เมือง Galle (เมืองกอลล์) เมืองเก่าโรแมนติก คลุ้งประวัติศาสตร์ เสน่ห์ศรีลังกา

เมือง Galle ศรีลังกา เมืองเล็กๆ น่ารักๆ ริมมหาสมุทรอินเดีย เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่หลากหลาย เมืองที่ครบครัน ทั้งร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารนานาชาติ ร้านคาเฟ่เก๋ๆ ท่ามกลางอาคารบ้านเรือนสไตล์ดัตช์สวยๆ และ Galle Fort ป้อมปราการโบราณที่อันแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์อันโชกโชน Galle Lighthouse และ Galle Clock Tower แลนมาร์คเก๋ๆ เสน่ห์ทั้งหลายนี้ จึงทำให้ เมืองกอลล์ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น เมืองมรดกโลก (World Heritage Site) จากองค์กรยูเนสโก (UNESCO)

หากใครที่มาเที่ยวที่ศรีลังกา จึงพลาดไม่ได้ที่จะมาสัมผัส Galle เมืองแห่งความโรแมนติก เมืองที่มีเสน่ห์เมืองนี้ ซึ่งจะทำให้คุณหลงรักได้อย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว มาดูกันค่ะว่า เมืองเล็กๆ สไตล์ดัตช์แห่งนี้ มีอะไรให้ทำ ให้เที่ยวบ้าง ตามหัวข้อด้านล่างเลยค่ะ

1. เมือง Galle คืออะไร ตั้งอยู่ที่ไหน
2. ไปเที่ยว Galle ทำไม มีเสน่ห์ตรงไหน มีอะไรน่าทำ น่าเที่ยวบ้าง และแต่ละที่ เปิด-ปิด กี่โมง และเสียค่าเข้าไหม
3. เดินทางไป Galle ได้อย่างไร ต้องลงเมืองไหน และเดินทางเที่ยวภายในเมืองได้อย่างไร
4. การเตรียมตัว ข้อควรรู้ และข้อควรระวังในการมาเที่ยว Galle
5. แนะนำที่พักใน เมือง Galle

แต่ก่อนที่จะไปเตรียมวางแผนเที่ยว เมืองกอลล์ หยกก็มี ข้อมูลท่องเที่ยวศรีลังกา ที่มีรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อการเดินทางท่องเที่ยวเองในศรีลังกามาฝากค่ะ และสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายที่ ที่ห้ามพลาดในศรีลังกา มาแนะนำด้วยนะคะ โดย 4 ที่เที่ยวแรกที่จะแนะนำต่อไปนี้ ก็มีชื่อเสียง และได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกเช่นเดียวกับ เมืองกอลล์ ค่ะ ซึ่งก็คือ

เมือง Anurdhapura (อนุราธปุระ) ราชธานีเก่าอันศักดิ์สิทธิ์ ของศรีลังกานั่นเองค่ะ สิ่งที่ห้ามพลาด ก็คือ การไปสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ และปั่นจักรยานรอบๆ เขตประวัติศาสตร์ ใครที่ชอบประวัติศาสตร์ จะฟินกับที่นี่มาก แบบวันเดียวคงไม่พอ

จากนั้นก็ไปเยี่ยมชม พระราชวังลอยฟ้า Sigiriya (สิกิริยา) พระราชวังที่เริ่ด และวิวดีสุดๆ ด้วยระยะทางเดินสั้นๆ ที่ใครๆ ก็มาได้ แต่ทางเดินนี่สิ ฟินเว่อร์อย่าบอกใคร

แล้วลองไปลิ้มรสเมืองลูกอม เมือง Kandy (แคนดี้) เมืองท่องเที่ยวหลักที่ครบเครื่อง ไม่หลับใหล มีทะเลสาบกลางใจเมือง มีสมบัติล้ำค่าของชาวพุทธ และมีสวนพฤกษชาติที่มีชื่อเสียง ติด 1 ใน 10 ในเอเชียใต้

ส่วนใครที่เป็นขาลุยและชอบวิวสวยๆ ต้องไปต่อด้วยการเดินขึ้นเขาด้วยบันไดกว่า 5,000 ขั้น ที่ความสูง 2,243 เมตร เพื่อชมแสงอาทิตย์แรกของวัน ที่ Adam’s Peak พร้อมกับสักการะ รอยพระพุทธบาท (Sri Pada)

จากนั้นก็มาเที่ยวที่ เมือง Haputale (ฮาปูตาเล) เมืองที่ถูกลืม เมืองเนินเขา เมืองหมอก เมืองไร่ชา และเมืองที่มีอากาศเย็นตลอดปี ซึ่งหยกก็ได้ไปเที่ยวชมไร่ชา Lipton’s Seat และ ไปไฮกิ้งใน อุทยานแห่งชาติ Horton Plains ด้วยค่ะ สนุกมากๆ (ซึ่งหากโพสต์คลอดแล้วจะเอามาแปะให้อ่านนะคะ)

และหากใครยังมีเวลา หยกแนะนำให้แวะไปเที่ยวทางเหนือค่ะ กับเมืองท่องเที่ยวที่พึ่งเปิดใหม่ Jaffna (จาฟฟ์น่า) เมืองที่มีเกาะเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายเกาะให้ได้สำรวจ ใครชอบทะเล ชอบปั่นจักรยาน จะหลงรัก Jaffna มากๆ เลยแหละค่ะ

ซึ่งหลังจาก Jaffna แล้ว หยกไปพักผ่อนชิวๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อขา ที่เมื่อยล้าจากการปั่นจักรยาน บนริมหาด กับที่พักถูกสุดฤทธิ์ที่ Uppuveli (อัปปูเวลี่) ค่ะ

มาค่ะมา ทีนี้ก็มาทำความรู้จักกับ เมือง Galle กันนะคะ

1. เมือง Galle คืออะไร ตั้งอยู่ที่ไหน

Galle อ่านว่า เมืองกอลล์ หรือ กัลล์ หรือ แกลเล่ เป็นเมืองริมมหาสมุทรอินเดีย ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ของในประเทศศรีลังกา ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองหลวงของประเทศ คือ เมืองโคลอมโบ (Colombo) แค่ประมาณ 120 กิโลเมตรเองค่ะ ซึ่งหากนั่งรถก็ประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง อีกทั้ง เมือง Galle ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ จึงมีรถสาธารณะผ่านบ่อย และหลายสาย การเดินทางไปมาจึงง่าย และสะดวกมาก

ด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมสไตล์ดัตช์  จากอิทธิพลเมื่อยามที่ตกเป็นเมืองขึ้นนั้น จึงส่งผลให้อาคารบ้านเรือน สวยงาม โรแมนติก และมีเอกลักษณ์ ต่างจากเมืองอื่นๆ ในศรีลังกา โดยเฉพาะในย่าน Galle Fort เห็นได้ชัดจาก Galle Clock Tower ซึ่งในปัจจุบัน มีความบันเทิง รื่นเริง ความสะดวกสบายเข้ามาเต็มไปหมด มีทั้งโรงแรมบูทีคสวยๆ ร้านคาเฟ่เก๋ๆ ร้านแกลลอรี่อาร์ทๆ ร้านขายของที่ระลึกหลากหลาย และร้านอาหารนานาชาติอีกมากมาย ให้ได้เทียวชมได้ไม่เบื่อ

2. ไปเที่ยว เมือง Galle ทำไม มีเสน่ห์ตรงไหน มีอะไรน่าทำ น่าเที่ยวบ้าง และแต่ละที่ เปิด-ปิด กี่โมง และเสียค่าเข้าไหม

Galle เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ที่น่าแปลกใจคือ ถึงแม้คนจะพลุ่กพล่าน แต่ก็เป็นเมืองที่ไม่วุ่นวาย จึงเหมาะกับคนที่ชอบเที่ยว ชอบถ่ายรูปเก๋ๆ เช็คอินที่สวยๆ นั่งชิวตามร้านคาเฟ่ ถ่ายรูปตามกำแพงเมืองเก่าริมทะเล ฟินกับความเป็นธรรมชาติ มาดูกันค่ะ ว่าหากมาเที่ยว เมืองกอลล์ แล้ว มีอะไรให้ทำให้เที่ยวบ้าง

2.1) ชมประภาคาร Galle Lighthouse

จุดเด่นของการมาเที่ยว เมืองกอลล์ ก็คือ เจ้าประภาคารนี่แหละค่ะ เห็นปุ๊ปรู้ปั๊ปว่าอยู่ที่ เมือง Galle ใครที่มาแล้วไม่ได้แชะรูปกับ Galle Lighthouse ถือว่ามาไม่ถึง Galle นะคะ

แนะนำให้ลองมาชมประภาคารนี้ ในเวลาที่ต่างกัน เช่น ตอนพระอาทิตย์ขึ้น ตอนกลางวัน ตอนพระอาทิตย์ตก  หรือ ตอนมืดๆ นั้น ให้ความรู้สึก แสง และวิวที่ต่างกัน ความฟินก็ต่างกันอีกด้วยค่ะ

2.2) เดินเล่นชมวิวรอบกำแพงเมือง Galle Fort

เดินเล่น กินลม ชมวิว ฟังเสียงทะเล ไม่มีอะไรจะสุขเท่านี้แล้ว การเดินชมวิวทะเลที่ เมือง Galle นี้ แตกต่างจากทะเลที่อื่น ก็ด้วยการเดินบนกำแพงหินโบราณที่มีเอกลักษณ์ สวย และแข็งแรง ที่ปกป้องบ้านเมืองแห่งนี้ไว้ ทั้งในยามสงคราม และ สึนามิ วิวจากมุมสูง ทำให้เห็นน้ำทะเลใสๆ อย่างชัดเจน เห็นขอบท้องฟ้าที่กว้าง ไกลออกไป เห็นวิวประภาคารอันเป็นเอกลักษณ์ของ เมืองกอลล์ แห่งนี้ หากยิ่งได้มาเดินเล่น และชมพระอาทิตย์ตกแล้วด้วยนะ จะฟินมากๆ เลยค่ะ

แนะนำให้ซื้อขนมมาทาน แล้วนั่งชิวๆ ปล่อยอารมณ์ไปตามสบาย กับผู้คนที่เดินผ่านไปมา กับธรรมชาติรอบตัว ทั้งเสียงทะเล ทั้งลมที่พัด รวมทั้งเสียงนกที่พูดคุยกันเจี้อยแจ้ว

2.3) ถ่ายรูปกับ Galle Clock Tower

หอนาฬิกาเก่าแก่แห่งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่ง land mark ที่ใครๆ มาก็ต้องแชะภาพด้วย มันดูสวย ดูมีเสน่ห์ ดูมีมนต์ขลังยังไงก็ไม่รู้สิค่ะ ทริปนี้หยก ไม่ได้แชะมา มันย้อนแสงค่ะ เลยกะว่าจะถ่ายทีหลัง แล้วก็ดันเพลิน ลืมไปเลย เสียดายสุดๆ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างเชียวนะคะ

2.4) ชมการละเล่นคริกเก็ต

คริกเก็ต (Cricket) คือกีฬาพื้นเมืองของชาวศรีลังกา โดยที่ด้านหน้าอุโมงค์ทางเข้าไป Galle Fort นั้น มีสนามแข่งคริกเก็ตขนาดใหญ่ และหลังจากเดินเข้าไป ผ่านอุโมงค์เพื่อเข้าไปในเขต Galle Fort ตรงบริเวณ Galle Clock Tower นั้น ก็มีสนามเล็กๆ หยกมีโอกาสได้เห็น เด็กนักเรียนกำลังเล่นคริกเก็ตกัน แต่เดาเอาเองว่าน่าจะกำลังเรียนวิชาพละ เพราะทุกคนใส่เสื้อสี แยกทีม และเหมือนจะมีอาจารย์คอยคุมอยู่ด้วย

แนะนำว่าหากที่สนามเหล่านั้น กำลังมีการละเล่นคริกเก็ตอยู่ ลองหยุดชมดูนะคะ เป็นกีฬาที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว บางทีเค้าใส่โสร่งเล่นด้วย ยังแปลกใจอยู่เลยว่าวิ่งกันได้ยังไง รุ่มร่ามๆ แบบนั้น บางทีก็รอลุ้น ว่าพวกเด็กๆ เหล่านั้นจะทำโสร่งหลุดหรือไม่ 555+ เปล่าลามกนะคะ แต่อึ้ง และ ทึ่ง ในความสามารถ (ในการส่วมใส่โสร่ง แล้ววิ่ง) จริงๆ

2.5) เล่นน้ำทะเล

สามารถเล่นน้ำทะเลได้ที่ทะเลที่ Galle ค่ะ โดยลงไปเล่นบริเวณด้านหลังประภาคาร ซึ่งจะมีทางเดินลงไปสู่ชายหาดเล็กๆ น้ำทะเลที่นี่สวยมากๆ น้ำใสสุดๆ มีปลาเล็กๆ ให้ได้เห็นอีกด้วยค่ะ

แนะนำว่าหากไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาสำหรับเปลี่ยน ไม่ได้เตรียมใจมาเล่นน้ำทะเลที่ เมืองกอลล์ นี้ ยังไงก็ลองเดินลงไปดูบริเวณที่เค้าเล่นน้ำกันนะคะ ลงไปเดินชิวๆ กินบรรยากาศริมหาด เดินเล่นตรงน้ำตื้นๆดู จะทำให้คุณสดชื่นขึ้น ถึงแม้อากาศจะร้อน แต่น้ำทะเลก็ใส๊ใส เย็น และสดชื่นมาก น่าเล่นสุดๆ คงจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และกระปรี้กระเปร่าขึ้นมากเลยแหละค่ะ

2.6) โชว์คนกระโดดน้ำ ปะทะ โชว์เป่าปี่เรียกงูเห่า

จะมีชายหนุ่มฮิปปี้ๆ 2 – 3 คน โชว์การกระโดดลงน้ำ (Crazy Jumpers at Gall Fort) ในท่าสวยๆ กระโดดลงตรงไหน ก็ปีนหน้าผากลับขึ้นมาทางเดิม เสียค่าใช้จ่ายนะคะ คนส่วนใหญ่ที่เห็นก็ไม่ยอมจ่ายกันหรอกค่ะ เพราะเราจ่าย นักท่องเที่ยวทั้งหมดได้ดูด้วย เค้าคิดแบบนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่หยกคิด 555+

แล้วก็มี โชว์เป่าปี่เรียกงูเห่า ด้วยค่ะ เช่นเคย ก็ไม่เห็นใครอยากเสียเงิน หลายๆ คนก็เตร็ดเตร่เดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น รอให้ใครสักคนเผลอจ่ายเงิน เพื่อที่จะได้ดูโชว์ฟรี หยกก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น ที่เตร็ดเตร่นะ ไม่ใช่ที่จ่ายเงิน แฮ่ๆ

2.7) ชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือ พระอาทิตย์ตก

ไม่ว่า พระอาทิตย์ขึ้น หรือ พระอาทิตย์ตก ที่ไหน ก็สวยงามทั้งนั้น แต่เราก็ชอบดูกันไม่มีเบื่อเลยจริงไหมคะ ก็วิวแต่ละที่มันไม่เหมือนกันนี่นา ความรู้สึกที่ได้ก็แตกต่างกัน และยิ่งได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือ พระอาทิตย์ตก ที่เมืองโรแมนติกๆ แห่งนี้แล้ว คงจะอิ่มเอมในหัวใจมิใช่น้อย

แนะนำจุดชมวิว พระอาทิตย์จะขึ้นทางด้านหลัง Galle Lighthouse ให้เห็นวิวของ ประภาคารสีขาวๆ สูงๆ สวยและมีสีสันมากขึ้น จากแสงสีส้มๆ แดงๆ ของพระอาทิตย์ที่ฉากหลังกระทบมา สวยเชียวค่ะ ส่วนพระอาทิตย์ตกนั้น ก็ฝั่งตรงข้ามพระอาทิตย์ขึ้นอ่ะเนอะ เดินไปเรื่อยๆ ตามกำแพงเลยค่ะ วิวพระอาทิตย์ตกก็สวยไม่แพ้กัน และยิ่งได้ชมวิวจากมุมสูงบนกำแพง (ก็ทุกการชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ทะเล จะได้ชมจากการยืนบนชายหาดนี่นา) จึงได้เห็นพระอาทิตย์กลมๆ โตๆ ตกขอบน้ำทะเลไปอย่างชัดเจน

2.8) ถ่ายรูปอาคารบ้านเมือง

ก็อาคารบ้านเมืองที่นี่เป็นสไตล์ดัตช์ สวยๆ โรแมนติกๆ มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล ทุกมุม ทุกตึกที่เดินผ่านเลยทีเดียว หากวันที่มา ฟ้าเป็นใจ ฟ้าใสด้วยแล้วล่ะก็ จะได้รูปกลับไป แบบโพสต์ลงโซเซียลทั้งปี ก็ยังไม่หมดสต๊อกเลยเหอะ

2.9) นั่งชิวเก๋ๆ หลบร้อนในร้านคาเฟ่

ร้านกาแฟ ร้านเบเกอร์รี่ น่ารักๆ บรรยากาศดีๆ ที่ เมืองกอลล์ นี่มีเยอะแยะเลยค่ะ เดินไปไหนก็เจอ ซึ่งช่วยได้ดีในการนั่งพัก หลบความร้อน และเข้าห้องน้ำ เพื่อชาร์จแบตก่อนลุยต่อ

หรือจะแวะร้านไอศกรีม หรือซื้อไอศกรีมรถเข็นทานก็ได้อีกบรรยากาศนะคะ

3. เดินทางไป เมือง Galle ได้อย่างไร ต้องลงเมืองไหน และเดินทางเที่ยวภายในเมืองได้อย่างไร

อย่างที่บอกว่า Galle เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่ศรีลังกา ร้อยทั้งร้อย ต้องแวะมาเที่ยวที่นี่ จึงทำให้การเดินทางมาที่ เมือง Galle นั้นง่าย สะดวก มีรถไฟ รถทัวร์จากทุกสารทิศผ่าน โดยลงที่ สถานีที่ชื่อ Galle ได้เลยค่ะ โดยสถานีรถไฟ และ สถานีรถทัวร์ อยู่ใกล้กันเลย และอยู่ใกล้กับทางเดินเข้าไปในบริเวณ Galle Fort อีกด้วยค่ะ

เพื่อนๆ สามารถ ซื้อตั๋วรถไฟ จาก โคลัมโบ ไป กอลล์ ได้ทางออนไลน์ โดยต้องซื้อก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 30 วันขึ้นไปนะคะ

การท่องเที่ยวภายใน เมืองกอลล์ สามารถทำได้ทั้งเดิน และปั่นจักรยานค่ะ ส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวก็เดินกันนะคะ และหยกแนะนำว่าให้เดินจะดีกว่า เพราะเมืองเล็กๆ อากาศดีๆ มีตึกสวยๆ มุมสวยๆ ให้หยุดถ่ายรูปอยู่ตลอดเวลาเลย ถ้าปั่นจักรยานอาจต้องหยุดบ่อยๆ คงหงุดหงิดจนไม่อยากจะหยุด แล้วเลือกที่จะปั่นอย่างเดียวค่ะ

---

4. การเตรียมตัว ข้อควรรู้ และข้อควรระวังในการมาเที่ยว เมือง Galle

4.1) เตรียมใจ หากคุณไปเที่ยวที่เมืองอื่นในศรีลังกา ก่อนมาที่ เมืองกอลล์ ให้เตรียมใจไว้เลยว่าค่าใช้จ่ายที่ เมืองกอลล์ จะราคาสูงกว่าเยอะมาก

ก็ เมืองกอลล์ เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของศรีลังกา อยู่ใกล้เมืองโคลอมโบ ธุรกิจการค้าในเขตนี้จึงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาของแพงมากๆ เมื่อเทียบกับการท่องเที่ยวในเมืองอื่นๆในศรีลังกา ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และของขายทั่วๆ ไป การจะหาร้านอาหารพื้นเมือง ในราคาพื้นเมือง บริเวณ Galle Fort นั้น เป็นไปได้ยากมาก

4.2) หากใครที่ต้องการประหยัดงบ แต่อยากมาเที่ยว เมือง Galle ก็สามารถทำได้ค่ะ โดย

a) ลองพิจารณาหาที่พักในโรงแรมในเมืองที่ใกล้ๆ กับ เมือง Galle โดยหยกเองเลือกพักที่ เมือง Unawatuna (อูนาวาทูนา) ค่ะ ราคาที่พักถูกกว่าใน เมือง Galle เยอะมาก ซึ่งอยู่ห่างจาก เมือง Galle ไปแค่ 6 กิโลเมตรเองค่ะ สามารถเดินทางมาเที่ยว เมือง Galle จาก เมือง Unawatuna ได้ด้วยรถเมล์ ซึ่งมีรถออกถี่มาก ราคา 20 RS (ประมาณ 5 บาท) เท่านั้นเอง

b) ลองพิจารณาเลือกทานอาหารที่ร้านอาหารพื้นเมือง ตรงข้ามกับสถานีรถทัวร์ใน เมืองกอลล์ เพราะราคาถูกกว่ามากมาย ข้าวแกงเคอร์รี่ที่เป็นเซ็ท ประมาณ 120 – 250 RS (ประมาณ 30 – 62.5 บาท) ในขณะที่ร้านอาหารศรีลังกาภายใน Galle Fort เริ่มต้นที่ประมาณ 700 RS (ประมาณ 175 บาท) ขึ้นไป แต่คุณภาพ การตกแต่งร้าน การบริการ ก็ต่างกันนะคะ ร้านอาหารภายใน Galle Fort จะไฮโซกว่าเยอะค่ะ ส่วนเรื่องรสชาตินี่ จะบอกว่าราคาที่แพง ไม่ได้บ่งบอกว่าอาหารจะอร่อยเสมอไปนะคะ

โดยส่วนตัว หยกชอบทานร้านอาหารพื้นเมือง ที่มีชาวท้องถิ่นทานกัน มากกว่า ที่มีนักท่องเที่ยวนั่งอยู่เต็มร้าน เพราะรสชาติอาหารจะจัดจ้าน และเข้มข้นแบบท้องถิ่นจริงๆ ไม้ได้ปรุงแบบประยุกต์เพื่อพยายามจะให้ถูกปากชาวต่างชาติ เช่น เผ็ดน้อยลง หรือ ใส่เครื่องเทศน้อยลง ยกตัวอย่าง หากเราทำแกงเขียวหวาน แบบใส่พริกแกงน้อยลง รสชาติก็คงไม่อร่อยเท่าใส่พริกแกงแบบปกติใช่ไหมละคะ

หมายเหตุ ราคาอาหาร 175 บาท ต่อมื้อ ต่อคน ก็ไม่ได้ถือว่าแพงมากนะคะ เมื่อเทียบกับร้านอาหารในกรุงเทพฯ (เพียงแต่ ปกติหยกจ่าย 30 – 50 บาทต่อมื้อ 175 บาทจึงดูแพง คงคล้ายๆ กับ การทานข้าวผัดกะเพราไก่ ไช่ดาว ที่เคยจ่าย 40 – 50 บาท แต่หากต้องมาจ่าย 190 บาท ก็ถือว่าแพง จริงไหมคะ) แต่หยกเทียบให้ดูว่าค่าจ่ายที่ควรจะเป็นในศรีลังกา เท่าไหร่ที่เรียกว่าเหมาะสม ที่เรียกว่าคือราคาในศรีลังกา เท่าไหร่ที่เรียกว่าแพง และเป็นราคาสำหรับนักท่องเที่ยว หากใครที่ท่องเที่ยวแบบมีงบจำกัด ก็จะได้ไม่ลำบากเรื่องการจัดสรรงบ และรู้ว่าการมาเที่ยว Galle นั้นเป็นไปได้สำหรับงบของคุณ แต่หากใครที่ท่องเที่ยวแบบสบายๆ ก็สบายไปค่ะ

4.3) แดดแรง ฟ้าใส แสงสวย ถ่ายรูปดีเลิศ แต่คือร้อนมาก ไหม้แดดไม่รู้ตัวเลย

ทางเดินเที่ยวชม ภายใน เมืองกอลล์ นั้นไม่มีร่มไม้ใดๆ นะคะ จึงโดนแสงแดดแบบเต็มๆ การเตรียมพร้อมไม่ว่าจะเป็น หมวก แว่น ครีมกันแดด หรือ ร่ม จึงสำคัญมากค่ะ ใครที่เคยโดน sun burn จะทราบ ว่ามันแสบ เจ็บปวด และทรมานขนาดไหน

4.4) ร้านอาหารเล็กๆ พื้นเมือง ในเขต Galle Fort

หลายๆ ครั้ง การท่องเที่ยวของสไตล์ที่หยกชอบก็ยังคงเน้นอะไรที่เป็น local ไม่ใช่ว่างก หรือ ว่าอะไรนะคะ แต่มันได้อารมณ์ และความรู้สึกของการเข้าถึงความเป็นอยู่ของประเทศนั้นๆ มากกว่า ได้เห็นบรรยากาศ การตกแต่งง่ายๆ ที่บ่งบอกถึงความเป็นศรีลังกา และแปลกตา หากพูดถึงอาหาร ร้านพื้นเมือง ก็ย่อมอร่อย และได้รสชาติที่แท้จริง มากกว่า การทานในร้านอาหารที่มีแต่นักท่องเที่ยว การบริการก็เป็นมิตร และจริงใจกว่า ส่วนเรื่องราคานั้น เป็นผลพลอยได้ค่ะ คือถูกกว่า หลายเท่าตัวเลย

จึงอยากจะขอแนะนำ ร้านเล็กๆ พื้นเมือง ที่เล็กมากจริงๆ แต่สะอาด อากาศถ่ายเท ตาม GPS นี้เลยค่ะ 6.025956, 80.216935 ติดกับรร้าน Barista Lavazza เลยค่ะ บนถนน Lighthouse หยกชอบชานมร้อนที่นี่ค่ะ หอม เข้ม อร่อยมากก หยกเบิ้ลสองเลยค่ะ ร้านนี้ไม่ได้มีโต๊ะที่นั่งที่เป็นโต๊ะจริงๆ จะมีโต๊ะฝั่งเดียว แล้วมีเก้าอี้ให้นั่ง คนส่วนใหญ่ที่มาที่ร้านนี้เป็นชาวศรีลังกาค่ะ มากินแป๊ปๆ แล้วก็ไป หรือมาซื้อกลับบ้าน ลองทานชานม กับลองเลือกขนมที่ตู้กระจกสักอย่างสองอย่างชิมดูนะคะ ที่ร้านนี้ก็มีอาหารให้บริการค่ะ เป็นอาหารศรีลังกาที่อยู่ในห่อกระดาษ สามารถทานในร้านได้ด้วยเช่นกัน

5. แนะนำที่พักใน เมือง Galle

ที่พักใน เมืองกอลล์ ที่หยกจะแนะนำต่อไปนี้ เป็นที่พักทำเลดีทั้งหมดเลยนะคะ สะดวกสบาย ใกล้ทะเล ใกล้ป้อมปราการกอลล์ ใกล้ประภาคาร และใกล้สถานีรถไฟ ในระยะที่เดินได้สบายๆ อีกด้วยค่ะ หากใครมีงบหน่อย หยกแนะนำให้จองที่พักแบบไฮโซไปเลยนะคะ เอาบรรยากาศเมืองมรดกโลกในกอลล์ให้ครบ ให้ฟินตั้งแต่ที่พักเลยค่ะ เพราะตึกรามบ้านช่องยังเป็นแบบ heritage คือน่าอยู่น่านอนเป็นที่สุด ซึ่งที่พักเหล่านี้หยกหามาแนะนำเอง ไม่ได้มีการสปอนเซอร์หรือว่าจ้างใดๆ ให้เอามาลงนะคะ

A). Old Dutch House (ถูก)

คนงบน้อยฟังทางนี้ ห้องพักทำเลงาม ราคาน่าคบ สะอาด และมีห้องน้ำในตัวอีกต่างหาก แถมเจ้าของก็ใจดี เริ่มต้นคืนละ 520 บาทเท่านั้นเองยิ่งจองแต่เนิ่นๆก็จะได้ราคาที่ถูกรีบจองกันเลยที่พักถูกๆในกอลล์นี่คือหายากมากเลยนะจะบอกให้

B). Muhsin Villa (ถูก)

ที่พักสะอาด ห้องกว้าง ตกแต่งเรียบง่าย ห้องน้ำในตัวที่กว้างและสะอาด ทั้งยังมีพื้นที่นั่งเล่นเพลินๆ บรรยากาศดี ทั้งยังมีเปลญวนให้นอนชิวๆ จนไม่อยากจะลุกเลยอีกด้วยค่ะ ดีแบบนี้แล้ว ก็ไม่ควรรอช้า เพราะราคาถือว่าไม่แพงแล้วเมื่อเทียบความทำเลและคุณภาพของการบริการและห้องพักที่ได้ เริ่มต้นที่ 920 บาทค่ะ

C). Sirène Galle Fort (กลางๆ)

จริงๆ แล้วจ่ายเพิ่มอีกนิดจากตัวเลือกสองข้อข้างบน ก็จะคุ้มค่ามากๆ นะคะ จะได้ห้องพักที่ถูกสุดของที่นี่ ที่ราคาประมาณ 1,300 บาท เพราะห้องพักที่นี่น่านอนจริงๆ ดูใหม่ สะอาด การตกแต่งสวยงาม แถมราคาที่แจ้งไว้คือรวมอาหารเช้าไว้แล้ว เป็นอาหารเช้าที่หลากหลาย น่าทาน และอร่อยมากค่ะ

D). Fort sapphire (กลางๆ)

ห้องพักสวยงาม สวยตั้งแต่ตัวตึก แค่ประตูยังสวยคลาสสิกเลยค่ะ การตกแต่งในห้องพักนั้นเรียบง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ สะอาด ขนาดห้องพอดี ราคาเริ่มต้น 1,750 บาท

E). Yara Galle Fort (หรูหรา)

แม้ว่างบจะน้อย แต่ก็จะขอกัดฟัน ขอนอนค้างที่นี่สักหนึ่งคืน กับโรงแรมน้องใหม่ที่พึ่งเปิดได้ไม่นาน แต่กินขาดกับความงาม ลูกค้านี่แน่น หยกชอบมากๆ เลยค่ะ น่าอยู่เป็นที่สุด การตกแต่งเรียบง่าย แต่แอบหรูหรา ดูลงตัวมากๆ คุมโทนสีฟ้าขาว คู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้ความรู้สึกทะเล๊ทะเล ห้องน้ำก็กว้างขวาง สะอาด จนอยากจะเข้าไปนั่งอ่านหนังสือ นั่งฟังเพลงทั้งวันเลยเชียว ราคาเริ่มต้นคืนละ 2,600 บาทค่ะให้รางวัลตัวเองแล้วลองสักคืนสิคะ

F). The Bungalow – Galle Fort (หรูหรา)

ที่พักสวยงาม ตกแต่งแบบ heritage ดูดี หรูหรามากๆ ประหนึ่งว่ากำลังท่องเที่ยวในยุโรป ว่าห้องนอนตกแต่งดูดีมีสไตล์ เตียงหนานุ่ม น่านอนแล้ว ห้องน้ำนี่ก็ดูดีเลิศหรูไม่แพ้กัน จนอยากที่จะมีงบมากๆ พักมันซะ 2-3 คืนเลยค่ะ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่คืนละ 3,200 บาท

หมายเหตุ

ราคาที่พักอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลานะคะ ไม่ว่าจะเป็นตามกาลเวลา อัตราค่าแลกเปลี่ยน และ/หรือ อาจมีราคาที่สูงขึ้นในฤดูท่องเที่ยว ดังนั้นแล้ว ให้ดูราคาที่หยกลงไว้เพื่ออ้างอิงเท่านั้นนะคะ

เป็นยังไงล่ะคะ หวังว่าข้อมูลท่องเที่ยว เมือง Galle จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ หากมีข้อสงสัย คำถาม แนะนำ หรือ ติชม ก็คอมเม้นต์มาที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

---