี้ ยังไม่หมดค่ะ แสงยามเย็นก่อนที่ท้องฟ้าจะเป็นสีแดงของพระอาทิตย์ตกดิน ก็จะให้แสงสีทองก่อน โดยที่แสงสีทองนี้ เมื่อกระทบกับพวกภูเขาหินทั้งหลายแล้ว ก่อให้เกิดหินสีทองอร่าม ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าใสแจ่ม หากมีตัวประกอบของต้นไม้สีเขียวๆ และดอกไม้หลากสีสันด้วยแล้ว ช่างเป็นความงามที่ลงตัวจริงๆ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
8. สิ่งที่ต้องเตรียม, ข้อควรรู้, ข้อควรระวัง และ ข้อไม่ควรปฏิบัติ ในการไปแค้มป์ปิ้ง, ไฮกิ้ง และปีนป่ายก้อนหิน ใน Joshua Tree National Park
8.1) สิ่งที่ต้องเตรียม

-เกี่ยวกับการแค้มปิ้ง-
- เชื้อเพลิง firewood สำหรับก่อกองไฟ
- เตรียมจำนวนเงินให้พอดีกับจำนวนคืนที่จะค้าง เพราะไม่มีการทอนเงินนะคะ
- พกน้ำดื่มมาเผื่อไว้เยอะๆ นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครที่ต้องการจะทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- มาแค้มปิ้ง ส่งที่ต้องเอามาแน่ๆ ก็คือเต็นท์ แผ่นรองนอน หมอน และถุงนอนค่ะ
- เตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาให้พร้อมนะคะ ทั้งดาวน์แจ๊คเก็ต ถุงนอนกันหนาว ถุงเท้า เป็นต้น เป็นไปได้แนะนำเป็นแบบขนแกะ ขนห่าน นะคะ ถึงแม้จะราคาแพง แต่น้ำหนักเบากว่า อุ่นกว่ามากๆ ค่ะ ที่สำคัญใช้ได้นานมากๆ เป็นสิบปีเลยทีเดียว
- ถึงแม้จะไม่มีน้ำให้อาบ การดูแลรักษาความสะอาดจึงสำคัญมากๆ อย่าลืมเตรียมทิชชู่เปียก ไว้ซักแห้งเช้า-เย็น ด้วยนะคะ
- ยาสีฟัน และ แปรงสีฟัน รักษาความสะอาดช่องปากกันด้วยค่ะ
- แอลกอฮอล์เจล ไว้ทำความสะอาดมือก่อนทำอาหาร และก่อน-หลังเข้าห้องน้ำค่ะ
- Headlamp (ไฟฉายคาดศีรษะ) หรือ ไฟฉาย เพราะกลางคืนไม่มีไฟฟ้าค่ะ ทั้งบริเวณลานกางเต็นท์ ทางเดิน และในห้องน้ำก็ไม่มีไฟนะคะ
- ครีมกันแดด และลิปมันกันแดด อย่าลืมว่า อุทยานแห่งชาติโจชัวทรี คือทะเลทรายนะคะ

-เกี่ยวกับอาหารการกิน-
- เตรียมอาหารมาทำกินเองค่ะ โดยเตรียมให้เพียงพอสำหรับทุกมื้อ ทุกวัน โดยเตรียมมาเผื่อสักหน่อยนะคะ เพราะเมื่อเราทำกิจกรรมเยอะๆ จะหิวมาก และกินเยอะกว่าปกติ
- Trail mix เช่น พวกถั่วต่างๆ หรือ ของกินที่ให้พลังงานสูง เช่น พวก energy bar ทั้งหลาย ไว้สำหรับเติมพลังงานระหว่างการไฮกิ้ง และกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ ค่ะ อย่าลืมพกไปด้วยละกันนะคะ
- ช้อนส้อม ถ้วยจาน แก้วน้ำ และอุปกรณ์ทำอาหาร ถังแก๊สสำหรับทำอาหาร (fuel canister โดยเตรียมมาให้พอนะคะ) และหม้อ เป็นต้น อย่าลืมไฟแช็กนะจ๊ะ
- เตรียมขวดน้ำดื่มขนาดใหญ่ สัก 2 ขวด มาไว้เติมน้ำไว้ใช้ ขวดแรกไว้ดื่ม อีกขวดไว้ทำความสะอาดจานชามค่ะ
- น้ำยาล้างจาน และสก๊อตไบซ์

8.2) ข้อควรรู้

-เกี่ยวกับจุดกางเต็นท์-
- Campsite มีทั้งแบบที่สามารถจองล่วงหน้าได้ และแบบที่ไม่สามารถทำการจองได้ คือใครมาก่อน จองก่อน ก็ได้ก่อนค่ะ หากใครเลือกไม่ถูกว่าจะแค้มป์ที่ไหนดี หยกแนะนำ Hidden Valley Campground ค่ะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก West Entrance มากนัก และมีกิจกรรมให้ทำเยอะค่ะ
- เวลาเช็คอิน และเช็คเอ้าท์ คือ 12.00 น. ดังนั้นต้องเก็บข้าวของและเต็นท์ให้เรียบร้อย เนื่องจากอาจจะมีคนเข้ามาพักต่อจากเราค่ะ
- จุดกางเต็นท์ที่เป็นแบบ first come, first served จะเป็นการลงทะเบียน และชำระเงินแบบ self-registration ตามรายละเอียดในข้อ 5.1.4) ใน ตอนที่ 1 นะคะ
- สามารถก่อกองไฟได้ แต่เฉพาะในที่ๆ กำหนดค่ะ

-เกี่ยวกับน้ำดื่ม และ อาหารการกิน-
- น้ำ “Potable Water” เป็นน้ำที่สามารถใช้ดื่มได้ มีให้บริการอยู่ 4 จุด ตามหัวข้อ 5.4) ใน ตอนที่ 1 ค่ะ
- หากใครไม่ต้องการทำอาหารกินเอง ก็สามารถขับรถเข้าไปในเมืองใกล้เคียง คือเมือง Yucca Valley ซึ่งห่างจาก อุทยานแห่งชาติโจชัวทรี ประมาณ 25 กิโลเมตร นะคะ

-เกี่ยวกับการไฮกิ้ง และ ปีนป่าย-
- ทางเดินสำหรับไฮกิ้งเดินง่าย มี trail ชัดเจน มีแผนที่อธิบายชัดเจน และมีป้ายบอกระหว่างทาง
- หากใครมาช่วงกลางๆ ค่อนไปทางปลายพฤษภาคมแบบหยก แนะนำให้ทำพวกกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหลาย ในช่วงเช้าๆ และเย็นๆ ค่ะ ซึ่งประมาณตี่สี่ห้าสิบก็เริ่มสว่างแล้ว และมืดช้าแบบเกือบสองทุ่มเลยค่ะ ที่สำคัญคืออากาศจะไม่ร้อนมาก
- เตรียมน้ำดื่มไปเผื่อ ระหว่างการเดินไฮกิ้งด้วยนะคะ
- หลังจากไฮกิ้งเสร็จแล้ว อย่าลืมยืดเส้นยืดสายด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้ไม่เจ็บกล้ามเนื้อในวันถัดไป
- ใครที่เป็นนักปีนป่าย หรือ ชอบกิจกรรม climbing หยกแนะนำให้ไปที่ Hidden Valley ค่ะ จะเจอคนคอเดียวกันเยอะเลยค่ะ

8.3) ข้อควรระวัง
-เกี่ยวกับการแค้มปิ้ง และ ไฮกิ้ง-
- อากาศร้อน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการขาดน้ำ (dehydration) ซึ่งอันตรายอาจถึงเสียชีวิตได้ จึงควรดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อย 3 ลิตรต่อวัน ต่อคน กรณีไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ และต้องดื่มเป็น 2 เท่า คือ 6 ลิตรต่อวัน ต่อคน กรณีทำกิจกรรมไม่ว่าจะไฮกิ้ง ปีนป่าย หรือ ปั่นจักรยาน
- ระวัง งูหางกระดิ่ง (rattlesnake) ซึ่งงูหางกระดิ่งนี้ จะชอบออกมาอาบแดด เพื่อทำการอบอุ่นร่างกาย จึงมักจะพบเจอพวกมันอยู่ตามก้อนหินกลางแดด งูหางกระดิ่งนี้ เป็นงูมีพิษร้ายแรงถึงแก่ชีวิตเลยค่ะ แต่สัญชาตญาณของงูหางกระดิ่งนี้ ไม่ได้อยากจะทำร้ายคนนะคะ เพราะถ้ามันฉกเรา แทนที่จะฉกเหยื่อที่มันจะกิน มันก็จะอดอาหารนานเป็น 2 – 3 สัปดาห์เลยค่ะ กว่าที่มันจะสร้างพิษขึ้นมาใหม่ได้ โดยมันจะส่งสัญญาณขู่เราด้วยเสียงเฉพาะ เป็นเสียงสั่นสะเทือนถี่ ๆ (คล้ายๆ เครื่องดนตรี หรือ ของเล่นเด็ก) ที่มาจากของปล้องเกล็ดเป็นข้อ ๆ ที่หางของงูหางกระดิ่ง เราก็ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางนั้นค่ะ ดังนั้น ก่อนที่เราจะปีน จะจับก้อนหินใดๆ ให้ส่งเสียง กระทืบเท้า หรือ โยนหินเล็กๆ ไปข้างหน้า (ระวังโดนคนนะคะ) เพื่อส่งสัญญาณให้งูหางกระดิ่งทราบว่าเราจะไปทางนั้น มันจะได้หลีกหนีไปทางอื่น แต่ถ้าบังเอิญเราปะหน้ากัน ก็ให้ใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ เดินถอยหลังค่ะ มันก็กลัวเราเช่นกัน เพราะมันก็ไม่อยากที่จะอดอาหารตายค่ะ
- สังเกต และระมัดระวัง ก่อนเข้าใกล้ ต้นโจชัว ด้วยนะคะ เพราะมันเป็นที่อยู่อาศัย ที่ป้องกันภัย และอาหารของสัตว์หลายชนิดทั้งที่อันตราย และไม่อันตราย
- อย่าวางอาหารไว้ด้านนอกเต็นท์ บนโต๊ะ หรือ ในเต็นท์นะคะ เพราะ ที่ Joshua Tree National Park มี กระรอก เยอะค่ะ มันจะมาทานอาหารเรา และอาจจะกัดเต็นท์ให้เป็นรูได้
- ระหว่างการไฮกิ้ง พกน้ำดื่มไปเผื่อ ให้มากกว่าปริมาณปกติด้วยนะคะ

8.4) ข้อไม่ควรปฏิบัติ
- ไม่ควรเข้าใกล้ สัมผัส หรือ ให้อาหารสัตว์ป่า เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์ป่า และเพื่อยืดอายุให้สัตว์ป่าเหล่านั้นค่ะ
- ไม่สามารถร่อน drone ภายในเขต อุทยานแห่งชาติโจชัวทรี ได้นะคะ ฝ่าฝืน เสียค่าปรับ$180 เลยเชียวค่ะ

เรื่องราวท่องเที่ยว แค้มปิ้งของหยกเป็นยังไงกันคะ หวังว่าจะสนุก และเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ชาวสนุกเที่ยวนะคะ ใครที่เคยไป Joshua Tree National Park มาแล้ว พักกันที่ไหน ทำกิจกรรมอะไร หรือ มีอะไรมันส์ๆ น่าประทับใจ ก็เล่าก็แชร์มาให้ฟังที่คอมเม้นต์ด้านล่างนี้ตามสบายเลยค่ะ หรือเพื่อนๆ ท่านอื่นๆ ที่ยังไม่เคยไป และกำลังจะมองหาตั๋วเครื่องบินล่ะก็ นี่ค่ะเว็บที่หยกใช้หาตั๋วเครื่องราคาดีๆ ก็ชอบมีโปรออกมาล่อใจ บ่อยมากๆ ค่ะ แล้วคอมเม้นต์ทักทายเข้ามา มาพูดคุยกันเยอะๆ นะคะ ทั้งสอบถาม แนะนำ ติชม หรือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยค่ะ หยกยินดีมากๆ
มีข้อสงสัย คำถาม หรือ อยากแชร์เรื่องเที่ยว คอมเม้นต์ที่ช่องนี้ได้เลยค่ะ