
Keskenkyia Loop Trek เป็นเส้นทางเทรคกิ้งที่ค่อนข้างท้าทายค่ะ เพราะต้องเดินเท้า 4 วัน 3 คืน ในพื้นที่ที่สูงกว่า 2,800 เมตร จนถึง 3,380 เมตร ทุกวัน (จุดเริ่มเดินสูง 2,200 เมตร) ต้องข้าม Jyrgalan Pass ที่สูงกว่า 3,332 เมตร ทั้งยังต้องขี่ม้าข้าม Tup River และยังมีบางช่วงที่ทางเดินแคบลื่นชัน ทั้งไม่มีที่พัก และ อาหารบริการ จึงต้องเตรียมเต็นท์ เครื่องนอน อุปกรณ์กันหนาว อาหาร และ อุปกรณ์การทำอาหารไปเอง แต่ก็สบายค่ะ เพราะสามารถจ้างคุณม้าให้ช่วยแบกสัมภาระ
โดยที่หยกได้แบ่งการเทรคกิ้งบนเส้นทาง Keskenkyia Loop Trek นี้ออกเป็น 2 ตอนนะคะ สามารถคลิ๊กอ่าน ตอนที่ 2 ได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ
ทั้งนี้ หยกยังมี คู่มือท่องเที่ยว Krygyzstan กับรายละเอียดที่แน่น ครบถ้วน และมีรูปภาพประกอบอีกเพียบ ให้เพื่อนๆ สามารถหาข้อมูลเที่ยวได้ด้วยตัวเองตามลิ้งค์เลยค่ะ เพื่อนๆ ท่านใดสนใจอยากเที่ยวที่ คีร์กีซสถาน แบบลึกซึ้ง แบบลุย ได้เทรค ได้แค้มป์ และได้สัมผัสกับความเป็น คีร์กีซ จริงๆ (หยกไม่พาเที่ยวแบบชะโงกนะคะ) หยกจัด ทัวร์คีร์กีซสถาน ด้วยค่ะ คลิ๊กอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิ้งค์ได้เลย หรือจะอีเมลมาสอบถามข้อสงสัยต่างๆ ที่นี่ก็ได้นะคะ ไป เที่ยว Kyrgyzstan ด้วยกันค่ะ

ขอบอกเลยค่ะว่าหากใครที่กำลังมองหาเส้นทางเทรคกิ้งที่สวยมากๆ เดินสนุกๆ ท้าทายนิดๆ ทั้งมีสีของความเขียวขจี มีสีสันของดอกไม้นานาชนิด จนยากที่ตะบรรยายให้ฟังว่าสวยงามขนาดไหน งั้นไปดูภาพพร้อมเรื่องเล่าพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ข้อควรรู้นิดๆ หน่อยๆ ก็คือ ชื่อเส้นทาง Keskenkyia Loop อาจพบว่ามีการเขียนหลายแบบ เช่น Keskenkiya Loop หรือ Keskenkija Loop ซึ่งทั้งหมดคือเส้นทางเดียวกันนะคะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
D1: Jyrgalan 2,200 เมตร – Jyrgalan Pass (Ak Kiya) 3,332 เมตร – campsite 2,885 เมตร


-หมู่บ้าน Jyrgalan-
เราเริ่มเดินกันตอนเที่ยงที่หมู่บ้านที่ชื่อ Jyrgalan ค่ะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบมากๆ จนอยากจะย้ายมาอยู่ที่นี่เลยค่ะ หลังจากการจัดการแพ็คของบนหลังคุณม้าเรียบร้อย เราก็ออกเดินกันค่ะ ซึ่งการเดินผ่านหมู่บ้านเล็กๆ แบบนี้ก็เพลินดีค่ะ ได้เห็นวิถีชีวิตชาวพื้นเมือง ที่มีหลากหลายวัย ทุกคนขยันขันแข็ง เด็กๆ ช่วยกันขนนมสดๆ คุณยายกำลังทำสวน ทั้งยังมีกลุ่มเด็กผู้ชาย 5-6 คน เล่นกันบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำ ก่อนมุ่งสู่จุดเริ่มเดินที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ



-เริ่มเดินจริงแล้วนะ-
การเริ่มออกเดินนั้นเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆ ถึงแม้ทางเดินช่วงแรกนี้จะชันมากๆ ก็ตาม แต่สิ่งรอบๆ ที่เห็นนั้นสวยแปลกตาไปหมด ทั้งยิ่งเดินสูงขึ้น หมู่บ้าน Jyrgalan ที่ว่าเล็กๆ ก็ยิ่งเล็กลงไปอีก แต่จากนี้ไปทางเดินน่าสนใจและเพลินมากขึ้นๆ ทางเดินง่ายค่ะ เดินบนทางเดินโล่งกว้าง ที่เต็มไปด้วยหญ้าเขียวๆ และดอกไม้เล็กๆ สีเหลืองและม่วง ตัดกันดี๊ดี จนอยากจะลงไปนอนเกลือกกลิ้งกับความสดชื่นตรงนี้เลยค่ะ ในส่วนของด้านหน้านั้นคือ วิวภูเขาลูกโตๆ หลายลูกเรียงซ้อนกัน


เดินเพลินๆ สักพักจะเจอ yurt ที่ Eki Chat Valley ซึ่งเทรคเกอร์สามารถเข้าพักได้ และมีอาหารให้บริการค่ะ ซึ่งบริเวณนี้เป็นจุดที่เหมาะแก่การหาพื้นที่ใต้ต้นไม้ร่มๆ พักทานอาหารเที่ยง ก่อนที่จะมุ่งสู่ทางเดินโล่งกว้างกลางแจ้ง



แล้วทางเดินก็วกเข้าสู่ทางเดินดิน ที่เป็นเทรลกว้างๆ ชัดเจน ราบเรียบ ไม่ชัน ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบด้านได้กว้างไกลสุดๆ มองไปทางไหนก็เขียวไปหมด ทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้นไปอีกค่ะ ช่วงนี้ยังเดินสบายอยู่ค่ะ เดินบนทางราบๆ สักพักจะเห็น yurt 2 – 3 หลังอยู่ด้านล่าง ในเวิ้งกว้าง ที่มีลำธารน้ำผ่าน ให้สามารถหยุดพักค้างคืนได้ ไม่ว่าจะต้องการนอนใน yurt หรือ กางเต็นท์เอง หากร่างกายยังไม่พร้อมไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศในพื้นที่สูง สำหรับการเดินข้าม Jyrgalan Pass (มีชื่อภาษาพื้นเมืองว่า Ak Kiya) ที่สูงกว่า 3,332 เมตร แต่หยกพึ่งเทรคที่อื่นมาค่ะ เลยพอไหวไปต่อได้


จากนี้ไปทางเดินจะเริ่มชันนิดๆ แค่นิดเดียวเท่านั้นค่ะ ค่อยๆ สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เริ่มลำบากในการหายใจ และเหนื่อยหอบสุดๆ การพูดคุยไปพร้อมๆ กับการเดินนั้นทำให้เหนื่อยหอบมากขึ้น เดินเรื่อยๆ หายใจเข้าออกลึกๆ ดื่มน้ำบ่อยๆ



และแล้วก็ถึง Jyrgalan Pass แล้วค่ะ สิ่งที่เห็นฝั่งตรงข้ามนั้นสวยอีกแล้ว เป็นทัศนียภาพที่แตกต่างสุดๆ สีภูเขาที่เห็นนั้นหลากหลายและกว้างไกลมากๆ ทั้งส้มอมชมพู เขียวอ่อนไล่ไปจนเข้ม ทั้งยังมีภูเขาสีขาวและน้ำตาล ยิ่งสวยเข้าไปใหญ่เพราะบนนี้มีคุณม้าตัวโตๆ ดูแข็งแรงๆ กินหญ้าและเกินเล่นรับลมชิวๆ เป็นแบบให้กล้องได้ดีเลย และบนนี้มีลมพัดแรงมากๆ ค่ะ อากาศเลยหนาวหน่อยๆ อยู่นานไม่ได้ ต้องรีบเดินต่อค่ะ ซึ่งทางเดินก็ลาดลงนิดๆ เลยเดินง่ายขึ้น แต่อากาศหนาวและเย็นมากขึ้น จนต้องหยิบอุปกรณ์กันหนาวมาใส่เลยค่ะ

เดินเรื่อยๆ แปปๆ ก็จะเจอแหล่งน้ำ ซึ่งบริเวณนี้ก็เหมาะที่จะเป็นจุดกางเต็นท์ของค่ำคืนนี้ค่ะ ที่เหลือก็แค่พยายามหาพื้นที่ราบๆ ที่จะกางเต็นท์ได้ แล้วก็รับทำอาหารอย่างฉับไว เพราะหิวจัดสุดๆ และยังต้องรีบจัดการทุกอย่างให้ทันก่อนมืดอีกด้วยค่ะ ไม่ใช่อะไรก็เพื่อความสะดวกในการจัดการระหว่างที่ยังมีแสงสว่างอยู่ก็แค่นั้นเอง


D2: campsite 2,885 เมตร – Tup River – campsite 3,018 เมตร

วันนี้มีภาระกิจยิ่งใหญ่ก็คือ การขี่ม้าข้าม Tup river แม่น้ำอันกว้างที่น้ำสูงจนไม่สามารถเดินเท้าผ่านได้ จะต้องเดินทางด้วยม้าค่ะ ตื่นเต้นและหวาดเสียวสุดๆ เพราะจะเป็นครั้งแรกที่หยกได้ขี่ม้าด้วยค่ะ


-ขี่ม้า ขาสั่น ข้าม Tup River-
เดินสบายๆ ประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็จะถึง Tup river ค่ะ ซึ่งเดินดีๆ นะคะ ไม่งั้นจะเข้าสู่เทรลอื่นไป มันจะมีเทรลเล็กๆ เดินผ่านทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้สีสด ลงไปยังแม่น้ำทางด้านซ้ายมือ แล้วหนุ่มรูปงามคนคุมม้าของเราก็จัดการข้ามฝั่งไปก่อน แล้วแกะกระเป๋าออกจากหลังม้า แล้วก็วกกลับเข้ามารับเราค่ะ ซึ่ง ณ จุดนี้ ตื่นเต้นมากๆ แม่น้ำที่เห็นเหมือนจะไม่กว้างมาก แต่ตอนขี่ม้าข้ามนี่รู้สึกว่ายาวนานสุดๆ แอบเกร็งและหวาดเสียวเบาๆ ค่ะ มีทั้งต้องผ่านน้ำเชี่ยว ผ่านซอกหินที่มีน้ำลึกๆ แถมคุณม้ายังจะหยุดกลางแม่น้ำอีก ไหนจะรีบวิ่งจนแทรกม้าตัวหน้า แต่ก็ไปนำหน้าไม่ได้เพราะติดเชือก จนกระตุกกลับ แต่สนุกมากๆ ค่ะ พอถึงฝั่งนะ อยากจะขอนั่งอีกสักรอบสองรอบเลยค่ะ ส่วนตอนลงจากหลังม้านี่สิ แขนขาเกร็ง สั่นหงิกๆ เลย 55+

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
-สวนดอกไม้งามหลากสีตลอดทาง-
พอข้ามฝั่งมาแล้ว นึกว่าโผล่มาเมืองสวรรค์เลยค่ะ ทุกอย่างสวยงาม นึกว่าอยู่ในสวนดอกไม้เลยค่ะ ไม่คิดว่าจะมาเห็นความงามแบบนี้ระหว่างการเทรค เพราะส่วนใหญ่แล้ว พวกกิจกรรมเทรคกิ้ง คนมักจะนุกถึงการเดินภูเขาเขียวๆ ไม่ก็ภูเขาหิมะ ว้าว ไม่อยากจะบอกเลยว่า ใช้เวลาในการหยุดชมวิวตลอดทางบ่อยและนานมากๆ ยิ่งตอนที่ลมพัดนะ ดอกไม้หลากสีพวกนี้เล่นลมและสวยดีมากๆ เลยค่ะ ไม่ใช่แค่สวนดอกไม้หย่อมๆ เล็กๆ นะคะ แต่เป็นสวนดอกไม้ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ดูรูปเลยดีกว่าค่ะ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไงดี



ช่วงที่ใกล้จะถึงจุดหมายของค่ำคืนนี้ก็ลาดชันขึ้นมานิดนึง ให้พอได้เหนื่อย ได้ใช้แรงฮึดเฮือกสุดท้ายก่อนที่จะหมดแรงพอดิบพอดีเมื่อถึงจุดกางเต็นท์ แล้วบ่ายโมงครึ่งก็ถึงแล้ว วันนี้ชิวค่ะ ได้มีเวลาพักครึ่งวันเลย ที่นี่ไม่มี yurt ให้นักท่องเที่ยวพัก แต่มี yurt ที่เป็นบ้านของคนพื้นเมือง และคอกแกะเป็นร้อยๆ ตัวเลยค่ะ บ่ายนี้เลยสบายๆ ยืดเส้นยืดสาย จิบชาร้อนให้ความอบอุ่นร่างกาย แต่ชิวๆ ได้ไม่นาน ฟ้าก็มืดค่ะ ฝนตกซะงั้น เลยต้องอพยพหลบฝนในเต็นท์ กลายเป็นว่าพล่อยหลับไป ไม่นานนักก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะความร้อนค่ะ ฝนหมด แดดก็ออก ภายในเต็นท์นี่ยังกับเตาอบเลย แทบจะกระโจนออกมาจากเต็นท์ไม่ทันเลยค่ะ แต่ก็ดีค่ะ ที่ได้นอนไปแปปเดียว ไม่งั้นคืนนี้นอนไม่หลับเป็นแน่


-แสงสีส้มทอง-
ตกค่ำหลังอาหารเย็น กลุ่มน้องแกะที่ถูกปล่อยไปทานหญ้าที่เขาลูกอื่นก็ทยอยกลับบ้านค่ะ เยอะมากๆๆ ตัวอ้วนๆ ขนปุกปุยน่ารักมากมาย แต่หยกเข้าใกล้มากไม่ได้ น้องแกะตกใจเตลิดกันหมด ทั้งตอนนี้แสงยามเย็นสวยมากๆ ค่ะ สีทองอร่ามกระทบภูเขาสีเขียวไปหมดเลย ทั้งท้องฟ้ายังมีสีชมพูอมแดงอีกต่างหาก คืนนี้นอนหลับฝันดีอีกแล้วค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สวยงามมากเลย จนอยากที่จะไปเทรคแล้วใช่ไหมล่ะ คอมเม้นต์เข้ามาพูดคุยกัน หรือสอบถาม แนะนำ ติ ชม หรือ ซักถามข้อสงสัยที่ช่องคอมเม้นต์ด้านล่างได้เลยค่ะ เพื่อนๆ สามารถติดตามตอนต่อไปของการเทรคบนเส้นทาง Keskenkyia Loop Trek ในวันที่ 3 และ 4 ได้ที่ลิ้งค์นี้ เลยค่ะ
ทั้งนี้ หากเพื่อนๆ กำลังวางแผนจะไปเที่ยวที่ คีร์กีซสถาน และมองหาสถานที่เทรคกิ้งอื่นๆ อีก หยกก็มีมาแนะนำค่ะ สวยงามมากๆ และน่าเดินมากๆ เหมือนกัน นั่นก็คือ Heights of Alay Trek ซึ่งหยกได้แบ่งออกเป็น 2 บทความนะคะ อีกอันจะเป็นตอนข้ามพาส Sary Mogol Pass ค่ะ และหยกยังอีกเส้นทางมาแนะนำคือ Ala Kul Trek คลิ๊กลิ้งค์เข้าไปอ่านได้เลยนะคะ
นอกจากคีร์กีซสถานแล้ว หยกยังเที่ยวในทาร์จิกิสถาน ในเอเชียกลางด้วยนะคะ ซึ่งก็ได้ประสบการณ์แห่งความอาหารเป็นพิษมา ทั้งยังเป็นการท้องเสียครั้งแรกและทรมานสุดๆ ต่อเนื่องกันถึง 3 วัน 5 วัน เลยนำวิธีการป้องกันและรับมือมาฝากค่ะ โปรดรอติดตามเรื่องราวสนุกๆ และสถานที่สวยๆ ในทาจิกิสถานด้วยนะคะ ซึ่งขอเริ่มที่ day hike ที่น่าแนะนำเป็นที่สุดที่ทางเดินง่าย ไฮกิ้ง Pshart Valley ทิวทัศน์รอบข้างนั้นสวย หลากสี และแปลกตา รับรองว่าติดใจแน่ๆ เลยค่ะ โดยต้องข้ามพาสที่อยู่สูงกว่า 4,750 เมตรที่สนุกมากมาย และยังจะเชิญชวนให้ไปพิสูจน์ความกล้ากับเทรลเล็ๆ แคบๆ บนเส้นทางที่ท้าทายสุดๆ ไฮกิ้ง Darshai Gorge หรือจะเป็นการเดินชิวๆ 2 วัน 1 คืนที่ Jizew เพื่อการพักผ่อนแบบเต็มที่ นอนสบายๆ ในโฮมสเตย์ริมทะเลสาบสีฟ้าสวย จนแบบว่าขออยู่ต่อเลยได้ไหม โดยอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์เหล่านี้เลยค่ะอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ
มีข้อสงสัย คำถาม หรือ อยากแชร์เรื่องเที่ยว คอมเม้นต์ที่ช่องนี้ได้เลยค่ะ