
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9
นี่เป็นบทความตอนสุดท้าย ตอนที่ 9 เดินวันที่ 18 – 20 ของซีรีย์บทความเทรคกิ้งเนปาล 20 วัน กับ Manaslu Circuit และ Tsum Valley เรื่องเล่าและประสบการณ์มันส์ๆ ที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังให้บทเรียนต่างๆ ที่สอนอะไรใหม่ๆให้มากมาย รวมทั้งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือแม้กระทั่งความอดทน หรือ ความอึดที่ต้องมีอย่างมหาศาล ที่สำคัญก็คือความใจเย็น ทั้งยังสอดแทรก ทริคและเคล็ดลับ ข้อมูลการเดิน ระยะเวลา ระยะทาง รวมทั้งความสูงของแต่ละหมู่บ้าน ข้อควรระวัง และอื่นๆ ที่ควรรู้ ซึ่งหยกจะทำการแบ่งบทความออกเป็นรายวัน หรือ รายสองสามวันค่ะ โดยมีทั้งหมด 9 ตอน ทั้งนี้เพื่อนๆสามารถคลิ๊กตัวเลขที่กล่องสีเหลืองด้านบนเพื่อเลือกอ่านเป็นตอนๆได้เลยค่ะ ยังไงรอติดตามอ่านตอนต่อๆไปด้วยนะคะ
ทั้งนี้ หยกได้เขียนหนังสือ คู่มือเทรคกิ้งเนปาล Manaslu & Tsum ซึ่งสามารถถือได้ว่าเป็นคู่มือเทรคกิ้งเนปาลที่เป็นภาษาไทยเล่มแรกเลยก็ว่าได้นะคะ ซึ่งมีข้อมูลครบถ้วนตั้งแต่การเตรียมตัว เสื้อผ้า ของที่จำเป็น ข้อควรรู้ควรระวัง ทริคต่างๆ ประกัน การป้องกัน AMS ข้อมูลเส้นทางเดิน และรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้มีการเตรียมตัวที่พร้อมสุดๆ และสามารถเทรคได้อย่างสบายใจและได้ประสบการณ์ดีๆ ติดไม้ติดมือกลับมา หากเพื่อนๆ สนใจ สามารถคลิ๊กที่ลิ้งค์เพื่อสั่งซื้อหรืออีเมลมาหาหยกได้เลยค่ะ
ไม่เพียงเท่านั้น หยกยังได้เทรคบนเส้นทาง Poon Hill และ Mohare + Khopra และ Mardi Himal อีกด้วยนะคะ เพื่อนๆ สามารถอ่านเรื่องเล่าและประสบการณ์เทรคสนุกๆ ที่สอดแทรกข้อมูลต่างๆ ที่มีประโยชน์ได้ที่ลิ้งค์เหล่านี้เลยค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
Day 18 วันธงชัย ข้าม Larkya La Pass: Dharmasala – Bimthang
-พอตื่นเต้น ท้องไส้มันก็จะปั่นป่วนเบาๆ-
ตื่นขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ตื่นก่อนนาฬิกาปลุก 5 นาทีซะอีก ก็วันนี้ต้องเดินท่ามกลางความมืดตั้งแต่ ตี 4 ครึ่ง ท่ามกลางหิมาลัยรอบทิศ ท่ามกลางความหนาวเหน็บ ขณะที่ควานหาไฟฉายคาดศีรษะ ก็ได้ยินเสียงผู้คนต่างพากันเก็บของ พูดคุยกัน เสียงเดินไปมา บ่งบอกว่าหยกหน่ะตื่นสายแล้ว จึงรีบเก็บของ แต่เป็นกันไหมคะ ที่พอตื่นเต้นๆ ท้องไส้มันก็จะปั่นป่วน จนต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ถึงแม้จะวิ่งแล้วก็ตาม ก็ยังต้องยืนหนีบๆ ขาสั่นๆ ต่อคิวอีก! มันก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก

กลุ่มหยกเลือกที่จะไม่ทานอาหารเช้าค่ะ เพราะนักเทรคกิ้งเยอะมากๆ หากต้องรออาหารเช้าคงได้ออกเดินสายเป็นแน่ และก็ไม่อยากที่จะออกเดินสาย เพราะสภาพอากาศนั้นคาดการณ์ไม่ได้ ช่วงสายๆ ลมอาจจะแรง ฟ้าปิด หมอกหนา ก็จะเดินยาก เดินทรมาน และลำบากมากๆหน่อย จนอาจจะเดินต่อไม่ไหว ทำให้ต้องหันหลังกลับก็เป็นได้ จึงได้เตรียมเสบียงไว้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น energy bar, พวกถั่วต่างๆ และบ๊วยเค็ม ให้ง่ายต่อการหยิบ เตรียมให้เยอะเกินพอสักหน่อย โดยเฉพาะ snicker ที่เก็บมาก็เพื่อวันนี้
อากาศหนาวมากค่ะ วันนี้ต้องจัดเต็มแบบล้นเลยค่ะ เพราะรู้แน่ๆว่าไม่ต้องหยุดถอดหลังเริ่มเดินอย่างแน่นอน ทั้งดาวน์แจ๊คเก็ต ทั้งเสื้อและกางเกง base layer ช่วงแรกๆก็จะเดินยากหน่อย ด้วยความมืด นักเทรคกิ้งเลยเดินหาเทรลกันให้วุ่น สะเปะสะปะไปหมด เลยไม่รู้ว่าจะไปทางไหน จะเดินตามใคร หรือจะเปิดเทรลใหม่ดี แต่หลังจากนั้นสักพัก พอจับเทรลจริงๆได้แล้ว ก็พบว่าการเดินตอนมืดๆนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดค่ะ เพราะมีแสงไฟจากไฟฉายคาดศีรษะจากนักเทรคกิ้งให้เห็นตลอดทางเดินเลย ดูสวยดีด้วย แค่ต้องเดินให้ทัน เดินกันเป็นกลุ่มๆ อีกทั้งทางเดินราบ เดินง่าย ไม่ได้อยู่บนหน้าผาสูงชันอะไร จะยากก็ตรงที่ความหนาว หนาวแบบจับขั้วหัวใจ จนทั้งหน้าและมือนี้ชามากๆเลยค่ะ เดินช้าๆ ไปเรื่อยๆ หยุดนานไม่ได้ ยิ่งหยุดมือก็ยิ่งแข็ง หน้า, หู และจมูกก็ยิ่งชา ทั้งความสูงที่เพิ่มมากขึ้น ปริมาณออกซิเจนก็น้อยลง การหายใจก็ลำบากมากขึ้นอีกหน่อย แถมยังรู้สึกแน่นหน้าอกอีกด้วยค่ะ โชคดีที่ฟ้าเปิด แดดจ้า เลยไม่มีลมแรงๆ มาเพิ่มดีกรีความหนาวให้เดินยากขึ้น

-AMS ปวดหัวแล้วจ้า-
พอเดินได้สักพัก ยังไม่ทันจะสว่าง หยกก็เริ่มมีอาการปวดหัวค่ะ เดินไปสักพักอาการปวดหัวก็มากขึ้นๆ อาจจะเพราะดื่มน้ำน้อยด้วย ก็น้ำมันเย็นมากๆ ดื่มยากเหลือเกิน แถมยังรู้สึกแน่นหน้าอกมากขึ้นด้วย จึงทานไอบูโฟนเฟนกั้นไว้ค่ะ เลยต้องค่อยๆเดิน ก้าวช้าๆ แต่ยาวๆหน่อย เพื่อวอร์มร่างกาย ให้ร่างกายมันได้ขยับมากหน่อย พยายามหายใจเข้า-ออกลึกๆยาวๆ ไม่หายใจสั้นๆถี่ๆ เพราะยิ่งจะเหนื่อยและได้ออกซิเจนน้อยลงไปอีก
ตอนนี้วิวสวยมากขึ้นๆค่ะ แสงเริ่มมาแล้ว ถึงแม้จะยังมืดอยู่ก็ตาม แต่ก็เริ่มเห็นวิวชัดขึ้น ได้เห็นทะเลสาบน้ำใส นิ่ง สีน้ำเงินเข้มจนดำ สะท้อนเงาหิมาลัยสวยสุดๆ ยิ่งเดินไปๆ แสงสีทองของพระอาทิตย์ก็ค่อยๆโผล่มาทักทาย ยิ่งทำให้หิมาลัยที่เห็นที่สวยอยู่แล้ว สวยขึ้นไปอีก ด้วยแสงสีทองอร่ามที่ตกกระทบ จึงงามสง่ายิ่งนัก แต่ปัญหามันอยู่ที่มือที่แข็งจนชา จนยากที่จะกดชัตเตอร์หน่ะสิคะ

-ทะเลสาบน้ำแข็งที่เริ่มละลาย-
พอพระอาทิตย์ขึ้นเต็มๆ ความร้อนก็เริ่มมาแทนที่ แทบจะถอดอุปกรณ์กันหนาวไม่ทันเลยค่ะ โดยก่อนจะถึง Larkya La Pass สักครึ่งชั่วโมง ก็จะเจอทะเลสาบที่แข็งเป็นน้ำแข็ง ที่เริ่มจะละลายบ้างแล้ว พอก้าวทีก็ได้ยินเสียง “แกร๊ก” ขนาดเดินริมๆยังเสียวเลยค่ะ ทั้งยังมีหลายบริเวณที่แตก ที่น้ำเจิ่งนอง เดินไปก็ลุ้นไป แล้วความคิดลบๆก็โผล่มา “หากแตกเป็นทางยาวล่ะ? หากต้องตกลงไปในน้ำที่แข็งขนาดนี้จะเป็นยังไงเนี่ย?” เลยทำให้กว่าจะเดินได้แต่ละก้าวก็ต้องเอาไม้เท้าเดินป่ากระทุ้งๆก่อน ยังไม่วาย ความคิดก็ผลุบเข้ามาอย่างรวดเร็ว “หากกระทุ้งแล้วมันแตก แล้วตกลงไปทันทีล่ะ!”

ไม่เพียงเท่านั้น ยังเสียวมากขึ้นไปอีก เมื่อได้เห็นนักเทรคกิ้งไปเดินซะตรงกลางทะเลสาบน้ำแข็งนี้เลย แถมกระทุ้งแรงๆไปเกือบจะทุกก้าวเลยซะด้วย! โอ๊ย แค่เห็นก็เสียว ลุ้นจนเหนื่อยเลย
ช่วงถัดจากนี้ไป ก็ใกล้จะถึง Larkya La Pass แล้วค่ะ โดยที่ทางจะชันมากขึ้น อาการปวดหัวไม่มีแล้วค่ะ น่าจะเป็นเพราะยาที่ทานไป แต่เดินเหนื่อยและหอบมากๆ หายใจลำบากมากขึ้นด้วย เลยต้องเดินช้าๆ และหยุดบ่อยขึ้น ถี่ขึ้น
-รางวัลของผู้พิชิต อิอิ-
หยกถึง Larkya La Pass ตอนประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ พอถึงปุ๊บนี่หายเหนื่อยปั๊บเลย เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก คือโล่งและสบายใจสุดๆ รีบวางกระเป๋า และให้รางวัลตัวเองก่อนจะออกเดินสำรวจ Larkya La Pass ด้วย snicker แท่งโตที่ผ่านการเหลว แล้วแข็ง แล้วเหลว แล้วแข็งมาแล้วหลายรอบ 55+ ซึ่งตอนนี้แข็งมากๆ มันช่างฟินสุดๆ เลยค่ะ


ฟ้าที่เปิด ใส และแจ่ม กับหิมาลัยขาวๆที่อยู่รอบทิศ และธงมนตร์มากมายหลากสี ดูสวย ดูขลัง ดูเป็นผู้พิชิต ดูชนะยังไงก็ไม่รู้ค่ะ 55+ อยากจะอยู่ตรงนี้นานๆ แต่ก็ทำไม่ได้ ด้วยความที่ไม่สันทัดการเดินลงเลย เลยไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเดินลงจาก จุดสูงสุดที่ Larkya La Pass 5,150 เมตร ไปที่ Bimthang 3,700 เมตร นานแค่ไหน พอเวลาประมาณ 09.30 น. หยกก็เริ่มลุยต่อเลยค่ะ
จากนี้ไปการหายใจง่ายมาก รู้สึกโล่งสบายสุดๆ ไม่เหนื่อย ไม่หอบแล้ว จะยากก็ที่หัวเข่า และตุ่มน้ำใสมากมายที่ปลายนิ้วเท้านี่แหละ ทางลงลาดลงอย่างเดียวยาวลงไปจริงๆเลยค่ะ พอลงจากเขาลงมา ช่วงแรกที่เจอทางราบซึ่งจะเป็นทางราบช่วงสั้นๆ ก็จะเจอเต็นท์ขายอาหารค่ะ จากนี้ไปก็จะราบอีกสักนิด แล้วก็ลาดลงยาวไปอีก พอใกล้ๆจะหมดทางลาดลง ก็จะมองเห็น Bimthang อยู่ไกลๆนู้นแล้ว แต่ต้องเดินทางราบไปอีกพักใหญ่ๆเลยค่ะถึงจะถึง
หยกใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 3.5 ชั่วโมงค่ะ จาก Larkya La Pass เดินยาวไม่หยุดพัก แต่หยุดแค่สั้นๆเพื่อดื่มน้ำ และเข้าห้องน้ำ ถึง Bimthang ตอนประมาณ 13.00 น. โดยวันนี้เดินไปทั้งหมดประมาณ 17 กิโลเมตร รวมเวลา 8.5 ชั่วโมงค่ะ

-หายเหนื่อยทุกที-
อากาศหนาวเย็นสุดๆ แต่เมื่อถึงเร็ว ก็เลยรีบซักผ้า น้ำนี่เย็นเจี๊ยบเลย เลยได้แค่จุ่มๆ แช่ๆ ขยี้ไม่ได้ค่ะ มือมันแข็งชาไปหมด ซักไป ก็ร้องไป กระโดดโลดเต้นไป สนุกดีเหมือนกัน อย่างที่บอกว่าไม่ว่าจะเดินเหนื่อยแค่ไหน แต่พอถึงจุดหมายของวัน ความเหนื่อยก็หายไปทันที เป็นแบบนี้อยู่ทุกวันเลยค่ะ พอซักผ้าเสร็จแล้วก็ถึงเวลาซักแห้ง เช็ดหน้า เช็ดตัว เช็ดเท้า เปลี่ยนชุด แล้วไปนั่งชิวๆจิบชานมร้อนๆ พร้อมกับเล่นเกมส์เพลินๆ ในห้องทานอาหารอุ่นๆ เสมือนได้มีวันพักครึ่งวัน(เกือบทุกวัน)เลยค่ะ
-Bimthang 3,700 เมตร-
เป็นหมู่บ้านที่มีบรรยากาศสวยยังกับออกมาจากภาพวาด ล้อมรอบไปด้วยหิมาลัย ขนาดใหญ่ยักษ์ ที่เห็นได้ใกล้ๆ แบบเต็มๆตา จนนึกว่ายืนอยู่ในเมืองยักษ์ ที่นี่กลับมาเงียบสงบตามเคย มีนักเทรคกิ้งที่พักที่เดียวกันรวมกลุ่มหยกด้วย แค่ 7 คนเองค่ะ อาจจะเป็นที่ Bimthang นี้ เพราะมีที่พักห่างๆกันประมาณ 4 – 5 ที่พัก มีทั้ง teahouse ที่สร้างเสร็จใหม่ ดูสวยงาม ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ประดับประดาด้วยรูปวาดสีสดๆ ประมาณว่าอยู่ชายทะเล หรือโรงเรียนอนุบาล แฮ่ๆ แต่หยกดูแล้วมันไม่ให้บรรยากาศของการเทรคกิ้งบนหิมาลัยเลย หยกเลยเลือกที่จะพักที่ teahouse สไตล์แบบดั้งเดิมค่ะ รู้สึกสบายใจและรู้สึกว่ามันใช่กว่า

-ความทรมานกับการปวดเข้าห้องน้ำ กับ อากาศหนาวแสนจะเหน็บยามค่ำคืน-
คืนนี้อากาศหนาวมากๆค่ะ ถึงแม้จะไม่มีช่องลมให้ลมเข้าไปในห้องพักก็ตาม สิ่งที่ลำบากที่สุดสำหรับอากาศหนาวเหน็บเยี่ยงนี้ก็คือ การปวดเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนไงล่ะคะ ต้องเตือนตัวเองอยู่ตลอดๆว่าให้ดื่มน้ำเยอะๆช่วงกลางวัน พอตกเย็นห้ามดื่มเยอะ จะได้ไม่ต้องทรมานอดกลั้นปัสสาวะจนถึงเช้า(ซึ่งไม่ดีเลย) หรือต้องลากตัวเองออกจากถุงนอนอันแสนจะอุ่นเพื่อออกไปเข้าห้องน้ำท่ามกลางอากาศที่แสนจะหนาว แต่ค่ะแต่.. ด้วยความที่ชอบดื่มชานมร้อน ซึ่งอร่อยมาก และเพื่ออบอุ่นร่างกายในช่วงที่อากาศหนาวๆยามเย็น มันจึงทำให้ขับปัสสาวะเยอะซะเหลือเกิน ถึงแม้จะไม่ได้ดื่มน้ำเยอะเลยก็ตาม
Day 19 ใจหาย: Bimthang – Goa

-ร่ำลา Bimthang-
อย่างที่บอกว่าที่ Bimthang มีวิวที่สวยมากๆ เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ล้อมรอบไปด้วยหิมาลัยสูงใหญ่ทุกทิศทุกทาง จะหันมองไปทางไหนก็สวยงามจับใจไปหมด จนอยากจะขอค้างต่ออีกสักคืนสองคืน แต่เวลามีไม่พอ เลยเดินไปก็หันหลังกลับมามองอยู่บ่อยๆไปจนลับสายตา


วันนี้เป็นวันที่ 19 ของการเทรค วันเกือบสุดท้ายของทริปแล้วค่ะ แอบเศร้าเบาๆ วันเวลาแห่งความสนุกที่หลากหลายอารมณ์ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียจริง ทั้งๆที่รู้สึกเหมือนกับว่าพึ่งจะเริ่มเดินมาแค่ไม่กี่วันเอง วันนี้เลยออกเดินสายสักหน่อย
ทางเดินปิดท้ายของวันนี้ ยังคงสวยงาม แตกต่างไปจากทางเดินตลอดการเดินมาทั้ง 18 วันค่ะ โดยที่ช่วงแรกนั้นจะเดินกลางแจ้งนิดๆ แล้วก็ข้ามแม่น้ำ แม่น้ำที่มีสีขุ่นๆเหมือนสีน้ำนม ที่บริเวณนี้ยังรอบล้อมไปด้วยหิมาลัย จากนั้นก็เดินลงไปยังป่าที่เขียวขจี ต้นไม้สูงใหญ่ เต็มไปด้วยมอสที่เกาะทั้งตามลำต้นและบนก้อนหิน

วันนี้หยกเดินช้ามากๆๆค่ะ เพราะเป็นการเดินลงอีกแล้ว ตุ่มน้ำใสที่ปลายนิ้วเท้าก็มีมากมาย แถมยังขึ้นมาใหม่เรื่อยๆทุกวันอีกด้วย มันทั้งช้ำและระบมไปหมด ทรมานมากค่ะ เดินช้าๆ เรื่อยๆ แต่เดินแบบไม่หยุดพักนะคะ เพราะการหยุด แล้วออกเดินใหม่นั้น มันยากมาก ด้วยความที่เท้าระบม และช้ำไปหมด พอได้หยุดแล้วต้องเริ่มก้าวเดินใหม่ มันเลยระบมมากขึ้น ทีนี้ก็ยิ่งเจ็บกว่าเดิมเลยค่ะ


กว่าจะถึงหมู่บ้านแรกคือ Kharche ก็เกือบเที่ยงแล้ว ใช้เวลาไปกว่า 4.5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งตอนนี้หิวมากๆ เลยหยิบเสบียงขึ้นมาทาน แล้วหวังว่าจะเดินให้เร็วขึ้นอีกสักนิด เพื่อที่จะได้ถึง Goa จุดหมายของวันนี้เร็วๆ จะได้พักจริงๆ เพราะหากหยกจะหยุดทานข้าวเที่ยงก็ได้ค่ะ แต่หยกคงต้องรออาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และกว่าจะทานอาหารเสร็จอีก ไหนหยกจะเดินช้าเยี่ยงเต่าคลานแบบนี้ คงถึงที่ Goa ค่ำมืดพอดี เลยกลั้นใจและกัดฟันเดินต่อค่ะ
อย่างที่บอกว่าทางเดินวันนี้มันสบาย ร่มรื่นมาก ถึงแม้จะเจ็บเท้า แต่ก็เดินชิวๆ สบายๆ อย่างมีความสุข ถึงแม้จะต้องแอบคอยกระตุ้นตัวเองให้เร่งสปีดเป็นช่วงๆก็ตาม เดินประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงหมู่บ้านถัดไปคือ Surki
จากนี้ไปก็เป็นทางราบค่ะ มีทั้งราบชันขึ้น ๆ และลาดลงๆๆๆๆ ตลอดทางเลย เดินอีกประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึง Goa ซึ่งก็เกือบๆจะบ่ายสาม โดยมาถึงก่อนเพื่อนร่วมทริปสัก 10 กว่านาทีเห็นจะได้ เพราะเค้าหยุดทานอาหารเที่ยงไป คิดดูสิคะว่าเค้าเดินเร็วขนาดไหน ปล.ครั้งหน้านะ จะไม่ยอมให้ตุ่มน้ำใสเกิดขึ้นแม้แต่ตุ่มเดียวเลย คอยดูสิ!

-Goa 2,500 เมตร-
ที่นี่มีที่พักให้เลือกอยู่หลายที่ค่ะ มีทั้งแบบที่สร้างเสร็จใหม่ๆ ที่มีสีสันสวยงาม และแบบที่เป็นดั้งเดิม แน่นอนค่ะว่าหยกเลือกแบบดั้งเดิม ก็มันให้อารมณ์ที่ฟินกว่าตั้งเยอะนี่นา ห้องพักสบาย ค่อนข้างกว้าง มีทั้งแบบที่มีห้องน้ำในตัวให้เลือกด้วย ห้องทานอาหารก็ตกแต่งสวย เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้แกะสลัก ภายในห้องทานอาหารยังอบอุ่นดีอีกด้วย ทั้งๆที่ไม่มีฮีทเตอร์ ขณะที่ด้านนอก อากาศหนาวเชียวค่ะ
วันนี้ได้อาบน้ำด้วยค่ะ อาบกันทุกคนเลย หลังจากที่ไม่ได้อาบมา 7 วัน ทั้งยังได้อาบน้ำร้อนอีกด้วย ดีใจสุดๆ น่าจะเป็นเพราะว่าเค้าใช้โซล่าร์ค่ะ เลยสบายตัวมากมาย ส่วนเพื่อนคนสุดท้ายนั้น มัวแต่โอ้เอ้ เลบไปอาบช้า ก็เลยได้อาบน้ำเย็นเจี๊ยบๆค่ะ สงสัยน้ำร้อนจะหมด อาบเสร็จนะ บ่นใหญ่เลย ไหนใครว่ามีน้ำร้อน 555+
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
Day 20 บ๊ายบายหิมาลัย เจอกันใหม่ครั้งหน้า: Goa – Dharapani
-ปิดท้ายด้วยทางเดินรถที่ไม่น่าเดิน-

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเทรคกิ้งแล้วค่ะ นอกจากจะแอบเศร้าเสียใจที่ทริป 20 วันนั้นจบเร็วมากๆแล้ว ทางเดินยังไม่น่าเดิน และวิวก็ไม่มีอะไรน่าดูชมเลยค่ะ ก็ต้องเดินตามทางเดินดินกว้างๆ ที่พึ่งสร้างขึ้นเพื่อให้รถผ่านได้ ที่กลายเป็นเทรลของทั้งรถและคน จนถึง Dharapani ที่สูง 1,900 เลยค่ะ ถึงแม้จะไม่เห็นหิมาลัยแล้ว แต่ก็ยังดีค่ะที่พอจะมีต้นไม้เขียวๆและภูเขาเขียวๆให้ได้พอเห็นบ้าง ทั้งยังเป็นทางที่พึ่งสร้างใหม่ (และกำลังก่อสร้างอยู่) จึงยังไม่มีรถผ่าน ไม่เช่นนั้น คงจะฝุ่นเยอะมากๆ ทั้งไหนจะต้องคอยหลบรถให้หงุดหงิดใจอีกเป็นแน่
พอใกล้จะถึงหมู่บ้าน Tilije ก็จะเดินริมแม่น้ำสีน้ำนม “Milk River” ที่ยังดีที่ได้ยินเสียงธรรมชาติ เสียงน้ำไหลให้ได้พอชื่นใจขึ้นมาบ้าง หยกใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง โดยเดินไปประมาณ 10.1 กิโลเมตร ก็ถึง Dharapani แล้วค่ะ ซึ่งก็จะเจอ check post จุดสุดท้าย
-ปิดทริปสุดฟิน –
ระหว่างรอพี่ไกด์ลูกหาบเอาใบ permit ไปตรวจ หยกก็ฉลองการปิดทริปด้วย snicker ที่เก็บไว้เป็นรางวัลแห่งชัยชนะของการเทรคสำเร็จเป็นระยะเวลา 20 วัน sincker ของโปรด ที่อยากกินใจจะขาด หาซื้อก็ง่าย แต่ไม่เคยจะได้กิน นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ชอบเทรคกิ้ง 55+ เกี่ยวมั๊ยยยย

แล้วก็จบไปแล้วค่ะ การเทรคกิ้งอันยาวนานครั้งแรกของหยกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ขอขอบคุณมากๆนะคะ ที่ติดตามบทความเทรคกิ้งเนปาลซีรีย์ 20 วัน กับ Manaslu Circuit และ Tsum Valley ทั้ง 9 ตอน หวังว่าเส้นทางนี้จะเป็นตัวเลือกในฤดูเทรคกิ้งในเนปาลที่กำลังจะมาถึง โดยมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเตรียมตัว ทั้งเป็นแรงบันดาลใจ และยังได้รับความสนุกสนาน จนอยากจะไปเทรคกิ้งบนเส้นทาง Manaslu Circuit และ Tsum Valley ในเร็ววันเลยนะคะ
สวัสดีอีกครั้งนะคะคุณหยก รบกวนถามว่าเส้นทางที่เดินนี่เป็นเส้นบังคับเลยว่าทุกไกด์ต้องพาเดินเส้นนี้เลยใช่ไหมค่ะ ถ้าจะไปเราไม่ต้องเขียนโปรแกรมเดินให้ไกด์ใช่ไหมค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณธัญญลักษณ์
ขอบคุณสำหรับอีกคอมเม้นต์นะคะ ดีใจมากๆเลยค่ะที่สนใจเดินรูทนี้ หยกยังอยากหาโอกาสไปเดินอีกเลยค่ะ 🙂
เส้นทางเดินหลักๆมีแค่รูทเดียวค่ะ แต่บางช่วงอาจมีสองเส้นให้เลือกเดิน ทั้งนี้ไกด์มักจะเลิกเส้นที่คนส่วนใหญ่เดินกันให้เราค่ะ แต่จะมีตัวเลือกเสริมกรณีเรามีจำนวนวันว่างเยอะๆคือพวกทางเดินแบบเดย์ไฮ ซึ่งมีมากมาย เช่น เดินไป base camp หรือ gompa ต่างๆ หรือ ทะเลสาบต่างๆ อันนี้เราสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วคุยกับบริษัททัวร์ล่วงหน้าเพื่อจัดเตรียมวันเวลาให้เหมาะกับวันจำนวนวันที่เรามีได้ค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ 🙂 แพลนไปเมื่อไหร่ เตรียมตัวให้พร้อม เดินให้สนุก ให้มีทริปที่ประทับใจกลับมานะคะ 🙂
ผมจะรบกวนสอบถาม ทริป มนัสสลู ครับ
คืออยากรู้ว่า เราควรจะจ่ายค่าทิป เท่าไหร่ดีครับ จ่ายรวมไกด์และลูกหาบ หรือจ่ายแยก ครับ
คำนวนไม่ถูก ผมกับเพื่อน 2 คน มีไกด์ 1 คน ลูกหาบ 1 คน
สวัสดีค่ะ คุณ Maadeaw
เรื่องทิปนี้สำคัญค่ะ เพื่อเป็นกำลังในการทำงานการบริการที่ยากลำบากนี้ อีกทั้ง ทั้งพี่ไกด์และพี่ลูกหาบคือบุคคลสำคัญในการเทรคมากๆ นอกจากทิปแล้ว การดูแล พูดคุย สร้างมิตรภาพ และการสอบถามสารทุกข์สุขดิบระหว่างการเทรคก็สำคัญนะคะ หยกแนะนำว่าให้แยกกันระหว่างไกด์กับลูกหาบค่ะ ส่วนจะให้เท่าไหร่นั้นขึ้นกับความพึงพอใจกับการทำงานและงบที่เรามีค่ะ มีน้อยให้น้อย พอใจเท่าไหร่ก็ให้เท่านั้น อย่าคิดมากค่ะ ไม่มีถูกไม่มีผิดนะคะ 🙂
หยกกำลังจะมีโปรเจคใหม่เกี่ยวกับ Manaslu Circuit และ Tsum Valley ออกมาค่ะ รอติดตามด้วยนะคะ 🙂
อ่านจบแล้วครับ สนุกมาก ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
กำลังวางแผนไปเลยครับ เดือนพฤศจิกายน แต่คงไม่ได้เข้า ซุม วัลเล่
ไม่แน่ใจว่า เบสแคมป์ของมนัสสลู อยู่ในระหว่างทริป มนัสสลู เซอร์กิจ หรือป่าวครับ
สวัสดีค่ะ คุณ Maadeaw
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ 🙂 Manaslu Base Camp อยู่ในเส้น Manaslu Circuit ค่ะ เตรียมตัวดีๆ ถ่ายรูปเยอะๆ เทรคให้สนุกนะคะ คุณ Maadeaw ต้องชอบมากแน่ๆ แล้วกลับมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ