
บทความนี้เป็นตอนที่ 2 Khopra & Muldai Viewpoint ของซีรี่ย์เทรคกิ้ง Mohare + Khopra + Mardi Himal นะคะ (เพื่อนๆ สามารถอ่าน ข้อมูลเทรคกิ้ง Mohare Khopra Trek ได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ มาดูสิว่าเส้นทางนี้อยู่ไหน มีอะไร เทรคง่ายไหม วิวเป็นแบบไหน มือใหม่ไปได้หรือเปล่า และรายละเอียดอื่นๆ อีกเพียบ) ซึ่งเทรคกิ้งครั้งนี้หยกเดินทั้งหมด 13 วัน ดังนั้นแล้ว บทความนี้จะเป็นซีรี่ย์ที่มีทั้งหมด 3 ตอนนะคะ คือ Mohare Danda Trek, Khopra Danda & Muldai Viewpiont และ Mardi Himal Trek ค่ะ ซึ่งตอนนี้มีจุดเด่นอยู่ทั้งที่ Khopra Danda และ Muldai Viewpoint ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มองเห็น Poon Hill ด้วย ซึ่งอยู่สูงกว่าและมีทัศนียภาพที่ สวยกว่า Poon Hill มากๆ ค่ะ ทั้งคนยังน้อยกว่าแบบมหาศาลเลย ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้ว ไปชมความงามกันเลยค่ะ
นอกจากนี้ หยกยังได้เทรคบนเส้นทาง Manaslu & Tsum เป็นระยะเวลา 20 วันด้วยค่ะ ซึ่งที่นี่ก็สวยงามและคนน้อยมากๆ เช่นกัน อ่านรายละเอียดประสบการณ์และเรื่องเล่าได้ที่ลิ้งค์เลยนะคะ
มีเพื่อนๆ หลายท่านให้ความสนใจ หลังจากอ่านรีวิวการท่องเที่ยวของหยก ที่มีรูปแบบที่ค่อนข้างลุย ไปในที่ๆ มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ ชอบขวนขวายหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ และได้เที่ยวได้สัมผัสแต่ละที่แบบเต็มๆ บอกว่า “ดูสนุกมากๆ เป็นสไตล์การท่องเที่ยวที่หายาก ไม่ค่อยมีใครเที่ยวแนวนี้กัน และอยากให้หยกจัดทริปพาเที่ยว” ในที่สุด หยกได้จัดทัวร์พาเที่ยวแล้วนะคะ เย้ๆๆ หยกเลยถือโอกาสนี้ ทำโพสต์ถึงเหตุผลที่หยกจัดทริป ทำไมทัวร์ของหยกจึงแตกต่าง และ ทำไมต้องมาเที่ยวกับหยก? มาไว้ที่นี้ค่ะ มาร่วมทริปร่วมสนุกด้วยกันนะคะ





Day 4: Mohare Danda 3,298 m – Swanta 2,214 m
ไฮไลท์สิ่งที่ได้เห็นในวันนี้
Phunari – Dhaulagiri ที่เรียงตัวสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับที่พักที่มีห้องทานอาหารเป็นกระจกหันเห็น Dhaulagiri เต็มๆ
ทางเดินจาก Phunari จนถึงเกือบถึง Phalante – เดินผ่านป่ากุหลาบพันปีต้นเก่าแก่ที่หนาแน่น ร่มรื่น และสวยงามมากๆ
ทางเดินก่อนถึง Swanta – ทางเดินบันไดหินสวยงามที่มีเฟิร์นมากมายเกิดเต็มทางเดิน และยังมีต้นไม้สูง ใบเล็กเรียวสีเขียวอ่อน เป็นพุ่มใหญ่ๆ ที่ไม่ทราบชื่อ ที่ให้บรรยากาศเสมือนกับเดินอยู่ในญี่ปุ่นเลยค่ะ
Mohare Danda 3,298 m
ตอนนี้ทางเดิน 95% จาก Mohare Danda ไปจนถึง Phubari นั้นปกคลุมไปด้วยหิมะค่ะ ซึ่งแปลกประหลาดมากในช่วงเดือนนี้ (มีนาคม) ในรอบสิบกว่าปีที่อากาศแปรปรวน หากไม่มี microspikes คงจะลื่นล้มกลิ้งกันสนุกเลยค่ะ เพราะทางเดินลาดชันลงซะเหลือเกิน การเดินด้วย microspikes ซึ่งเป็นของเล่นใหม่ของหยกในเทรคนี้ เดินมันส์มากๆ แต่ก็ต้องมีการเรียนรู้จากการลงมือทำจริง เช่น หากใส่ microspikes แล้วเดินบนก้อนหินใหญ่ๆ จะลื่น ต้องเดินบนหิมะ แต่ทางเดินหิมะก็มีสองแบบคือ แบบที่เป็นหิมะนิ่มๆ หลวมๆ กับ หิมะที่อัดแน่นจนกลายเป็นน้ำแข็ง หากเดินบนหิมะหลวมๆ ก็จะตกร่องลึกเพราะความร่วน เหยียบทีขาก็จะทรุดลงไปจนถึงหน้าแข้ง เดินลำบาก ต้องเลือกเดินบนหิมะน้ำแข็ง ซึ่งพอเหยียบปุ๊ปก็จะเกาะปั๊ป ไม่ลื่นไถล เดินก้าวต่อก้าวได้อย่างเร็วเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นทางเดินหิมะต่อทางเดินดิน ก็สามารถเดินบนทางเดินดินได้ ไหนจะเรื่องการใช้ไม้เท้าเดินป่าอีก ที่ต้องมีเทคนิคคือจะต้องปักไปที่หิมะน้ำแข็ง ไม่ใช่หิมะร่วน ไม่งั้นก็จะปักร่วงไปครึ่งของไม้เท้าเดินป่า แล้วทรงตัวไม่ได้เลยค่ะ





Phubari 2,925 m
Phunari มีวิวของ Dhaulagiri สวยงามมาก ทั้งยังมีที่พักอยู่ 2 แห่งที่ได้มีการจัดห้องทานอาหารให้ได้เห็นวิวของพี่ใหญ่ Dhaulagiri เต็มๆ เลยค่ะ ซึ่งที่พักที่นี่นั้นเป็นของชาวบ้านโดยเป็นที่พักประเภทที่เรียกว่า tea house ซึ่งมีราคาไม่แพง ทั้งราคาอาหารและที่พัก เมื่อเทียบกับ community lodge เนื่องจากเป็นที่พักประเภทแบบดั้งเดิมที่พบได้ตามการเทรคกิ้งในเนปาล เลยไม่มีที่ชาร์จไฟและ wifi
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
Phalante 2,270 m
จาก Phunari ยาวไปจนถึง Naka และเกือบถึง Phalante นั้นจะเป็นการเดินในร่ม ประมาณเกือบสองชั่วโมง โดยจะเป็นการเดินผ่านป่ากุหลาบพันปีต้นเก่าแก่ที่เริ่มจะออกดอกตูมและบานบ้างแล้ว ไม่อยากจะคิดเลยค่ะว่าหากมาเทรคในช่วงที่กุหลาบพันปีบานทั้งป่านี่ จะสวยและฟินมากขนาดไหน ทั้งตามลำต้นก็ยังมีพวกมอสเขียวๆ เกิดเกาะเต็มไปหมด ยิ่งให้บรรยากาศของความอุดมสมบูรณ์ของป่า ความเขียวขจี สดชื่น และร่มรื่นมากยิ่งขึ้น ทางเดินช่วงนี้ยังคงเดินลาดลงค่ะ แต่ไม่ชันมาก
และแล้วเราก็จะเจอกับ Nepali Flat ค่ะ ให้ได้สมกับการได้มาเทรคกิ้งในเนปาลจริงๆ ซะที กับการเดินวนลงยาวไปๆ ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเจอกับสะพานแขวนแรก ที่พอข้ามไปแล้ว ก็ต้องผจญกับบันไดขึ้นชันๆ ยาวไปๆ อีกประมาณเกือบ 20 นาที แล้ว Swanta ก็อยู่ข้างหน้านี่เองค่ะ
Swanta 2,214 m
ที่ Swanta เราสามารถมองเห็นทาวเวอร์ของ Poon Hill ด้วยนะคะ ที่นี่มีที่พักแบบ tea house ค่ะ มีอยู่ 3 แห่งเลยเชียว ทุกที่ใช้เมนูเดียวกัน จึงมีราคาห้องพักและอาหารเท่ากัน ที่พักที่นี่มีทั้งแบบที่มีห้องน้ำในตัว และแบบห้องน้ำแยก ที่พักที่นี่ไม่มีที่ชาร์จไฟ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ (Ncell) แต่มีไวไฟให้บริการ (เสียค่าใช้จ่าย) และมีน้ำร้อนให้อาบ (เสียค่าใช้จ่าย) แต่ที่ไหนจะน่าอยู่ สะดวกสบาย วิวดี หรืออาหารอร่อยกว่านั้นก็บอกไม่ได้นะคะ ต้องลองๆ เดินดูค่ะ หยกพักที่ Hotel Candle Inn ห้องพักสะอาด กว้างพอควร มีห้องน้ำอยู่ใกล้ห้องพัก แต่อาหารไม่อร่อยค่ะ ให้น้อยและมีแค่รสเดียวคือจืด (ความเห็นส่วนตัว)
คำแนะนำ
- ทางเดินจาก Mohare Danda เดินลงยาวลงมาเลยค่ะ ทางเดินในร่ม ซึ่งหลังจาก Phunari จะเดินในป่ากุหลาบพันปีมากมาย ซึ่งคงจะสวยมากเมื่อบานเต็มต้น
- ส่วนน้ำดื่มนั้นสามารถขอเติมได้ที่ Phunari ค่ะ ซึ่งที่นี่มี tea house ที่มีทั้งที่พักและอาหาร จากนั้นก็จะไม่มีน้ำดื่มให้เติม ไม่มีที่พักและร้านอาหารไปจนถึง Swanta เลยนะคะ





Day 5: Swanta 2,214 m – Chistibang 3,004 m – Khopra Danda 3,660 m – Chistibang 3,004 m
ไฮไลท์สิ่งที่ได้เห็นในวันนี้
ทางจากระหว่าง Swanta ถึง hydropower station – ทางเดินในป่ากุหลาบพันปีที่หนาแน่น และเขียวขจี โดยเต็มไปด้วยมอส ไลเคน และกล้วยไม้ป่า
เทรคกิ้ง Khopra – วิวพาโนรามาของ Annapurna South, Baraha Shikhar, Nilgiri, Dhaulagiri I-IV และ Gurja Himal ซึ่งหยกไม่เห็นค่ะ เพราะฟ้าปิด แอบเสียใจ จนต้องมาแก้มือ
Swanta 2,214 m
ช่วงแรกจะเดินลัดเลาะไปตามไร่ปลูกพืชผักของชาวบ้าน โดยเดินลง ลาดลงยาวไปๆ ก่อนวนกลับเข้าเทรลทางเดินราบ ที่มองเห็น Swanta ได้เต็มๆ ตา ก่อนจะมุ่งเข้าสู่ทางเดินในป่ากุหลาบพันปี ที่เขียวขจีเหมือนเคย ยังคงมีมอสเกาะเต็มลำต้น เดินวนๆ ลงๆ ขึ้นๆ แล้วก็มาถึงอาคารที่เป็นแหล่งให้พลังงานจากน้ำ (hydropower station) ที่มีร้านขายของและเครื่องดื่มให้บริการ หยุดพักเตรียมแรงก่อนจะเดินขึ้นทางชันที่ชันยาวไปๆ จนถึง Chistibang เลยค่ะ
Chistibang 3,004 m
Chistibang มีที่พักอยู่ 2 แห่ง ที่หยกเลือกพักแห่งที่อยู่ด้านบน ซึ่งที่นี่มีวิวดี หน้าต่างกว้าง เจ้าของเป็นมิตรมากๆ ด้วยค่ะ มีน้ำร้อนให้อาบ (เสียค่าใช้จ่าย) มีที่ชาร์จไฟให้บริการฟรีตลอดวัน ทั้งยังมีปลั๊กไฟในห้องพักอีกด้วย และมีไฟฟ้าตลอดวันเลยค่ะ ท้ายที่สุดอาหารยังอร่อยมากๆ อีกด้วย ส่วนสัญญาณโทรศัพท์ (Ncell) และ wifi นั้นไม่มีนะคะ





Khopra Danda 3,660 m
จากนี้ไปเตรียมตัวให้พร้อมกับความลาดชันจากความสูง 3,004 เมตรที่ Chistibang ที่ชันยาวไปจนถึง Khopra Danda ที่สูงถึง 3,660 เมตร เทรคกิ้ง Khopra ระมัดระวังเรื่องอาการ AMS ด้วยนะคะ ทั้งยังเป็นทางเดินกลางแจ้ง ที่แดดก็แรง และยังต้องใช้พลังงานเยอะมากๆ อีกด้วย แต่พอเดินสูงขึ้นๆ ช่วงที่ใกล้จะถึง ก็เริ่มสายคือเที่ยงกว่าๆ เมฆหมอกเริ่มมาพร้อมกับความหนาวที่เริ่มครอบคลุม กับฟ้าเริ่มปิด ไม่เพียงเท่านั้น ทางเดินกลายเป็นทางเดินริมผาที่มีหิมะลื่นๆ ปกคลุมเป็นระยะๆ microspikes จึงได้ถูกใช้งานอีกครั้ง ยิ่งเดินสูงขึ้น หมอกก็เริ่มหนา และยังเห็นเมฆดำอยู่ไกลๆ แต่แล้วก็โล่งใจค่ะ ถึง Khopra Danda แล้ว
แต่การผจญภัยของวันนี้ยังไม่สิ้นสุด เพราะ เทรคกิ้ง Khopra (ดูภาพความงามของ Khopra Danda ได้ลิ้งค์นี้นะคะ หยกไปมารอบที่สองกับลูกทัวร์ผู้น่ารักค่ะ) เหมือนพึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง เพราะที่พักที่มีอยู่เพียงที่เดียวนั้นเต็มค่ะ ที่เรียกว่า community lodge ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ community trek ทั้งเจ้าของยังไม่เป็นมิตรมากๆ ไม่มีความคิดอยากจะช่วยเหลือใดๆ ทั้งๆ ที่อากาศแย่มาก หิมะเริ่มตกปรอยๆ เมฆดำเริ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือ รีบเดินลงให้ไวที่สุด กลับลงไปยัง Chistibang ก่อนที่หิมะและ/หรือฝนจะถล่ม คงจะเปียกปอนและหนาวมากๆ น่าดู การเดินลงตามทางลาดๆ ทั้งๆ ที่หิวสุดๆ เพราะตอนนี้บ่ายโมงตรงแล้ว และยังคงงงๆ สมองยังไม่ได้ประมวลผลว่านี่เราต้องเดินกลับลงไปจริงๆ เหรอ
จึงต้องเดินลงแข่งกับเวลา แข่งกับสภาพอากาศ ที่หิมะยังคงตกปรอยๆ และเมฆดำเริ่มใกล้เข้ามาทุกที การเดินลงโดยที่ไม่หยุดพัก เพราะการหยุดพักทำให้กล้ามเนื้อเย็น การเริ่มเดินต่อจึงยาก ยิ่งการเดินต่อให้ได้ความเร็วเท่าเดิมยิ่งจะยากไปใหญ่ แล้วก็มองเห็นหลังคาฟ้าๆ ของ Chistibang ความดีใจโถมเข้ามา มาพร้อมๆ กับสายฝนปรอยๆ จึงมีแรงฮึดต่อ แรงเฮือกสุดท้าย ในที่สุดก็ถึง Chistibang ทันเวลา ณ เวลา 14.15 น. เพราะอีก 5 นาทีหลังจากนั้น ฝนตกหนักมากกก
คำแนะนำ
- วันนี้จะเดินขึ้น ไต่ความสูงจาก 2,214 เมตร ที่ Swanta ไป 3,660 เมตร ที่ Khopra Danda ซึ่งหากร่างกายยังปรับตัวกับความสูงได้ไมดีพอ แนะนำให้หยุดพักที่ Chistibang ซึ่งสูง 3,004 เมตร เพื่อทำการค้างแรมค่ะ
- เทรคกิ้ง Khopra ที่ Khopra Danda นั้นมี community lodge ที่เป็นที่พักเพียงที่เดียว ที่นี่มีจุดชมวิวพาโนรามาหิมาลัยที่สวย ทั้งยังมี Khayer Lake ที่สูงกว่า 4 พันเมตร ซึ่งเป็นที่นิยมเป็น day hike และเพื่อช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้นในที่สูง เลยเป็นจุดฮิตของเทรคเกอร์ที่นิยมพักกัน 1 – 2 คืน ที่พักจึงมักจะเต็มในช่วงฤดูท่องเที่ยวค่ะ





Day 6: Dhankharka (Chistibang) 3,004 m – Dobato 3,479 m
ไฮไลท์สิ่งที่ได้เห็นในวันนี้
Dobato – กับที่พักที่มีวิวสวยที่สุดและใกล้สุดๆ ของ Dhaulagiri Range, Annapurna Range, Mardi Himal, Hiunchuli และ Macchhapuchhre
Chistibang 3,004 m
ทางเดินจาก Chistibang ไป Thablakharka นั้นเดินในร่มซะส่วนใหญ่ โดยยังคงเดินในป่าของกุหลาบพันปี เริ่มด้วยการเดินลง วนลง แล้วก็ลง จากนั้นก็ขึ้น ชันขึ้นๆ แล้วก็ลงอีกยาวๆ ไปอีก สลับไปมาอยู่หลายที หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ด้วยคำศัพท์ง่ายๆ ก็คงจะต้องเรียกว่า Nepali Flat จนถึง Thablakharka ซึ่งจุดนี้มีก๊อกน้ำให้ได้เติมน้ำดื่มนะคะ
จากนี้ก็ยังคงเจอ Nepali Flat ที่ขึ้นๆ ลงๆ แต่ไม่ลาดไม่ชันมากเหมือนช่วงแรก เลยพอเริ่มจะเดินคล่องตัวมากขึ้น เดินไปได้สักพักก็ต้องประหลาดใจกับทางเดินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ที่ยาวชันขึ้นไป โชคดีที่วันนี้ออกเดินแต่เช้า เลยได้เดินบนหิมะที่ยังใหม่ หิมะที่พึ่งตกเมื่อวานเย็นที่ปกคลุมทางเดินหิมะที่อัดแน่นเป็นน้ำแข็งของเมื่อวาน เลยทำให้เดินได้ง่ายขึ้น ไม่มีความลื่น เดินได้สนุก แต่พอเดินสูงขึ้นๆ แสงแดดที่แรงได้สาดกระทบหิมะ จึงทำให้ทางเดินหิมะเริ่มลื่น การเดินขึ้นจึงค่อนข้างท้าทาย หยกเลยตัดสินใจใส่ microspikes ที่ช่วยทำให้การเดินทางชันที่ปกคลุมไปด้วยหิมะง่าย สบาย และคล่องขึ้นที่ยาวไปจนถึง Bayeli





Bayeli 3,440 m
Bayeli มีที่พักอยู่ 1 แห่ง เป็น community lodge ที่ตอนนี้ปกคลุมไปด้วยหิมะ ที่นี่เป็นไม่ค่อยเป็นที่นิยมในการค้างแรมของเทรคเกอร์มากนัก ถึงแม้จะมีวิวพาโนรามาของหิมาลัยที่สวยงามมากก็ตาม แต่หากใครชอบความเงียบสงบก็แนะนำให้พักค้างแรมที่นี่ซักคืนนะคะ
ทางเดินในช่วงแรกและช่วงท้ายๆ จนถึง Dobato ยังคงปกคลุมไปด้วยหิมะ หยกยังคงสวม microspikes ก็หิมะใหม่ที่พึ่งตกมาเมื่อวานนั้นเริ่มละลาย เลยทำให้ทางเดินหิมะที่อัดแน่นจนกลายเป็นน้ำแข็งนั้นลื่น ช่วงที่ใกล้ถึง Timuje Danda นั้นไม่มีหิมะค่ะ จากนี้เดินไปสักพักจะมองเห็น Dobato ให้ได้พอมีแรงฮึดเดินต่อ เปลี่ยนมาเป็นบนทางเดินริมผา ที่ทางเดินเริ่มชันมากขึ้น แต่ก็มีลาดลงนิดนึง กอนที่จะเริ่มชันขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับทางเดินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ microspikes จึงเป็นอุปกรณ์ที่คุ้มค่าสุดๆ หิมะลื่นลาดชันยาวไปๆ จนถึง Dobato เลยค่ะ พอช่วงสายๆ สัก 11 โมง หมอกเริ่มลง เมฆเริ่มแน่น ฟ้าปิดสนิท และอากาศก็เริ่มเย็นขึ้นๆ ซึ่งเป็นธรรมดาบนเขาสูงเช่นนี้
Dobato 3,479 m
Dobato เป็นหมู่บ้านที่มีวิวหิมาลัยสวยและใหญ่มาก เพราะสามารถเห็นได้อย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Dhaulagiri Range, Annapurna Range, Mardi Himal, Hiunchuli และ Macchhapuchhre ซึ่งสวยมากๆ ค่ะ ที่นี่มีที่พักอยู่ 3 แห่งค่ะ หยกเลือกพักที่พักด้านบนสุด เนื่องด้วย ห้องทานอาหารนั้นมีวิวดี เป็นห้องกระจกที่เห็นวิวหิมาลัยแบบพาโนรามาเต็มๆ (ถ้าฟ้าเปิด) เจ้าของอารมณ์ดีและเป็นมิตรมากๆ มีน้ำร้อนให้อาบ (เสียค่าใช้จ่าย) และมีที่ชาร์จไฟ (เสียค่าใช้จ่าย) ด้วยค่ะ
Day 7: Sunrise hike to Muldai Viewpoint 3,650 m & Rest Day at Dobato
ไฮไลท์สิ่งที่ได้เห็นในวันนี้
Muldai Viewpoint – วิวอลังการที่สุด (ส่วนตัว หยกว่า สวยกว่า Poon Hill อีกค่ะ) จะบอกว่าเป็นไฮไลท์ของเทรคนี้เลยก็ว่าได้ วิวรอบทิศของ Dhaulagiri Range, Nilgiri, Annapurna Range, Mardi Himal, Hiunchuli และ Macchhapuchhre ทั้งยังอยู่สูงกว่า Poon Hill และอยู่ใกล้ๆ กัน จึงสามารถมองเห็น Poon Hill จากที่นี่อีกด้วย





Muldai Viewpoint 3,650 m
Muldai Viewpoint เป็นจุดชมวิวหิมาลัยแบบพาโนรามาที่สวยมากๆ เช่น Dhaulagiri Range, Nilgiri, Annapurna Range, Mardi Himal, Hiunchuli และ Macchhapuchhre เป็นต้น ทั้งยังเห็นแบบใกล้ชิดสุดๆ กับภูเขาใหญ่ๆ ที่อยู่ตรงหน้าจังๆ เค้าว่ากันว่าที่นี่วิวสวยกว่า Poon Hill มากๆ เลยนะคะ ทั้งพื้นที่ยังกว้างกว่ามากๆ อีกด้วย ที่สำคัญคือคนนั้นน้อยกว่าพันเท่าล้านเท่าเลยค่ะ วันที่หยกไปวันแรก มีแค่ประมาณ 30 – 40 คนเท่านั้นเอง ส่วนวันที่สองนั้นมีไม่ถึง 10 คนเลยค่ะ เลิศเลอแค่ไหน
Muldai Viewpoint นี้อยู่ที่ Dobato นะคะ อยู่ห่างจากที่พักที่อยู่ด้านบนสุดประมาณ 1 กิโลเมตรนิดๆ ส่วนทางเดินนั้นจะเป็นทางลาดชันขึ้นไปสักหน่อย โดยใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที ก็จะถึงด้านบนค่ะ ที่ด้านบนมีเนินสำหรับชมวิวเยอะมากๆ ค่ะ ให้ได้เลือกเดินได้เป็นบริเวณกว้างๆ เลย ทั้งยังมีเก้าอี้ไม้ไว้สำหรับนั่งชมยอดเขาโปรดแบบใกล้ๆ ชัดๆ อีกด้วยค่ะ
จุดชมวิวนี้นิยมไปชมกันในตอนเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น ที่มีแสงสีแดงของพระอาทิตย์ แสงสีทองอร่ามที่ตกกระทบยอดหิมาลัยขาวๆ สวยงามสุดๆ เลยค่ะ ทั้งนี้ การขึ้นไปชมวิวช่วงกลางวันนั้นก็จะสวยมากๆ เช่นกันค่ะ ถ้าวันนั้นอากาศดี ท้องฟ้าเปิด แต่ส่วนใหญ่แล้ว อากาศบนเขาที่สูงกว่าสามพันเมตรในช่วงสายๆ เป็นต้นไป มักจะมีเมฆหมอกหนา อากาศไม่ดี และฟ้าปิด
ในปีหน้าที่นี่จะมีการสร้างทาวเวอร์สำหรับชมวิวค่ะ
มองหาทริปลุยๆ มันส์ๆ + ไกด์หญิงคนไทย ? เนปาล? ทาจิกิสถาน? คีร์กีซสถาน? จอร์แดน? ศรีลังกา?
หยกจัดทริปแล้วค่ะ ปี 2565 สนใจทริปไหน คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมที่ภาพได้เลยค่ะ ไปผจญภัยกัน!
Day 8: Dobato 3,349 m – Ghandruk 1,940 m
ไฮไลท์สิ่งที่ได้เห็นในวันนี้
Ghandruk 1,940 m – วิวของ Annapurna South, Hiunchuli และ Macchhapuchhre
ทางเดินวันนี้ถึงแม้จะเดินลงยาวจากความสูงกว่า 3,349 เมตรไปสู่ 1,940 เมตร แต่ทางเดินส่วนใหญ่เดินง่ายค่ะ ไม่ได้ลาดชันมาก เดินเพลินๆ แปปๆ ก็ถึง Isharu ซึ่งมีที่พักตั้งอยู่หน้าผา 2 – 3 แห่งที่ถือว่าบรรยากาศดีมากๆ น่าพักเชียวค่ะ ซึ่งที่นี่ยังมีจุดชมวิว หากใครมีเวลาสามารถเดินไปชมวิวได้นะคะ จากนั้นก็เดินลงเรื่อยๆ อีกไม่นานก็ถึง Meshar Danda ซึ่งก็มีที่พักเช่นกันค่ะ ทางเดินยังคงไม่ยากค่ะ
แล้วช่วงที่หยกว่าเริ่มยาก ก็คือช่วงที่ลงจาก Tatopani ค่ะ ทางเดินเป็นบันไดชันลง ให้หัวเข่าได้ทำงานบ้าง แนะนำให้เดินลงตะแคงๆ แบบปูสลับซ้ายขวานะคะ จะช่วยลดแรงกระแทกที่หัวเข่าได้ค่ะ ที่ Tatopani เป็นหมู่บ้านใหญ่ที่มีที่พักเยอะมาก ทั้งยังมีการค้าขายมากมาย บรรยากาศอาจจะไม่เหมาะหากใครชอบความเงียบสงบนะคะ ซึ่งตอนแรกหยกวางแผนไว้ว่าจะพักค้างคืนที่นี่ แต่พอเห็นบรรยากาศแล้วไม่ค่อยถูกชะตาสักเท่าไหร่ จึงตัดสินใจเดินต่อค่ะ
ที่ Ghandruk ก็เป็นหมู่บ้านใหญ่ค่ะ ทั้งใหญ่และกว้าง ทุกอย่างกระจัดกระจาย จึงไม่ได้ดูแออัด ค่ะ ที่นี่จึงมีที่พักมีหลายแห่งมากๆ ซึ่งที่ด้านล่างสุดของหมู่บ้านนั้นมีถนน มีจุดจอดรถประจำทางและจี๊ปไป Pokhara ด้วยค่ะ
มีไฟฟ้า มีที่ชาร์จไฟฟรี | อาบน้ำร้อน (เสียค่าใช้จ่าย)
คำแนะนำ
- วันนี้เดินลงอย่างเดียวเลยค่ะ ทางเดินไม่ยาก มีหมู่บ้านหลายหมู่บ้านระหว่างทางให้ได้พักหรือทานอาหารกลางวัน
- Ghandruk กลางคืน หมาเห่าเยอะ เห่าทั้งคืน เตรียมที่อุดหูมาด้วย





ติดตามอ่านตอนสุดท้าย Mardi Himal Trek ได้ที่นี่ และอ่าน ข้อมูลเทรคกิ้ง Mohare Khopra Trek ที่ละเอียดขึ้นได้ที่ลิ้งค์นี้ ซึ่งจะมีข้อมูลต่างๆ ที่ควรทราบ เช่น เส้นทางนี้อยู่ไหน มีอะไร เทรคง่ายไหม วิวเป็นแบบไหน มือใหม่ไปได้หรือเปล่า และรายละเอียดอื่นๆ อีกเพียบ
คอมเม้นต์เข้ามาพูดคุย ทักทายกันเยอะๆ และหากเพื่อนๆ ท่านใดกำลังมองหาทริปเทรคกิ้ง บนเส้นทางที่มีเอกลักษณ์ สวยงาม คนน้อย ไม่มีใครจัด และ มองหาเพื่อนเทรคกิ้งด้วย หยกจัดทริปเทรคด้วยนะคะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ ทริปเทรคกิ้ง เลยค่ะ ทั้งหยกยังจะมีนัดเจอ พาช้อปของเทรคกิ้งด้วยน้า ไปลุยไปเทรคกันค่ะ รับรองได้ว่าเพื่อนๆ จะต้องสนุกและประทับใจแน่นอน