
นี่เป็นบทความตอนที่ 2 เริ่มเดินที่ Arkhet หรือ Arkhet Bazar แล้วเข้า Lapubesi ของซีรีย์บทความเทรคกิ้งเนปาล 20 วัน กับ Manaslu Circuit และ Tsum Valley เรื่องเล่าและประสบการณ์มันส์ๆ ที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังให้บทเรียนต่างๆ ที่สอนอะไรใหม่ๆให้มากมาย รวมทั้งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือแม้กระทั่งความอดทน หรือ ความอึดที่ต้องมีอย่างมหาศาล ที่สำคัญก็คือความใจเย็น ทั้งยังสอดแทรก ทริคและเคล็ดลับ ข้อมูลการเดิน ระยะเวลา ระยะทาง รวมทั้งความสูงของแต่ละหมู่บ้าน ข้อควรระวัง และอื่นๆที่ควรรู้ ซึ่งหยกจะทำการแบ่งบทความออกเป็นรายวัน หรือ รายสองสามวันค่ะ โดยมีทั้งหมด 9 ตอน ทั้งนี้เพื่อนๆสามารถคลิ๊กตัวเลขที่กล่องสีเหลืองด้านบนเพื่อเลือกอ่านเป็นตอนๆได้เลยค่ะ ยังไงรอติดตามอ่านตอนต่อๆไปด้วยนะคะ
ทั้งนี้ หยกได้เขียนหนังสือ คู่มือเทรคกิ้งเนปาล Manaslu & Tsum ซึ่งสามารถถือได้ว่าเป็นคู่มือเทรคกิ้งเนปาลที่เป็นภาษาไทยเล่มแรกเลยก็ว่าได้นะคะ ซึ่งมีข้อมูลครบถ้วนตั้งแต่การเตรียมตัว เสื้อผ้า ของที่จำเป็น ข้อควรรู้ควรระวัง ทริคต่างๆ ประกัน การป้องกัน AMS ข้อมูลเส้นทางเดิน และรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้มีการเตรียมตัวที่พร้อมสุดๆ และสามารถเทรคได้อย่างสบายใจและได้ประสบการณ์ดีๆ ติดไม้ติดมือกลับมา หากเพื่อนๆ สนใจ สามารถคลิ๊กที่ลิ้งค์เพื่อสั่งซื้อหรืออีเมลมาหาหยกได้เลยค่ะ
ไม่เพียงเท่านั้น หยกยังได้เทรคบนเส้นทาง Poon Hill และ Mohare + Khopra และ Mardi Himal อีกด้วยนะคะ เพื่อนๆ สามารถอ่านเรื่องเล่าและประสบการณ์เทรคสนุกๆ ที่สอดแทรกข้อมูลต่างๆ ที่มีประโยชน์ได้ที่ลิ้งค์เหล่านี้เลยค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
Day 2 ทางลัดของพี่ไกด์ลูกหาบ: Arkhet หรือ Arkhet Bazar – Maccha Khola


-ความพร้อมที่ไม่พร้อม กับ น้ำเย็น-
วันนี้ที่ Arkhet ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นค่ะ อาการเมารถหายเป็นปลิดทิ้ง ไข้ก็ไม่มีแล้ว แถมได้นอนหลับสนิ๊ทสนิทอีกด้วย เย้ๆๆ รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษ เลยซ่าส์ได้แล้วค่ะ แต่ก็ซ่าส์ได้ไม่นาน กระเป๋าหนักมาก คิดว่าเอาของมาน้อยแล้วนะเนี่ย ไหล่ทั้งสองข้างนี่ระบม ปวดร้าวไปหมดอย่างรวดเร็ว อากาศก็ทั้งร้อนทั้งชื้น ตัวนี่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อเลยค่ะ ไหนจะมาเจอบันไดหินอันสวยงามขั้นเล็กๆ ชันๆอีก ทั้งเหนื่อย หอบ หายใจไม่ทัน จนต้องหยุดเดินแทบจะทุกๆ สิบนาทีเลยค่ะ โดยที่เพื่อนอีกสองคนก็มีอาการเดียวกัน แล้วก็ถึงจุดสิ้นสุดของบันไดที่ไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าไหร่แล้ว สุดจะดีใจที่ได้วางกระเป๋าลงซะที ทั้งยังมีท่อน้ำดื่มน้ำใช้ที่ไหลแรง ทั้งใสและเย็นเจี๊ยบคอยต้อนรับอยู่ อย่างไม่ได้นัดหมาย ทุกคนกระโจนใส่น้ำกันเลยค่ะ แล้วหยกก็เห็นเพื่อนเอาน้ำราดหัวซะเปียกชุ่ม เปียกไปครึ่งตัวด้านบนเลย ทั้งยังเอาน้ำลูบขาอีกด้วย หยกเลยลองมั่ง ปรากฎว่า มันสดชื่นมากๆ รู้สึกเย็นสบายสุดๆ หายเหนื่อยไปได้เยอะเลยค่ะ คือจากนี้ไป หากหยกเจอน้ำเมื่อไหร่ ก็กระโจนใส่ตลอดเวลาเลยค่ะ


-ทางลัด-
ทางเดินช่วงแรกประมาณชั่วโมงนิดๆถึง Soti Khola นั้นเดินสบายค่ะ โดยยังเป็นถนนที่มีรถผ่านได้อยู่ โดยเป็นถนนหิน เลยไม่มีฝุ่น แต่ก็มีแค่รถประจำทางที่มีผู้โดยสารล้นคันผ่านค่ะ แต่จาก Soti Khola ไป Lapubesi นี่สิ บันไดหินขั้นเล็กๆ ล้วนๆ เดินเหนื่อยมากค่ะ

หลังจาก Lapubesi ก็ถูกพี่ไกด์ลูกหาบเล่นเอาตั้งแต่วันที่สองเลยค่ะ บอกว่าจะพาไปทางลัด เลยหลุดออกจากเทรลไปเต็มๆ การผจญภัยจริงๆเลยได้เริ่มต้นขึ้น ทั้งเดินผ่านร่องน้ำขรุขระๆแคบๆ ที่ไม่ใช่ทางเดินคนแน่นอน ไหนจะเดินตามขอบสันของไร่ข้าว เดินผ่านสวน ผ่านบ้านชาวบ้านที่ทำหน้างงๆว่านักท่องเที่ยวมาทำอะไรบนเส้นทางนี้ แต่วิวที่เห็นคือสวยมากๆค่ะ ได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านจริงๆ ได้เห็นลักษณะที่อยู่อาศัย ไร่นา ซึ่งแน่นอนว่าดีกว่าการเดินตามเทรลที่เป็นบันไดหินชันๆเป็นแน่ พอมีจุดเบี่ยงเบนความสนใจ ก็พลอยลืมความระบมของไหล่ไปเลยค่ะ

วันนี้เป็นวันที่ยาวนาน เดินไป 10.5 ชั่วโมง เกือบ 25 กิโลเมตรเลยค่ะ ดีที่ออกแต่เช้า เลยถึงที่หมายก่อนมืด เลยได้มุขไว้แซวพี่ไกด์ลูกหาบว่า “no shortcut” เลยได้ฮากันกระจาย กลายเป็นสนิทกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งทางเดินวันนี้จริงๆ แล้วเป็นบันไดสูงชันอย่างโหดร้ายค่ะ คงต้องขอบคุณพี่ไกด์ลูกหาบที่พาไปทางลัด ไม่เช่นนั้นคงเหนื่อยและระบมมากกว่านี้แน่นอน

-Dal Bhat Power-

การได้อาบน้ำร้อนๆนี้ช่วยลดความระบมที่ไหล่และหลังไปได้เยอะเลยค่ะ รู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายสุดๆ จะลำบากก็ตอนเดินลงบันไดไม้ชันๆของที่พักจากชั้น 3 ไปยังชั้น 1 เพื่อทานข้าวเย็นนี่แหละ มันช่างยากเย็นเหลือเกิน จนอยากจะใช้ไม้เท้าเดินป่า [LINK] ช่วยซะจริงๆ แต่ด้วยความที่หิวจัดที่อยู่เหนือกล้ามเนื้อที่ปวด จึงยินดีเดินลงไปแต่โดยดี ถึงแม้จะต้องเดินกลับขึ้นไปอีก แล้วกลับลงมาใหม่ เพราะลืมของ! งึ่มๆ มื้อนี้หยกสั่ง Dal Bhat ค่ะ ทั้งอร่อยทั้งหิว เติมไปสองรอบเลย ด้วยความที่กล้ามเนื้อระบมและยังปวดร้าวจากกระเป๋าที่หนัก แบบที่ใครก็ตามอย่ามาจับที่บริเวณไหล่เลยเชียว แม่จะกรี๊ดร้องให้ลั่นเลย คืนนี้หยกเลยซัดไอบูโพเฟนไปอีกเม็ด และเมื่อท้องอิ่ม ประกอบกับเหนื่อยและเพลีย หยกจึงนอนหลับสบายอีกแล้วค่ะ โชคดดีจริงๆ ตื่นทีเดียวก็คือตอนที่นาฬิกาปลุกเลย
-Maccha Khola 875 เมตร-
ที่พักที่นี่มีน้ำร้อนให้อาบค่ะ แต่ไม่มีอินเตอร์เนตแล้ว ราคาห้องพัก 400 rs ส่วน Dal Bhat เซ็ทละ 480 rs
Day 3 เมื่อเตรียมตัวมาดีและเริ่มชิน ความเมื่อยและทรมานก็หายไป: Maccha Khola – Jagat

-พอความทรมานหายไป ความสุข และสนุกมากๆก็เข้ามาแทนที่-
ทางเดินวันนี้เป็นทางราบค่ะ ไม่ใช่บันได เลยเดินได้เร็วหน่อย อีกทั้งวันนี้ร่างกายหยกเริ่มปรับคุ้นชิน กล้ามเนื้อก็เริ่มแข็งแรงขึ้น แถมกระเป๋าก็ยังเบาลงอีกด้วย ทั้งของที่น้อยลง ทั้งความชิน (แบกน้ำดื่มน้อยลง เพราะวันนี้จะเดินผ่านหมู่บ้านทุกๆ 1 – 2 ชั่วโมง เลยไม่ต้องแบกน้ำเยอะ หยกเป็นคนดื่มน้ำเยอะมากค่ะ ทั้งของกินบางส่วนก็ลดน้อยลงอีกด้วย) วันนี้เลยเดินได้เร็วหน่อย โดยหยุดพักยืดเส้นยืดสาย เข้าห้องน้ำ และเติมน้ำทุกหมู่บ้านเลยค่ะ
-ยิ้มร่าได้ทั้งวัน แฮปปี้สุดๆ-
ดีใจมากค่ะ ที่ร่างกายหยกสามารถปรับตัวได้รวดเร็วมาก ในวันที่ 3 ก็เริ่มสนุกแบบจริงๆจังๆได้แล้ว ไม่ปวดไม่ทรมานแล้ว

เค้าว่ากันว่า “คนที่เตรียมตัวมาดี จะเริ่มสนุกแบบแท้จริงกับการเทรคกิ้งได้ตั้งแต่ 1 – 3 วันแรก ต่างกับ คนที่ไม่เตรียมตัว กว่าจะเริ่มสนุก ก็นู้น ปาไปครึ่งทาง หรือ เกือบจบทริปพอดี” ซึ่งหยกเห็นด้วยมากๆค่ะ
-หมู่บ้านน้ำพุร้อน-

แล้วก็ถึงหมู่บ้าน Tatopani หมู่บ้านที่มีน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ คือตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจมาก เสียแค่ตรงที่ว่า อากาศยังร้อนมากๆอยู่ ถึงแม้ความชื้นจะเริ่มน้อยลง จึงได้แต่ยืนมองน้ำร้อนๆที่ไหลจากก๊อก ที่มีควันโขมงอย่างทึ่งๆ แบบห่างๆ แล้วก็กระโจนใส่ก๊อกน้ำเย็นข้างๆแทน ฮาฮ่าา
-สะพานแขวนเก่าแก่ กับ ทริคการเดินข้ามสะพานแขวนแกว่งๆนี้-
วันนี้มีโอกาสเห็นสะพานแขวนข้ามน้ำอันเก่าแก่ที่มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นเกาะเต็มสะพานเลย ดูขลังและสวยมากๆ โดยอยู่คู่ขนานกับสะพานแขวนเหล็กอันใหม่ การเดินบนสะพานเหล็กแขวนนี่เป็นอะไรที่เมาสุดๆ มันกระเด้งกระดอน กระดึ๋งๆ ถึงแม้จะเดินสุดแล้วก็ตาม เลยทำให้นึกถึงสมัยเด็กๆ ตอนที่เล่นน้ำทะเล พอขึ้นจากน้ำก็ยังรู้สึกว่ามีคลื่นกระแทกไปอีกสักพักใหญ่ๆ เป็นเหมือนกันหรือเปล่าเอ่ย ดังนั้นแล้ว ต้องตั้งสมาธิดีๆเวลาเดิน โดยให้ก้าวเท้าเหยียบพื้นสะพานให้พร้อมเพียงกับจังหวะก้าวเท้าที่ลงบนพื้นของคนส่วนมากที่เดินอยู่บนสะพานนี้ เพื่อลดความกระเด้งกระดอนให้ได้มากที่สุด ลองทำดูนะคะ

-เดินง่าย น้ำตกสวย สายรุ้งงาม-
วันนี้ทางเดินง่ายและสวยค่ะ เสมือนเดินผ่านช่องแคบ ที่เป็นทางเดินราบแล้วมีเขาล้อมรอบ โดยที่ด้านล่างเป็นแม่น้ำไหลผ่าน ทั้งยังมีน้ำตกมากมาย ทั้งใหญ่และเล็กตกผ่านจากยอดเขาลงไปกระทบกับแม่น้ำที่ด้านล่าง ส่งเสียงดังกังวาลไพเราะเชียว ทั้งยังมีสายรุ้งพาดผ่านน้ำตกให้ได้เห็นอีกด้วย สวยจนนึกว่าอยู่ในนิยายเลยค่ะ


-เจอนักท่องเที่ยวคนอื่นๆแล้ว-
วันนี้หยุดทานอาหารเที่ยงที่ Chylume ค่ะ ทำเลดี บริเวณทานอาหารอยู่สูง ผ่านช่องเขา ลมโกรก เย็นสบาย ทั้งวิวยังสวยมากอีกต่างหาก หาร้านนี้ได้ไม่ยากค่ะ เพราะที่นี่มีร้านอาหารแค่ร้านนี้ร้านเดียว จากที่เดินมาทั้งวันไม่ได้เจอนักท่องเที่ยวเลยสักกะคน แต่ได้มาเจอที่ร้านอาหารนี้ถึง 8 คนที่มาก่อนกลุ่มหยก ก็แน่นอนค่ะ รออาหารเที่ยงยาวๆไป แต่ก็ไม่มีใครหงุดหงิดอะไร กลับสบายใจซะอีกที่ได้พักชมวิวดีๆ ลมโกรกๆ อากาศสดชื่นๆ ได้พักยืดเส้นยืดสายชิวๆ มันก็จะสุขใจหน่อยๆ

มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
มื้อนี้หยกลองสั่ง มันฝรั่งผัดผัก+ไข่ ซึ่งอร่อยมาก มันฝรั่งที่นี่เป็นมันหัวเล็กๆ เนื้อหวาน เนียนละเอียด ละมุนลิ้นมากๆ ติดใจเลยค่ะ


หมู่บ้านถัดไปคือ Yaruphant ค่ะ ไม่มีที่พัก แต่มีร้านอาหารวิวงามๆ อยู่ 2 ร้าน คืออยู่ตรงบริเวณทางโค้งของแม่น้ำพอดี โดยโค้งจากช่องเขาหนึ่งไปอีกช่องเขาหนึ่ง ทั้งตัวหมู่บ้านยังอยู่ไม่สูงมากจากแม่น้ำ จึงเห็นวิวแม่น้ำมุมโค้งกว้างๆ น่านั่งจิบชา ทานข้าวมากๆ แต่ถ้าพักอีก คงจะถึงจุดหมายค่ำแน่ เลยต้องจำใจเดินต่อค่ะ โดยเดินผ่านสะพานเหล็กแขวนยาวๆที่ด้านหนึ่งติดกับภูเขา จึงเดินง่าย เพราะมันไม่โยก


-Jagat 1,410 เมตร-
แล้วก็ถึง Jagat ซึ่งเป็นจุดเริ่มเขตของ Manaslu Conservation Area ค่ะ โดยถึงที่นี่ตอนเกือบๆจะ 5 โมงเย็นค่ะ ทันไปรายงานตัวที่ Check Post พอดี โดยที่พี่ไกด์ลูกหาบเอาใบ Permits ต่างๆ ไปจัดการให้ วันนี้เดินหฤโหดมาก 9.5 ชั่วโมง เดินไปประมาณ 32.1 กิโลเมตร พวกเราทุกคนจึงรีบไปอาบน้ำ เตรียมตัวทานข้าวเย็น คือหิวสุดๆแล้ว ถึงแม้ห้องพักจะอยู่ชั้นสอง แต่การขึ้นลงบันไดเพื่อไปอาบน้ำ และทานอาหาร ก็ไม่ได้ทำให้ทรมานอะไร แค่เดินกะเพลกเบาๆแค่นั้นเอง ที่นี่มีน้ำร้อนให้อาบค่ะ แต่ต้องเสียเงิน 250 rs หยกเลยเลือกที่จะอาบน้ำเย็น อากาศเริ่มที่จะเย็นนิดๆแล้ว การอาบน้ำเย็นก็เลยท้าทายเบาๆ แต่พออาบเสร็จกลับรู้สึกไม่หนาวมาก แต่กลับรู้สึกสดชื่นและสบายตัวสุดๆเลยแหละค่ะ


ที่นี่ยังไม่มีอินเตอร์เนตค่ะ แต่เจ้าของที่พักบอกว่าอีก 2 ปีจะมีอินเตอร์เนตให้บริการ ส่วนการชาร์จไฟที่นี่ก็เสียค่าใช้จ่ายนะคะ โดยการชาร์จไฟ 1 ครั้งเสียค่าใช้จ่าย 100 rs ค่ะ
-ถูกยึดใบ Permits!!-
แล้วทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องทานอาหาร พูดคุย เล่นเกมส์กัน อย่างสนุกสนาน อย่างกับว่าไม่มีใครเหน็ดเหนื่อยจากการเทรคกิ้งเลย สักพักพี่ไกด์ลูกหาบก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา บอกว่าถูกยึดใบ Permits ทั้งหมด เพราะพี่แกไม่มีใบอนุญาตไกด์ แล้วพี่แกก็บอกว่าอย่ากังวล เดี๋ยวจะหาทางเอง ทั้งๆที่หน้าพี่แกนี่ตื่นมาก แล้วแกก็รีบวิ่งไปขอโทรศัพท์กับเจ้าของที่พักทันที

มันก็ตกใจน่ะสิคะ หลังจากปรึกษาหารือกันแล้ว พวกเราจึงสรุปกันว่า เราทุกคนมีใบอนุญาต เราจ่ายเงินจ้างเอเจนซี่เรียบร้อย เอเจนซี่ต้องรู้ดีสิว่า เค้าต้องตรวจเรื่องใบอนุญาตไกด์ เพราะมันเป็นกฎ พี่ไกด์ลูกหาบเราก็ไม่ผิด แกมาเพราะทางเอเจนซี่ที่ควรจะจัดแจงเรื่องนี้จ้างมา จึงได้ขอสรุปว่า ทางเอเจนซี่ต้องแก้ปัญหาให้เรา ยังไงแล้วแต่ พวกเราก็จะต้องเดินต่อ จะไม่ยอมให้ส่งตัวกลับไปที่กาฐมาณฑุอย่างแน่นอน
-ฝันดีราตรีสวัสดิ์ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน-

ก่อนนอนคืนนี้พี่ไกด์ลูกหาบที่ดูเครียดและกังวลเดินมาบอกว่า เดี๋ยวหัวหน้าเค้าจะจัดการให้ ทุกอย่างจะต้องโอเค โปรดอย่ากังวล ทั้งที่แกนั่นแหละที่ดูกังวลมากๆเลย แต่แล้วคืนนี้หยกก็นอนหลับเป็นตายอีกแล้ว ก็เดินทรหดมาทั้งวันเลยนี่ค่ะ ติดตามบทความเทรคกิ้งเนปาลซีรีย์ 20 วัน กับ Manaslu Circuit และ Tsum Valley เรื่องเล่าและประสบการณ์มันส์ๆ ที่สอดแทรก ทริคและเคล็ดลับ ข้อมูลการเดิน ระยะเวลา ระยะทาง รวมทั้งความสูงของแต่ละหมู่บ้าน ข้อควรระวัง และอื่นๆที่ควรรู้ ตอนต่อไป ตอนที่ 3 Day 4 – Day 5 ได้ที่นี่ค่ะ
Manaslu Circuit & Tsum Valley 20 วัน ราคาเท่าไรคะ
สวัสดีค่ะ คุณน้อง
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ 🙂
หยกสอบถามเพิ่มค่ะ จะได้ตอบถูกประเด็นค่ะ คุณน้องหมายถึง ร่วมทัวร์เทรคกิ้งเนปาล Manaslu & Tsum กับหยกหรือเปล่าคะ? ตอนนี้หยกยังไม่มีทัวร์บนเส้นทางนี้แบบ join group ค่ะ (โดยหยกแพลนจะจัดทัวร์บนเส้นทางนี้อยู่แล้วนะคะ) แต่สามารถจัดทำเป็นทัวร์ส่วนตัวได้ค่ะ หากต้องการ
jpin group ค่ะ จัดเลยค่ะ อยากไปด้วย ขอราคาโดยประมาณก่อนได้มั้ยคะ จะได้เริ่มเก็บเงิน
สวัสดีค่ะ คุณน้อง
ขอบคุณที่สนใจร่วมเทรคไปด้วยกันนะคะ ยินดีมากๆ เลยค่ะ 🙂 หยกขอดูช่วงเวลา, จัดทำโปรแกรม และสำรวจช่วงเวลาและระยะเวลาที่ผู้สนใจร่วมทริปสะดวกค่ะ เส้นทางนี้ค่อนข้างจะใช้เวลาเทรคนานเลยค่ะ รวมวันที่กาฐมาณฑุแล้วน่าจะประมาณ 22 วันค่ะ
ช่วงปลายปี ไม่ทราบว่าคุณน้องสะดวกช่วงไหนคะ?
สะดวกช่วงสงกรานต์ค่ะ เมษาปีหน้าก็ได้ จะได้ลางานไม่เยอะ
สวัสดีค่ะ คุณน้อง
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ หากหยกจัดแล้วหยกจะเข้ามาแจ้งนะคะ หรือคุณน้องจะแอดไลน์หยกมาที่ LINE ID: sanooktiew ก็ยินดีมากเลยค่ะ